ทุกวันนี้ ข้อมูลได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดปัจจัยหนึ่งในการขับเคลื่อนองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงการให้บริการลูกค้าให้เป็นที่พึงพอใจยิ่งขึ้น, การปรับปรุงประสิทธิภาพของกระบกวนการการทำงาน, การคำนวนหาโปรโมชั่นใหม่ๆ เพื่อนำเสนอลูกค้าให้ตรงความต้องการ หรือแม้แต่การหาความเป็นไปได้ในการสร้างธุรกิจใหม่ๆ จากข้อมูลการดำเนินธุรกิจเดิมที่มีอยู่ ซึ่งทำให้ระบบจัดเก็บข้อมูลขององค์กร หรือระบบ Storage นั้นจำเป็นจะต้องมีการปรับปรุง เพื่อตอบรับต่อการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของธุรกิจในยุคปัจจุบัน
เทคโนโลยี Storage แบบ All Flash Arrays จึงได้ถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์นี้โดยเฉพาะ โดยการนำเทคโนโลยีของหน่วยจัดเก็บข้อมูลที่มีความเร็วสูงสุดอย่าง Solid State Drive มาใช้แทน Hard Drive ทั้งหมดภายในระบบ SAN Storage ทำให้มีความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลมากกว่าเดิมตั้งแต่ 100 เท่าถึง 1,000 เท่า และก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ ในการประมวลผลข้อมูลทางธุรกิจที่อาจจะเคยใช้เวลาหลายวัน หรือหลายเดือน ให้ใช้เวลาลดลงเหลือเพียงไม่กี่นาทีหรือไม่กี่วินาทีเท่านั้น รวมถึงยังทำให้ระบบฐานข้อมูลที่เคยต้องใช้เวลาในการเรียกอ่านข้อมูลเป็นเวลานาน สามารถตอบสนองต่อทุกคำสั่งการเรียกค้นข้อมูลได้ในทันที ทำให้แต่ละองค์กรสามารถนำข้อมูลต่างๆ มาวิเคราะห์ด้วยโมเดลทางคณิตศาสตร์และสถิติ เพื่อสร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ ให้แก่ธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถแข่งขันในตลาดที่มีความซับซ้อนสูงได้ในปัจจุบัน ดังต่อไปนี้
สร้างธุรกิจใหม่ๆ ด้วยเทคโนโลยี Big Data Analytics และ Business Intelligence ความเร็วสูงบน All Flash Arrays
ด้วยความเร็วของระบบ SAN Storage แบบ All Flash Array ทำให้การสร้างรายงานต่างๆ ภายในระบบ Business Intelligence สามารถทำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยบริษัทประกันแห่งหนึ่งเคยต้องหยุดการทำงานของพนักงานทั้งหมดในวันแรกของเดือน เพื่อรอให้ระบบ Business Intelligence (BI) ออกรายงานจากระบบ Enterprise Resource Planning (ERP) ให้เสร็จเรียบร้อยก่อน จึงจะสามารถให้บริการลูกค้าต่อไปได้ ส่งผลให้เกิดความเสียหายมูลค่า 900,000 USD ต่อปี หรือประมาณ 27 ล้านบาทต่อปีนั่นเอง ในที่สุดองค์กรแห่งนี้ก็ได้เลือกใช้ EMC XtremIO ซึ่งเป็น SAN Storage แบบ All Flash Arrays เข้าไปทดแทนระบบ SAN Storage แบบเดิม และทำให้การออกรายงานสามารถทำได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น บริการลูกค้าได้ต่อเนื่องยิ่งขึ้น และไม่ต้องหยุดงานในวันแรกของเดือนอีกต่อไป
