Conversation-as-a-Service: แนวคิดของ User Interface แห่งอนาคต ที่เริ่มต้นทำได้แล้วในวันนี้ #Microsoft #WPC16

ในระหว่าง Keynote ของงาน Microsoft Worldwide Partner Conference 2016 (#WPC16) นั้น มีการพูดถึงอนาคตของ User Interface ภายใน Business Application และ Mobile Application ที่กำลังจะมุ่งไปสู่การเป็น Conversation-as-a-Service ในอนาคตอยู่ระดับหนึ่ง และบูธของ Microsoft ที่จัดในงานนี้ก็มีการพูดถึงประเด็นนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งก็ถือว่าเป็นแนวโน้มที่น่าสนใจไม่น้อย ทางทีมงาน TechTalkThai จึงขอหยิบยกมาเล่าสู่กันฟังดังนี้ครับ

Credit: Microsoft
Credit: Microsoft

 

ทุกวันนี้เรามี Application ในชีวิตประจำวันและการทำงานเยอะมาก การเรียนรู้วิธีใช้งานเริ่มกลายเป็นปัญหา

เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าระบบ IT ได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตของทุกคนเป็นอย่างมากทั้งในการใช้งานทั่วๆ ไปและในการทำงาน การที่เราจะต้องเรียนรู้และใช้งานทุกๆ ระบบ Application ให้สามารถใช้งานได้เต็มที่อย่างมีประสิทธิภาพนั้นถือเป็นเรื่องที่ยากมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะกับ Application ขององค์กรที่ทั้งมีความหลากหลาย, มีรูปแบบเฉพาะตัว, มีข้อมูลขนาดใหญ่ และต่างองค์กรหรือต่างแผนกนั้นต่างก็มีระบบงานของตนเอง

ในอนาคตการมาของเหล่า Internet of Things (IoT) นั้นก็จะยิ่งทำให้ชีวิตของเราต้องข้องเกี่ยวกับระบบ IT มากยิ่งขึ้นไปอีก และการเรียนรู้ที่จะควบคุมระบบ IoT จากผู้ผลิตที่หลากหลาย และการเข้าถึงข้อมูลจำนวนมหาศาลบนระบบ IoT ก็จะเป็นภาระอันใหญ่หลวงต่อเราทุกคนอย่างแน่นอน

 

Conversation-as-a-Service ให้ผู้ใช้งานคุยกับ Application ด้วยภาษามนุษย์ได้ทันที

ทุกวันนี้เราก็เริ่มมีการใช้งานเหล่า Bot ที่สามารถโต้ตอบกับเราด้วยภาษามนุษย์กันบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Microsoft Cortana, Apple Siri หรือ Amazon Echo ก็ตาม ซึ่งหน้าที่หลักๆ ของ Bot เหล่านี้ในตอนนี้คือการทำความเข้าใจภาษามนุษย์, การค้นหาข้อมูล และการโต้ตอบกลับด้วยภาษามนุษย์ แต่ในอนาคต Bot เหล่านี้ก็จะสามารถเชื่อมต่อกับระบบ Application ต่างๆ ที่เราพัฒนาขึ้นมาได้ เพื่อให้เราเรียกใช้งาน Application และเข้าถึงข้อมูลของเราบนระบบเหล่านั้นได้ผ่านการสื่อสารด้วยภาษามนุษย์ในรูปแบบของการพูดคุยด้วยเสียง หรือการแชทเป็นข้อความก็ตามแต่

ในเชิงของ Business Application แนวคิดนี้ถือว่าสำคัญมากและจะเข้ามามีบทบาทในการทำ Digital Transformation เป็นอย่างมาก ในบทบาทของการทำให้พนักงานในองค์กรสามารถเรียนรู้ Application หรือฟีเจอร์ใหม่ๆ ได้อย่างง่ายดาย และการทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลการทำงานหรือป้อนข้อมูลเข้าไปยังระบบ Business Application ต่างๆ ได้ในทุกอิริยาบถขณะทำงาน ซึ่งจะทำให้การทำงานนั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง

