CDIC 2023

Netka ชูประเด็นเพิ่มศักยภาพงานด้าน IT ภายในองค์กรให้แข่งขันได้ในยุค Digital Transformation

ในงานสัมมนา Thai IT Infrastructure Day 2018 by TechTalkThai ทาง Netka ผู้ผลิตและพัฒนาซอฟต์แวร์ระบบ IT Infrastructure Management และ IT Service Management สัญชาติไทยที่ก้าวไกลเติบโตไปในระดับโลก ได้ร่วมสนับสนุนงานสัมมนาพร้อมอัปเดตเทคโนโลยีสำหรับการดูแลรักษาระบบ IT สัญชาติไทยที่ดังไกลไปถึงทั่วโลก ทางทีมงาน TechTalkThai จึงขอนำเนื้อหามาสรุปให้ผู้อ่านทุกท่านได้อ่านกันดังนี้

 

แนวโน้มของ Digital Transformation ทำให้แผนก IT ภายในองค์กรยิ่งทวีความสำคัญมากยิ่งขึ้น

 

Credit: ShutterStock.com

 

Netka ได้ชูประเด็นว่าด้วยแนวโน้มของการที่เหล่าองค์กรจะมุ่งไปสู่การทำ Digital Transformation กันมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการนำเอาเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ให้กลายเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมต่างๆ ดังนั้นการลงทุนด้านระบบ IT ของเหล่าธุรกิจองค์กรนั้นจะต้องเติบโตมากยิ่งขึ้นแน่ๆ และ IT จะไม่ได้เป็นเพียงแค่ระบบหลังบ้านสำหรับหลายๆ ธุรกิจอีกต่อไป แต่จะกลายมาเป็นระบบหน้าบ้านที่ผู้ใช้งานต้องมีปฏิสัมพันธ์ด้วยโดยตรงกันมากขึ้น ไม่ว่าจะในรูปแบบของผลิตภัณฑ์หรือบริการก็ตาม ทำให้ระบบ IT นั้นจะมีความสำคัญสูงยิ่งกว่าในอดีตเป็นอย่างมาก

เทคโนโลยีที่จะเข้ามามีบทบาทโดดเด่นในการทำ Digital Transformation นี้ก็ได้แก่ Artificial Intelligence (AI), Big Data Analytics, Machine Learning และ Deep Learning ซึ่งเหล่าองค์กรนั้นก็สามารถเลือกได้ทั้งการใช้บริการ AI ที่อยู่บน Cloud ซึ่งค่อนข้างจะมีความสำเร็จรูปพร้อมใช้งาน หรือการลงทุนระบบ Data Center และ Internet of Things (IoT) เพื่อรองรับการทำ AI ที่ศูนย์กลาง, การทำ Edge Computing ไปจนถึงการประมวลผล AI ที่ระดับของอุปกรณ์ IoT เลยก็ได้ ซึ่งแน่นอนว่าทั้งการประมวลผลและระบบเครือข่ายที่เสถียรนั้นต่างก็มีความสำคัญต่อระบบเหล่านี้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย

อย่างไรก็ดี การทำ Digital Transformation นั้นไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของแค่การพัฒนา Software หรือนำ Solution ทางด้าน IT เข้ามาใช้ปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงธุรกิจและวิธีการทำงาน แต่การดูแลระบบ IT เหล่านั้นให้สามารถทำงานได้อย่างทนทานและไม่มี Downtime เองเลยก็ถือเป็นอีกโจทย์ที่ท้าทายสำหรับเหล่าองค์กร เพราะทุกๆ ปัญหาหรือการล่มนั้น คือสิ่งที่จะสะท้อนไปยังเหล่าลูกค้าและพนักงานทั้งองค์กรโดยตรง ส่งผลออกมาทั้งในแง่ของรายรับและประสบการณ์ของเหล่าลูกค้าหรือพนักงาน ไปจนถึงภาพลักษณ์ของธุรกิจองค์กรเลยทีเดียว

Netka ในฐานะของผู้เชี่ยวชาญด้านระบบ IT Infrastructure Management และ IT Service Management จึงได้เล็งเห็นความสำคัญในประเด็นเหล่านี้ และอยากจะร่วมเป็นแรงผลักดันหนึ่งที่ทำให้เหล่าธุรกิจไทยประสบความสำเร็จในการทำ Digital Transformation ทั้งสำหรับตลาดในประเทศไทยและตลาดระดับโลก จึงได้นำเทคโนโลยีทางด้าน IT Monitoring และ IT Service Management ซึ่งเดิมทีเป็นเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาสำหรับการใช้งานในระดับ Internet Service Provider, ธุรกิจ Data Center และระบบเครือข่ายในระดับประเทศหรือระดับภูมิภาค มาปรับแต่งเพื่อให้เหมาะสมต่อการนำมาใช้งานในระดับองค์กร รองรับต่อระบบ IT ที่จะเพิ่มขยาย, มีความซับซ้อนที่สูงขึ้น และมีความสำคัญที่สูงขึ้นในธุรกิจหลังการทำ Digital Transformation นั่นเอง

