ภัทร โปรเกรส: 5 เคล็ดลับการพัฒนาระบบ ERP ให้สำเร็จ กับการมาของ Cloud ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ #microsoft #wpc16

ในงาน Microsoft Worldwide Partner Conference 2016 ( #WPC16 ) ทางทีมงาน TechTalkThai มีโอกาสได้สัมภาษณ์พิเศษเฉพาะกับทางผู้ก่อตั้งของบริษัท ภัทร โปรเกรส จำกัด หนึ่งในบริษัทที่ถือได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญอันดับต้นๆ ทางด้านระบบ ERP สำหรับธุรกิจในไทย และยังถือว่าเป็น Partner อันดับ 1 สำหรับโซลูชัน Microsoft Dynamics ในประเทศไทยอีกด้วย ซึ่งเนื้อหาสำคัญส่วนหนึ่งที่เชื่อว่าผู้อ่านหลายท่านน่าจะให้ความสนใจก็คือ เคล็ดลับในการพัฒนาระบบ ERP สำหรับองค์กรให้ประสบความสำเร็จ และตอบโจทย์ในเชิงธุรกิจได้จริง ซึ่งทางทีมงาน TechTalkThai ก็ขอสรุปเนื้อหาเอาไว้คร่าวๆ ดังนี้นะครับ

 

สัมภาษณ์กับ 2 ผู้ก่อตั้งแห่งบริษัทภัทร โปรเกรสโดยตรง

bhatara_logo

ในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ทางทีมงาน TechTalkThai มีโอกาสได้สัมภาษณ์ทีมผู้ก่อตั้งของบริษัทภัทร โปรเกรส ด้วยกันถึง 2 ท่าน ได้แก่คุณจันทร์ทิพย์ องค์ภัทร และคุณวิมล ใสเศวตวารีครับ ถือเป็นบทสนทนาที่ค่อนข้างทรงคุณค่าทีเดียวจากสองผู้บริหารหญิงแกร่ง เพราะได้ประสบการณ์และมุมมองที่น่าสนใจมามากมายเลยทีเดียวครับ จะเรียกว่าได้บทเรียนดีๆ มาก็ไม่เกินจริงจนเกินไปนัก ซึ่งจากการพูดคุยกับทั้ง 2 ท่าน ทางทีมงาน TechTalkThai ก็ขออนุญาตสรุปบทเรียนออกมาด้วยกัน 5 ข้อดังนี้ครับ

Credit: ShutterStock.com
Credit: ShutterStock.com

 

1. เป็นมากกว่าคู่ค้า ต้องเป็นให้ได้ถึงคู่คิด

บทเรียนแรกเลยกับความสำเร็จของภัทร โปรเกรสในการติดตั้งและปรับแต่งระบบ ERP ให้ตอบโจทย์ของลูกค้าองค์กรในแต่ละกลุ่มธุรกิจมากมายทั่วประเทศไทยและแถบเพื่อนบ้านนี้ได้สำเร็จก็คือ การเป็นคู่คิดทางธุรกิจให้กับองค์กรต่างๆ ไม่ได้เป็นแค่คู่ค้าเท่านั้น และความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจของลูกค้า ก็คือเป้าหมายหลักในการดำเนินธุรกิจของภัทร โปรเกรสมาโดยตลอด

สิ่งที่ภัทร โปรเกรสใช้และยึดเป็นหลักในการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องก็คือการทำความเข้าใจธุรกิจของลูกค้าทุกรายอย่างละเอียด และนำเสนอโซลูชันที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ซึ่งในที่นี้การทำความเข้าใจทางธุรกิจนั้นก็หมายความตรงตามตัว คนที่เข้าไปทำงานให้กับลูกค้านั้นจะต้องมีความรู้ความเข้าใจในธุรกิจ, ผลิตภัณฑ์, ขั้นตอนการดำเนินงาน, เป้าหมาย, ความต้องการของลูกค้าในระดับนโยบาย, ความต้องการของพนักงานผู้ปฏิบัติงาน, กฎหมายหรือข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง และประเด็นต่างๆ อีกมากมายเพื่อให้เข้าใจสถานการณ์และระบบการทำงานจริงๆ ของลูกค้าอย่างชัดเจน ก่อนที่จะเริ่มทำการออกแบบระบบหรือโซลูชันต่างๆ ไปนำเสนอ เรียกได้ว่าหมวกใบหนึ่งของภัทร โปรเกรสนั้นก็คือการทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจให้แก่ลูกค้าทุกรายนั่นเอง

