CDIC 2023

อัพเดตเทรนด์ระบบเครือข่ายองค์กรกับ Alcatel-Lucent Enterprise ในมุมมองของผู้ผลิตสัญชาติยุโรป

ทางทีมงาน TechTalkThai ได้มีโอกาสไปพูดคุยอัพเดตเทรนด์ต่างๆ ทางด้าน Enterprise IT จาก Alcatel-Lucent ในทีม Enterprise และได้รับข้อมูลที่น่าสนใจจากผู้ผลิตสัญชาติยุโรปรายนี้มามากมายผ่านการสัมภาษณ์คุณ Damien Delard ผู้ดำรงตำแหน่ง Vice President Enterprise Business South-East Asia, คุณ Amit Raj Bathla ผู้ดำรงตำแหน่ง Director & Head of Marketing APAC และคุณสาธิต พันธ์ไพศาล ผู้ดำรงตำแหน่ง Country Manager Enterprise ประจำประเทศไทยแห่ง Alcatel-Lucent Enterprise จึงขอสรุปข้อมูลคร่าวๆ เอาไว้ดังนี้ครับ

techtalkthai_high_speed

ทิศทางและแนวโน้มการเติบโตของตลาด Enterprise IT

Internet of Things ยังคงเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่จะมาเปลี่ยนแปลงโลกในระยะยาว โดยในปี 2007 ตลาดของ IoT ทั่วโลกมีมูลค่าอยู่ที่ 6.3 Billion USD ส่วนในปี 2015 นี้คาดว่าจะมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 21 Billion USD และในปี 2020 คาดว่าจะมีการเติบโตขึ้นไปอีกกว่า 2 เท่าเป็นมูลค่ารวม 45 Billion USD ส่วนภายในประเทศไทย ปีนี้ตลาดของ IoT ควรจะเติบโตขึ้นไปอีก 10%

และด้วยการมาของ Internet of Things นี้เอง ก็จะทำให้ระบบเครือข่ายถูกใช้งานในรูปแบบใหม่ๆ ด้วยการมีปริมาณข้อมูลของ Machine Data ที่เกิดจาก Sensor เหล่านี้เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล และมีพฤติกรรมที่แตกต่างไปจากระบบเครือข่ายในปัจจุบัน ซึ่ง Internet Service Provider (ISP) และองค์กรเองก็ต้องเตรียมระบบเครือข่ายให้มีความพร้อมสำหรับความต้องการในลักษณะนี้

ทางด้าน Alcatel-Lucent เองได้มองถึงทิศทางอนาคตของระบบเครือข่ายดังต่อไปนี้

1. เทคโนโลยี Software Defined Network จะเป็นตัวช่วยให้ระบบเครือข่ายที่มี Traffic หลากหลายรูปแบบ สามารถใช้งานได้คุ้มค่าสูงสุด และช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการลงได้ โดยในสถานการณ์ปัจจุบันที่เทคโนโลยี SDN สำหรับ Data Center ยังมีการแข่งขันกันระหว่างเทคโนโลยีหลายค่าย ทาง Alcatel-Lucent Enterprise ได้มุ่งไปที่การพัฒนา SDN ภายใต้ชื่อของ Intelligent Fabric สำหรับ Edge Switch ให้รองรับผู้ผลิตหลายค่ายได้ก่อน เพราะท้ายที่สุดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายของ Data Center หรือ Campus Network เองต่างก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน และการเริ่มต้นจาก Campus Network ที่ระดับของ Edge Switch เองก็ตอบโจทย์องค์กรได้อย่างครอบคลุมด้วยต้นทุนที่ไม่สูงมาก และเห็นผลตอบแทนได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ระบบ Network Analytics เองก็จะเริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญทั้งในแง่ของประสิทธิภาพ, ความปลอดภัย และการแก้ไขปัญหา รวมถึงการทำงานร่วมกันได้ระหว่างอุปกรณ์เครือข่ายจากหลายผู้ผลิต ซึ่งทาง Alcatel-Lucent Enterprise ก็ได้มีระบบ Network Analytics เพื่อตอบโจทย์ลักษณะนี้ด้วยเช่นกัน

