NetworkWorld ได้ออกมาสรุปถึงมาตรฐาน Wi-Fi ต่างๆ และเปรียบเทียบกันเอาไว้ ทางทีมงาน TechTalkThai เห็นว่ามีหลายมาตรฐานที่เหล่าผู้อ่านน่าจะยังไม่รู้จัก จึงขอหยิบยกมาแนะนำกันในบทความนี้ด้วยกัน 8 มาตรฐานเพื่อให้ทำความรู้จักและเตรียมรับมือกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะมาในอนาคตกันได้ง่ายขึ้น ดังนี้ครับ
** บทความนี้จะข้ามมาตรฐานที่เราใช้งานกันอยู่แล้วอย่างเช่น 802.11a/b/g/n/ac ไปนะครับ
1. 802.11ah
802.11ah นี้มีอีกชื่อหนึ่งว่า Wi-Fi HaLow โดยทำงานบนย่านความถี่ย่านต่ำกว่า 1GHz ลงไป ซึ่งมักจะเป็นช่วงย่าน 900MHz แต่ก็มีความแตกต่างกันในแต่ละประเทศอีกเช่นกัน
802.11ah ถูกออกแบบมาเพื่อเสริมระยะ Wi-Fi ให้กับย่านความถี่ 2.4GHz และ 5GHz โดยมีความเร็วสูงสุดที่ 347Mbps และใช้พลังงานในการเชื่อมต่อที่ต่ำ อีกทั้งด้วยระยะที่ไกล ก็ทำให้ 802.11ah เหมาะกับการนำไปใช้งานร่วมกับระบบ Internet of Things (IoT) เป็นหลักนั่นเอง
2. 802.11ad
มาตรฐาน Wi-Fi ความเร็วระดับ 6.7Gbps ที่ย่านความถี่ 60GHz แต่มีระยะเพียงแค่ 3.3 เมตรเท่านั้น สำหรับการรับส่งข้อมูลปริมาณมหาศาลในระยะใกล้ โดยไม่ส่งสัญญาณรบกวนกับสัญญารณ Wi-Fi ย่านปกติที่ใช้งานกัน
3. 802.11aj
มาตรฐานนี้ต่อยอดขึ้นมาจาก 802.11ad โดยใช้ย่านความถี่ 45GHz และ 59GHz – 64GHz หรือเรียกกันว่าย่าน China Millimeter Wave โดยยังคงรองรับ Backward Compatibility กับ 802.11ad ได้ และเพิ่มย่านความถี่ที่รองรับให้มากขึ้น โดยผู้ใช้งานยังคงเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สายได้ในรูปแบบเดียวกับมาตรฐาน 802.11 อื่นๆ
4. 802.11ak
เป็นมาตรฐานที่ถูกออกแบบมาเพื่อผสานเทคโนโลยีในมาตรฐาน 802.11 ซึ่งเป็นเทคโนโลยี Wi-Fi เข้ากับมาตรฐาน 802.3 ซึ่งเป็นเทคโนโลยี Ethernet โดยมุ่งเน้นเพื่อให้การสื่อสารบน 802.11 นี้สามารถส่งข้อมูลโดยมีการทำ 802.1q Bridged Network ได้ในตัว รวมถึงยังมีการปรับปรุง Data Rate, Security และ QoS ด้วย เพื่อให้การนำไปใช้งานภายในอาคารบ้านเรือนและโรงงานเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
5. 802.11ax
มีอีกชื่อหนึ่งว่า High Efficiency WLAN โดยถูกออกแบบมาสำหรับใช้งานในสถานที่ที่มีผู้ใช้งานหนาแน่น เช่น ภายในสนามกีฬา, ภายในสนามบิน โดยยังคงใช้ย่านความถี่ 2.4GHz และ 5GHz เช่นเดิม ด้วยเป้าหมายว่าจะออกแบบให้มีประสิทธิภาพสูงกว่า 802.11n และ 802.11ac 4 เท่าเป็นอย่างน้อย พร้อมให้มีการทำ Spectrum Utilization ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยมาตรฐานนี้คาดว่าจะถูกอนุมัติภายในเดือนกรกฎาคม 2019
6. 802.11ay
หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ Next Generation 60GHz โดยมีเป้าหมายเพื่อให้มี Throughput สูงสุดได้ถึง 20Gbps บนย่านความถี่ 60GHz พร้อมทั้งมีระยะรับส่งข้อมูลที่ไกลขึ้นและเสถียรยิ่งขึ้น มาตรฐานนี้คาดว่าจะถูกอนุมัติในปี 2019
7. 802.11az
เป็นมาตรฐานที่ถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Next Generation Positioning (NGP) โดยถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถระบุระยะห่างระหว่างแต่ละ Station ที่เชื่อมต่อกับ Wi-Fi มาตรฐานต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ และมีการปรับเปลี่ยน MAC Layer และ PHY Layer เพื่อให้การระบุตำแหน่งและระยะมีความแม่นยำสูงยิ่งขึ้นด้วยการใช้โปรโตคอล Fine Timing Measurement ซึ่งมาตรฐานนี้คาดว่าจะถูกอนุมัติภายในปี 2021
8. 802.11ba
เป็นที่รู้จักกันในชื่อ Wake-Up Radio (WUR) โดยถูกออกแบบมาเพื่อลดการใช้พลังงานในการสื่อสารและการรอรับข้อมูลของเหล่าอุปกรณ์และ Sensor ต่างๆ ภายใน IoT ให้มีอายุยืนยาวได้เป็นหลัก