 

Netka ฟังเสียงตอบรับจากลูกค้า สร้างนวัตกรรมใหม่ตอบโจทย์ธุรกิจองค์กร

 

 

หนึ่งในจุดเด่นที่เป็นประเด็นน่าสนใจของผลิตภัณฑ์จาก Netka นั้นก็คือ ความสามารถในการ Integrated ซอฟต์แวร์ของตนเองเข้ากับระบบอื่นๆ ด้วยแนวคิด Customer-Centric ในแบบง่ายๆ ว่า อะไรก็ตามที่เกาะที่เน็ตเวิร์ค Netka จะจับมา monitor และ manage ให้ได้ พร้อมๆ ไปกับให้สามารถทำ planning, provisioning และทำ Analytic ได้ด้วย ซึ่งทำให้ธุรกิจหรือองค์กรนั้นมองเห็นภาพรวมทั้งหมดของระบบงานไอที ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ ทั้งทางด้าน network ด้าน system และด้าน application ต่างๆ ที่มีอยู่ในธุรกิจหรือองค์กรนั้น ซึ่งการมองเห็นภาพรวมการทำงานทะลุกันทั้งหมดดังกล่าว มีความจำเป็นอย่างมากในการใช้งานระบบไอทีให้ได้ประโยชน์สูงสุดในยุค Digital Transformation และตอบโจทย์การบริหารจัดการเน็ตเวิร์คขนาดใหญ่ในระดับเมือง หรือ smart city และด้วยแนวคิดดังกล่าว ทำให้ Netka สร้างสรรค์ระบบ IT Infrastructure Management และ IT Service Management ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการหลากหลายของเหล่าธุรกิจต่างๆ มาได้อย่างต่อเนื่อง และได้รับการยอมรับทั้งในประเทศและในระดับสากล

 

 

ตัวอย่างของความสามารถที่ถูกหยิบยกมาเล่าในงานสัมมนาครั้งนี้ ก็คือการที่ระบบของ Netka ได้เพิ่มการทำ Location Tracking เข้าไปในระบบ IT Service Management เพื่อให้เหล่าธุรกิจ ISP และองค์กรลูกค้านั้นสามารถติดตามเส้นทางการเดินทางของ IT Support Engineer ได้นับตั้งแต่เริ่มเปิด Ticket ขอรับบริการแก้ไขปัญหา ทำให้ทั้งคู่สามารถมั่นใจได้ว่าวิศวกรที่มาให้บริการนั้นกำลังเดินทางไปอยู่จริงๆ ไม่ได้แวะข้างทางหรือไปทำงานอื่นก่อน ตอบโจทย์สำหรับธุรกิจที่ต้องการ Service Level Agreement (SLA) ในระดับสูง และธุรกิจที่ต้องการควบคุมคุณภาพของการให้บริการได้เป็นอย่างดี

อีกตัวอย่างหนึ่งที่น่าสนใจนั้นก็คือการที่ Netka มีการพัฒนาระบบ IT Monitoring ในรูปแบบใหม่ โดยแทนที่จะติดตั้งระบบเหล่านี้เอาไว้ศูนย์กลางเพื่อทำการตรวจสอบว่าระบบใดๆ ยังคงทำงานได้อยู่บ้าง ก็เปลี่ยนไปติดตั้งแบบกระจายตามสาขาต่างๆ เพื่อทำการตรวจสอบการเชื่อมต่อของเครือข่าย, ความเร็วของการเชื่อมต่อไปยังบริการต่างๆ และความเสถียรของบริการนั้นๆ เพื่อจำลองประสบการณ์ของผู้ใช้งานในสาขาต่างๆ ว่าจะสามารถเข้าถึงระบบ IT ในองค์กรได้ด้วยประสบการณ์ใด เป็นอีกก้าวของการติดตามการทำงานของระบบ IT เพื่อให้องค์กรมั่นใจได้ในการทำงานของระบบต่างๆ มากขึ้นอีกทางหนึ่ง ซึ่งในอนาคตเองก็อาจถูกนำไปประยุกต์ใช้เพื่อจำลองประสบการณ์ของลูกค้าในการเข้าถึงระบบ IT ของธุรกิจได้เช่นกัน

