ในงานสัมมนา Thai IT Infrastructure Day 2018 by TechTalkThai ทาง Netka ผู้ผลิตและพัฒนาซอฟต์แวร์ระบบ IT Infrastructure Management และ IT Service Management สัญชาติไทยที่ก้าวไกลเติบโตไปในระดับโลก ได้ร่วมสนับสนุนงานสัมมนาพร้อมอัปเดตเทคโนโลยีสำหรับการดูแลรักษาระบบ IT สัญชาติไทยที่ดังไกลไปถึงทั่วโลก ทางทีมงาน TechTalkThai จึงขอนำเนื้อหามาสรุปให้ผู้อ่านทุกท่านได้อ่านกันดังนี้
แนวโน้มของ Digital Transformation ทำให้แผนก IT ภายในองค์กรยิ่งทวีความสำคัญมากยิ่งขึ้น

Netka ได้ชูประเด็นว่าด้วยแนวโน้มของการที่เหล่าองค์กรจะมุ่งไปสู่การทำ Digital Transformation กันมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการนำเอาเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ให้กลายเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมต่างๆ ดังนั้นการลงทุนด้านระบบ IT ของเหล่าธุรกิจองค์กรนั้นจะต้องเติบโตมากยิ่งขึ้นแน่ๆ และ IT จะไม่ได้เป็นเพียงแค่ระบบหลังบ้านสำหรับหลายๆ ธุรกิจอีกต่อไป แต่จะกลายมาเป็นระบบหน้าบ้านที่ผู้ใช้งานต้องมีปฏิสัมพันธ์ด้วยโดยตรงกันมากขึ้น ไม่ว่าจะในรูปแบบของผลิตภัณฑ์หรือบริการก็ตาม ทำให้ระบบ IT นั้นจะมีความสำคัญสูงยิ่งกว่าในอดีตเป็นอย่างมาก
เทคโนโลยีที่จะเข้ามามีบทบาทโดดเด่นในการทำ Digital Transformation นี้ก็ได้แก่ Artificial Intelligence (AI), Big Data Analytics, Machine Learning และ Deep Learning ซึ่งเหล่าองค์กรนั้นก็สามารถเลือกได้ทั้งการใช้บริการ AI ที่อยู่บน Cloud ซึ่งค่อนข้างจะมีความสำเร็จรูปพร้อมใช้งาน หรือการลงทุนระบบ Data Center และ Internet of Things (IoT) เพื่อรองรับการทำ AI ที่ศูนย์กลาง, การทำ Edge Computing ไปจนถึงการประมวลผล AI ที่ระดับของอุปกรณ์ IoT เลยก็ได้ ซึ่งแน่นอนว่าทั้งการประมวลผลและระบบเครือข่ายที่เสถียรนั้นต่างก็มีความสำคัญต่อระบบเหล่านี้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย
อย่างไรก็ดี การทำ Digital Transformation นั้นไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของแค่การพัฒนา Software หรือนำ Solution ทางด้าน IT เข้ามาใช้ปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงธุรกิจและวิธีการทำงาน แต่การดูแลระบบ IT เหล่านั้นให้สามารถทำงานได้อย่างทนทานและไม่มี Downtime เองเลยก็ถือเป็นอีกโจทย์ที่ท้าทายสำหรับเหล่าองค์กร เพราะทุกๆ ปัญหาหรือการล่มนั้น คือสิ่งที่จะสะท้อนไปยังเหล่าลูกค้าและพนักงานทั้งองค์กรโดยตรง ส่งผลออกมาทั้งในแง่ของรายรับและประสบการณ์ของเหล่าลูกค้าหรือพนักงาน ไปจนถึงภาพลักษณ์ของธุรกิจองค์กรเลยทีเดียว
