กรุงเทพฯ, 16 กรกฎาคม 2558 – อีเอ็มซี คอร์ปอเรชั่น เปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่และโซลูชั่นเวอร์ชันอัพเดต สำหรับหลายกลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ EMC® XtremIO™, EMC VMAX3™, VCE®, EMC VNX®, EMC Data Domain® และ EMC Data Protection Suite™
โลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ภายในปี 2563 คนกว่า 7 พันล้านคนทั่วโลกจะสามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตผ่านอุปกรณ์จำนวน 3 หมื่นล้านเครื่อง โลกของธุรกิจในยุคดิจิตอลได้ถือกำเนิดขึ้น เพราะ ผู้คน ธุรกิจ สิ่งของ สามารถสื่อสาร ติดต่อแลกเปลี่ยน และต่อรองกันได้มากขึ้น ๆ โดยโลกของธุรกิจในยุคดิจิตอลได้ก้าวเข้ามาแทรกแซงธุรกิจในแบบเดิม ซึ่งรวมถึงธุรกิจที่เกิดขึ้นในยุคอินเตอร์เน็ตและ อี-บิสซิเนส ด้วยเช่นกัน
สังคมในยุคปัจจุบันได้กลายมาเป็นพื้นที่ของกลุ่มพลเมืองดิจิตัล พวกเขาเชื่อมต่อกันตลอดเวลาผ่านเครือข่ายระดับโลก เข้าถึงข้อมูลมากมายได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส รวมทั้งใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายและเท่าทันข่าวสารกว่าที่เคย สภาพแวดล้อมเช่นนี้ทำให้ความคาดหวังของคนในยุคนี้ต่อธุรกิจต่าง ๆ เปลี่ยนแปลงไป พวกเขาเริ่มมองหาประสบการณ์เฉพาะตัวแบบดิจิตอลที่เข้าถึงได้รวดเร็วมากขึ้น และต้องการเข้าถึงบริการได้ตลอด 24 ชั่วโมงผ่านอุปกรณ์ที่หลากหลาย องค์กรจึงจำเป็นต้องนิยามตนเองใหม่และมองโลกธุรกิจผ่านมุมมองของโลกดิจิตอล เพื่อให้สามารถก้าวให้ทันปรากฏการณ์นี้ได้อย่างแท้จริง
ความท้าทายที่เหล่าซีไอโอกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้จึงเปรียบได้กับเหรียญสองด้าน ในด้านหนึ่ง พวกเขาต้องพยายามลดค่าใช้จ่ายในการบริหารทรัพยากรไอทีที่มีอยู่ โดยรักษาคุณภาพของบริการไว้ แต่ในอีกด้านหนึ่ง พวกเขาก็ต้องใช้งบประมาณที่ประหยัดไปได้นั้นในการเลือกสรรแอพพลิเคชั่นใหม่ที่แตกต่างและปรับแต่งให้เหมาะกับการใช้งานในโลกยุคดิจิตอล ซึ่งผลิตภัณฑ์ใหม่ของอีเอ็มซีสามารถตอบสนองความท้าทายเหล่านี้ได้อย่างครบครัน
อีเอ็มซีช่วยให้งานไอทีกลายเป็นเรื่องง่าย
อีเอ็มซี เปิดตัวเวอร์ชันอัพเดตของ XtremIO สตอเรจแบบออล-แฟลช อาเรย์ ชั้นนำในวงการ และ VMAX3 แพลตฟอร์มดาต้าเซอร์วิสสำหรับองค์กรธุรกิจ โดยนอกจากจะมอบสมรรถนะ การทำงานแบบอัตโนมัติ และการจัดการข้อมูลที่เหนือกว่าแล้ว โซลูชั่นทั้งสองยังออกแบบมาเพื่อลดความยุ่งยากในการบริหารทรัพยากรไอที ไม่ว่าจะเป็นการย่นระยะเวลาในการปฏิบัติงานทั่วไปจากหลายชั่วโมงเหลือเพียงไม่กี่นาที หรือช่วยตัดขั้นตอนบางอย่างไปได้เลยทีเดียว