2. Wi-Fi เองจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ช่วยเปลี่ยนแปลงระบบเครือข่ายของทั้งวงการ โดยการมาของ 802.11ac จะทำให้ระบบเครือข่ายขององค์กรต้องปรับเปลี่ยนเพิ่ม Bandwidth ให้รองรับการใช้งานได้มากขึ้น ซึ่งจะนำมาสู่ระบบเครือข่ายความเร็ว 10/40/100Gbps

3. การใช้งานอุปกรณ์พกพาจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการเชื่อมต่อระบบเครือข่ายเพื่อทำงานได้จากทุกที่จะกลายเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับองค์กร โดย BYOD จะถูกต่อยอดทางด้าน Productivity เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก จากเดิมที่ผู้ผลิตมุ่งเน้นไปที่ความปลอดภัย ตอนนี้ได้เวลาของการมองที่ระดับการใช้งาน และระบบเครือข่ายที่จะรองรับการใช้งาน BYOD ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นแทน

4. Unified Communication & Collaboration จะกลายเป็นรูปแบบของ Cloud มากขึ้น โดยการที่โซลูชั่นต่างๆ เหล่านี้กลายเป็น Cloud ไปก็จะทำให้องค์กรสามารถลดต้นทุนค่าใช้จ่ายของการติดต่อสื่อสารลงได้เป็นอย่างดี ในขณะที่การเชื่อมต่อของระบบเครือข่ายไปยังบริการ Cloud ก็จะมีความท้าทายมากขึ้นไปด้วยเช่นกัน

5. ธุรกิจ Service จะสร้างรายได้สูงกว่า Product ดังนั้นรูปแบบการทำธุรกิจหรือให้บริการต่างๆ ก็จะต้องมีการปรับตัวหรือเริ่มทะยอยปรับตัวกันได้แล้ว

6. องค์กรส่วนใหญ่ยังไม่พร้อมรับกับการมาของเทรนด์ต่างๆ ที่กล่าวไปข้างต้น ดังนั้นฝ่าย IT ของทุกองค์กรก็ควรเริ่มที่จะศึกษาและพิจารณารูปแบบและกลยุทธ์ทางด้าน IT ขององค์กรในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าที่กำลังจะมาถึงนี้ได้แล้ว

7. ระบบเครือข่ายของธุรกิจ SMB จะเปลี่ยนแปลงไปเพื่อรองรับบริการจาก Cloud เป็นหลัก และ Alcatel-Lucent เองก็มีแผนที่จะเปิดตัวระบบเครือข่ายสำหรับ SMB โดยเฉพาะในแบบ Cloud Ready เร็วๆ นี้

ข่าวการเข้าซื้อกิจการที่เกี่ยวข้อง

สำหรับการเข้าซื้อกิจการ Alcatel-Lucent โดย Nokia นั้น แทบไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ Enterprise ของ Alcaltel-Lucent เลย เพราะทีม Alcatel-Lucent Enterprise นี้ถูกแยกบริษัทออกมาจาก Alcatel-Lucent Group ที่ Nokia ซื้อไป และ Alcatel-Lucent Group ก็ถือหุ้นตรงนี้อยู่เพียง 15% เท่านั้น

สำหรับหุ้น 85% ที่เหลือ ก็มีนักลงทุนต่างๆ ทั่วโลกมาทำการลงทุนเข้ากับ Alcatel-Lucent Enterprise โดยหนึ่งในกลุ่มของนักลงทุนที่น่าสนใจนั้นมาจากประเทศจีน เนื่องจากจีนเองมีความต้องการที่จะขยายธุรกิจไปยังยุโรปซึ่งเป็นตลาดหลักของ Alcatel-Lucent Enterprise ในขณะที่ Alcatel-Lucent Enterprise เองก็จะได้เพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจเข้าไปยังประเทศจีนด้วยเช่นกัน โดยการดำเนินงานและการวางกลยุทธ์ทั้งหมดจะยังมาจาก Headquarter ที่ยุโรป เพื่อมุ่งเน้นการสร้างเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์สำหรับฐานลูกค้ากว่า 60% ที่ยังอยู่ในยุโรปเป็นหลักอยู่