Netka ในฐานะของผู้เชี่ยวชาญด้านระบบ IT Infrastructure Management และ IT Service Management จึงได้เล็งเห็นความสำคัญในประเด็นเหล่านี้ และอยากจะร่วมเป็นแรงผลักดันหนึ่งที่ทำให้เหล่าธุรกิจไทยประสบความสำเร็จในการทำ Digital Transformation ทั้งสำหรับตลาดในประเทศไทยและตลาดระดับโลก จึงได้นำเทคโนโลยีทางด้าน IT Monitoring และ IT Service Management ซึ่งเดิมทีเป็นเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาสำหรับการใช้งานในระดับ Internet Service Provider, ธุรกิจ Data Center และระบบเครือข่ายในระดับประเทศหรือระดับภูมิภาค มาปรับแต่งเพื่อให้เหมาะสมต่อการนำมาใช้งานในระดับองค์กร รองรับต่อระบบ IT ที่จะเพิ่มขยาย, มีความซับซ้อนที่สูงขึ้น และมีความสำคัญที่สูงขึ้นในธุรกิจหลังการทำ Digital Transformation นั่นเอง
Netka ฟังเสียงตอบรับจากลูกค้า สร้างนวัตกรรมใหม่ตอบโจทย์ธุรกิจองค์กร
หนึ่งในจุดเด่นที่เป็นประเด็นน่าสนใจของผลิตภัณฑ์จาก Netka นั้นก็คือ ความสามารถในการ Integrated ซอฟต์แวร์ของตนเองเข้ากับระบบอื่นๆ ด้วยแนวคิด Customer-Centric ในแบบง่ายๆ ว่า อะไรก็ตามที่เกาะที่เน็ตเวิร์ค Netka จะจับมา monitor และ manage ให้ได้ พร้อมๆ ไปกับให้สามารถทำ planning, provisioning และทำ Analytic ได้ด้วย ซึ่งทำให้ธุรกิจหรือองค์กรนั้นมองเห็นภาพรวมทั้งหมดของระบบงานไอที ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ ทั้งทางด้าน network ด้าน system และด้าน application ต่างๆ ที่มีอยู่ในธุรกิจหรือองค์กรนั้น ซึ่งการมองเห็นภาพรวมการทำงานทะลุกันทั้งหมดดังกล่าว มีความจำเป็นอย่างมากในการใช้งานระบบไอทีให้ได้ประโยชน์สูงสุดในยุค Digital Transformation และตอบโจทย์การบริหารจัดการเน็ตเวิร์คขนาดใหญ่ในระดับเมือง หรือ smart city และด้วยแนวคิดดังกล่าว ทำให้ Netka สร้างสรรค์ระบบ IT Infrastructure Management และ IT Service Management ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการหลากหลายของเหล่าธุรกิจต่างๆ มาได้อย่างต่อเนื่อง และได้รับการยอมรับทั้งในประเทศและในระดับสากล
ตัวอย่างของความสามารถที่ถูกหยิบยกมาเล่าในงานสัมมนาครั้งนี้ ก็คือการที่ระบบของ Netka ได้เพิ่มการทำ Location Tracking เข้าไปในระบบ IT Service Management เพื่อให้เหล่าธุรกิจ ISP และองค์กรลูกค้านั้นสามารถติดตามเส้นทางการเดินทางของ IT Support Engineer ได้นับตั้งแต่เริ่มเปิด Ticket ขอรับบริการแก้ไขปัญหา ทำให้ทั้งคู่สามารถมั่นใจได้ว่าวิศวกรที่มาให้บริการนั้นกำลังเดินทางไปอยู่จริงๆ ไม่ได้แวะข้างทางหรือไปทำงานอื่นก่อน ตอบโจทย์สำหรับธุรกิจที่ต้องการ Service Level Agreement (SLA) ในระดับสูง และธุรกิจที่ต้องการควบคุมคุณภาพของการให้บริการได้เป็นอย่างดี