พร้อมกันนี้ วีซีอี บริษัทในเครืออีเอ็มซี ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ VxRack™ สตอเรจแบบไฮเปอร์คอนเวอร์จที่ควบรวมการทำงานของหน่วยประมวลผล เน็ตเวิร์ก และสตอเรจ เข้าไว้ในเครื่องเดียว โดยสามารถสเกลการใช้งานได้ในระดับแร็ค หรือเท่ากับ 1,000 โนด (Hyper-Converged RackScale Systems) ซึ่งช่วยทำให้การติดตั้งแอพพลิเคชั่น เน็กซ์เจน สำหรับโทรศัพท์มือถือ คลาวด์ และเทียร์ 2 สะดวกรวดเร็วขึ้น โดยผู้ใช้สามารถเริ่มติดตั้งเซิร์ฟเวอร์เพียงไม่กี่สิบตัว ก่อนสเกลเพิ่มเป็นหลายพันตัว หรือเท่ากับพื้นที่สตอเรจขนาดหลายสิบเพตะไบต์ แต่ทุกส่วนยังคงทำงานร่วมกันได้โดยไม่มีอุปสรรค ระบบมีเสถียรภาพ รวดเร็ว และคุ้มค่ากับการลงทุน อีกทั้งยังมาพร้อมกับการบริการหลังการขายที่เหนือกว่าจากวีซีอี ตลอดการใช้งานอีกด้วย
นอกจากนี้ อีเอ็มซีได้วางจำหน่ายเวอร์ช่วลไลซ์ซอฟต์แวร์สแต็ค EMC vVNX™ Community Edition ในวงกว้าง ผลิตภัณฑ์รุ่นนี้จะเข้ามาตอบโจทย์ขององค์กรที่กำลังจะหันมาใช้ ซอฟต์แวร์-ดีฟาย สตอเรจ เพื่อช่วยให้การพัฒนาซอฟต์แวร์มีความคล่องตัวและยืดหยุ่นมากขึ้น โซลูชันใหม่นี้ถือเป็นเวอร์ชันเวอร์ช่วลไลซ์ของ EMC VNXe® (ชื่อเดิม Project Liberty) ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกในการสร้างสภาพแวดล้อมเพื่อการทดสอบและพัฒนาบนพื้นฐานของสตอเรจ VNXe โดยไม่ต้องมีฮาร์ดแวร์สตอเรจรองรับโดยเฉพาะ แต่ใช้เพียงฮาร์ดแวร์เซิร์ฟเวอร์มาตรฐานทั่วไป ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างมาก ในโอกาสนี้ อีเอ็มซียังได้เปิดอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม VNX คือแวเรียนท์ 3 TB VNXe3200 all-flash ซึ่งถือเป็นออล-แฟลช อาเรย์แบบรวมศูนย์ที่คุ้มค่าราคาที่สุดในตลาด ด้วยราคาเริ่มต้นต่ำกว่า 25,000 เหรียญสหรัฐ และจะวางจำหน่ายผ่านเครือข่ายพาร์ทเนอร์ธุรกิจของอีเอ็มซี
อีเอ็มซีเบิกทางสู่ไฮบริดคลาวด์
หนึ่งในเป้าหมายหลักของอีเอ็มซีคือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในทุกกลุ่มให้มีศักยภาพด้านคลาวด์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้ประโยชน์จากพับลิก ไพรเวท และไฮบริดคลาวด์ ในการจัดทำสตอเรจที่ยืดหยุ่นและปลอดภัยในราคาไม่แพง ในปีนี้ อีเอ็มซีได้เปิดตัวซอฟต์แวร์ใหม่ EMC CloudBoost™ และ EMC CloudArray® โดยเทคโนโลยี CloudArray จะเข้ามาช่วยย้ายข้อมูลในแพลตฟอร์ม VMAX3 ไปสู่คลาวด์หรือสตอเรจแบบออบเจ็คเบสท์ ซึ่งถือเป็นการย้ายดาต้าไปยังสตอเรจที่มีราคาต่อกิกะไบต์ที่ต่ำ และจะช่วยลดต้นทุนโดยรวมในการเป็นเจ้าของ (TCO) อีกทั้งยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถบริหารจัดการข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะนำโซลูชั่นนี้ไปใช้ในการแบ็คอัพและอาร์ไคฟ์ ไฟล์ หรือข้อมูลสำรอง นับว่าเป็นการใช้ประโยชน์จากประสิทธิภาพที่เหนือกว่าของคลาวด์ในการปรับขนาดเพิ่มตามความต้องการ (scalability) ลดค่าใช้จ่าย ตลอดความยุ่งยากในการตรวจสอบดูแลได้อย่างแท้จริง
สำหรับซอฟต์แวร์ตัวใหม่ในกลุ่ม Data Protection Suite อย่าง CloudBoost ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้เทคโนโลยี EMC Avamar® และ EMC Networker® สามารถปกป้องข้อมูลในคลาวด์ของทั้งอีเอ็มซีและแบรนด์อื่นที่ใช้งานอยู่แล้วได้อย่างไร้ข้อจำกัดอีกด้วย
