ไฟร์วอลล์เน็กซ์เจเนอเรชั่นทำงานเร็วกว่า 100 Gbps+ ยกระดับประสิทธิภาพ เพิ่มออปชั่นด้านอินเตอร์เฟส ตอบรับกระแสการเชื่อมโยงใช้มัลติคลาวด์ ไอโอที และโมบายดีไวซ์จำนวนมากในปัจจุบันและอนาคตขององค์กรระดับเอ็นเตอร์ไพร้ส

กรุงเทพฯ – 21 มีนาคม 2561 ฟอร์ติเน็ตเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ไฟร์วอลล์เน็กซ์เจเนอเรชั่นซีรีส์ใหม่ “FortiGate 6000F Series” เพื่อตอบสนองเทรนด์ความต้องการใหม่ๆ ขององค์กรระดับเอ็นเตอร์ไพร้ส์ต้องการผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัยเครือข่ายในระดับสูงขึ้น เพื่อรองรับการเชื่อมต่อไปยังเครือข่ายมัลติคลาวด์ การใช้อุปกรณ์โมบายและไอโอทีที่มีมากขึ้น รองรับข้อมูลที่ถูกเข้ารหัสจำนวนมากมายเข้ามาในเครือข่ายองค์กร
ในปัจจุบัน เครือข่ายองค์กรส่วนเอจ (EDGE) รองรับการใช้งานอุปกรณ์โมบาย เครือข่ายมัลติคลาวด์ และไอโอทีที่มีการเข้ารหัสข้อมูลมากขึ้น ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ต้องการใช้แบนวิธด์สูงขึ้น มีทรูพุธสูงขึ้น รวมถึงความจุด้าน Session capacity สูงขึ้น องค์กรจึงจำเป็นต้องพัฒนาเครือข่ายส่วน EDGE ให้มีความทันสมัยมีศักยภาพการทำงานให้สูงขึ้น
นอกจากนี้ พื้นที่ที่อาจโดนภัยคุกคามประเภทดิจิตัลสามารถเกิดขึ้นได้กว้างขวางขึ้น ภัยมีความซับซ้อนมากขึ้น จึงยิ่งทำให้องค์กรอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยที่ทันสมัย สามารถปรับให้เข้ากับความเร็วและขนาดของอุปกรณ์ที่เชื่อมโยงเข้ามาในเครือข่าย บริหารจัดการได้ง่าย
อุปกรณ์ตระกูล “FortiGate 6000F Series” ใหม่นี้สร้างขึ้นจากสถาปัตยกรรมฮาร์ดแวร์ยุคหน้าของฟอร์ติเน็ตซึ่งรวมเอาการ์ดประมวลผลหลายซีพียูแบบแยกส่วน (Multi-CPU processing card) ซึ่งช่วยให้สามารถใช้งานได้อย่างคล่องตัวและมีสมรรถนะในขนาดกะทัดรัด สร้างประสิทธิภาพการทำงาน ความเสถียร ความจุของอุปกรณ์ขนาดคอมแพคนี้ให้เป็นในระดับอุปกรณ์ที่มีชัสซีได้
FortiGate 6000F เป็นอุปกรณ์ไฟร์วอลล์เน็กซ์เจเนอเรชั่น (NGFW) ที่ทำงานเร็วที่สุดในอุตสาหกรรมจากการทดสอบของรุ่น FortiGate 6300F และ FortiGate 6500F ในการป้องกันภัยคุกคามและตรวจสอบ SSL ได้อย่างรวดเร็ว จึงสามารถรองรับข้อมูลที่ถูกเข้ารหัสจำนวนมากมายที่เข้ามาในเครือข่ายองค์กรได้ จึงเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า FortiGate 6000F เป็นอุปกรณ์ไฟร์วอลล์เน็กซ์เจเนอเรชั่นที่ทำงานเร็วที่สุดในอุตสาหกรรม
ยกระดับการเชื่อมต่อขององค์กร
อุปกรณ์มีอินเตอร์เฟสประเภท High density zSFP+ และ QSFP28 เพื่อรองรับการเชื่อมต่อในระดับความเร็ว 10G, 40G, 100Gbps และ 25G data rates เพื่อความง่ายการขยายตัวของเครือข่ายในอนาคต
สถาปัตยกรรมฮาร์ดแวร์ยุคหน้า
อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยโดยทั่วไปมักนิยมใช้สถาปัตยกรรมความปลอดภัยแบบเบลดโมดูลาร์ในแชสซี (Modular security chassis) ในอุปกรณ์ฮษร์ดแวร์ แต่ฟอร์ติเน็ตสามารถพัฒนาการ์ดประมวลผลภายใน (Internal processing cards) ที่มีขนาดกะทัดรัดทำงานได้เท่าเทียบกับแบบเบลดโมดูลาร์ จึงนับว่าฟอร์ติเน็ตเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยสถาปัตยกรรมฮาร์ดแวร์ยุคหน้ารายแรกในอุตสาหกรรมแรก โดยการ์ดประมวลผลแต่ละเครื่องประกอบด้วยซีพียู 12 คอร์หลักหลายตัว (Multiple 12-core CPUs) มาพร้อมกับหน่วยประมวลผลด้านความปลอดภัย (Security Processing Units: SPUs) และหน่วยประมวลผลสำหรับคอนเท้นต์ Content Processors (CP9) และหน่วยประมวลผลสำหรับการทำงานเครือข่าย Network Processors (NP6) แยกออกจากกัน ทั้งนี้ กลุ่ม FortiGate 6000F series สามารถรองรับการ์ดประมวลผลได้ถึง 10 ชุดในอุปกรณ์ ที่มีขนาด
3U
การออกแบบใช้การ์ดประมวลผลภายในที่เป็นนวัตกรรมใหม่นี้จะช่วยให้สามารถใช้สมรรถนะด้านความปลอดภัยเทียมเท่ากับแบบแชสซีแบบดั้งเดิมได้ เช่น มีความยืดหยุ่นสูง และมีช่วงเซสชั่นสูง ในขณะที่ยังให้ความเร็วในการทำงานด้านรักษาความปลอดภัยขั้นสูงที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในอุปกรณ์ขนาดคอมแพ็ค รวมถึง การใช้ฟีเจอร์โหลดบาล้านซ์ของฮาร์ดแวร์โดยใช้ตัวประมวลผลการแจกจ่ายแบบกำหนดเองใหม่ (Distribution Processors: DP3) ที่กำหนดโหลดงานได้อีกด้วย
ปาสคาล ปัวโร รองประธานฝ่ายกลยุทธ์การรักษาความปลอดภัยของ ePlus กล่าวว่า “คอมพิวเตอร์ในระบบคลาวด์กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น แต่ช่องว่างในการป้องกันอาจเกิดขึ้นได้หากโซลูชันด้านความปลอดภัยไม่สามารถทันกับสภาพแวดล้อมแบบคลาวด์ของรัฐเอกชนและไฮบริดได้อย่างคล่องตัว การเติบโตของ IoT และ Mobility ยังทำให้ความต้องการขนาดใหญ่เกี่ยวกับประสิทธิภาพและสถาปัตยกรรมด้านความปลอดภัยเนื่องจากข้อมูลจะไปถึงจุดหล่านี้ ePlus ได้ ตระหนักถึงเทรนด์นี้และได้ลงทุนอย่างมากในการจัดหาโซลูชั่นด้านความปลอดภัยที่ครบถ้วนเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นเหล่านี้ เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับฟอร์ติเน็ตและยกระดับแพลตฟอร์มที่แข็งแกร่งให้มีขนาดและรักษาสภาพแวดล้อมแบบแปรผันเหล่านี้ได้”
เกี่ยวกับฟอร์ติเน็ต
ฟอร์ติเน็ต (NASDAQ: FTNT) ปกป้ององค์กร ผู้ให้บริการ หน่วยงานรัฐบาลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ฟอร์ติเน็ตช่วยให้ลูกค้าสามารถมีข้อมูลเชิงลึกและการป้องกันที่ราบรื่นเพื่อให้พ้นภัยคุกคาม และยังเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่เยี่ยมยอดให้เครือข่ายที่ไร้พรมแดนในวันนี้และในอนาคต
ซีเคียวริตี้แฟบลิค ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมใหม่จากฟอร์ติเน็ตเท่านั้นที่จะช่วยสร้างเกราะความปลอดภัยโดยจะไม่ยอมแพ้แก่ภัยที่เข้ามา ไม่ว่าจะอยู่ในเครือข่าย แอปพลิเคชั่น คลาวด์ หรือโมบาย ฟอร์ติเน็ตดำรงตำแหน่งเป็น #1 ในการได้ส่งอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยสู่ตลาดโลกมากที่สุด และมีลูกค้ามากกว่า 330,000 รายทั่วโลกที่ให้ความไว้วางใจฟอร์ติเน็ตในการช่วยสร้างเกราะป้องกันองค์กรของตน
รู้จักฟอร์ติเน็ตเพิ่มเติมได้ที่ www.fortinet.com และ The Fortinet Blog หรือ FortiGuard Labs