ดังนั้นในงานของภัทร โปรเกรสเองนั้น ทุกๆ งานจึงไม่ได้เริ่มต้นจากความต้องการของระบบ IT แต่เป็นความต้องการในการแก้ไขโจทย์ปัญหาทางธุรกิจของลูกค้าโดยตรง รวมถึงการนำ Framework ต่างๆ ทางด้านธุรกิจเข้าไปช่วยจับและปรับปรุงให้กับกระบวนการการทำงานของลูกค้า ตัวอย่างเช่น ถ้าหากลูกค้าเป็นองค์กรญี่ปุ่น การนำเสนอวัฒนธรรมการทำงานแบบ Lean, Kaizen หรือการจัดการแบบ Zero Stock และ Just in Time (JIT) นั้นก็เป็นสิ่งที่ภัทร โปรเกรสต้องนำมาประยุกต์ใช้ในการช่วยองค์กรลูกค้าปรับปรุงกระบวนการการทำงานให้ได้ เป็นต้น

อีกประเด็นหนึ่งที่ถือว่าเป็นจุดเด่นสำคัญของภัทร โปรเกรสนั้นก็คือการที่ยึดมั่นในการเป็นคู่คิด จนในบางครั้งนั้นก็สามารถมองหาปัญหาที่เกิดขึ้นในองค์กรของลูกค้าให้เจอโดยที่ลูกค้าเองนั้นมองไม่เห็นปัญหาของตัวเองด้วยซ้ำ และนำเสนอเพื่อแก้ไขได้ทันทีก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ถือเป็นหน้าที่ที่สำคัญของทางภัทร โปรเกรสด้วยเช่นกัน

 

2. ธุรกิจต้องเป็นตัวนำ เทคโนโลยีต้องปรับตามให้ทัน

จากประเด็นดังกล่าวเบื้องต้น จะเห็นได้ว่าภัทร โปรเกรสเองนั้นใช้ธุรกิจเป็นตัวนำอย่างเต็มที่ และจากประสบการณ์ของทางภัทร โปรเกรสนั้นก็จะพบว่าทุกๆ ปัญหาทางธุรกิจขององค์กรลูกค้านั้นมีทางออกเสมอ อยู่ที่ว่าทางออกนั้นๆ จะมีความซับซ้อนในเชิงธุรกิจมากน้อยแค่ไหน และมีความซับซ้อนในเชิงเทคโนโลยีอย่างไร และการช่วยลูกค้าในการแก้ปัญหาเหล่านั้นให้เกิดเป็นผลลัพธ์ทางธุรกิจให้ได้จริงๆ นั้นก็ถือเป็นงานสำคัญของภัทร โปรเกรสงานหนึ่ง โดยต้องไม่มองว่าเทคโนโลยีนั้นเป็นข้อจำกัดเด็ดขาด เพราะหากเทคโนโลยีไหนยังไม่มีบนโลก ภัทร โปรเกรสก็มองว่าสามารถสร้างขึ้นมาได้อยู่ดี

ตัวอย่างหนึ่งที่จะทำให้เห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้นนั้นก็คือการที่หลายๆ ครั้งทางภัทร โปรเกรสต้องมองหาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า ซึ่งบางครั้งเองนั้นก็ต้องพัฒนาเทคโนโลยีที่เรียกได้ว่านำเทรนด์ระดับโลกมาใช้ให้ลูกค้าเลย ตัวอย่างเช่น ทางภัทร โปรเกรสนั้นเคยทำระบบ Internet of Things (IoT) สำหรับตรวจวัดค่าต่างๆ ในระหว่างกระบวนการขนส่งของธุรกิจอุตสาหกรรมอาหารในประเทศไทยพร้อมกับเชื่อมต่อข้อมูลเหล่านี้เข้ากับระบบ ERP มาแล้ว ก่อนที่คำว่า IoT จะเป็นที่รู้จักหรือเป็นที่นิยมเสียอีก

 

3. ใช้ความรู้ทางธุรกิจ 60% และความรู้เชิงเทคโนโลยี 40%

เมื่อสัมภาษณ์ไปได้ระยะหนึ่งทางทีมงาน TechTalkThai ก็สังเกตได้ว่าเนื้อหาเกือบทั้งหมดเป็นการพูดคุยในเชิงธุรกิจโดยแทบไม่มีเทคโนโลยีมาเกี่ยวข้องเลย จึงได้สอบถามทางทีมงานภัทร โปรเกรสไปถึงประเด็นอัตราส่วนการใช้ความในเชิงธุรกิจต่อการใช้ความรู้เชิงเทคโนโลยี และได้รับคำตอบเป็น Magic Number มาว่า 60:40