อีเอ็มซีพร้อมปกป้องข้อมูลทุกส่วนในสตอเรจ
เมื่อองค์กรต่างๆ หันมาใช้และพัฒนาแอพพลิเคชั่นในยุคใหม่บนคลาวด์กันมากขึ้น ธุรกิจเหล่านั้นจึงประสบกับปัญหาหลายประการในการปกป้องข้อมูลขององค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมปัจจุบันซึ่งทุก ๆ ส่วนของธุรกิจเชื่อมต่อถึงกันตลอดเวลา (Hyper-extended Enterprise) อีเอ็มซีจึงมุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมในการปกป้องข้อมูลในทุกๆ ส่วนของสตอเรจอย่างต่อเนื่อง และได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์และเวอร์ชั่นอัพเดตใหม่ล่าสุด ในกลุ่มดาต้า โพรเท็คชั่น ดังนี้
- Data Domain รุ่นใหม่ มาพร้อมกับอุปกรณ์สำเร็จรูปสำหรับการแบ็คอัพข้อมูล (Purpose-Built Backup Appliance หรือ PBBA) และซอฟต์แวร์ทรงพลัง ซึ่งเข้ามาปฏิวัติการปกป้องข้อมูลและยกระดับมาตรฐานของโซลูชั่นสำหรับการแบ็คอัพแบบเดิมๆ
- CloudBoost ซอฟต์แวร์ใหม่ ซึ่งช่วยให้กลุ่มผลิตภัณฑ์ Data Protection Suite มีศักยภาพในการเชื่อมต่อกับคลาวด์ โดยสามารถปกป้องข้อมูลได้ทั้งในคลาวด์ของอีเอ็มซีและแบรนด์อื่น รวมถึงพัฒนาให้ซอฟต์แวร์ Spanning® by EMC มีศักยภาพในการปกป้องข้อมูลใน Office365 ด้วย
- ฟีเจอร์สำหรับค้นหาข้อมูลที่แบ็คอัพอยู่ในทุกส่วนของสตอเรจ (universal search) ที่ควบคุมโดยโดย Data Protection Suite และฟีเจอร์ใหม่ๆ อีกมากในกลุ่ม EMC RecoverPoint® สำหรับเวอร์ช่วลแมชชีน
- Spanning Backup มีความสามารถเพิ่มขึ้นในการปกป้องข้อมูลของแอพพลิเคชั่นที่เกิดมาในยุคของคลาวด์ โดยครอบคลุมถึงการแบ็คอัพข้อมูลจาก Microsoft Office 365 ด้วย นอกจากนี้ Spanning ยังได้เปิดตัวโครงการ Spanning Back-up for Good ซึ่งจะช่วยสนับสนุนองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในการปกป้องข้อมูลในคลาวด์อีกด้วย
Project CoprHD เพิ่มทางเลือก ความยืดหยุ่น ความปลอดภัย และความโปร่งใส
ในปัจจุบัน องค์กรธุรกิจได้หันมาให้ความสำคัญกับการวางกลยุทธ์เกี่ยวกับซอฟต์แวร์แบบโอเพ่นซอร์สมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะนำมาช่วยในการควบคุมธุรกิจของตน หรือการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อก้าวให้ทันตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา นั่นเป็นเพราะซอฟต์แวร์แบบโอเพ่นซอร์ส และแนวทางการพัฒนาแบบเปิดกว้าง ทำให้องค์กรไม่ต้องพบกับปัญหาในการล็อกอินเข้าใช้แพลตฟอร์มต่าง ๆ สามารถเข้าร่วมพัฒนา และปรับปรุงซอฟต์แวร์ให้เหมาะกับความต้องการของตนได้ อีกทั้งยังได้มีโอกาสการร่วมงานกับกลุ่มนักพัฒนาที่มีความสนใจตรงกัน ในขณะที่นักพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อการพาณิชย์ก็สามารถร่วมมือกับเพื่อนๆ ในวงการ และสร้างสรรค์นวัตกรรมที่คำนึงถึงผู้ใช้และอยู่บนแพลตฟอร์มที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันได้อย่างแท้จริง
