เป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้ระบบ IT ได้เข้าไปมีบทบาทต่อทุกๆ การดำเนินธุรกิจขององค์กรไปแล้ว และ IT เองก็กำลังจะมีบทบาทมากยิ่งขึ้นไปอีกในการทำ Digital Transformation ดังนั้นองค์กรส่วนใหญ่จึงกำลังพบกับภาวะของการที่ IT นั้นเข้าไปมีส่วนสำคัญในทุกๆ กระบวนการขององค์กร และการดูแลรักษาระบบ IT เหล่านี้ก็เริ่มกลายเป็นภาระงานที่หนักหนามากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับเหล่าผู้ดูแลระบบภายในแต่ละองค์กร บริการ Device Managed Service (DMS) จึงกลายเป็นเทรนด์ใหม่ที่เกิดขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ทั่วโลก และกำลังเริ่มต้นเข้าสู่ในประเทศไทยด้วย ในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับบริการ Device Managed Service กันให้มากขึ้นเพื่อเป็นทางเลือกในการตัดสินใจครับ
รู้จักกับ Managed Services กันก่อนว่ามันคืออะไร
ก่อนจะไปทำความรู้จักกับคำว่า Device Managed Service นั้น เราต้องมาทำรู้จักกับบริการอย่าง Managed Services กันก่อนว่ามันคืออะไร
โดยทั่วๆ ไปแล้วบริการทางด้าน IT ที่เหล่าองค์กรมักจะเลือกใช้จากเหล่า Systems Integrator หรือ SI ได้นั้นจะมีลักษณะแบบเรียกใช้เป็นครั้งๆ หรือ On-Demand ไป เช่น เมื่ออุปกรณ์เสียหาย หรือเมื่อระบบมีปัญหา ก็เรียก SI เข้ามาช่วยตรวจสอบช่วยแก้ไขปัญหาเป็นครั้งๆ ไป แต่งานหลักๆ ในการดูแลรักษาระบบ IT นั้นก็ยังเป็นงานของ IT Admin อยู่ดี
Managed Services นี้จริงๆ แล้วก็คือบริการ Outsource ในรูปแบบหนึ่งที่แตกต่างจากบริการแบบ On-Demand ดังกล่าว โดยบริการแบบ Managed Service นี้มักจะเป็นสัญญาการจ้างแบบ Full Time ซึ่งอาจจะเป็นแบบ 8×5 หรือ 24×7 ก็ตามแต่ แต่พนักงานคนที่มาให้บริการนั้นๆ ก็ยังคงเป็นพนักงานของเหล่าบริษัท SI อยู่ดี และพนักงานคนนั้นต้องทำงานภายใต้สัญญาจ้าง, Service Level Agreement และข้อตกลงอื่นๆ รวมถึงการทำงานแบบ Remote หรือ On-Site ซึ่งในโมเดลลักษณะนี้เราจะเรียก SI ที่ให้บริการลักษณะนี้ว่า Managed Service Provider นั่นเอง
หลายๆ ครั้งที่บริการแบบ Managed Services นี้จะถูกผูกรวมเข้ากับผลิตภัณฑ์หรือบริการอื่นๆ ที่เป็นลักษณะเช่าใช้หรือจ่ายเงินตามช่วงเวลาการใช้งานแบบ Subscription เช่น บริการ Cloud Computing, การให้เช่าใช้ Software ต่างๆ หรือแม้แต่ระบบรักษาความปลอดภัยก็ตามแต่ ซึ่งองค์กรเองก็จะไม่ได้เป็นเจ้าของในผลิตภัณฑ์หรือบริการที่พ่วงมาด้วยนี้ และเมื่อเลิกใช้บริการ Managed Services ไป ผลิตภัณฑ์หรือบริการพ่วงพวกนี้ก็จะถูกยกเลิกตามไปด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ก็มีกรณีที่องค์กรลงทุนซื้ออุปกรณ์หรือระบบเอง และจ้าง Managed Service Provider มาช่วยดูแลรักษาและใช้งานอย่างเดียวเช่นกัน
บริการแบบ Managed Services มีข้อดีที่น่าสนใจดังนี้
