ในงานสัมมนา Securing Your Data in Digital 4.0 ซึ่งจัดขึ้นโดยทีมงาน Stream I.T. Consulting ร่วมกับ Partner เพื่อแบ่งปันความรู้และมุมมองใหม่ๆ ทางด้าน IT Security ให้กับภาคธุรกิจองค์กรในวันที่ 6 กันยายน 2017 ที่ผ่านมานั้น ทางทีมงาน TechTalkThai มีโอกาสได้เข้าร่วมฟังในงานสัมมนาครั้งนี้ด้วย จึงขอนำมาสรุปประเด็นสำคัญให้ทุกท่านได้อ่านกันดังนี้ครับ
เทคโนโลยีอยู่รอบตัวเราในทุกกิจกรรมและทุกธุรกิจ ทำให้ IT Security นั้นกลายเป็นเรื่องของทุกคน
ในปัจจุบันนี้เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทกับเราทุกคนเป็นอย่างมาก ทั้งในชีวิตส่วนตัวที่เราได้ใช้เทคโนโลยีต่างๆ ในการติดต่อสื่อสารกันโดยตลอด และการทำงานที่เทคโนโลยีได้ยกบทบาทสำคัญมากขึ้นจากการเป็นสิ่งสนับสนุนการทำธุรกิจ ขึ้นมากลายเป็นหัวใจของการทำธุรกิจไปแทนแล้วในแทบทุกอุตสาหกรรม รวมถึงการที่ประเทศไทยเองนั้นก็มีนโยบาย Thailand 4.0 ทำให้ทางภาครัฐและธุรกิจต่างๆ เริ่มมีการขยับตัวกันมากขึ้น แน่นอนว่าในแง่ของกฎหมายเองก็เริ่มมีการปรับและขยับตัวตามไปด้วย
ประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจมากของการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในโลกเราตอนนี้ คือการที่แทบทุกๆ ภาคส่วนนั้นขยับตัวไปพร้อมๆ กัน ทั้งภาคธุรกิจที่เริ่มนำเทคโนโลยีมาใช้สร้างธุรกิจรูปแบบใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น เป็นโอกาสมากมายทั้งสำหรับเหล่าองค์กรใหญ่และธุรกิจเกิดใหม่อย่าง Startup, การเกิดขึ้นของเทคโนโลยีใหม่อย่าง Blockchain ที่จะเข้ามาพลิกโฉมหลายๆ วงการในโลก และแน่นอนว่าภัยคุกคามเองนั้นก็ได้ปรับตัวให้มีความรุนแรงทวียิ่งขึ้นไปด้วยในปัจจุบัน ทั้งในแง่ของจำนวนการโจมตีที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งกว่าในอดีต, วิธีการที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นกว่าในอดีต และความรุนแรงที่หนักหน่วงยิ่งกว่าในอดีต และยังมีแนวโน้มที่จะรุนแรงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ต่อไปในอนาคต
ด้วยเหตุเหล่านี้เองทำให้ Stream I.T. Consulting ตัดสินใจจัดงานสัมมนาในครั้งนี้เพื่อให้ความรู้แก่เหล่าลูกค้าองค์กรของทาง Stream I.T. จากหลากหลายอุตสาหกรรมในประเทศไทย เพื่อจะได้นำเแนวทางใหม่ๆ ไปปรับใช้รับมือกับการเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็วเหล่านี้นั่นเอง

ACIS: มาตรฐานด้านความมั่นคงปลอดภัย เป็นแนวทางที่ควรใช้สำหรับเหล่าองค์กร