ในขณะเดียวกัน การนำเทคโนโลยี Big Data Analytics เข้ามาใช้งานกับธุรกิจธนาคาร, ค้าปลีก (Retail) และธุรกิจทางด้านการผลิตอาหาร ได้เริ่มเป็นที่นิยมในประเทศไทย เนื่องจาก Big Data Analytics จะสามารถนำข้อมูลที่มีอยู่จำนวนมหาศาล มาประมวลผลเพื่อมองหาแนวทางการต่อยอดธุรกิจใหม่ๆ ในอนาคตได้ ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอ Product หรือ Promotion ใหม่ๆ ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า และสร้างกำไรให้กับองค์กรได้ไปพร้อมๆ กัน, การทำนายแผนการบริโภคสินค้าต่างๆ ล่วงหน้า เพื่อนำมาวางแผนการผลิตและการลงทุนในปีถัดๆ ไป หรือการทำนายและนำเสนอแนวโน้มของการเปิดธุรกิจปลีกย่อยใหม่ๆ เพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้แต่ละองค์กรได้มองเห็นตลาดของผู้บริโภคใหม่ๆ ซึ่ง All Flash Arrays จะเข้ามามีบทบาทในการเพิ่มความเร็วในการวิเคราะห์ข้อมูล จากเดิมที่เคยต้องใช้เวลาหลายวัน เหลือเพียงไม่กี่ชั่วโมง และส่งผลให้นักวิเคราะห์ข้อมูลสามารถทดลอง Model การคำนวนได้หลากหลายยิ่งขึ้น ทำให้สามารถเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับองค์กรได้อย่างหลากหลายยิ่งขึ้นอีกด้วย
เพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงานให้เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นด้วย Virtual Desktop Infrastructure บน All Flash Arrays
ด้วยความสามารถของเทคโนโลยี Virtual Desktop Infrastructure (VDI) ที่ทำให้ผู้บริหารสามารถลงทุนกับระบบ Desktop ได้อย่างคุ้มค่าสูงสุด, ผู้ดูแลระบบริหารจัดการ Desktop ในองค์กรได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย รวมถึงผู้ใช้งานในองค์กรสามารถเรียกใช้งาน Application และข้อมูลต่างๆ ในองค์กรได้อย่างยืดหยุ่น ทำให้การนำ Virtual Desktop มาประยุกต์ใช้ในงานบริการและงานขายเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยพนักงานสามารถนำระบบ Support และ Sales ที่องค์กรใช้งานอยู่ ติดตัวไปพบปะกับลูกค้าได้ที่สถานที่ทำงานของลูกค้าทันที ซึ่ง All Flash Arrays ก็ได้กลายเป็น SAN Storage หลักในการลงทุนระบบ VDI ที่รองรับผู้ใช้งานหลักหลายร้อยถึงหลายพันคน ตอบโจทย์ได้ทั้งองค์กรขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ในระบบเดียวได้อย่างคุ้มค่า
ลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวในการลงทุนกับ Data Center ด้วย All Flash Arrays
ระบบ SAN Storage ที่มีการใช้งาน Hard Drive เป็นหลักที่มีการใช้งานอยู่ในปัจจุบันนั้น มีข้อจำกัดทางด้านความเร็ว ดังนั้นเมื่อองค์กรใดๆ มีความต้องการที่จะยุบรวมระบบ Storage เข้าด้วยกันเป็นแบบ Centralized เพื่อใช้งานเข้ากับระบบงานต่างๆ ในองค์กรโดยง่ายต่อการบริหารจัดการและการดูแลรักษา ระบบเหล่านั้นมักจะมีปัญหาคอขวดทางด้านประสิทธิภาพการทำงานของ Storage ดังนั้น All Flash Arrays ที่มีความเร็วสูงและสามารถแก้ไขปัญหาคอขวดทางด้านประสิทธิภาพนี้ได้ จึงได้กลายเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับระบบ Centralized SAN Storage ไปโดยปริยาย