- องค์กรสามารถเพิ่มจำนวนคนที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะทางที่ต้องการได้ทันทีอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาในการค้นหาหรือสร้างบุคลากรเอง และได้บุคลากรผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางมาทำงานให้กับองค์กร
- องค์กรสามารถเลือกเปลี่ยนบริการ Managed Services ไปเลือกใช้ผู้ที่ให้บริการเงื่อนไขดีกว่า หรือพ่วงมากับผลิตภัณฑ์หรือบริการเสริมที่ดีกว่า หรือใช้เทคโนโลยีที่ใหม่กว่าได้ทันที
- การเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วนี้จะช่วยให้องค์กรสามารถตอบรับต่อความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วในการทำธุรกิจได้ง่ายขึ้น
ทั้งนี้องค์กรก็ควรเลือกให้เหมาะว่างานแบบไหนควรใช้ Managed Services เพื่อมาช่วยเร่งให้องค์กรเติบโตได้เร็วยิ่งขึ้น ในขณะที่งานซึ่งเป็น Core Business ขององค์กรนั้นก็อาจต้องเก็บไว้เป็น Know How ของตนเอง เป็นต้น
Device Managed Service = บริการ Managed Services สำหรับจัดการอุปกรณ์ IT ต่างๆ ภายในองค์กร
Device Managed Service หรือ DMS นี้ก็คือการที่ Managed Service Provider หรือ SI มาให้บริการในการดูแลรักษาอุปกรณ์ IT ต่างๆ ภายในองค์กร หรือพูดง่ายๆ ก็คือมาช่วยเป็นทีม IT Support ให้กับองค์กรนั่นเอง ทำให้ฝ่าย IT ขององค์กรสามารถเพิ่มบุคลากรเพื่อมาช่วยแก้ไขปัญหาของระบบ IT พื้นฐานต่างๆ ได้อย่างทันท่วงที ตอบรับได้ต่อการเติบโตของจำนวนผู้ใช้งานในองค์กร, จำนวนอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีเพิ่มขึ้น และความจำเป็นในการใช้งานระบบ IT เพื่อทำงานของพนักงานในฝ่ายต่างๆ ได้เป็นอย่างดี โดยองค์กรก็สามารถเลือกได้ว่าจะเพิ่มบุคลากรที่มีความสามารถทางด้านการจัดการเครื่อง PC, Notebook, Printer หรือจัดการอุปกรณ์เครือข่าย หรือแม้แต่การจัดการอุปกรณ์ภายใน Data Center ก็ได้ตามต้องการ
บริการ DMS นี้มักจะมาพ่วงกับระบบหรือชุดของ Software ที่ใช้เพื่อช่วยในการบริหารจัดการหรือรักษาความปลอดภัยให้กับอุปกรณ์ต่างๆ ภายในองค์กรเป็นไปได้อย่างง่ายดายที่สุด ทำให้องค์กรเองสามารถลดค่าใช้จ่ายในการลงทุนระบบบริหารจัดการเหล่านี้ลงไปได้ ในขณะที่หลายๆ ครั้งบริการ DMS เหล่านี้ก็มักพ่วงมากับบริการการต่อ Maintenance ให้แก่อุปกรณ์ต่างๆ ได้ด้วยเช่นกัน
โดยสรุปแล้ว DMS นั้นจะเข้ามาเติมเต็มความต้องการขององค์กรในแง่ของ 1) บุคลากรผู้ดูแลระบบ IT พื้นฐาน 2) ระบบสำหรับบริหารจัดการและดูแลรักษาระบบ IT พื้นฐาน 3) การต่อสัญญาดูแลรักษาอุปกรณ์และการจัดหาอุปกรณ์สำรองมาทดแทน
Device Managed Service ไม่ทำให้ IT Admin ตกงาน แต่ทำให้ IT Admin มีเวลาไปทำงานที่สำคัญมากขึ้น
เมื่อเข้าใจแล้วว่า Device Managed Service หรือ DMS คืออะไร ผู้ดูแลระบบหรือ IT Admin หลายๆ คนเองก็อาจกังวลว่าบริการลักษณะนี้จะทำให้ตนเองตกงานได้หรือไม่ ในความเป็นจริงแล้วกลับไม่ใช่เช่นนั้น เพราะเหล่า IT Admin จะสามารถทำงานได้สะดวกและง่ายดายมากยิ่งขึ้นเหมือนมีลูกมือมาช่วยทำงานมากกว่า ตัวอย่างเช่น ถ้าหากองค์กรแห่งหนึ่งมี IT Admin จำนวนเพียงไม่กี่คน ที่ต้องดูแล PC ทั่วประเทศ การดูแลอุปกรณ์ทั้งหมดเหล่านี้ด้วยตัวเองก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย และบริการ DMS ก็จะเข้ามาตอบโจทย์ลักษณะนี้ได้เป็นอย่างดี
