โดย คุณฉิน ยิง ลุง ( Chin Ying Loong ) รองประธานกรรมการฝ่าย Oracle Fusion Middleware
Oracle ASEAN และ SAGE
เทคโนโลยีคลาวด์ได้สร้างแนวความคิดทางธุรกิจที่น่าตื่นเต้นจำนวนมหาศาลสำหรับธุรกิจเริ่มต้น บริษัทขนาดกลาง และองค์กรขนาดใหญ่ ไม่มีอะไรที่จะน่าตื่นเต้นไปมากกว่าการที่องค์กรได้ใช้รูปแบบของเทคโนโลยีที่สร้างสรรค์และล้ำหน้าเพื่อสร้างรูปแบบธุรกิจและประสบการณ์ลูกค้าที่ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ พึงระลึกกันไว้เสมอว่าการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ที่ยากลำบากของลูกค้าในเศรษฐกิจดิจิทัลกำลังดึงดูดให้องค์กรทั้งหลายนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาปรับใช้
ประโยชน์ทางธุรกิจของการประมวลผลแบบคลาวด์ได้รับการยอมรับเป็นอย่างดี แต่ผมเชื่อมั่นว่าบรรดาผู้จัดการด้านไอทีและธุรกิจยังมีเกิดความสับสนไม่น้อยเกี่ยวกับรูปแบบที่แตกต่างของการประมวลผลแบบคลาวด์ ได้แก่ Software-as-a-Service ( SaaS ), Platform-as-a-Service ( PaaS ) และ Infrastructure-as-a-service ( IaaS ) เป็นสิ่งสำคัญสำหรับบริษัทที่จะต้องทำความเข้าใจวิธีของรูปแบบทั้งสามจะตอบสนองความต้องการอันหลากหลายของบริษัทด้านไอที เพื่อที่จะสามารถนำรูปแบบเหล่านั้นไปใช้งานได้อย่างเต็มที่สำหรับธุรกิจผ่านองค์ประกอบด้านไอทีที่สำคัญทั้งหมด เช่น ซอฟแวร์ ระบบที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลาง/ฐานข้อมูล/เครื่องมือสำหรับบูรณาการหรือฮาร์ดแวร์
Software as a Service คือซอฟต์แวร์บนระบบคลาวด์ และเป็นรูปแบบแรกสุดของเทคโนโลยีการประมวลผลแบบคลาวด์อันเป็นที่รู้จักและมีการนำมาปรับใช้ ในปัจจุบันแอพพลิเคชันทางธุรกิจจำนวนมากสามารถใช้งานได้บนระบบคลาวด์ในรูปแบบจ่ายตามการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนทรัพยากรขององค์กรหรือการบริหารทรัพยกรมนุษย์ การบริหารประสบการณ์ลูกค้า/การบริหารลูกค้าสัมพันธ์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน หรือการบริหารผลการดำเนินงานขององค์กร หรือแอพพลิเคชันเฉพาะด้านอุตสาหกรรมต่าง ๆ ( FSI/โทรคมนาคม/การเงิน ฯลฯ ) จากการใช้งานแอพพลิเคชันบนระบบคลาวด์ ผู้ใช้งานด้านธุรกิจและแผนกไอทีไม่จำเป็นต้องติดตั้ง ทำการบำรุงรักษา หรืออัปเกรดโปรแกรมเหล่านี้สำหรับอุปกรณ์และผู้ใช้จำนวนหลายพัน ซอฟแวร์ดังกล่าวช่วยประหยัดเวลาและลดค่าใช้จ่ายจากการจัดสรรทางไอที
Platform as a Service เป็นซอฟต์แวร์บนระบบคลาวด์สำหรับระบบที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลาง เครื่องมือบูรณาการ และฐานข้อมูล PaaS มอบการเข้าถึงช่วงการบริการในวงกว้างแก่ผู้บริโภคตั้งแต่ระบบที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางไปจนถึงฐานข้อมูล รวมถึงการวิเคราะห์หน่วยความจำ อุปกรณ์เคลื่อนที่ บิ๊กดาต้า ขั้นตอน และการจัดการเอกสาร ฯลฯ เพื่อทำให้สามารถรวบรวมแอพพลิเคชันที่ได้รับการปรับแต่งด้วยความสามารถอันหลากหลาย เช่นเดียวกับรูปแบบ “as a service” อื่น ๆ PaaS ช่วยลดทั้งค่าใช้จ่ายและความซับซ้อนในการใช้งาน ความยุ่งยากและค่าใช้จ่ายทั้งหมดสำหรับการซื้อ การบูรณาการ และการบำรุงรักษาซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และเทคโนโลยีแพลตฟอร์มเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ให้บริการ PaaS ข้อดีที่ไปไกลเกินกว่าค่าใช้จ่ายที่ลดลงคือ PaaS ได้ลดการพัฒนาของแอพพลิเคชันและเวลาในการนำมาปรับใช้ ซึ่งทำให้ PaaS กลายเป็นกลุ่มที่เติบโตเร็วที่สุดในการประมวลผลคลาวด์ในปัจจุบัน