อีกตัวอย่างหนึ่งที่น่าสนใจนั้นก็คือการที่ Netka มีการพัฒนาระบบ IT Monitoring ในรูปแบบใหม่ โดยแทนที่จะติดตั้งระบบเหล่านี้เอาไว้ศูนย์กลางเพื่อทำการตรวจสอบว่าระบบใดๆ ยังคงทำงานได้อยู่บ้าง ก็เปลี่ยนไปติดตั้งแบบกระจายตามสาขาต่างๆ เพื่อทำการตรวจสอบการเชื่อมต่อของเครือข่าย, ความเร็วของการเชื่อมต่อไปยังบริการต่างๆ และความเสถียรของบริการนั้นๆ เพื่อจำลองประสบการณ์ของผู้ใช้งานในสาขาต่างๆ ว่าจะสามารถเข้าถึงระบบ IT ในองค์กรได้ด้วยประสบการณ์ใด เป็นอีกก้าวของการติดตามการทำงานของระบบ IT เพื่อให้องค์กรมั่นใจได้ในการทำงานของระบบต่างๆ มากขึ้นอีกทางหนึ่ง ซึ่งในอนาคตเองก็อาจถูกนำไปประยุกต์ใช้เพื่อจำลองประสบการณ์ของลูกค้าในการเข้าถึงระบบ IT ของธุรกิจได้เช่นกัน
แน่นอนว่าในยุคของ Digital Transformation ที่ต่างธุรกิจต่างต้องมีการคิดค้นนวัตกรรมและนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้เสริมหรือเปลี่ยนแปลงธุรกิจของตนเองนี้ ระบบ IT นั้นย่อมจะต้องมีความหลากหลายและถูกปรับแต่งให้ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะทางกันมากขึ้น โดยระบบ IT Infrastructure Management และ IT Service Management ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการดูแลรักษาระบบ IT ใหม่ๆ ที่ลงทุนพัฒนาขึ้ันมานี้ก็จะต้องรองรับระบบเฉพาะทางเหล่านี้ให้มากขึ้นด้วย ซึ่งทางทีมพัฒนาของ Netka ก็พร้อมที่จะตอบรับต่อความต้องการเหล่านี้สำหรับทุกๆ องค์กร เช่น การติดตามการทำงานของอุปกรณ์ IoT หรือระบบเครือข่ายภายนอกองค์กร, การติดตามการทำงานของบริการ Cloud, การรองรับกระบวนการการทำงานของฝ่าย IT ในองค์กรที่ต้องถูกปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับต่อระบบใหม่ๆ ให้มากขึ้น และอื่นๆ อีกมากมาย
IT Infrastructure Management อย่างเดียวไม่พอ ต้องมีระบบ IT Service Management ด้วย
ทาง Netka นั้นเน้นย้ำถึงความสำคัญของทั้งะรบบ IT Infrastructure Management และ IT Service Management คู่กันอยู่ตลอด เพราะการที่องค์กรจะประสบความสำเร็จในการดูแลรักษาระบบ IT ที่มีความซับซ้อนสูงและะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วให้ได้นั้น จะขาดระบบใดระบบหนึ่งไปไม่ได้เลย
ระบบ IT Infrastructure Management ที่ดีนั้นจะต้องสามารถปรับแต่งให้รองรับต่อระบบ IT ที่แตกต่างกันหลากหลายขององค์กรได้ และสามารถตรวจสอบการทำงานของระบบต่างๆ ได้ทั้งในภาพรวมไปจนถึงรายละเอียดเชิงลึกในแต่ละอุปกรณ์ โดยการแสดงผลนั้นต้องสามารถเข้าใจได้ง่ายและนำไปใช้ในการปฏิบัติงานได้จริง และควรจะมีตัวช่วยเหลือต่างๆ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาใดๆ เป็นไปได้อย่างรวดเร็วและไม่ผิดพลาด ซึ่งเทคโนโลยี IT Infrastructure Management ของ Netka ที่ตอบโจทย์เหล่านี้ในธุรกิจ ISP มาได้นั้นก็สามารถทำหน้าที่เหล่านี้ได้เป็นอย่างดี
