Low-code นั้นจะช่วยให้ธุรกิจสามารถพัฒนา Application ใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ทดลองใช้งานได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายด้วยตัวคุณได้ได้ทันทีกับ OutSystems
Low-code นี้คือแนวคิดใหม่ที่จะช่วยให้การออกแบบและพัฒนา Software Application เป็นไปได้อย่างรวดเร็วโดยมีการเขียนโค้ดเองเกิดขึ้นน้อยที่สุด ซึ่งจะทำให้เหล่าผู้ที่มีทักษะความชำนาญในเทคโนโลยีนี้สามารถสร้างคุณค่าใหม่ๆ ให้กับธุรกิจและองค์กรได้อย่างรวดเร็วและมั่นคงยิ่งขึ้น และสามารถปรับเปลี่ยนตามความต้องการของ Business ได้อย่างรวดเร็วกว่าการพัฒนาแบบเดิมอย่างมาก ด้วยระบบหน้าจอการใช้งาน Visual Modeling สำหรับใช้ในการสร้างและกำหนดค่าการทำงานให้กับ Application ก็ทำให้เหล่านักพัฒนาสามารถข้ามขั้นตอนการวางระบบ Infrastructure พื้นฐานและการพัฒนาโมดูลพื้นฐานที่ซ้ำๆ ในแต่ละ Application ลงได้ และนำเวลาที่ได้กลับคืนมานี้มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาส่วนสำคัญของ Application ซึ่งเป็นงาน 10% ที่สำคัญที่สุดในแต่ละโครงการพัฒนา Application ได้ทันที
ในโลกของ Software นั้น เรามักต้องอาศัยการใช้งาน Library, API และระบบต่างๆ จากผู้ให้บริการภภายนอกเพื่อให้เราสามารถมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาส่วนที่สำคัญที่ธุรกิจให้เร็วและโดดเด่นซึ่งยังไม่เคยมีมาก่อนได้ แต่แนวทางดังกล่าวนั้นก็ยังไม่เพียงพอและมักทำให้เหล่านักพัฒนาต้องเสียเวลามากอยู่ดีในการพัฒนาแบบเดิมๆ
Low-code นั้นคือกลุ่มของเครื่องมือจำนวนมากที่จะช่วยให้เหล่านักพัฒนาสามารถสร้าง Application ขึ้นมาให้พร้อมใช้งานได้ด้วยหน้าจอการทำงานแบบ Drag-and-Drop ดังนั้นแทนที่เหล่านักพัฒนาจะต้องทำงานกับโค้ดที่มีความซับซ้อนและ Syntax ต่างๆ นับหลายพันบรรทัดในแต่ละงานนั้น Low-code จะช่วยให้นักพัฒนาเหล่านี้สามารถสร้าง Application ที่มีหน้าตาทันสมัย, ทำงานร่วมกับระบบต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย, จัดการกับข้อมูลและลำดับการทำงานของระบบได้อย่างรวดเร็วและมองเห็นผลลัพธ์ของการพัฒนาได้ทันที
โดยทั่วไปแล้ว Low-code Development Platform จะมีคุณลักษณะพื้นฐานดังนี้:
- ระบบ Visual IDE เพื่อให้นักพัฒนาสามารถกำหนด UI, Workflow และ Data Model ของ Application ได้ รวมถึงยังสามารถแทรกโค้ดที่พัฒนาขึ้นมาเองเข้าไปได้หากต้องการ
- เชื่อมต่อกับระบบหรือบริการเบื้องหลังได้หลากหลาย โดยจัดการกับ Data Structure, Storage และการรับส่งข้อมูลให้ทั้งหมด
- สามารถบริหารจัดการ Application Lifecycle ได้ โดยมีเครื่องมือในการ Build, Debug, Deploy และ Maintain ระบบได้โดยอัตโนมัติทั้งในขั้นตอนของการ Test, การขึ้น Staging และการขึ้น Production
นอกเหนือไปจากความสามารถพื้นฐานเหล่านี้แล้ว ระบบ Low-code นั้นก็มักมีความแตกต่างออกไปในหลากหลายประเด็น บางระบบนั้นก็มีความสามารถที่จำกัดและสามารถทำได้เป็นเพียงแค่การนำข้อมูลในฐานข้อมูลออกมาแสดงหรือจัดการเท่านั้น ในขณะที่บางระบบนั้นอาจถูกออกแบบมารองรับธุรกิจเฉพาะทางอย่างเช่นการทำ Case Management ในขณะที่บางระบบนั้นอาจตีความคำว่า Low-code ในฐานะของเครื่องมือที่ถูกสร้างขึ้นมาเฉพาะทางและแทบไม่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา Application เลยก็เป็นได้
OutSystems นี้คือระบบ Low-code ที่มีความสามารถเพื่อช่วยให้คุณสร้าง Mobile Application และ Web Application ที่ทันสมัยและรองรับการใช้งานได้บนระบบที่หลากหลายสำหรับองค์กร พร้อมให้นำไปใช้งานได้ในทีมพัฒนาภายในองค์กรที่มีอยู่ได้ทันที โดยสามารถนำ Low-code Platform ไปพัฒนา Application ที่สนับสนุนการทำงานภายในองค์กร หรือ สร้าง Application ที่เชื่อมธุรกิจกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และยังสามารถทำการพัฒนา Application ให้กับระบบสำคัญต่างๆ ได้มากมาย
คุณสามารถทดลองใช้งาน Low-code ได้ด้วยตัวคุณเองกับ OutSystems ทันทีโดยไม่มีค่าจ่าย โดย OutSystems ได้เตรียมระบบ Tutorial สำหรับการพัฒนา Web และ Cross-Platform Mobile Application ที่ใช้เวลาสั้นๆ ในการพัฒนาขึ้นมาเอาไว้ เพื่อให้คุณเข้าใจแนวคิดของ Low-code อย่างชัดเจนและนำไปอธิบายต่อให้ผู้อื่นเข้าใจได้อีกด้วย
Low-code เหมาะกับงานแบบไหน?