ถึงแม้ในเบื้องหน้านั้นทางภัทร โปรเกรสจะยึดการแก้ปัญหาในเชิงธุรกิจเป็นหลักเสมอ เพราะการที่จะแก้ปัญหาในเชิงธุรกิจให้ได้ดีๆ นั้นไม่ควรยึดติดต่อข้อจำกัดทางด้านเทคโนโลยี แต่ในเบื้องหลังนั้นทางภัทร โปรเกรสเองก็คอยเป็นผู้ที่จัดการปัญหาในเชิงเทคโนโลยีให้ลูกค้ามาโดยตลอดเพื่อที่ลูกค้าจะได้ไม่ต้องคอยกังวลใจหรือเกิดปัญหาในการใช้งานระบบต่างๆ ในภายหลัง เรียกได้ว่าการให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีเองนั้นก็ถือเป็นหัวใจอีกห้องหนึ่งของภัทร โปรเกรสเช่นกัน

สิ่งที่ภัทร โปรเกรสได้จัดการให้ในเชิงเทคโนโลยีแก่ลูกค้านั้น ก็คือการนำความต้องการของลูกค้ามาเทียบว่าเหมาะสมกับการนำเทคโนโลยีใดมาใช้แก้ปัญหา แล้วเลือกเทคโนโลยีที่ดีที่สุดมานำเสนอแก่ลูกค้า และหากเทคโนโลยีต่างๆ ที่มีอยู่นั้นไม่เพียงพอต่อการตอบโจทย์ ทางภัทร โปรเกรสควรจะพัฒนาต่อยอดหรือปรับแต่งเทคโนโลยีที่มีอยู่อย่างไรให้ตอบโจทย์ของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม

ด้วยเหตุนี้ทีมงานของภ้ทร โปรเกรสนั้นก็จึงต้องทำการหมั่นศึกษาหาความรู้ใหม่ๆ ทั้งในเชิงธุรกิจและเทคโนโลยีควบคู่กันไป เพื่อให้การตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้านั้นเป็นไปได้อย่างดีที่สุดนั่นเอง

 

4. ทุกการทำงาน คือการเรียนรู้เสมอ

อีกบทเรียนน่าสนใจที่สามารถนำไปปรับใช้ได้กับทุกสายงานเลยก็คือ การที่ภัทร โปรเกรสมองว่าทุกๆ การทำงานนั้นก็คือการเรียนรู้ เพราะในการเข้าไปให้คำปรึกษาทางด้านธุรกิจและเทคโนโลยี ERP แก่ลูกค้าแต่ละรายนั้น ก็เปรียบเสมือนการได้เข้าไปเรียนรู้ธุรกิจใหม่ๆ ทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเข้าไปทำงานร่วมกับธุรกิจในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ยังไม่เคยทำมาก่อน หรือการเข้าไปร่วมงานกับธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมที่เคยมีประสบการณ์มาบ้างแล้ว แต่มีรูปแบบการดำเนินงานหรือกลุ่มเป้าหมายในตลาดที่แตกต่างกันไป ด้วยเหตุนี้ก็ทำให้ภัทร โปรเกรสนั้นต้องเรียนรู้อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดในเชิงธุรกิจใหม่ๆ, ปัญหารูปแบบใหม่ๆ, กระบวนการการทำงานที่แตกต่างกันไป, ความต้องการในรูปแบบที่แตกต่างกันไป และอื่นๆ อีกมากมาย

ในทางกลับกันนั้นนอกจากภัทร โปรเกรสจะต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพิ่มเติมแล้ว หลายครั้งคำแนะนำจากลูกค้าเองนั้นก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน กรณีหนึ่งที่น่าสนใจก็คือการที่ลูกค้าเองนั้นเป็นผู้แนะนำเทคโนโลยีดีๆ ใหม่ๆ แก่ทางภัทร โปรเกรสเองด้วยซ้ำ รวมถึงซอฟต์แวร์ระบบ ERP ที่ภัทร โปรเกรสใช้ในทุกวันนี้ก็มาจากคำแนะนำของลูกค้าเองที่เคยทดสอบทุกยี่ห้อเปรียบเทียบมาแล้วด้วยเช่นกัน ดังนั้นแล้วไม่ว่าจะเป็นแง่มุมไหน การทำงานร่วมกันระหว่างภัทร โปรเกรสและองค์กรต่างๆ นั้น ก็คือการแลกเปลี่ยนความรู้และสร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ ร่วมกันขึ้นมาทั้งสิ้น และคนที่จะมารับหน้าที่ในการให้คำปรึกษาและติดตั้งพัฒนาระบบ ERP เองนั้นก็ต้องมีมุมมองในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องเป็นพื้นฐานที่สำคัญ