ACIS นั้นได้จับมือกับ Stream I.T. Consulting เป็น Partner เพื่อนำเสนอโซลูชันทางด้าน IT Security สำหรับเหล่าองค์กรร่วมกัน โดยทาง ACIS มองว่าปัจจุบันทางภาคธุรกิจกำลังมีการเปลี่ยนแปลงจากยุคของ Digital Economy ที่นำเทคโนโลยีเข้ามาเป็นหัวใจของการทำธุรกิจ ไปสู่การเป็น Data Economy ที่ข้อมูลจะกลายเป็นหัวใจของการแข่งขันทางธุรกิจในอนาคต โดยองค์กรที่มีข้อมูลปริมาณมากกว่า, มีคุณภาพมากกว่า และมีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลเหล่านี้ได้รวดเร็วกว่า, แม่นยำกว่า จะสามารถเอาชนะคู่แข่งได้ง่ายขึ้น และมองหาโอกาสใหม่ๆ ในธุรกิจหลักหรือการสร้างธุรกิจใหม่ในตลาดใหม่ๆ ขึ้นมาได้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ข้อมูลเหล่านั้นในเชิง Big Data Analytics, การทำ Predictive Analytics ด้วย Machine Learning หรือนำ Artificial Intelligence (AI) มาใช้ในรูปแบบต่างๆ ก็ตามที
ท่ามกลางยุคสมัยที่เทคโนโลยีและข้อมูลได้กลายเป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจแบบนี้ ทาง ACIS ได้แนะนำให้เหล่าองค์กรต่างๆ เริ่มต้นด้วยการให้ความรู้ในเรื่องราวของโลก Digital กับเหล่าผู้บริหารและพนักงานเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจในโลกที่กำลังเปลี่ยนไปนี้ และสามารถใช้งานเทคโนโลยีหรือข้อมูลเพื่อปรับปรุงการทำงานต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ก่อนเป็นอันดับแรก เนื่องจาก ACIS นั้นเชื่อว่าการส่งมอบแต่เทคโนโลยีให้กับเหล่าองค์กรนั้นจะไม่มีประโยชน์เลยหากผู้ใช้งานในองค์กรไม่สามารถใช้งานเทคโนโลยีเหล่านั้นได้อย่างเต็มที่ และความรู้ความเข้าใจในเรื่อง Digital เองนี้ก็จะกลายเป็นพื้นฐานที่ดีสู่การต่อยอดไปเรียนรู้เรื่องราวของการรักษาความมั่นคงปลอดภัย เพื่อปกป้องตนเอง, ข้อมูล และผลประโยชน์ขององค์กรได้ในอนาคต
อีกแนวโน้มหนึ่งที่ ACIS นำเสนอคือการที่ภาคกฎหมายทั่วโลกนั้นกำลังขยับตัวครั้งใหญ่เพื่อรองรับต่อการมาของโลก Digital และ Data ในอนาคต ทั้งการออกกฎหมายใหม่ๆ, ข้อบังคับใหม่ๆ หรือข้อแนะนำทางด้านความมั่นคงปลอดภัยใหม่ๆ ซึ่งทาง ACIS นั้นก็ได้ให้คำแนะนำสำหรับเหล่าองค์กรที่ยังไม่เคยทำ Compliance ตามมาตรฐานใดๆ นั้นให้เริ่มต้นศึกษา, นำมาปรับใช้ หรือวางแผนทำจริงจังกันมากขึ้น เนื่องจากการทำความเข้าใจแนวทางของหลักปฏิบัติในมาตรฐานเหล่านั้นและนำมาใช้อย่างถูกต้องได้จะส่งผลดีต่อองค์กรเป็นอย่างมากในหลายแง่มุม และจะทำให้การต่อยอดไปยังมาตรฐานอื่นๆ นั้นทำได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้นด้วย โดยวงการแรกที่ในไทยน่าจะได้เห็นการนำมาตรฐานและ Compliance ต่างๆ มาใช้งานกันมากขึ้นนั้นก็คือธุรกิจการเงิน ที่มีการขยับตัวอย่างรวดเร็วท่ามกลางกระแสของ FinTech ที่เติบโตในเวลานี้

Gemalto: เมื่อทุกองค์กรต้องถูกขโมยข้อมูล การเข้ารหัสทุกข้อมูลเอาไว้จึงเป็นทางเลือกที่ดี