Infrastructure as a Service เป็นรูปแบบของระบบคลาวด์ที่ให้บริการด้านการจัดเก็บข้อมูลและเครือข่ายบนระบบคลาวด์ด้วยพื้นฐานการติดตามแบบสมาชิก IaaS จะมอบทางเลือกเพื่อเข้าถึงความสามารถในการคำนวณในรูปแบบการเชื่อมต่อของระบบปฏิบัติงาน การจัดเก็บข้อมูล และเครือข่ายผ่านพอร์ทัลแบบเว็บแก่องค์กร ซึ่งจะให้บริการในฐานะคอนโซลการจัดการเชิงปฏิบัติการ ผู้ให้บริการจะเป็นเจ้าของและบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐาน และทำการติดตั้งในศูนย์ข้อมูลโดยทั่วไป โครงสร้างพื้นฐานจะทำการประเมินตามความต้องการซึ่งทำให้แนวคิดเป็นที่ดึงดูดสำหรับธุรกิจที่กำลังเติบโตและยังไม่เติบโตเต็มที่ เนื่องจากไม่ต้องลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีด้วยตนเอง
PaaS และ IaaS
มีความสับสนระหว่าง Iaas และ PaaS อยู่บ่อยครั้งและองค์กรส่วนมากไม่เข้าใจว่ารูปแบบทั้งสองนี้มีไว้สำหรับความต้องการที่แตกต่างกันไปในองค์กรด้านไอที IaaS เกี่ยวกับการช่วยทำให้เข้าถึงฮาร์ดแวร์ เช่น พลังในการคำนวณ เซิร์ฟเวอร์ บริการเครือข่าย และการจัดเก็บข้อมูลในฐานะการบริการที่จ่ายตามการใช้งาน
PaaS คือแพลตฟอร์มที่ติดตั้งบนชั้นด้านบนของฮาร์ดแวร์นี้ และผู้จัดจำหน่ายชั้นนำในตลาดก็คือออราเคิล อิทธิพลของ PaaS เริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญในด้านการพัฒนา การนำไปปรับใช้ การบริหารจัดการ และการขยายแอพพลิเคชัน SaaS ทีมพัฒนาแอพพลิเคชันสามารถใช้สถาปัตยกรรม สิ่งที่เป็นประโยชน์ และผลิตภัณฑ์ เช่น IDEs หรือ Integrated Development Environments และจากนั้นนำแอพไปปรับใช้งานภายในองค์กรหรือคลาวด์แบบสาธารณะ การนำแนวคิดทางธุรกิจใหม่ ๆ และการสร้างแอพพลิเคชันเพื่อรองรับแอพพลิเคชันดังกล่าวสามารถทำสำเร็จได้รวดเร็วยิ่งขึ้นพร้อมกับความเสี่ยงที่ลดน้อยลงไปจากการใช้ PaaS
PaaS รูปแบบคลาวด์ที่เติบโตเร็วที่สุด
การ์ทเนอร์คาดการณ์ไว้ว่าตลาด PaaS จะมีมูลค่าสูงถึง 1.8 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐในปี 2015 และจะมีรายได้ทั่วโลกถึง 2.9 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐในปี 2016 องค์กรทั้งหลายกำลังมองหาบริการด้านแพลตฟอร์มที่ปล่อยให้สร้างและนำแอพพลิเคชันมาปรับใช้ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยความสามารถที่จะรวบรวมข้อมูลและขั้นตอนระหว่างระบบคลาวด์และระบบภายในองค์กรพร้อมกับลดความยุ่งยากลง องค์กรต่าง ๆ มีความกระตือรือร้นที่จะมีแอพพลิเคชันทางธุรกิจที่คล่องตัวมากขึ้น และมีความสามารถที่จะผสมผสานความสามารถทางอุปกรณ์เคลื่อนที่ การวิเคราะห์ และด้านโซเชียลชนิดใหม่เข้าด้วยกัน
จะเกิดประสิทธิภาพและความสามารถมากยิ่งขึ้นหากมีการสร้างความสามารถเหล่านี้ใน PaaS ดังนั้นก็จะสามารถนำไปใช้งานและแบ่งปันโดยแอพพลิเคชันจำนวนมากได้ คอมพิวเตอร์เคลื่อนที่คือตัวอย่างที่ดีเยี่ยม การรองรับการทำงานภายนอกหรือที่ต่าง ๆ ต้องมีการตระเตรียมอุปกรณ์ชนิดต่าง ๆ แพลตฟอร์มการพัฒนา และมาตรฐาน การมีแพลตฟอร์ม PaaS เพื่อจัดการแพลตฟอร์มและอุปกรณ์เคลื่อนที่จำนวนมากจะลดความยุ่งยากด้านไอทีซึ่งสอดคล้องกับการบูรณาการ ความปลอดภัย และความสามารถเชิงปฏิบัติการ ในบางกรณี เป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้นที่จะเคลื่อนย้ายแอพพลิเคชันทางธุรกิจของคุณไปยังระบบคลาวด์ที่คุณสามารถใช้ประโยชน์จากมุมมองด้านอุปกรณ์เคลื่อนที่ โซเชียล และการร่วมมือกันของแพลตฟอร์ม PaaS กว่าการสร้างบริการแอพพลิเคชันใหม่เหล่านี้จากการทำเองมาตั้งแต่ต้น
ขณะที่เราเคลื่อนตัวไปยังเศรษฐกิจดิจิทัล การบริการ PaaS จะมีความสำคัญมากยิ่งขึ้นสำหรับธุรกิจเพื่อสร้างความมั่นใจแก่การเข้าถึงตลาดที่เร็วขึ้นและการมีส่วนร่วมที่ดีขึ้นพร้อมกับพนักงานและผู้บริโภค PaaS กำลังกลายเป็นทางเลือกที่นิยมอย่างสูงสำหรับธุรกิจที่กำลังมองหาโซลูชันที่คล่องตัวมากขึ้นสำหรับการพัฒนา การทดสอบ และการนำแอพพลิเคชันตามความต้องการของลูกค้าไปใช้ให้เกิดประสิทธิภาพ