ส่วนการเข้าซื้อกิจการระหว่าง HP และ Aruba Networks นั้นก็ไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อ Alcatel-Lucent Enterprise เพราะความสัมพันธ์ในฐานะคู่ค้ายังคงเหนียวแน่นกันอยู่ และ Alcatel-Lucent Enterprise เองก็จะยัง OEM Aruba Networks ต่อไป ลูกค้าจึงสบายใจได้ แต่ในขณะเดียวกันด้วยเทคโนโลยี SDN ที่พัฒนาขึ้นมา ก็จะช่วยให้ระบบเครือข่ายมีความเปิดกว้างมากขึ้น ไม่ติดกับยี่ห้อของผู้ผลิตระบบเครือข่ายค่ายใดค่ายหนึ่งมากเกินไป และนี่ก็เป็นหนึ่งในทิศทางหลักของ Alcetel-Lucent Enterprise หลังจากนี้

สรุปทิศทางในปีนี้

ในมุมขององค์กร 3 เทคโนโลยีที่ได้รับความสนใจสูงสุดก็ยังคงเป็น Internet of Things (IoT), Software Defined Network (SDN) และ Big Data Analytics ซึ่งในมุมของ Alcatel-Lucent Enterprise เองก็จะมุ่งไปที่การเตรียมความพร้อมของระบบเครือข่ายผ่านแนวคิดของ Unified Access ให้ทุกคนและทุกอุปกรณ์เชื่อมต่อเครือข่ายได้อย่างครอบคลุม, Intelligent Fabric เพื่อรองรับการทำ Automation สำหรับรับมือกับระบบเครือข่ายที่ซับซ้อน โดย Alcatel-Lucent Enterprise เพิ่งได้รับรางวัลมาจากงาน Interop ครั้งล่าสุดด้วย และ Network Analytics ที่จะช่วยให้การดูแลรักษาและจัดการปัญหาต่างๆ ในระบบเครือข่ายที่มีความซับซ้อนนี้เป็นไปได้อย่างง่ายดาย

สำหรับในประเทศไทย Alcatel-Lucent Enterprise ได้เพิ่มจำนวนพนักงานขึ้นมาเพื่อเตรียมขยายตลาดให้เติบโตยิ่งขึ้น และในอนาคตเองก็มีแผนว่าจะนำระบบ Cloud Unified Communication & Collaboration เข้ามาเพื่อเป็นทางเลือกให้กับองค์กรในประเทศไทยเช่นกัน

ผู้ที่สนใจ สามารถติดต่อ Partner ของ Alcatel-Lucent ทั่วประเทศไทยได้ทันที หรือสามารถศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ http://enterprise.alcatel-lucent.com/ โดยตรง


About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

LINE ประเทศไทย จัดงาน LINE Conference Thailand 2023 ชูเทคโนโลยี Hyper-localized ยกระดับชีวิต ธุรกิจ และนักพัฒนา ก้าวสู่การเป็น “แพลตฟอร์มเปิดเพื่อคนไทย” [Guest Post]

ครั้งแรกของ LINE ประเทศไทย กับงานสัมมนาด้านเทคโนโลยีครั้งใหญ่ LINE Conference Thailand 2023 หรือ #LCT23 พร้อมประกาศวิสัยทัศน์ ทิศทาง และกลยุทธ์ก้าวต่อไปในการพัฒนาและดำเนินการด้านเทคโนโลยีใหม่แห่งปี สู่การเป็น “แพลตฟอร์มเปิดเพื่อคนไทย” …

เชิญร่วมงานสัมมนาออนไลน์ BAYCOMS Cybersecurity Day 2023 วันที่ 6 ตุลาคม 2023

Bay Computing ขอเชิญผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานด้าน IT Security เข้าร่วมสัมมนาออนไลน์ BAYCOMS Cybersecurity Day 2023 ซึ่งจัดขึ้นภายใต้ธีม “First Class Cybersecurity to …