นอกจากนี้แนวโน้มการเติบโตของเทคโนโลยี All Flash Arrays และ Solid State Drive ยังมีการทำนายว่าจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องไปอีกหลายสิบปี ดังนั้นการเริ่มต้นลงทุนในระบบ All Flash Arrays นี้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการ Maintenance SAN Storage แบบเก่าในอนาคตที่นับวันจะมีราคาแพงขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ Solid State Drive มีแนวโน้มที่จะราคาถูกลงเรื่อยๆ ในอนาคต
พลิกโฉมธุรกิจองค์กรด้วย EMC XtremIO – สุดยอด All Flash Arrays ยอดขายอันดับหนึ่ง
EMC ในฐานะของผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยี Storage ระดับโลก ได้ทำการเข้าซื้อกิจการและพัฒนาเทคโนโลยี All Flash Arrays อย่างต่อเนื่องภายใต้ชื่อของ EMC XtremIO ซึ่งเป็นระบบ SAN Storage แบบ All Flash Arrays โดยฮาร์ดแวร์ของ EMC XtremIO แต่ละชุดนี้จะถูกเรียกว่า X-Brick ซึ่งได้รวมความสามารถที่ครบครันทั้งด้านประสิทธิภาพ, ความทนทาน, ความปลอดภัย, ความคุ้มค่า และความสามารถในการบริหารจัดการสำหรับระบบ All Flash Arrays โดยเฉพาะ ทำให้ EMC XtremIO ได้กลายเป็นผู้นำทางด้านยอดขายของ All Flash Arrays จากการจัดอันดับของ Gartner’s Magic Quadrant สำหรับ Solid State Array ล่าสุดของปี 2014 และเป็น All Flash Arrays ที่มีการใช้งานมากที่สุดในโลกจากการสำรวจของ 451 Research ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2014 นี้เอง
ทั้งนี้ EMC XtremIO นี้ได้มีบทบาทเป็นอย่างมากในการผลักดันตลาด All Flash Arrays สำหรับธุรกิจระดับ Enterprise และ ISP โดยได้นำเทคโนโลยีนี้เข้าไปสร้างโอกาสใหม่ๆ มากมายให้แก่ธุรกิจที่มีการใช้งาน Big Data Analytics, Business Intelligence, Enterprise Resource Planning และ Cloud Service Provider ให้สามารถตอบสนองต่อโจทย์ใหม่ๆ ด้วยความรวดเร็วที่ทันต่อการตัดสินใจในธุรกิจ รวมถึงยังช่วยแก้ไขปัญหาทางด้านการลงทุนในระบบ IT Infrastructure ระยะยาวให้แก่ระบบ Virtualization, Virtual Desktop Infrastructure และ Centralized SAN Storage อีกด้วย โดย EMC XtremIO มีจุดเด่นดังนี้
ประสิทธิภาพที่เหนือกว่า รองรับงานได้ทุกรูปแบบ
ด้วยการจัดการ Metadata แบบ In-memory ทำให้ประสิทธิภาพการเขียนอ่านข้อมูลทั้งหมดของ EMC XtremIO มีความรวดเร็วสูงมากในการใช้งานกับ Application ทุกประเภท อีกทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้งานของ Solid State Drive ออกไปได้ ทำให้ถึงแม้จะมีการใช้งาน XtremIO ไปนานเท่าใด ประสิทธิภาพของระบบก็จะไม่ลดลงตามอายุการใช้งาน ต่างจาก All Flash Arrays เจ้าอื่นๆ ที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องอายุการใช้งานของ Solid State Drive ได้ ทำให้ EMC XtremIO เหนือกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ ด้วยประสิทธิภาพในการใช้งานจริงที่เริ่มต้นจาก 150,000 – 250,000 Random IOPS และยังสามารถเพิ่มขยายแบบ Scale-out เป็น 900,000 – 1,500,000 Random IOPS ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ EMC