IBM Flashsystem

IEEE 802.11ax ก้าวถัดไปของมาตรฐาน Wi-Fi (อัพเดท)

ieee_802-11ac

มาตรฐานระบบเครือข่ายไร้สาย ปกติแล้วจะเริ่มจากการเสนอมาตรฐาน ร่างมาตรฐาน และจึงจะเริ่มใช้งานมาตรฐานดังกล่าว ซึ่งตลอดระยะเวลา 17 ปีตั้งแต่มาตรฐาน 802.11b เร่ิมใช้งาน มีเพียง 3 มาตรฐานเท่านั้นที่มีการใช้งานจริงอย่างแพร่หลาย ได้แก่ 802.11g, 802.11n และ 802.11ac ความเร็วระดับ Gigabit ในปัจจุบัน (802.11a เป็นมาตรฐานที่ใช้งานจริงเช่นกัน แต่ไม่แพร่หลายนัก)

802.11ax มาตรฐาน Wi-Fi ถัดไป

มาตรฐาน Wi-Fi ที่หลายฝ่ายคาดว่าจะเป็นมาตรฐานถัดจาก 802.11ac คือ 802.11ax ที่จะให้บริการความเร็วสูงกว่า 2 Gbps ในชีวิตจริง ในขณะที่ 802.11ac ให้ความเร็วประมาณ 400 Mbps อย่างไรก็ตาม จากการทดลองของ Huawei พบกว่า มาตรฐาน 802.11ax สามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 10.53 Gbps หรือประมาณ 1.4 GB ต่อวินาทีในการรับส่งข้อมูล

มาตรฐาน 802.11ax เป็นอย่างไร

802.11ax เป็นมาตรฐานที่พัฒนาต่อยอดจาก 802.11ac ที่รองรับการรับส่งข้อมูลแบบ MIMO สูงสุดที่ 4 Spatial Streams โดยเพิ่มประสิทธิภาพในการรับส่งข้อมูลต่อ Stream ให้มากกว่าเดิมอีกหลายเท่า ซึ่งมาตรฐาน 802.11ax ยังคงใช้ช่วงคลื่นความถี่ 5 GHz เช่นเดียวกับ 802.11ac เนื่องจากมีช่องสัญญาณที่กว้าง (80 และ 160 MHz) และเลือกใช้ได้เป็นจำนวนมาก

มาตรฐาน 802.11ax ยังคงรองรับจำนวน MIMO (Multiple-input-multiple-output) สูงสุดที่ 4 Spatial Streams เช่นเดิม แต่ละ Stream ใช้วิธีซอยย่อยช่องสัญญาณและรับส่งข้อมูลแบบ OFDA (Orthogonal Frequency Division Access) ซึ่งจุดนี้ยังเป็นที่คลุมเครือระหว่าง Wi-Fi Alliance และ Huawei ว่าหมายถึง OFDA หรือ ODFMA (Multiple Access) ที่เป็นเทคนิคสำคัญที่ช่วยให้ระบบ LTE สามารถรับส่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว แต่ไม่ว่าจะเป็นวิธี OFDM, OFDA หรือ OFDMA ต่างก็หมายถึง วิธีการส่งข้อมูลผ่านช่องสัญญาณที่ถูกจัดแบ่งพร้อมๆกัน กล่าวคือ เป็นวิธีการซอยย่อยช่องสัญญาณเป็นช่องเล็กๆ หลายสิบ หรืออาจหลายร้อยช่องสัญญาณย่อยที่มีช่วงคลื่นความถี่แตกต่างกันเล็กน้อย จากนั้นก็ส่งข้อมูลผ่านช่องสัญญาณย่อยเหล่านั้นพร้อมกัน พร้อมทั้งมีการบริหารจัดการเพื่อให้เกิดสัญญาณกวนกัน (Crosstalk) ระหว่างช่วงคลื่นความถี่น้อยที่สุด ซึ่งจากการทดลองของ Huawei พบว่า OFDA สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของคลื่นสเปกตรัมตามทฤษฎีได้สูงสุดถึง 10 เท่า แต่ในความเป็นจริงแล้ว คาดว่าจะได้ความเร็วสูงกว่าเดิมประมาณ 4 เท่าตัว

wifi_802-11ac_channel

802.11ax เร็วแค่ไหน

ลองประมาณการจากผลการทดสอบของ Huawei ที่คาดว่าจะได้ความเร็วสูงกว่าเดิม 4 เท่า และรับส่งข้อมูลบนช่องสัญญาณขนาด 160 MHz ในกรณีนี้ ความเร็วสูงสุดของแต่ละ Stream จะอยู่ที่ประมาณ 3.5 Gbps (867 Mbps สำหรับมาตรฐาน 802.11ac) เมื่อรวมกับฟีเจอร์ MIMO แบบ 4×4:4 จะได้ความเร็วรวมสูงสุดที่ประมาณ 14 Gbps ซึ่งถ้าโน๊ตบุ๊คหรือสมาร์ทโฟนรองรับการรับส่งข้อมูล 2 – 3 Spatial Streams พร้อมกันแล้ว จะสามารถเชื่อมต่อสัญญาณได้ด้วยความเร็วสูงกว่า 1 GB ต่อวินาที