ในขณะเดียวกันเมื่อ IT Admin เริ่มมีเวลามากขึ้นแล้วจากการปลดภาระงานในการซ่อมบำรุงพื้นฐานออกไป เหล่า IT Admin ก็จะสามารถหันมาทำงานในเชิงนโยบายและการวางแผนได้มากยิ่งขึ้น รวมไปถึงยังสามารถเข้าไปช่วยทำงานผลักดันในส่วนของ Core Business ของธุรกิจด้วยการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าไปเติมเต็มได้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Internet of Things, Big Data หรือ Cloud ก็ตาม ทำให้องค์กรสามารถก้าวตามทันโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้ได้มากขึ้น เพราะผู้เชี่ยวชาญทางด้าน IT ที่รู้จักธุรกิจขององค์กรเป็นอย่างดีก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นเหล่า IT Admin ภายในองค์กรนั่นเอง
บริการ Device Managed Service จาก CSD IT Services by Ricoh: ดูแลระบบ IT ครบวงจร ครอบคลุมทั้ง Endpoint, Network และ Data Center
CSD IT Services by Ricoh นั้น เป็นหน่วยธุรกิจหนึ่งของบริษัท Ricoh ที่ทำหน้าที่ในการให้บริการทางด้าน Managed Services โดยเฉพาะในไทย และบริการ Device Managed Service นี้ก็เป็นหนึ่งในบริการของ CSD IT Service ที่ถูกขับเคลื่อนด้วยคุณสมบัติเหล่านี้
- มีทีมงานกว่า 1,800 คนพร้อมให้บริการทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย ผ่าน 17 สาขาใหญ่ทั่วกรุงเทพฯ และ 18 ศูนย์บริการใหญ่ทั่วประเทศ
- มีผู้เชี่ยวชาญในเทคโนโลยีครบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น Endpoint, Mobile, Printer, Network, Security, Data Center, Virtualization, Cloud ช่วยแก้ไขปัญหาเชิงลึกได้ครบทุกรูปแบบ
- มีระบบ Desktop Management จากผู้ผลิตชั้นนำอย่าง Kaseya ทำให้องค์กรไม่ต้องลงทุนในระบบนี้เอง พร้อมระบบ Anti-virus เพื่อช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับเครื่องลูกข่าย อีกทั้งมีบริการเสริมในการทำ Backup เพื่อรับมือกับ Ransomware ได้อีกด้วย
- มีระบบ Mobile Device Management พร้อม Anti-virus ภายในตัวจาก Kaspersky ทำให้องค์กรที่ใช้งาน Smartphone หรือ Tablet เป็นหลักในการทำงานสามารถวางใจได้มากขึ้นอีกระดับหนึ่ง
- มี Software ต่างๆ ให้องค์กรเลือกใช้ได้แบบ Subscription ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์จาก Microsoft, Adobe และอื่นๆ อีกมากมาย
- มีทีมงานพร้อมให้บริการทั้งแบบ 8×5 และ 24×7 ทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย เลือกได้ว่าจะรับบริการแบบ Remote หรือ On-Site ได้ตามต้องการ