 

 

แน่นอนว่าในยุคของ Digital Transformation ที่ต่างธุรกิจต่างต้องมีการคิดค้นนวัตกรรมและนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้เสริมหรือเปลี่ยนแปลงธุรกิจของตนเองนี้ ระบบ IT นั้นย่อมจะต้องมีความหลากหลายและถูกปรับแต่งให้ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะทางกันมากขึ้น โดยระบบ IT Infrastructure Management และ IT Service Management ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการดูแลรักษาระบบ IT ใหม่ๆ ที่ลงทุนพัฒนาขึ้ันมานี้ก็จะต้องรองรับระบบเฉพาะทางเหล่านี้ให้มากขึ้นด้วย ซึ่งทางทีมพัฒนาของ Netka ก็พร้อมที่จะตอบรับต่อความต้องการเหล่านี้สำหรับทุกๆ องค์กร เช่น การติดตามการทำงานของอุปกรณ์ IoT หรือระบบเครือข่ายภายนอกองค์กร, การติดตามการทำงานของบริการ Cloud, การรองรับกระบวนการการทำงานของฝ่าย IT ในองค์กรที่ต้องถูกปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับต่อระบบใหม่ๆ ให้มากขึ้น และอื่นๆ อีกมากมาย

 

IT Infrastructure Management อย่างเดียวไม่พอ ต้องมีระบบ IT Service Management ด้วย

ทาง Netka นั้นเน้นย้ำถึงความสำคัญของทั้งะรบบ IT Infrastructure Management และ IT Service Management คู่กันอยู่ตลอด เพราะการที่องค์กรจะประสบความสำเร็จในการดูแลรักษาระบบ IT ที่มีความซับซ้อนสูงและะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วให้ได้นั้น จะขาดระบบใดระบบหนึ่งไปไม่ได้เลย

 

 

ระบบ IT Infrastructure Management ที่ดีนั้นจะต้องสามารถปรับแต่งให้รองรับต่อระบบ IT ที่แตกต่างกันหลากหลายขององค์กรได้ และสามารถตรวจสอบการทำงานของระบบต่างๆ ได้ทั้งในภาพรวมไปจนถึงรายละเอียดเชิงลึกในแต่ละอุปกรณ์ โดยการแสดงผลนั้นต้องสามารถเข้าใจได้ง่ายและนำไปใช้ในการปฏิบัติงานได้จริง และควรจะมีตัวช่วยเหลือต่างๆ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาใดๆ เป็นไปได้อย่างรวดเร็วและไม่ผิดพลาด ซึ่งเทคโนโลยี IT Infrastructure Management ของ Netka ที่ตอบโจทย์เหล่านี้ในธุรกิจ ISP มาได้นั้นก็สามารถทำหน้าที่เหล่านี้ได้เป็นอย่างดี

 

 

ในขณะเดียวกัน ระบบ IT Service Management เองนั้นควรจะถูกออกแบบมาให้รองรับต่อมาตรฐานด้านการบริหารจัดการและดูแลรักษาระบบ IT ภายในองค์กรอย่างเช่น ITIL โดย IT Service Management ของ Netka นั้น ได้รับการรับรองจากสถาบัน ITIL เป็นเจ้าแรกในไทย และเป็นเจ้าแรกใน ASEAN อีกด้วย ในขณะที่ยังเปิดให้มีการปรับแต่งเพื่อให้เหมาะสมต่อ Workflow การให้บริการส่วนต่างๆ หรือการปรับเปลี่ยนกระบวนการในการทำงานได้อย่างยืดหยุ่น ในขณะที่ในอนาคตระบบ IT Service Management เองก็ต้องพร้อมที่จะรองรับการเชื่อมต่อไปยังระบบอื่นๆ ผ่านทาง API เพื่อให้สามารถสร้าง Workflow ข้ามระบบ หรือการทำ Automation ที่เหล่าอุปกรณ์หรือระบบต่างๆ อาจทำการแจ้งเปิด Ticket ปัญหาต่างๆ ด้วยตัวเองได้แบบอัตโนมัติ

