ไมโครซอฟท์ได้สานต่อความร่วมมือกับ OpenAI ทีมวิจัยระดับโลกด้าน AI เพื่อนำศักยภาพด้านการสร้างสรรค์และความเข้าใจทางภาษาของโมเดล Generative AI จาก OpenAI มาเสริมศักยภาพให้กับการทำงานของทุกองค์กร ผ่านทางบริการ Azure OpenAI ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2023 ที่ผ่านมา หลังจากที่ได้เริ่ม พรีวิวบริการนี้ไปตั้งแต่ช่วงปลายปี 2021

นับตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา ไมโครซอฟท์ทำงานร่วมกับ OpenAI อย่างใกล้ชิด ด้วยพันธกิจที่สอดคล้องกัน
พันธกิจของไมโครซอฟท์:
Empower every person and every organization on the planet to achieve more.
เสริมศักยภาพให้ทุกคนและทุกองค์กรได้บรรลุผลสำเร็จทีดียิ่งกว่า
พันธกิจของ OpenAI:
Ensure that artificial general intelligence (AGI) benefits all of humanity.
ช่วยให้เทคโนโลยี AGI (“ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป”) สามารถสร้างประโยชน์ให้กับมนุษยชาติ
เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนก้าวต่อไปของ AI เข้าสู่ยุคของ “Generative AI” (“AI รู้สร้าง”) ที่ไม่ใช่แค่เรียนรู้ คิดวิเคราะห์ได้ แต่สามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้จากความรู้ความเข้าใจที่มีอยู่ โดยทั้งสองฝ่ายมุ่งหวังให้ทุกภาคส่วนได้มีโอกาสเข้าถึง AI ได้อย่างทั่วถึงและปลอดภัย และมีโอกาสในการขับเคลื่อนความสามารถของ AI ให้เกิดประโยชน์กับเศรษฐกิจ สังคม และชีวิตมนุษย์ไปพร้อมๆ กัน
ภายใต้ความร่วมมือนี้ ไมโครซอฟท์ได้พัฒนาซูเปอร์คอมพิวเตอร์เพื่อการพัฒนาและฝึกสอน AI ของทาง OpenAI โดยเฉพาะ นับตั้งแต่ช่วงกลางปี 2020 เป็นต้นมา จึงทำให้ Azure เป็นแพลตฟอร์มคลาวด์สมรรถนะสูง รองรับการใช้งานกับ AI ได้เป็นอย่างดี และยังนับเป็นผู้ให้บริการคลาวด์สาธารณะรายเดียวที่มีซูเปอร์คอมพิวเตอร์สมรรถนะสูงติด 15 อันดับแรกของโลก
บริการ Azure OpenAI นำโมเดล AI 3 โมเดลใหญ่ของ OpenAI มาเปิดให้ใช้งานกันได้อย่างสะดวกสบายและยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้นบน Azure จึงทำให้องค์กรไม่จำเป็นต้องลงทุนไปกับการพัฒนาศูนย์ข้อมูลหรือซูเปอร์คอมพิวเตอร์ด้วยตัวเอง โดยทั้ง 3 โมเดล ได้แก่

- GPT (Generative Pre-trained Transformer)
โมเดลขนาดใหญ่ด้านภาษา (Large Language Model) ที่สามารถสร้างสรรค์ข้อความและสื่อสารกับมนุษย์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ - DALL·E
โมเดลที่สามารถสร้างสรรค์ภาพขึ้นได้ตามคำสั่งของผู้ใช้ โดยทำได้ทั้งภาพศิลปะและภาพที่สมจริง - Codex
โมเดลสำหรับการเขียนโค้ด เพื่อสนับสนุนนักพัฒนาให้ทำงานได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น
ทั้งหมดนี้ ทำให้ Azure OpenAI สามารถนำไปปรับใช้ได้กับหลากหลายสถานการณ์ นับตั้งแต่การร่างบทความหรือหาแนวคิดตั้งต้น ค้นหา วิเคราะห์ และสรุปข้อมูล ช่วยเขียนโค้ด วาดภาพ หรือการบริการลูกค้า โดยนอกจากโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมและความยืดหยุ่นในการใช้งานแล้ว บริการ Azure OpenAI ยังเปิดโอกาสให้ผู้ใช้นำโมเดล AI ไปฝึกสอนเพิ่มเติมด้วยเนื้อหาและข้อมูลภายในองค์กร เพื่อให้บริการในรูปแบบเฉพาะทางได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
ทั้งนี้ บริการ AI บน Azure ยังมีเครื่องมือ แนวทาง คำแนะนำ เพื่อให้นักพัฒนาและองค์กรเลือกใช้งาน AI ได้อย่างเหมาะสม มีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยยึดมั่นในหลักการ 6 ข้อ ได้แก่
- ยุติธรรม (Fairness)
- ไว้ใจได้ (Reliability and Safety)
- ปลอดภัยและเป็นส่วนตัว (Privacy and Security)
- เสมอภาค (Inclusiveness)
- โปร่งใส (Transparency)
- มีความรับผิดชอบ (Accountability)
ไมโครซอฟท์มีความตั้งใจที่จะนำ AI ไปปรับใช้และผสมผสานเข้ากับทุกผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อเสริมศักยภาพให้ผู้ใช้ทุกระดับทำงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยที่ผ่านมา ได้มีการนำเทคโนโลยี OpenAI ไปผสมผสานในหลากหลายนวัตกรรม นับตั้งแต่ตัวช่วยเขียนโค้ด GitHub Copilot ฟังก์ชันช่วยเขียนสูตรสำหรับจัดการข้อมูลใน Power Apps ระบบสร้างภาพวาดและกราฟฟิกใน Microsoft Designer และ Bing Image Creator การสรุปการประชุมอัตโนมัติใน Microsoft Teams Premium การสนับสนุนงานขายใน Viva Sales และล่าสุดกับ Bing และ Edge เวอร์ชันใหม่
