
โลกกำลังเดินหน้าเข้าสู่ยุค Digital Economy องค์กรทุกระดับรวมไปถึงธุรกิจ SMB ต่างต้องปรับตัวด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่เข้ามาประยุกต์ใช้เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจ เพิ่มความเร็วในการนำบริการใหม่ออกสู่ตลาด และสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งรายอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ด้วยข้อจำกัดด้านงบประมาณและทรัพยากรบุคคล ทำให้ธุรกิจ SMB ต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายด้านความมั่นคงปลอดภัยที่มาพร้อมกับการนำเทคโนโลยีใหม่ เช่น Internet of Things และระบบ Cloud เข้ามาใช้
เพื่อให้องค์กรขนาดเล็กและขนาดกลางสามารถทำ Digital Transformation ได้อย่างมั่นใจ WatchGuard จึงให้บริการโซลูชันด้านความมั่นคงปลอดภัย ไม่ว่าจะ Network Security, Secure Wi-Fi และ Multi-factor Authentication ที่มีคุณสมบัติระดับ Enterprise-grade แต่มีราคาถูกกว่า ที่สำคัญคือบริหารจัดการง่ายแม้จะมีทักษะทางด้าน IT ที่ไม่สูงนัก เหมาะสำหรับธุรกิจ SMB และสำนักงานสาขาที่มีทรัพยากรจำกัด

ทำความรู้จัก WatchGuard ในไทยสักเล็กน้อย
WatchGuard ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1996 โดยเริ่มจากการให้บริการ UTM Firewall แก่ธุรกิจ SMB เป็นเจ้าแรกของโลก จากนั้นได้ขยายบริการไปในส่วนของ Next-generation Firewall, Secure Wi-Fi และ Endpoint Protection ซึ่งผลิตภัณฑ์ของ WatchGuard ได้จัดจำหน่ายในประเทศไทยมาแล้วนานกว่า 15 ปี มีลูกค้าผู้ใช้บริการมากกว่า 200 รายทั่วไทย ครอบคลุมหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นสถานศึกษา อุตสาหกรรมการผลิต โรงแรม หน่วยงานราชการ และอื่นๆ ล่าสุด Prakash Panjwani, CEO คนปัจจุบันของ WatchGuard ได้ทำการปรับโครงสร้างบริษัทใหม่ เพื่อรุกตลาดด้านความมั่นคงปลอดภัยทั่วโลก โดยตั้งเป้าที่จะนำบริษัทให้โตขึ้น 10 เท่าภายใน 5 ปี ภายใต้พันธกิจที่ว่า
“เพื่อมอบการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระดับใช้งานในองค์กรแต่สามารถติดตั้งใช้งานได้อย่างแพร่หลายแก่องค์ดขนาดเล็กและขนาดกลาง รวมไปถึงองค์กรที่มีสาขาเป็นจำนวนมาก”

ปัจจุบันนี้ WatchGuard ให้บริการ 3 โซลูชันหลักด้านความมั่นคงปลอดภัย ได้แก่
- Network Security
- Secure Wi-Fi
- Multi-factor Authentication
1. WatchGuard FireBox
WatchGuard FireBox เป็น Next-generation Firewall ที่ถูกออกแบบมาให้จบภายในอุปกรณ์เดียว ครบถ้วนด้วยฟีเจอร์ด้านความมั่นคงปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็น NGFW, IPS, Anti-malware, Anti-spam, Application Control, URL Filtering, DLP, DNS Security, Advanced Threat Prevention และอื่นๆ ที่สำคัญคือสามารถติดตั้ง บริหารจัดการ และดูแลอุปกรณ์ได้ง่าย ทำให้เหมาะสำหรับธุรกิจ SMB และสำนักงานสาขาที่มีทรัพยากรบุคลจำกัด

จุดเด่นของ WatchGuard FireBox คือ มีระบบจัดเก็บ Log และจัดทำรายงาน เรียกว่า “WatchGuard Dimension” ซึ่งเป็น VM สามารถดาวน์โหลดมาติดตั้งบนเครื่องเซิร์ฟเวอร์เพื่อใช้งานได้ฟรีทันที โดยสามารถเก็บข้อมูลจาก WatchGuard FireBox กี่เครื่องก็ได้ ช่วยให้ทั้งฝ่าย IT และผู้บริหารสามารถติดตามการรักษาความมั่นคงปลอดภัยบนเครือข่ายทั้งหมดได้ผ่านทางหน้า Dashboard ที่แสดงผลเป็นกราฟิกสวยงาน หรือจัดทำรายงานในรายละเอียดเชิงลึกได้ นอกจากนี้ยังมี “WatchGuard System Manager” ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ฟรีสำหรับบริหารจัดการ WatchGuard FireBox ที่ใช้งานอยู่ทั้งหมดได้จากศูนย์กลาง