โดยทั่วไปแล้ว การพัฒนา Software แบบ Low-code นี้ก็เหมือนกับการพัฒนา Software ด้วยวิธีการอื่นๆ ยกเว้นว่าคุณจะเป็นคนที่ชอบเขียน Machine Code ขึ้นมาเองเท่านั้น ดังนั้นถ้าคุณไม่ใช่นักพัฒนาสายนั้น คุณก็ต้องเคยใช้สิ่งที่คนอื่นพัฒนาขึ้นมาก่อนเพื่อช่วยให้ทำงานเสร็จเร็วขึ้นมาบ้างอยู่แล้ว
ด้วยการใช้ Low-code นั้น ก็จะมีงานหลายส่วนที่คุณไม่ต้องทำเองเพิ่มขึ้นมามากมาย ตัวอย่างเช่น แทนที่คุณจะต้องพัฒนาระบบ User Management ซึ่งคุณต้องทำในทุกๆ โครงการอยู่แล้ว หรือต้องคอยรับมือกับความเฉพาะทางของ Programming Framework ล่าสุดที่เลือกใช้ทุกครั้ง หรือต้องเขียน Test 10 ชุดสำหรับแต่ละบรรทัดในโค้ดของคุณ คุณก็สามารถข้ามขั้นตอนเหล่านี้และมุ่งพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ที่จะสร้างคุณค่าใหม่ๆ ให้กับธุรกิจ ขึ้นมาได้ทันที ทำไมคุณต้องเขียนโค้ดใหม่ทุกครั้งในเมื่อมันเป็นปัญหาที่เคยมีคนแก้มาก่อนแล้วและมีรูปแบบที่ตายตัวชัดเจนด้วยล่ะ?
มาลองเปรียบเทียบกันดูว่า Application หนึ่งๆ ที่ใช้ Web Framework ทั่วๆ ไปในการพัฒนา กับการใช้ Low-code ในการพัฒนานั้นจะมีขั้นตอนหรือกระบวนการที่แตกต่างกันอย่างไรบ้าง
กระบวนการในการพัฒนา Application แบบดั้งเดิม ไม่ว่าคุณจะใช้ .NET MVC, Spring Boot หรือ Ruby on Rails คุณและทีมงานของคุณก็ต้องผ่านขั้นตอนดังนี้:
- ทำความเข้าใจกับ Requirement ของระบบ
- ออกแบบสถาปัตยกรรมของระบบ
- เลือกใช้ Back-end Framework, Library, Data Store และ Third-party API
- เลือกใช้ Front-end Framework และหวังว่ามันจะไม่ตกรุ่นจนเลิกสนับสนุนก่อนที่คุณจะพัฒนาเสร็จ
- เลือก Deployment Stack, ตั้งระบบ CI และกำหนดแผนการทำงาน
- สร้าง Wireframe และ Prototype
- เขียนโค้ดในส่วนของ UI ด้วย JavaScript Framwork ที่เลือกมา
- เขียน Test จำนวนมหาศาล
- กำหนด Model และผูกโมเดลเหล่านั้นเข้ากับ Data Store
- กำหนด Business Logic ที่ต้องการและโค้ดมันขึ้นมา
- สร้าง View สำหรับให้ส่งและรับข้อมูลแบบ JSON ที่จำเป็นเพื่อเชื่อมต่อกับ Front-end ที่พัฒนาขึ้นมา
- พัฒนา Workflow และ UI ที่ต้องการขึ้นมาบน Front-end Framework
- ผสานระบบเข้ากับ Third-party API ด้วย Interface ที่มีให้หรือถ้าโชคดีก็อาจมี Library ให้พร้อมใช้ได้ทันทีในภาษาที่คุณเลือกใช้
- ทำขั้นตอนเหล่านี้ซ้ำไปเรื่อยๆ จนกว่าจะ Test ผ่าน
- ทำการทดสอบด้านความมั่นคงปลอดภัย, ประสิทธิภาพ, คุณภาพ และทำ User Acceptance
- ติดตั้งใช้งาน, อัปเดตแก้ไข, ดูแลรักษา และอัปเดตความสามารถใหม่ๆ จนกระทั่ง Application ถูกสั่งให้เลิกพัฒนา
กระบวนการในการพัฒนาแบ Low-code ด้วยระบบ Low-code ขั้นตอนในการพัฒนาจะเป็นดังนี้:
- พิจารณาความต้องการของระบบ
- เลือก Third-party API ที่ต้องการใช้งาน
- วาด Workflow, Data Model และ User Interface ด้วยระบบ Visual IDE
- เชื่อมต่อ API ซึ่งโดยมากมักจะมาพร้อมกับการค้นหาความสามารถของ API โดยอัตโนมัติ
- ถ้าต้องการ ก็สามารถเพิ่มโค้ดที่พัฒนาขึ้นเองเข้าไปยัง Front-End หรือจัดการแก้ไข SQL Query ที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยอัตโนมัติเองได้
- ทดสอบ User Acceptance
- ติดตั้งใช้งานระบบ และทำการอัปเดตใหม่ๆ ด้วยการคลืกเพียงครั้งเดียว
จะเห็นได้ว่าขั้นตอนในการพัฒนาด้วย Low-code นั้นเหลือเพียงแค่ 7 ขั้นตอนเท่านั้นจากเดิมที่มีมากถึง 16 ขั้นตอน
ระบบ Low-code นั้นเข้าใจเป็นอย่างดีว่าเวลาส่วนใหญ่ที่ใช้ในการพัฒนาโปรแกรมสำหรับ Web และ Mobile Application นั้นก็มักเป็นการแก้ไขโจทย์เดิมซ้ำๆ ซึ่งคุณก็ไม่จำเป็นที่จะต้องแก้โจทย์เดิมๆ ทุกครั้งที่เริ่มต้นโครงการใหม่ๆ เนื่องจาก Low-code นั้นจะช่วยให้เราสร้าง Application ขึ้นมาได้อย่างง่ายดายด้วยระบบพื้นฐานที่ผ่านการทดสอบมาแล้วเป็นอย่างดี และทำให้เราโฟกัสไปกับการสร้างคุณค่าใหม่ๆ ให้กับโลกใบนี้ได้แทน
Low-code จะช่วยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ในปลายทางแล้ว Low-code นั้นคือแนวทางที่จะทำให้นักพัฒนาสามารถทำงานได้มากขึ้น ด้วยระบบ Low-code คุณสามารถใช้เวลาในการสร้างและทำงานซ้ำๆ ได้โดยใช้เวลาน้อยลง ซึ่งถึงจะเป็นที่รู้กันดีว่าการได้เรียนรู้ JavaScript Framework ล่าสุดหรือการได้ใช้ NoSQL ล่าสุดนั้นเป็นเรื่องที่สนุก แต่ในระหว่างที่คุณต้องใช้เวลาในการแก้ไขบั๊กบนโค้ดที่คุณไม่คุ้นเคยอยู่นั้น คู่แข่งของคุณก็อาจแย่งลูกค้าของคุณไปแล้วก็เป็นได้
Low-code นั้นไม่ได้ทำให้คุณค่าของเหล่านักพัฒนาลดน้อยลงแต่อย่างใด แต่ Low-code นั้นจะช่วยให้ทีมของเหล่านักพัฒนาสามารถสร้างคุณค่าใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม ในขณะที่ยังคงสามารถสร้างสรรค์ Web และ Mobile Application ใหม่ๆ ที่มีคุณภาพสูงขึ้นมาได้ด้วย
ผู้ที่สนใจเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Low-code และ OutSystems สามารถติดต่อที่ปรึกษาของ Outsystems ในประเทศไทยได้ที่คุณ Penny penny.khaonongbua@outsystems.com, Mobile/Line: 0896626597 หรือ Certified Partner ในประเทศไทยทั้งหกรายประกอบด้วย SSC Integration Co., Ltd., G-ABLE Co., Ltd., Virtual Link Solutions (VLink), Datapro Computer Systems Co.Ltd., CTC Global (Thailand) Ltd., Stream I.T. Consulting Ltd. หรือ ทดลองใช้งาน OutSystems ด้วยตัวคุณเองได้ฟรีๆ