 

5. ครอบคลุมให้ครบ จบทุกอย่างให้ได้ในบริการเดียว

เทคโนโลยีที่จะถูกนำมาใช้เสริมในการทำธุรกิจนั้น ควรจะต้องเป็นเทคโนโลยีที่มีความสำเร็จรูป พร้อมใช้งานได้ทันที ดังนั้นอีกบทบาทหนึ่งที่สำคัญของภัทร โปรเกรสนั้นก็คือการนำเสนอเทคโนโลยีๆ ต่างๆ นอกเหนือไปจากระบบ ERP เพื่อให้องค์กรต่างๆ พร้อมนำไปใช้งานได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอ Software หรือ Hardware ต่างๆ ที่จำเป็นต่อการทำงานก็ตามแต่ ทำให้ใน Portfolio ของทางภัทร โปรเกรสนั้นมีผลิตภัณฑ์และบริการอื่นๆ มากมายที่นอกเหนือไปจากระบบ ERP ซึ่งเป็นธุรกิจหลักด้วย

 

ภัทร โปรเกรส กับประสบการณ์กว่า 20 ปีในวงการ ERP

ปัจจุบันนี้ภัทร โปรเกรสมีอายุประมาณ 21 ปีแล้ว โดยเริ่มต้นจากการทำระบบบัญชีให้กับองค์กรของลูกค้ามาก่อน และค่อยๆ ขยับขยายขึ้นมาเป็นระบบ ERP และเสริมด้วยโซลูชันต่างๆ ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามาได้ตลอด

โซลูชันที่ถือเป็นหัวใจหลักของทางภัทร โปรเกรสเลยนั้นก็คือ Microsoft Dynamics AX และ Microsoft Dynamic NAV ที่ทางภัทร โปรเกรสนั้นได้จับผลิตภัณฑ์เหล่านี้มาทำตลาดในประเทศไทยก่อนที่ Microsoft จะเข้าซื้อกิจการของผลิตภัณฑ์เหล่านี้เสียอีก อีกทั้งยังเคยบินไปดูงานทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์เหล่านี้มาแล้วทุกประเทศ และตรวจสอบคุณภาพของ Software จาก Source Code ทุกบรรทัดมาก่อนแล้ว จึงมีความมั่นใจที่จะทำตลาดให้กับผลิตภัณฑ์เหล่านี้จนก้าวเข้ามาสู่การเป็นเบอร์หนึ่งของผู้ให้บริการ Microsoft Dynamics AX และ Microsoft Dynamics NAV อย่างในทุกวันนี้ได้

 

Cloud กลายเป็นทางเลือกที่จำเป็นต่ออนาคต แต่ On-premises ก็ยังมีตลาดกลุ่มที่ต้องการอยู่

microsoft_dynamics_365

ความเปลี่ยนแปลงหนึ่งที่ภัทร โปรเกรสต้องเผชิญในทุกๆ วันนี้ก็คือการมาของ Cloud ที่ทำให้รูปแบบของการนำเสนอระบบ ERP ภายในองค์กรนั้นต้องเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมาก รวมถึง Microsoft เองที่เป็น Partner หลักของทางภัทร โปรเกรสเองก็ได้เปิดตัวบริการ Cloud สำหรับ Microsoft Dynamics มาเช่นกัน ด้วยมุมของทางผู้ผลิตนั้นก็อยากจะนำเสนอระบบ Cloud ที่มีเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดและสามารถช่วยให้บริการลูกค้าแต่ละรายได้ดีขึ้น ในขณะที่มุมมองของลูกค้าเองก็ยังมีหลายองค์กรที่ยังไม่พร้อมต่อการนำข้อมูลความลับขององค์กรขึ้นไปฝากไว้บนบริการ Cloud นั้น ทำให้ภัทร โปรเกรสเองต้องขยับตัวเพื่อตอบรับต่อความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้

บริการ ERP บน Cloud อย่าง Microsoft Dynamics เองนั้นก็จะมีจุดเด่นในแง่ของการเริ่มต้นขึ้นระบบและใช้งานได้รวดเร็ว, ไม่ต้องมี Systems Engineer คอยปรับแต่งระบบในเชิงลึกอีกต่อไป, ระบบสามารถเพิ่มขยายรองรับการเติบโตขององค์กรได้อย่างต่อเนื่อง, ผู้ใช้งานในองค์กรสามารถเข้าถึงระบบเดียวกันได้จากทุกๆ สาขาทั่วประเทศและทั่วโลก อีกทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อกับระบบ Internet of Things (IoT) ได้หลากหลายอย่างต่อเนื่องในอนาคตด้วย