Gemalto นั้นเป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีด้านการยืนยันตัวตนและการเข้ารหัสสำหรับธุรกิจองค์กร โดยปัจจุบันทั่วโลกมีผู้ที่ใช้งานเทคโนโลยีของ Gemalto ทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัวอยู่แล้วถึง 2,000 ล้านคน หรือคิดเป็นประมาณ 1 ใน 3 ของโลก โดย Stream I.T. Consulting นั้นได้จับมือกับ Gemalto เพื่อนำเสนอโซลูชันเหล่านี้ให้แก่องค์กรที่ต้องการความมั่นคงปลอดภัยระดับสูง
แนวโน้มของการที่ Sensitive Data ของทั้งภาคธุรกิจ, ภาครัฐ และของบุคคลทั่วไปถูกขโมยนั้นกำลังเติบโตขึ้นทุกวันอย่างต่อเนื่อง โดยนับตั้งแต่ปี 2013 ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ก็มีกรณีการเกิด Data Breach เกินกว่า 9,000 ล้านชุดข้อมูลไปแล้ว และข้อมูลเหล่านี้ก็ได้แปลงสถานะจากการเป็นเพียงข้อมูลสำหรับตัดสินใจ ไปสู่การมีมูลค่าเป็นตัวเงินโดยตรงมากขึ้นไปทุกวัน ทำให้ข้อมูลนั้นตกเป็นเป้าของการโจมตี และ Gemalto ก็เชื่อว่าแนวทางการรับมือที่ดีนั้นไม่ใช่การพยายามปกป้องไม่ให้ข้อมูลถูกขโมย แต่เป็นการวางแผนว่าจะทำอย่างไรให้ถึงแม้ข้อมูลจะถูกขโมย ก็ยังไม่เกิดความเสียหายต่อธุรกิจและเจ้าของข้อมูลเหล่านั้น หรือเกิดความเสียหายน้อยที่สุดมากกว่า
Gemalto ได้นำเสนอแนวทางในการเข้ารหัสทุกๆ ข้อมูลสำคัญภายในองค์กรร่วมกับระบบ Hardware Security Module ที่คอยบริหารจัดการกุญแจการเข้ารหัสต่างๆ โดยใช้ 2 แนวทางนี้ในการควบคุมการเข้าถึงข้อมูล และปกป้องข้อมูลให้ถึงแม้จะถูกโจมตีและขโมยข้อมูลออกไป ผู้ที่ขโมยก็ไม่สามารถนำข้อมูลเหล่านั้นไปใช้งานได้จริง โดยแบ่งขั้นตอนการปกป้องข้อมูลออกเป็น 3 ขั้นตอนด้วยกัน ได้แก่
- Encrypt the Data
- Secure & Manage Keys
- Control Access
นอกจากนี้ประเด็นที่ทาง Gemalto ได้หยิบยกมาพูดถึงนั้นก็คือการบริหารจัดการ Username และ Password ให้ดี รวมถึงการทำ Multi-factor Authentication นั้นก็ได้เริ่มกลายเป็นแนวทางสำคัญที่เหล่าภาคธุรกิจควรเริ่มใช้งานกันให้มากขึ้น และเลือกเทคโนโลยีให้เหมาะสมต่อการใช้งานเนื่องจากการทำ Multi-factor Authentication นั้นมีทางเลือกที่ค่อนข้างหลากหลาย อีกทั้งในอนาคตการนำ Digital Signature มาใช้งานในกระบวนการการทำธุรกิจนั้นก็จะยิ่งมีมากขึ้นเรื่อยๆ การเริ่มต้นเรียนรู้, ใช้งาน และจัดการ Key ภายในองค์กรจึงจะมีความสำคัญมากยิ่งขึ้นไปอีก
สุดท้ายโจทย์ที่สำคัญที่สุดของเหล่าธุรกิจองค์กรนั้นก็คือการจะ Balance อย่างไรระหว่างความคล่องตัวในการทำธุรกิจ และการรักษาความมั่นคงปลอดภัยนั่นเอง

F5: Access Security Solution รักษาความมั่นคงปลอดภัยให้ทุกการเชื่อมต่อจากเครื่องลูกข่ายขององค์กร
ในงานสัมมนาครั้งนี้ F5 ได้นำเสนอโซลูชัน F5 Access Security Solution สำหรับเป็นทางเลือกให้กับเหล่าองค์กรต่างๆ ที่ต้องเผชิญกับความหลากหลายทั้งจากชนิดและประเภทของอุปกรณ์ที่ผู้ใช้งานนำมาใช้, Application ต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกองค์กร ไปจนถึงการเชื่อมต่อเครือข่ายจากหลากหลายช่องทางของผู้ใช้งานทั้ง LAN, Wi-Fi และ Mobile Data ซึ่ง F5 Access Security Solution เองนั้นก็มีความสามารถดังต่อไปนี้
