Cloud Marketplace นั้นเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มาออกบูธในงาน Microosft Worldwide Partner Conference 2016 ( #WPC16 ) ที่จัดขึ้นไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมามากที่สุดธุรกิจหนึ่ง แสดงให้เห็นถึงความนิยมเป็นอย่างมากในต่างประเทศ และจากการที่ได้เข้าไปพูดคุยกันกับเหล่าผู้พัฒนานั้นก็ถือว่าเป็นธุรกิจที่มีความน่าสนใจที่เรายังไม่เคยเห็นกันในไทย จึงอยากขอหยิบยกมาสรุปให้ได้อ่านกันเผื่อจะทำให้บ้านเราได้มี Cloud Marketplace ของตัวเองกันบ้างดังนี้ครับ

Cloud เติบโตขึ้นทุกวัน จากความง่ายในการใช้งาน เริ่มก้าวเข้าสู่ความยากในการบริหารจัดการ
ด้วยความนิยมของการพัฒนาโซลูชันใหม่ๆ บน Platform Cloud และการนำ Cloud ในรูปแบบต่างๆ ไปใช้งานภายในองค์กร ไม่ว่าจะเป็น Infrastructure as a Service (IaaS), Platform as a Service (PaaS) หรือแม้แต่ Software as a Service (SaaS) ก็ตาม องค์กรต่างๆ ก็เริ่มมีการใช้งานบริการ Cloud มากขึ้นกว่าแต่ก่อนเป็นอย่างมาก และใช้งานหลายๆ บริการ Cloud ไปพร้อมๆ กันในการดำเนินธุรกิจกันมากขึ้นเรื่อยๆ
ปัญหาที่เริ่มเกิดขึ้นกับเหล่าองค์กรและะธุรกิจทางด้าน IT นั้นแบ่งออกด้วยกันเป็น 2 ประเด็นใหญ่ๆ
- องค์กรเองเริ่มประสบปัญหา Cloud ล้นองค์กร และเริ่มบริหารจัดการไม่ได้ว่าแผนกใดใช้ Cloud อะไรอยู่ จะหมดอายุบริการเมื่อไหร่ ตอนมีปัญหาต้องไปติดต่อใคร รวมถึงการวางแผนการลงทุนต่อในปีถัดๆ ไปนั้นก็มีความสับสน ทั้งการต่ออายุบริการเก่าและการลงทุนเพิ่มขยายสิทธิ์การใช้บริการ Cloud
- เหล่าผู้ให้บริการ IT ก็ประสบปัญหาทำนองเดียวกันในการดูแลลูกค้า ในขณะที่การขายบริการ Cloud จาก Vendor นั้นก็ไม่สามารถอำนวยความสะดวกให้กับเหล่าองค์กรลูกค้าได้ ยังต้องใช้วิธีการจัดซื้อแบบเดิมๆ แทนที่จะเพิ่มเติมความสะดวกสบายในการกดซื้อบริการใหม่ๆ ให้กับองค์กรลูกค้าได้เอง
ปัญหาเหล่านี้เป็นจุดกำเนิดให้ธุรกิจกลุ่ม Cloud Marketplace เกิดขึ้นมานั่นเอง
Cloud Marketplace คืออะไร?