ถ้านึกตัวอย่างไม่ออก ลองนึกถึงการที่ธุรกิจทำอาหารนั้น พ่อครัวที่ทำงานอยู่ในครัวสามารถสื่อสารกับ Bot ผ่านเสียงเพื่อจัดการอัปเดตออเดอร์ของลูกค้าได้ในขณะที่กำลังทำ หรือเด็กเสิร์ฟสามารถเรียกถามข้อมูลสถานะออเดอร์ของลูกค้าได้ในขณะที่กำลังถือถาดเก็บจานอยู่ หรืออีกตัวอย่างหนึ่งที่เห็นภาพค่อนข้างชัดก็คือกรณีงานวิจัย Smartglass ของ Microsoft ที่สร้างแว่นตาสำหรับผู้บกพร่องทางสายตา และเปิดให้สามารถสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่แว่นนั้นๆ มองเห็นแทนผู้บกพร่องทางสายตาได้ผ่านทางเสียง (อ่านฉบับเต็มได้ที่ https://www.techtalkthai.com/microsoft-announces-smartglass-research-to-make-blind-people-see-the-world-with-ai/)

 

Business Intelligence (BI) จะเป็น Application แรกๆ ขององค์กรที่ใช้ Conversation-as-a-Service

ตัวอย่างที่เริ่มมีการนำไปใช้งานแล้วคือการผนวกระบบของ Microsoft Cortana เข้ากับ Microsoft Power BI เพื่อให้ผู้บริหารสามารถทำการ Query ข้อมูลธุรกิจต่างๆ มาแสดงเป็นกราฟในรูปแบบที่ต้องการได้ทันทีผ่านทางเสียง ทำให้การเข้าถึงข้อมูล Big Data ขององอค์กรนั้นสามารถทำได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องใช้ความสามารถในการเขียนโปรแกรมอีกต่อไป ในขณะที่การเรียกใช้งานฟีเจอร์ชั้นสูงอย่างการทำ Machine Learning เพื่อวิเคราะห์และทำนายอนาคต หรือการเรียกใช้คำสั่งทางสถิติก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน

หากจะกล่าวว่าการมาของ Conversation-as-a-Service นี้มีแนวโน้มที่จะทำให้คำทำนายในอดีตที่ทุกๆ อาชีพต้องหัดเขียนโปรแกรมเพื่อใช้ในการเรียกและวิเคราะห์ข้อมูลนั้นเป็นจริงน้อยลงได้เลยก็ไม่ผิดนัก แต่แน่นอนว่าหากเป็นการวิเคราะห์ในเชิงลึกมากๆ ที่ต้องมีการปรับแต่งค่าพารามีเตอร์ต่างๆ ในเชิงลึกและต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจของอัลกอริธึม การเขียนโปรแกรมก็ยังคงสะดวกกว่าอย่างแน่นอน

 

Cloud คือสิ่งที่จำเป็นต่อการทำ Conversation-as-a-Service

เพราะองค์ประกอบหลักของการทำ Conversation-as-a-Service นั้นคือการวิเคราะห์ทางภาษา การใช้ระบบ Cloud ซึ่งมีทรัพยากรอย่างเพียงพอก็ถือเป็นแนวทางที่เหมาะสม อีกทั้งระบบ Conversation-as-a-Service นี้ยังออกแบบให้มีการทำงานในลักษณะของ Hub ได้ คือ Bot เพียงตัวเดียวสามารถเชื่อมต่อไปให้บริการได้กับทุกๆ Application เป็นผู้ช่วยเสมือนหรือ Virtual Assistant ได้ ดังนั้นผู้ใช้งานก็ไม่ต้องลำบากเปิดปิด Application ต่างๆ สลับกันไปมาอีกต่อไป และยังเรียกใช้งานฟังก์ชันพื้นฐานอย่างการค้นหาข้อมูลหรือสั่งซื้อสิ่งของได้อีกด้วย

About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

สตาร์ทอัพเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ Lucidity ระดมทุนได้ 21 ล้านดอลลาร์

Lucidity.cloud สตาร์ทอัพจากอินเดียที่ช่วยให้การจัดการเก็บข้อมูลแบบมัลติคลาวด์เป็นไปโดยอัตโนมัติ เปิดเผยว่า บริษัทสามารถระดมทุนได้ 21 ล้านดอลลาร์ในรอบ Series A ที่นำโดย WestBridge Capital หลังจากบริษัทเติบโตอย่างรวดเร็วในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้จนถึงปัจจุบัน Lucidity มีเงินทุนรวม …

OpenAI เตรียมเปิดตัว GPT-5 ในไม่กี่เดือนข้างหน้า และ GPT-4.5 อีกภายในไม่กี่สัปดาห์

Sam Altman ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร OpenAI เผยผ่านโพสต์บน X ว่าบริษัทมีแผนเปิดตัวระบบปัญญาประดิษฐ์ระดับเรือธงรุ่นถัดไปของบริษัท คือ GPT-5 ภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า พร้อมแบ่งปันรายละเอียดอื่น ๆ เกี่ยวกับแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับนักพัฒนา ChatGPT