- สามารถบังคับให้ผู้ใช้งานที่เชื่อมต่อเครือข่ายจากทั้งภายในและภายนอกองค์กร ต้องทำการยืนยันตัวตนก่อนเชื่อมต่อเข้าไปยังทรัพยากรขององค์กร ที่อยู่ทั้งภายในและภายนอกองค์กรได้
- สามารถตรวจสอบปัจจัยเสริมอื่นๆ นอกเหนือจากการยืนยันตัวตน เช่น อุปกรณ์ที่ใช้, ระดับความมั่นคงปลอดภัยของอุปกรณ์, การอัปเดต Software และอื่นๆ ออกแบบเป็นนโยบายการเชื่อมต่อเครือข่ายที่มั่นคงปลอดภัยขององค์กรเองได้ และกำหนดระดับสิทธิ์การใช้งานเครือข่ายและ Application ของผู้ใช้งานตามเงื่อนไขเหล่านี้ได้
- สามารถตรวจสอบเครื่องลูกข่ายได้โดยไม่ต้องติดตั้ง Software Agent
- รองรับการทำ Single Sign-On (SSO) ได้ทั้งสำหรับ Application ภายในองค์กรและบน Cloud ทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องจดจำรหัสผ่านจำนวนมากสำหรับเข้าใช้งาน Application ต่างๆ
- ทำการยืนยันตัวตนร่วมกับ AD, LDAP, RADIUS และอื่นๆ ได้
- สามารถทำ Bring Your Own Identity (BYOI) โดยให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ตัวตนจาก Google หรือ Facebook ในการยืนยันตัวตนได้
- สามารถทำงานร่วมกับระบบ Virtual Desktop Infrastructure (VDI) และ Mobile Device Management (MDM) ได้
- รองรับอุปกรณ์ลูกข่ายได้หลากหลาย ทั้ง PC, Notebook และ Mobile
- มี Web Application Firewall (WAF) ในตัวเป็นออปชันเสริม สามารถทำการเสริมความมั่นคงปลอดภัยให้กับ Web Application ที่ถูกเข้าถึงผ่านระบบนี้ได้
- สามารถตรวจสอบรายงานได้ผ่าน F5 BigIQ
ทาง F5 ได้สรุปถึงความสำคัญของการช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึง Application ต่างๆ ได้อย่างง่ายดายและมั่นคงปลอดภัย พร้อมไปกับการช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถควบคุมการเข้าใช้งานระบบต่างๆ ของผู้ใช้งานว่าจะเป็นแนวทางสำคัญที่ช่วยให้ระบบ IT ขององค์กรนั้นมั่นคงปลอดภัยขึ้นได้อีกช่องทางหนึ่ง ในขณะที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานภายในองค์กรให้ทำงานได้อย่างคล่องตัวมากยิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อนไปด้วยในเวลาเดียวกัน

ปรึกษาเรื่องความมั่นคงปลอดภัยในระบบ IT ติดต่อทีมงาน Stream I.T. Consulting ได้โดยตรง
สำหรับองค์กรที่สนใจโซลูชันต่างๆ ทางด้าน Security สามารถติดต่อทีมงาน Stream I.T. Consulting ได้ที่อีเมล marketing@stream.co.th หรือ โทร. 0-2679-2233 รวมถึงสามารถติดตามข่าวสารผ่านทางเว็บไซต์ www.stream.co.th และ Facebook fan page: www.fb.com/streamitconsulting ได้ทันที