หลังจากเปิดตัวในปี 2556 ViPR Controller ได้รับการยอมรับจากทั้งผู้ใช้ พาร์ทเนอร์และนักวิเคราะห์ ว่าเป็นซอฟต์แวร์ชั้นนำที่ใช้ในการสร้างระบบออโตเมชั่นสำหรับซอฟต์แวร์-ดีฟาย สตอเรจ ซึ่งไม่ได้ผูกติดอยู่กับแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง โดย ViPR Controller เป็นซอฟต์แวร์ที่จะช่วยควบคุมสตอเรจได้อย่างอัตโนมัติ ทำให้สตอเรจของทั้งอีเอ็มซีและแบรนด์อื่นๆ เป็นแพลตฟอร์มเปิดที่มีโครงสร้างไม่ซับซ้อนและปรับขนาดเพิ่มได้ ซึ่งอีเอ็มซีจะวางจำหน่าย ViPR Controller เวอร์ชั่นเพื่อการพาณิชย์ของซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส Project CoprHD พร้อมบริการหลังการขายเต็มรูปแบบต่อไป โซลูชั่นดังกล่าวนี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดทำแอพพลิเคชั่นสำหรับแพลตฟอร์มรุ่นที่ 3 (Third Platform) ซึ่งต้องการสถาปัตยกรรมสตอเรจแบบเน็กซ์เจน ที่สามารถสเกลการใช้งานได้ และทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั่นได้หลากหลายได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น
นายนฐกร พจนสัจ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อีเอ็มซี อินฟอร์เมชั่น ซิสเท็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ผู้นำทางธุรกิจในทุกอุตสาหกรรมล้วนกำลังปรับโมเดลทางธุรกิจของตน โดยหันมาลงทุนในนวัตกรรม พร้อมหาวิธีใหม่ๆ ในการเข้าถึงผู้บริโภคในโลกออนไลน์ ติดต่อสื่อสารกับพวกเขาผ่านอุปกรณ์มือถือ และสร้างสรรค์แอพพลิเคชั่นที่มีศักยภาพสูงขึ้น ชาญฉลาดขึ้น และเข้าถึงง่ายขึ้น การลงทุนในนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อพลิกโฉมธุรกิจจะสามารถช่วยให้ตลาดของไทยมีความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น และเพิ่มผลกำไร อย่างไรก็ตาม การลงทุนในด้านไอทีในปัจจุบันยังคงผูกติดอยู่กับโครงสร้างพื้นฐานและแอพพลิเคชั่นแบบเก่า คำถามคือ ทำอย่างไรโลกทั้งสองใบนี้จึงจะอยู่ร่วมกันได้ อีเอ็มซีจึงสนับสนุนให้องค์กรธุรกิจหันมาใช้แพลตฟอร์มดิจิตอลมากขึ้น แทนที่จะใช้เพียงแพลตฟอร์มแบบเดิมเพียงอย่างเดียว พร้อมทั้งช่วยเหลือลูกค้าของเราในการพัฒนาดาต้าเซ็นเตอร์ให้มีประสิทธิภาพ ลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มศักยภาพในการให้บริการ ตลอดจนสามารถใช้งานแอพพลิเคชั่นและเข้าถึงข้อมูลได้ตลอดเวลา”
เกี่ยวกับอีเอ็มซี
บริษัท อีเอ็มซี คอร์ปอเรชั่น (NYSE:EMC) เป็นผู้นำระดับโลกที่ช่วยให้องค์กรธุรกิจและผู้ให้บริการต่างๆ สามารถปรับเปลี่ยนและดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีระบบคลาวด์เป็นหัวใจสำคัญ นวัตกรรมทางสินค้าและบริการของอีเอ็มซีจะช่วยให้องค์กรก้าวเข้าสู่ระบบคลาวด์ได้โดยไม่มีอุปสรรค และช่วยให้แผนกไอทีจัดเก็บ จัดการ ปกป้อง และวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่ามากที่สุด ได้อย่างคล่องแคล่ว น่าเชื่อถือ และคุ้มค่าทางการเงิน อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอีเอ็มซีได้ที่ http://www.EMC.com