ในกรณีที่ใช้งานทั่วไปอย่างเช่นในปัจจุบันที่ช่องสัญญาณมีความกว้างเพียงแค่ 80 MHz จะได้ว่าความเร็วสูงสุดของแต่ละ Stream อยู่ที่ประมาณ 1.6 Gbps หรือประมาณ 200 MB/sec ซึ่งถ้าอุปกรณ์รองรับ MIMO ก็จะสามารถรับส่งข้อมูลได้เร็วถึง 400 – 600 MB/sec และในกรณีที่ใช้งานบนพื้นที่ที่ให้บริการหนาแน่นจนต้องปรับลดความกว้างของช่องสัญญาณเหลือ 40 MHz เพื่อลดการชนกันของสัญญาณ ก็จะได้ความเร็วสูงสุดรวมแล้ว 3.2 Gbps

ขอบเขตของสัญญาณ ความเสถียร และปัจจัยอื่นๆ

จนถึงตอนนี้ ทาง Wi-Fi Alliance และ Huawei ยังไม่ได้กล่าวถึงฟีเจอร์อื่นๆของ 802.11ax มากนัก แต่ทาง Huawei ก็ได้ระบุว่า จะมีการพัฒนาระบบ “Intelligent Spectrum Allocation” และ “Interference Coordination” บนมาตรฐานดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ฮาร์ดแวร์ Wi-Fi ในปัจจุบันส่วนใหญ่รองรับฟีเจอร์เหล่านี้แล้วทั้งสิ้น

สำหรับขอบเขตของสัญญาณนั้น ประมาณการไว้ว่าจะมีรัศมีเท่าเดิม หรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่วนความเสถียรของสัญญาณ คาดว่าจะดีกว่าเดิมเนื่องจากกระบวนการของ OFDA และฟีเจอร์ Interlligent Sepctrum Allocation และ Interference Coordination ที่ช่วยลดการชนกันของสัญญาณ

โดยสรุปแล้ว มาตรฐาน 802.11ax คือ การต่อยอดจาก 802.11ac โดยที่คอนเซ็ปต์ส่วนใหญ่ยังคงยึดถือตามแบบเดิม เพียงแค่ปรับแต่งและเพิ่มประสิทธิภาพของอัลกอริธึมเพื่อให้ได้ Throughput ที่สูงขึ้น

จำเป็นไหม สำหรับความเร็วระดับ 10 Gbps

ความเร็วในการใช้งานระบบคอมพิวเตอร์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับระบบเครือข่ายเพียงอย่างเดียว ยังต้องคำนึงถึงอัตราการเขียนและอ่านของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลด้วย เช่น 802.11ax ที่มีความเร็วต่ำสุด ประมาณ 100 MB/sec ก็ยังนับว่ามีความเร็วสูงกว่าระบบแฟลช eMMC NAND บนสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ในปัจจุบัน ซึ่งกรณีที่ดีที่สุด สมาร์ทโฟนจะได้อัตราการอ่านที่ 90 MB/sec และการเขียนที่ 20 MB/sec ส่วนกรณีที่เลวร้ายที่สุด คือ การรับส่งไฟล์ข้อมูลขนาดเล็กๆหลายๆไฟล์ จะได้ความเร็วสูงสุดในระดับไม่กี่ MB/sec เท่านั้น ยิ่งกว่านั้น ถ้าใช้ช่องสัญญาณที่กว้างขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็น 80 MHz หรือ 160 MHz ก็จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบ SSD เพื่อให้สามารถดึงสมรรถนะของ 802.11ax ออกมาได้มากที่สุด

นอกจากนี้ ต่อให้ใช้งานบนระบบ Video Streaming ระดับ 8K ที่วางแผนไว้ว่าจะเริ่มใช้งานในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า มาตรฐาน 802.11ax ก็ยังถือว่ามีแบนวิธด์ให้ใช้งานได้อย่างเหลือเฟือ ประเด็นที่เป็นปัญหาไม่ใช่เรื่องการเชื่อมต่อ Wi-Fi แต่จะเป็นเรื่องการเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ตแทน มาตรฐาน 802.11ax คาดว่าจะถูกรับรองประมาณปี 2018 ก่อนจะถึงตอนนั้น 802.11ac ก็นับว่าคุ้มค่าที่จะทำการอัพเกรด

ภาพประกอบจาก Thinkstock/shutter_m
Credit: Thinkstock/shutter_m

ที่มา: http://www.extremetech.com/computing/184685-what-is-802-11ax-wifi-and-do-you-really-need-a-10gbps-connection-to-your-laptop

About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

Google Workspace เตรียมเพิ่มฟีเจอร์ AI มัลติโมดอลใหม่ ช่วยทำงานให้โดยอัตโนมัติ

Google กำลังเพิ่มฟีเจอร์ปัญญาประดิษฐ์ใหม่ให้กับ Google Workspace เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถเขียนอีเมล แปลงสไลด์โชว์เป็นวิดีโอ และทำงานอื่น ๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้น

Google เปิดตัว Google AI Ultra แพ็คเกจสมาชิก AI ระดับสูงสุดในราคา $249.99 ต่อเดือน

Google ประกาศเปิดตัว Google AI Ultra แพ็คเกจสมาชิกใหม่ล่าสุดที่มอบสิทธิการเข้าถึงโมเดล AI ที่ทรงพลังที่สุดและฟีเจอร์พรีเมียมในราคา $249.99 ต่อเดือน พร้อมโปรโมชั่นลด 50% สำหรับผู้ใช้งานใหม่ในช่วง 3 เดือนแรก