Fortinet ผู้ให้บริการโซลูชันด้านความมั่นคงปลอดภัยสมรรถนะสูง ประกาศเปิดตัว Next-generation Firewall รุ่นล่าสุด FortiGate 3000F ซึ่งถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานภายใต้สภาวะแวดล้อมแบบ Hybrid โดยเฉพาะ มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล ASIC – NP7 SPU ที่เร็วที่สุดในตลาด ช่วยให้มี Security Compute Rating สูงถึง 22x
FortiGate 3000F เป็น Next-generation Firewall ระดับ High-end จาก Fortinet ซึ่งได้ผสานรวมนวัตกรรมด้านเครือข่ายและความมั่นคงปลอดภัยสำหรับระบบแบบ Hybrid รวมไปถึงเทคโนโลยี Secure SD-WAN และ ZTNA Proxy ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถบริหารจัดการทั้งเครือข่าย LAN และ WAN ได้ภายในอุปกรณ์เดียว ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานใน Campus และ Data Center
จุดเด่นของ FortiGate 3000F ประกอบด้วย
- Video Policy: รองรับการทำ Real-time Video Filtering สำหรับ YouTube, Vimeo, Dailymotion และแพลตฟอร์มวิดีโอยอดนิยมอื่นๆ
- SSL Inspection: ตรวจจับภัยคุกคามที่แฝงมาบนช่องทางที่เข้ารหัส โดยรองรับโปรโตคอล TLS 1.3
- AI/ML-powered Security: มีเทคโนโลยี AI/ML สนับสนุนด้านการตรวจจับและรับมือกับภัยคุกคาม
- Micro- & Macro-Segmentation: รองรับการทำ Segmentation แบบไดนามิก เพื่อป้องกันการแทรกซึมของมัลแวร์
- Automate & Simplify: บริหารจัดการได้จากศูนย์ พร้อมระบบอัตโนมัติที่ช่วยให้การทำงานภายใน Ecosystem มีความราบรื่น
FortiGate 3000F มีพอร์ตการเชื่อมต่อให้เลือกได้หลากหลาย ได้แก่ 10GE/GE RJ45 16 พอร์ต, 25GE SFP28 / 10GE SFP+ HA 2 พอร์ต, 25GE SFP28 / 10GE SFP+ / GE SFP 14 พอร์ต และ 100GE QSFP28 / 40GE QSFP+ 6 พอร์ต และมีประสิทธิภาพการทำงาน ดังนี้
รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.fortinet.com/content/dam/fortinet/assets/data-sheets/fortigate-3000f-series.pdf