XtremIO ยังรองรับ Interface การเชื่อมต่อใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น 8Gbps Fibre Channel หรือ 10GbE iSCSI ทำให้สามารถนำไปใช้งานในศูนย์ข้อมูลเดิมที่มีอยู่แล้วได้อย่างง่ายดาย และด้วยการทดสอบประสิทธิภาพทั้งหมดในแบบ Random IOPS ซึ่งต่างจากผู้ผลิตรายอื่นๆ ที่เลือกนำเสนอประสิทธิภาพจากการทดสอบที่ไม่สามารถนำไปใช้งานจริงได้ ทำให้ EMC XtremIO พร้อมที่จะถูกนำไปติดตั้งใช้งานในระบบงานต่างๆ หลากหลายรูปแบบได้ทันที
ความจุขนาดใหญ่กว่า คุ้มค่ากับทุกการใช้งาน
EMC XtremIO มีพื้นที่การใช้งานแบบ Physical Capacity เริ่มต้นที่ 5TB และสามารถเพิ่มขยายแบบ Scale-out ด้วยการติดตั้ง X-Brick เพิ่มเข้าไปในระบบเพื่อเพิ่มทั้งความจุและประสิทธิภาพไปพร้อมๆ กัน ทำให้สามารถมีพื้นที่แบบ Physical Capacity สูงสุดได้มากถึง 120TB ซึ่งเรียกได้ว่าเพียงพอต่อความต้องการของระบบงานเกือบทุกรูปแบบที่ต้องการใช้งาน Solid State Drive ในปัจจุบัน
นอกจากนี้ EMC XtremIO ยังมาพร้อมกับความสามารถในการทำ Inline Data Reduction ซึ่งจะช่วยลดพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลส่วนที่ซ้ำซ้อนของระบบให้อยู่ภายในพื้นที่จัดเก็บเดียวกัน พร้อมกับทำการบีบอัดข้อมูลไปด้วย ทำให้ความจุเริ่มต้นที่ 5TB สามารถรองรับข้อมูลภายในได้ตั้งแต่ 10 – 50TB และเมื่อทำการเพิ่มขยายระบบที่ความจุ Physical Capacity ขนาด 120TB ก็อาจทำให้ EMC XtremIO สามารถเก็บบันทึกข้อมูลจริงได้เกินกว่า 1 Petabyte (1,000 TB) ภายในระบบเพียงระบบเดียว ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ผลิต All Flash Arrays รายอื่นๆ แล้ว EMC จะสามารถจัดเก็บข้อมูลได้มากกว่าถึง 17 เท่าเลยทีเดียว
ทนทานกว่า ปกป้องข้อมูลจากทุกความเสียหาย
ด้วยการทำงานร่วมกันระหว่าง X-Brick แต่ละชุดแบบ Scale-out ทำให้การทำ Fault-tolerant ของ XtremIO เป็นแบบ N-way Active-Active ซึ่งไม่มี Single Point of Failure ในระบบ พร้อมทั้งเทคโนโลยี XDP สำหรับการปกป้องความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นที่ระดับของข้อมูลได้ทนทานยิ่งกว่าการใช้งาน RAID ทำให้ EMC XtremIO มีความทนทานถึงระดับ 99.999% และทนทานที่สุดใน All Flash Arrays ทั้งหมดในโลก
และสำหรับองค์กรที่ต้องการทำการสำรองข้อมูลข้ามสาขาแบบ Disaster Recovery นั้น EMC XtremIO ก็สามารถทำงานร่วมกับ EMC VPLEX เพื่อทำการ Replicate ข้อมูลข้ามสาขาไปเพื่อรองรับการทำ Failover ได้ทันที
บริหารจัดการง่าย เริ่มต้นใช้งานได้รวดเร็ว
การบริหารจัดการ EMC XtremIO ทั้งหมดสามารถทำได้ผ่าน GUI เพียงชุดเดียว รวมถึงยังมี Dashboard สำหรับการติดตามทุกการทำงานของ EMC XtremIO ภายในหน้าจอเดียวอีกด้วย รวมถึงถ้าหากต้องการนำ EMC XtremIO ไปใช้งานร่วมกับ VMware ก็สามารถทำการบริหารจัดการผ่านหน้าจอของ vCenter ได้ทันทีผ่านทาง VSI Plug-in และ VAAI เช่นกัน
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถติดต่อตัวแทนจำหน่าย EMC ได้ทั่วประเทศไทยทันที