องค์กรที่มีทั้ง 2 ระบบนี้และใช้งานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น จะสามารถลดภาระด้านการดูแลรักษาระบบ IT ได้เป็นอย่างมาก และสามารถตอบ SLA ทั้งสำหรับเหล่าผู้ใช้งานภายในองค์กรและลูกค้าภายนอกองค์กรได้อย่างมั่นใจ ด้วยการมีข้อมูลประกอบการทำงานและการวางแผนเพื่อปรับปรุงกระบวนการอยู่อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะเป็นรากฐานสำหรับของเหล่าธุรกิจที่ต้องการก้าวไปสู่การเป็น Digital Business ในเร็ววัน

 

ประสบความสำเร็จระดับโลก โดยมีสนามบินที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกนำเทคโนโลยีของ Netka ไปใช้งาน

 

Credit: HIA

 

กรณีศึกษาซึ่งถือว่าเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของชาวไทยและของ Netka ในฐานะของผู้ผลิตเทคโนโลยีสัญชาติไทยที่สามารถประสบความสำเร็จได้ในระดับโลกที่ถูกนำมาเล่าสู่กันฟังในครั้งนี้ ก็คือการที่สนามบิน Hamad International Airport (HIA) ซึ่งเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในโลกเป็นอันดับ 3 นำไปใช้งาน

HIA นำเทคโนโลยีของ Netka เข้าไปช่วยในการตรวจสอบการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ ภายในสนามบิน และทำการแจ้งเตือนและสนับสนุนข้อมูลเพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสนามบินในแต่ละวัน ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาระบบ IT ขนาดใหญ่ของสนามบินที่เริ่มมีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าไปใช้งานเป็นจำนวนมากลงได้อย่างมหาศาล อีกทั้งยังช่วยให้ HIA สามารถลดต้นทุนในการลงทุนระบบบ IT Infrastructure Management และ IT Service Management ลงไปได้เป็นอย่างมาก

ความสำเร็จในครั้งนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ Netka ได้มี Reference Site ขนาดใหญ่ในระดับโลกเท่านั้น แต่ได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้งานโดยได้รับสัญญาว่าจ้างให้ดูแลระบบต่อเนื่องอีก 5 ปี สิ่งนี้เองได้ตอกย้ำความเชื่อมั่นจากการเลือกใช้เทคโนโลยีจาก Netka ทำให้ Netka System ได้ขยายธุรกิจของตนออกไปสู่ระดับโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิ

 

ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Netka ได้ที่ http://netkasystem.com หรือติดต่อทีมงานของ Netka System ได้ที่ info@netkasystem.com หรือโทร 02-978-6805
#NetkaView
#NetkaQuartz


About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

Intel เผยชิปประมวลผล 14th กำลังจะมาในธันวาคมนี้

Intel ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับชิปรุ่นถัดไปหรือ 14th ที่ใช้ชื่อโค้ดว่า ‘Meteor Lake’ โดยคาดว่าจะปล่อยออกมาราวเดือนธันวาคมนี้ เพื่อกรุยทางต้อนรับงาน CES ต้นปีถัดไป ครั้งนี้มีรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมทั้งแนวคิดการออกแบบที่เป็น Chiplet และส่วนประกอบต่างๆ รวมถึงแนวคิดการทำงานของ E-core …

“หัวเว่ย” เผย 3 เทรนด์สำคัญของคลาวด์สำหรับภาคองค์กรไทย [Guest Post]

ปัจจุบันเทคโนโลยีคลาวด์ กลายเป็นบริการขั้นพื้นฐานที่แทบทุกองค์กรในประเทศไทยหันมาปรับใช้ในกระบวนการทำงานของตนเองกันอย่างพร้อมเพรียงกัน เพราะคลาวด์ถือเป็นตัวแปรหลักที่สามารถช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงาน พัฒนาประสิทธิภาพของการทำงานในองค์กร และที่สำคัญคือสามารถช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจจากการลดต้นทุนและส่งมอบสินค้าหรือบริการที่ดีขึ้นให้กับลูกค้า จุดแข็งที่กล่าวมาทั้งหมดทำให้องค์กรต่างๆ ในบ้านเรา ตั้งแต่ธุรกิจขนาดใหญ่มาจนถึงขนาดเล็กอย่างเอสเอ็มอี ต่างปรับตัวมาใช้งานคลาวด์กันอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ภาคอุตสาหกรรมที่ต่างกันก็มีความต้องการใช้งานเทคโนโลยีคลาวด์ในลักษณะที่แตกต่างกันออกไป และการเกิดขึ้นของรูปแบบธุรกิจหรือบริการใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ก็ยิ่งทำให้ภาคองค์กรไทยมีความต้องการที่จะติดตั้งและใช้บริการคลาวด์ที่หลากหลายยิ่งขึ้นตามไปด้วย …