Cloud Marketplace นั้นคือบริการออนไลน์ที่รวมเหล่าบริการ Cloud เอาไว้ให้ผู้ใช้งานหรือองค์กรต่างๆ สามารถเข้ามาค้นหาบริการที่ต้องการแล้วเลือกซื้อไปใช้ได้ทันที หรือจะเรียกง่ายๆ ว่าเป็นร้านค้าออนไลน์สำหรับบริการ Cloud ก็คงไม่ผิดนัก เพียงแต่ว่ารายละเอียดปลีกย่อยในการขายบริการ Cloud นั้นก็แตกต่างไปจากการขายสินค้าหรือบริการประเภทอื่นๆ อยู่พอสมควรเลยเช่นกัน โดยสิ่งที่ Cloud Marketplace เพิ่มเติมขึ้นมาจากร้านขายของหรือบริการทั่วๆ ไปแบบออนไลน์นั้นมีดังนี้
- การปรับปรุงรูปแบบการซื้อขายให้เป็นแบบ Subscription เป็นหลัก เพื่อให้ตอบโจทย์ต่อบริการ Cloud ที่มีการหมดระยะเวลาสัญญา และสับเปลี่ยนผู้ให้บริการได้ตามต้องการ
- การปรับปรุงรูปแบบการออกโปรโมชันและการแจ้งเตือนต่างๆ รวมถึงการแจ้งเตือนต่ออายุให้รองรับการซื้อขายแบบ Subscription ได้
- การพัฒนา API เพื่อเชื่อมต่อกับระบบซื้อขายและระบบบริหารจัดการของผู้ให้บริการ Cloud แต่ละรายได้
- มีหน้าจอบริหารจัดการลิขสิทธิ์การใช้งานบริการ Cloud ของผู้ให้บริการทุกรายร่วมกัน
- มีระบบสำหรับให้เหล่า Systems Integrator สามารถสร้าง Catalog Portal ของตนแบบ White Label เพื่อนำไปให้บริการลูกค้าองค์กรของตนเองต่อได้
- มีระบบสำหรับให้เหล่าองค์กรสามารถติดต่อผู้ให้บริการ Cloud หรือ Systems Integrator เพื่อพูดคุยหรือขอรับการสนับสนุนในประเด็นต่างๆ ได้
- มีระบบซื้อขายที่รองรับการจ่ายเงินแบบ B2B ที่มักไม่ได้ตัดบัตร Credit กันทันทีได้ เพื่อให้รองรับต่อกระบวนการการจัดซื้อขององค์กร
- อื่นๆ อีกมากมาย
โดยทั่วไปแล้ว บริการ Cloud Marketplace จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทอย่างชัดเจน ได้แก่
- Cloud Marketplace โดย Vendor: มักเป็นตลาดสำหรับซื้อขายบริการ Cloud ที่เป็นส่วนต่อขยายหรือทำงานร่วมกับ Cloud Infrastructure ของผู้ผลิตรายใหญ่แต่ละรายที่ทำ Cloud Marketplace ของตนเอง
- 3rd Party Cloud Marketplace: เป็นตลาดกลางที่เกิดขึ้นมาเพื่อเป็นศูนย์กลางสำหรับติดต่อและซื้อขายบริการ Cloud จาก Vendor หลากหลายราย โดยบางรายอาจสนับสนุนการทำ Catalog Portal แบบ White Label เพื่อรองรับเหล่าธุรกิจ Systems Integrator ได้
จะเห็นได้ว่า Cloud Marketplace นั้นเข้ามาแก้ไขปัญหาในหลายประเด็นในการใช้งานและบริหารจัดการการใช้ Cloud ขององค์กรเป็นหลักเลยนั่นเอง
ข้อดีและข้อเสียขององค์กรต่อการใช้งานบริการ Cloud Marketplace
ข้อดี
- ง่ายต่อการบริหารจัดการบริการ Cloud ที่มีความหลากหลาย
- มีระบบจัดซื้อที่เหมาะสมกับรูปแบบธุรกิจองค์กร
- สามารถเลือกซื้อบริการที่ต้องการและเปรียบเทียบราคาระหว่างผู้ผลิตที่คล้ายคลึงกันได้ง่าย
- การรับบริการสามารถติดต่อได้โดยง่าย โดยอาจเป็นรูปแบบ One Stop Service หรือติดต่อหาช่องทางให้บริการของ Vendor แต่ละรายก็ตามแต่
ข้อเสีย
- หากมีการใช้งานหลายบริการ Cloud ที่ไม่ได้อยู่ภายใน Cloud Marketplace เดียวกันก็อาจวุ่นวายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