- มีรายงานสรุปรายเดือนสำหรับ Asset Management และ Security Report ให้องค์กรสามารถวางแผนในการปรับปรุงระบบ IT พื้นฐานภายในองค์กรได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ CSD IT Services by Ricoh ได้แบ่งบริการออกเป็น 3 กลุ่มหลักๆ สำหรับความต้องการขององค์กรในระดับที่แตกต่างกัน ได้แก่
- R-PASS (Ricoh Pro-Active Services) บริการ Managed Service ที่มุ่งเน้นเรื่องการดูแลรักษาและซ่อมบำรุงระบบ Desktop และ Server เป็นหลัก โดยครอบคลุมการตรวจสอบความผิดปกติที่เกิดขึ้น, การอัปเดตด้านความปลอดภัยและซอฟต์แวร์รุ่นใหม่ๆ และการปรับแต่งการตั้งค่าต่างๆ ในระบบเครือข่าย
- IT Helpdesk Service เป็นบริการ Managed Service ที่ครอบคลุมงานดูแลซ่อมบำรุงระบบของ R-PASS ทั้งหมด และเสริมในส่วนของการช่วยผู้ใช้งานแก้ไขปัญหาต่างๆ ในการใช้งาน Application หรือปัญหาที่เกิดขึ้นกับอุปกรณ์ต่างๆ ด้วย เรียกได้ว่าบริการนี้ทาง CSD IT Service จะทำหน้าที่เป็น IT Support ให้กับองค์กรอย่างเต็มตัวนั่นเอง
- Mobile Device Management (MDM) เป็นบริการ Managed Service สำหรับดูแลรักษาอุปกรณ์ Mobile Device โดยเฉพาะ ซึ่งนอกเหนือจากจะมีซอฟต์แวร์ MDM ให้องค์กรนำไปติดตั้งใช้งานโดยไม่ต้องลงทุนเองได้แล้ว บริการนี้ก็ยังจะครอบคลุมไปถึงการช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ และการจัดการควบคุมการใช้งานอุปกรณ์พกพาให้มีความปลอดภัยอยู่เสมออีกด้วย
บริการทั้งหมดเหล่านี้จะคิดค่าใช้จ่ายเป็นรายเดือนโดยราคาจะขึ้นอยู่กับจำนวนอุปกรณ์และระดับของบริการที่ได้ทำการตกลงกันไว้ ก็ทำให้องค์กรสามารถประเมินค่าใช้จ่ายล่วงหน้าได้เลยว่าการลงทุนมูลค่าเท่าใหร่จะให้ผลลัพธ์ในแบบใด และยังสามารถปรับเปลี่ยนแผนของบริการให้เหมาะสมกับความต้องการได้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย
ปัจจุบัน CSD IT Services มีลูกค้าทั้งองค์กรที่มีสาขาเดียวแต่มีพนักงาน IT จำนวนน้อย ที่ CSD IT Services ได้เข้าไปช่วยให้การดูแลรักษาระบบ IT พื้นฐานเป็นไปได้อย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น รวมถึงยังมีกลุ่มลูกค้าองค์กรที่มีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศไทย และเข้าไปช่วยให้การบริการด้าน IT ตามสาขาต่างๆ ทั่วประเทศมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
สนใจติดต่อ CSD IT Services by Ricoh หรือตรวจสอบราคาได้ทันที
สำหรับผู้ที่สนใจโซลูชันของ CSD IT Services by Ricoh และต้องการรายละเอียดต่างๆ เพิ่มเติม หรือต้องการใบเสนอราคาเพื่อเปรียบเทียบความคุ้มค่าในการลงทุน สามารถติดต่อทีมงานของ CSD IT Services ได้โดยตรงที่โทร 02-088-8000 หรืออีเมล์ ricoh_callcenter@ricoh.co.th หรือเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของทาง CSD IT Service ได้ทันทีที่ http://csditservices.com/
นอกจากนี้ทาง CSD IT Services by Ricoh ยังมี Brochure ที่รวมราคาของบริการต่างๆ เอาไว้อย่างครบถ้วน โดยผู้ที่สนใจสามารถกรอกแบบฟอร์มดังต่อไปนี้เพื่อโหลดเอกสารแผนราคาได้ทันที