ในทางกลับกัน ระบบ ERP แบบ On-Premises เองนั้นก็ยังคงทำให้ลูกค้ามีความรู้สึกอุ่นใจในการจัดเก็บข้อมูลภายในองค์กร, ไม่ต้องพะวงกับปัญหาเรื่องความเสถียรของสัญญาณอินเทอร์เน็ตในการใช้งาน, สามารถเลือกปรับแต่งหรืออัปเกรดทั้งในส่วนของ Hardware และ Software ได้ตามที่ต้องการ รวมถึงยังสามารถปรับแต่งเชิงลึกได้เอง และเป็นการลงทุนแบบเบ็ดเสร็จจบในครั้งเดียว

จะเห็นได้ว่าแต่ละทางเลือกนั้นก็ยังคงมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ภัทร โปรเกรสเองก็เข้าใจในจุดนี้ดีและเลือกที่จะนำเสนอทั้ง 2 แนวทางให้กับลูกค้าทุกๆ รายพร้อมให้ความรู้ความเข้าใจแก่ลูกค้าในการตัดสินใจไปด้วยพร้อมๆ กัน เพราะการเลือกระบบ ERP ที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อการดำเนินธุรกิจนั้น ก็ควรจะถูกเลือกให้สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินธุรกิจในระยะยาวของลูกค้าแต่ละรายนั่นเอง

 

ภัทร โปรเกรส เชื่อมั่นใน Microsoft Dynamics พร้อมสร้างอนาคตร่วมกันในประเทศไทย

ในฐานะของ Partner รายใหญ่สำหรับโซลูชันตระกูล Microsoft Dynamics เองนั้น ภัทร โปรเกรสก็พร้อมที่จะก้าวไปกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ของ Microsoft ถัดจากนี้ต่อไปอย่างต่อเนื่อง เพราะด้วยประสบการณ์และองค์ความรู้ที่สั่งสมมาในการทำ ERP สำหรับธุรกิจในประเทศไทยที่ต้องอาศัยทั้งความรู้ในเชิงธุรกิจ, การเงิน, บัญชี, กฎหมาย และ IT นั้น การมาของบริการ Microsoft Dynamics บน Cloud เองก็จะยิ่งกลายเป็นตัวเร่งให้ภัทร โปรเกรสสามารถเติบโตไปได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นในการเริ่มติดตั้งระบบ ERP ให้กับองค์กรลูกค้าได้ทันทีบนระบบ Cloud และทำให้ทีมงานของภัทร โปรเกรสสามารถใช้เวลากับการศึกษาและปรับปรุงกระบวนการการดำเนินธุรกิจขององค์กรลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น ก่อนที่จะแปลงความต้องการต่างๆ มาเป็นระบบ IT บน Microsoft Dynamics ต่อไป

 

ต้องการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้าน ERP? ติดต่อ ภัทร โปรเกรส ได้ทันที!

ผู้ที่สนใจโซลูชัน ERP และอยากปรึกษาทีมงานผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์สูง สามารถติดต่อทีมงานภัทร โปรเกรสได้ทันทีที่โทร 02- 732-2090 หรือเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ http://www.bhatarapro.com/ ทันที

 

สุดท้ายนี้ทางทีมงาน TechTalkThai ก็ต้องขอขอบคุณทาง Microsoft ประเทศไทยนะครับที่ให้โอกาสได้เดินทางไปร่วมงาน WPC16 ถึงประเทศแคนาดา และยังให้โอกาสในการสัมภาษณ์ในครั้งนี้ด้วยครับ

About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

AMD และพันธมิตรร่วมกันยกระดับประสบการณ์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI บนผลิตภัณฑ์ AMD [PR] 

AMD ประกาศเปิดตัว Amuse 3.0 และโมเดล Stable Diffusion ใหม่ที่ปรับแต่งสำหรับการใช้งานบน AMD ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือด้านวิศวกรรมกับ Stability AI

Passwordless คืออะไร?

รู้สึกชีวิตยากไหมกับการที่ต้องรหัสผ่านนับสิบในทุกวันนี้ นั่นทำให้เกิดการตั้งรหัสผ่านแบบง่ายๆ หรือวนใช้รหัสผ่านซ้ำ ซึ่งเมื่อข้อมูลรั่วก็โดนแฮ็กได้แบบรวบยอด ด้วยเหตุนี้เองแนวคิดของ Passwordless จึงเริ่มถูกผลักดันมากขึ้น ในบทความนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักนิยามของ Passwordless และวิธีการใช้งานกัน