ในขณะเดียวกัน ระบบ IT Service Management เองนั้นควรจะถูกออกแบบมาให้รองรับต่อมาตรฐานด้านการบริหารจัดการและดูแลรักษาระบบ IT ภายในองค์กรอย่างเช่น ITIL โดย IT Service Management ของ Netka นั้น ได้รับการรับรองจากสถาบัน ITIL เป็นเจ้าแรกในไทย และเป็นเจ้าแรกใน ASEAN อีกด้วย ในขณะที่ยังเปิดให้มีการปรับแต่งเพื่อให้เหมาะสมต่อ Workflow การให้บริการส่วนต่างๆ หรือการปรับเปลี่ยนกระบวนการในการทำงานได้อย่างยืดหยุ่น ในขณะที่ในอนาคตระบบ IT Service Management เองก็ต้องพร้อมที่จะรองรับการเชื่อมต่อไปยังระบบอื่นๆ ผ่านทาง API เพื่อให้สามารถสร้าง Workflow ข้ามระบบ หรือการทำ Automation ที่เหล่าอุปกรณ์หรือระบบต่างๆ อาจทำการแจ้งเปิด Ticket ปัญหาต่างๆ ด้วยตัวเองได้แบบอัตโนมัติ
องค์กรที่มีทั้ง 2 ระบบนี้และใช้งานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น จะสามารถลดภาระด้านการดูแลรักษาระบบ IT ได้เป็นอย่างมาก และสามารถตอบ SLA ทั้งสำหรับเหล่าผู้ใช้งานภายในองค์กรและลูกค้าภายนอกองค์กรได้อย่างมั่นใจ ด้วยการมีข้อมูลประกอบการทำงานและการวางแผนเพื่อปรับปรุงกระบวนการอยู่อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะเป็นรากฐานสำหรับของเหล่าธุรกิจที่ต้องการก้าวไปสู่การเป็น Digital Business ในเร็ววัน
ประสบความสำเร็จระดับโลก โดยมีสนามบินที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกนำเทคโนโลยีของ Netka ไปใช้งาน

กรณีศึกษาซึ่งถือว่าเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของชาวไทยและของ Netka ในฐานะของผู้ผลิตเทคโนโลยีสัญชาติไทยที่สามารถประสบความสำเร็จได้ในระดับโลกที่ถูกนำมาเล่าสู่กันฟังในครั้งนี้ ก็คือการที่สนามบิน Hamad International Airport (HIA) ซึ่งเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในโลกเป็นอันดับ 3 นำไปใช้งาน
HIA นำเทคโนโลยีของ Netka เข้าไปช่วยในการตรวจสอบการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ ภายในสนามบิน และทำการแจ้งเตือนและสนับสนุนข้อมูลเพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสนามบินในแต่ละวัน ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาระบบ IT ขนาดใหญ่ของสนามบินที่เริ่มมีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าไปใช้งานเป็นจำนวนมากลงได้อย่างมหาศาล อีกทั้งยังช่วยให้ HIA สามารถลดต้นทุนในการลงทุนระบบบ IT Infrastructure Management และ IT Service Management ลงไปได้เป็นอย่างมาก
ความสำเร็จในครั้งนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ Netka ได้มี Reference Site ขนาดใหญ่ในระดับโลกเท่านั้น แต่ได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้งานโดยได้รับสัญญาว่าจ้างให้ดูแลระบบต่อเนื่องอีก 5 ปี สิ่งนี้เองได้ตอกย้ำความเชื่อมั่นจากการเลือกใช้เทคโนโลยีจาก Netka ทำให้ Netka System ได้ขยายธุรกิจของตนออกไปสู่ระดับโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิ
ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Netka ได้ที่ http://netkasystem.com หรือติดต่อทีมงานของ Netka System ได้ที่ info@netkasystem.com หรือโทร 02-978-6805
#NetkaView
#NetkaQuartz