- ยังไม่มีเปิดให้บริการในบางภูมิภาค เช่น แถบ Asia ที่ยังมีน้อยมาก
ข้อดีและข้อเสียของ Systems Integrator ต่อการใช้งานบริการ Cloud Marketplace
ข้อดี
- บริหารจัดการและติดตามการใช้งานรวมถึงการต่อ Subscription ขององค์กรลูกค้าได้ง่าย
- สามารถให้บริการและสนับสนุนลูกค้าได้ง่ายขึ้น
- มีหน้าร้านของตนเองได้ผ่านระบบ Catalog Portal และ White Label พร้อมขายบริการเสริมหรือตั้งราคาเองได้
- บริหารจัดการการซื้อขาย Subscription License ได้ง่ายขึ้น
ข้อเสีย
- จำนวนบริการที่ขายได้นั้นจะจำกัดตามที่ผู้ให้บริการ Cloud Marketplace กำหนด แต่ส่วนใหญ่ก็ครอบคลุมบริการพื้นฐาน และสามารถพูดคุยเพื่อเพิ่มบริการใหม่ๆ เข้าไปได้
- ยังไม่มีเปิดให้บริการในบางภูมิภาค เช่น แถบ Asia ที่ยังมีน้อยมาก
ตัวอย่างของบริการ Cloud Marketplace
ในงาน Microsoft Worldwide Partner Conference 2016 นั้นมีบูธที่นำบริการ Cloud Marketplace ของตนเองมาออกกันเยอะมาก บางรายก็เป็นบริการทั่วๆ ไป บางรายก็โฟกัสเฉพาะบริการ Cloud ในบางประเภทที่ตนเองถนัดและ Consult ลูกค้าได้ บางรายก็โฟกัสเฉพาะพื้นที่ให้บริการเป็นภูมิภาคหรือทวีปไป หรือบางรายก็โฟกัสเฉพาะหน่วยงานรัฐเลยก็มี โดยเจ้าที่ออกบูธใหญ่ที่สุดก็คือ ALSO Cloud Marketplace https://www.also.com นั่นเองครับ ลองดูวิดีโอแนะนำบริการเค้าได้เลย
ถ้าเมืองไทยจะมีบริการ Cloud Marketplace บ้าง ควรเริ่มต้นอย่างไรดี?
ในความเห็นส่วนตัวของทีมงาน TechTalkThai ประเทศไทยเองนั้นถือว่าเป็นตลาด Cloud ที่น่าสนใจและมีความเฉพาะตัวค่อนข้างสูงทีเดียว เพราะบริการ Cloud จากผู้ผลิตรายใหญ่ทั่วโลกนั้นก็มีตลาด ในขณะที่บริการ Cloud จากผู้ผลิตในพื้นที่เองนั้นก็มีตลาดเหมือนกันเพราะผู้ให้บริการ Cloud รายใหญ่ไม่ยอมมาตั้ง Data Center กันเสียที ในขณะที่ Software ที่มีรูปแบบการใช้งานแบบ Subscription อย่าง Microsoft Office, Adobe Creative Cloud หรือ Tableau นั้นก็มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลาย และองค์กรในไทยเองนั้นก็ยังมีรูปแบบการจัดซื้อที่ Conservative อยู่ การที่ประเทศไทยจะมีบริการ Cloud Marketplace ของตนเองนั้นจึงน่าสนใจไม่น้อยทีเดียว
ความท้าทายก็คือการพัฒนาระบบที่เรียกได้ว่าน่าจะต้องเริ่มใหม่ทั้งหมดตั้งแต่ศูนย์ และการเชื่อมต่อกับ API ที่มีความหลากหลายซึ่งน่าจะถือเป็นงานใหญ่ทีเดียว แต่สิ่งเหล่านี้เองก็จะเป็น Barrier ในการแข่งขันกับผู้ให้บริการ Cloud Marketplace รายอื่นๆ ด้วยเช่นกัน ซึ่งโจทย์ที่ต้องตีให้แตกก็คือความคุ้มทุนของการทำ Cloud Marketplace เหล่านี้ขึ้นมา ซึ่งใครที่สนใจทำก็ต้องไปสำรวจกันดูนะครับว่าจะได้รับแรงสนับสนุนมากน้อยแค่ไหน หรือจะต้องรอให้ผู้ผลิตจากต่างชาติเข้ามาทำตลาดในไทยกันก่อน ก็เป็นประเด็นเปิดที่ยังไม่มีคำตอบให้ทุกท่านครับ
สุดท้ายนี้ทางทีมงาน TechTalkThai ก็ขอขอบคุณทาง Microsoft Thailand ที่ให้โอกาสออกไปเปิดหูเปิดตาในครั้งนี้ถึงแคนาดาครับผม