WatchGuard FireBox รองรับการให้บริการทั้งรูปของ Physical Appliance ซึ่งมีทั้งแบบตั้งโต๊ะและติดตั้งเข้าตู้ Rack, Virtual Appliance และ Cloud สำหรับ WatchGuard FireBox เวอร์ชันล่าสุดนั้น มาพร้อมกับฟีเจอร์ SD-WAN ซึ่งสามารถใช้งานได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องซื้อ License ใดๆ เพิ่มเติม
รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.watchguard.com/wgrd-products/network-security
2. WatchGuard Secure Wi-Fi
WatchGuard Secure Wi-Fi เป็นโซลูชันเครือข่ายไร้สายมาตรฐาน 802.11ac Wave 2 ที่ถูกออกแบบมาให้มีความมั่นคงปลอดภัยสูง มาพร้อมกับคุณสมบัติ Wireless Intrusion Prevention (WIPS) ซึ่งสามารถตรวจจับภัยคุกคามบนระบบ Wi-Fi ไม่ว่าจะเป็น Rogue Access Points, Rogue Client, Adhoc Network, Evil Twin Access Point และอื่นๆ ได้ ที่สำคัญคือสามารถหยุดยั้งภัยคุกคามเหล่านี้ได้ด้วยเช่นกัน ทำให้มั่นใจว่าพนักงานภายในองค์กรสามารถใช้ระบบ Wi-Fi ได้อย่างมีประสิทธิภาพในขณะที่ยังคงไว้ซึ่งความมั่นคงปลอดภัย
Secure Wi-Fi ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติในการทำ Guest Wi-Fi Access และ Social Login ร่วมกับ Facebook, Twitter, LinkedIn และ Instagram ช่วยให้แขกและผู้มาเยี่ยมเยือนสามารถใช้งาน Wi-Fi ได้ง่ายในขณะที่ยังคงสามารถเก็บ Log ได้ตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ นอกจากนี้ยังสามารถทำ Location-based Analytics เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้จากการใช้ Wi-Fi เพื่อวางแผนเพิ่ม Customer Experience ให้ดียิ่งขึ้นได้อีกด้วย
WatchGuard Secure Wi-Fi รองรับการใช้งาน 3 รูปแบบ คือ
- บริหารจัดการผ่าน WatchGuad FireBox ซึ่งทำหน้าที่เป็น Wireless Controller ในการควบคุมการทำงานของ Access Point
- บริหารจัดการจากศูนย์กลางผ่านระบบ Cloud โดยไม่จำเป็นต้องมี Wireless Controller ซึ่ง Access Point สามารถให้บริการ Wi-Fi และ WIPS ได้ในเวลาเดียวกัน
- ใช้งานร่วมกับระบบ Wi-Fi ที่มีอยู่เดิมภายในองค์กรโดยทำหน้าที่เป็น Air Monitor ให้บริการ WIPS สำหรับตรวจจับและป้องกันภัยคุกคามที่มาทางระบบเครือข่ายไร้สาย

รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.watchguard.com/wgrd-products/secure-wifi
3. AuthPoint Mobile App
AuthPoint เป็นบริการ Multi-factor Authentication ที่ถูกออกแบบมาสำหรับใช้งานบนอุปกรณ์พกพาโดยเฉพาะ รองรับการใช้งานทั้งบน Apple iOS และ Android บริหารจัดการได้จากศูนย์กลางผ่านระบบ Cloud ส่งผลให้สามารถติดตั้งระบบพิสูจน์ตัวตนบนอุปกรณ์ของพนักงานได้ทั่วโลก ที่สำคัญคือราคาย่อมเยาว์ ธุรกิจ SMB สามารถใช้บริการได้ในราคาถูกกว่า 100 บาทต่อผู้ใช้ต่อเดือน และสามารถติดตั้งแอปพลิเคชันบนอุปกรณ์กี่เครื่องก็ได้

รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.watchguard.com/wgrd-products/multi-factor-authentication
WatchGuardONE บริการ Managed Security Services สำหรับ SMB
WatchGuard จับมือกันพันธมิตรหลายรายในประเทศไทยเพื่อให้บริการ WatchGuardONE ซึ่งเป็น Managed Security Services แบบครบวงจร ลูกค้าสามารถเช่าอุปกรณ์มาใช้งานได้แบบรายเดือน (ไม่มีกำหนดขั้นต่ำ) กรณีที่ไม่ได้ใช้งานก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าเช่าสำหรับอุปกรณ์ในเดือนนั้นๆ ยกตัวอย่างเช่น สถานศึกษาหยุดการใช้งานอุปกรณ์บางส่วนในช่วงที่นักศึกษาปิดเทอม เป็นต้น นอกจากนี้ พันธมิตรที่ให้บริการ Managed Security Services ยังถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดี เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถให้คำปรึกษาตั้งแต่การออกแบบ ติดตั้ง ปรับจูน และดูแลระบบเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการเชิงธุรกิจขององค์กรได้
WatchGuardONE พร้อมให้บริการร่วมกับ FireBox และ AuthPoint แล้ว โดยรองรับ FireBox ทั้งแบบ Appliance, VM และ Cloud ในราคาเริ่มต้นเพียง 350 บาทต่อเดือนเท่านั้น (รวมค่า License และ MA แล้ว) ในขณะที่ Secure Wi-Fi จะเริ่มให้บริการภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2019 นี้ เรียกว่าได้เป็นสุดยอดบริการที่เหมาะสำหรับธุรกิจ SMB ที่มีทรัพยากรบุคคลและงบประมาณจำกัดอย่างแท้จริง

ทุกโซลูชันของ WatchGuard ไม่ว่าจะเป็น FireBox, Secure Wi-Fi, AuthPoint และบริการ WatchGuardONE พร้อมให้บริการแก่ธุรกิจ SMB ทั่วไทยแล้ว ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือติดต่อขอ PoC ได้ที่ https://www.watchguard.com/wgrd-sales/emailus หรืออีเมล uthaipat.r@watchguard.com หรือค้นหาตัวแทนจำหน่ายได้ที่ https://watchguardsupport.secure.force.com/PartnerFinder/ (ค้นหาคำว่า “Thailand”)