CDIC 2023

พฤติกรรมที่ขาดความมั่นคงปลอดภัยเป็นเหมือนโรคร้ายต่อองค์กร

ผลสำรวจจาก Preempt ผู้ให้บริการด้านความมั่นคงปลอดภัยและผู้เชี่ยวชาญระบบเครือข่ายที่เข้าไปสำรวจพนักงานระดับบริหารกว่า 200 คนในองค์กรที่มีลูกจ้างมากกว่า 1 พันคน พบว่าลูกจ้างมีสิทธิ์ในการเข้าถึงมากกว่าที่ควรจะเป็น โดยประมาณ 25% มีความพยายามที่จะเข้าถึงข้อมูลมากกว่าสิทธิ์ที่สมควรได้ในที่ทำงานและ 60% ในจำนวนนี้สามารถทำได้สำเร็จ

Credit: bikeriderlondon/ShutterStock

นี่เป็นเรื่องที่น่าตกใจเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะทีม IT Security ควรจะให้ความสนใจเรื่องการเข้าถึงข้อมูลและทรัพยากรเกินขอบเขตเป็นเรื่องหลัก รายงานยังได้ระบุว่า “ข้อมูลที่ถูกเปิดเผยนั้นสามารถทำให้บริษัทและพนักงานมีความเสี่ยงที่อาจจะทำให้การดำเนินงานของธุรกิจและความน่าเชื่อถือขององค์กรเสียหายได้ ดังนั้นในธุรกิจควรจะประเมินปัจจัยความเสี่ยงจากลูกจ้างที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดช่วงเวลาการจ้างงาน เช่นกันสำหรับ IT Security ผลสำรวจนี้ชี้ไปถึงว่าทีมควรทำความเข้าใจให้มากขึ้นถึงวิธีการประเมินความเสี่ยงและความน่าเชื่อถือต่อพนักงาน

สถิติที่น่าสนใจของพฤติกรรมที่มีความมั่นคงปลอดภัยต่ำมีดังนี้

  • 1 ใน 3 ของลูกจ้างยอมรับว่าทำผิดกฎหรือทำงานบางอย่างให้เสร็จโดยไม่ได้แก้ปัญหาอย่างถาวรและในจำนวนนี้มากกว่า 10% ปฏิบัติเป็นประจำหรือเป็นครั้งคราว
  • 41% ของลูกจ้างใช้รหัสผ่านของที่ทำงานเหมือนกับรหัสผ่านของบัญชีส่วนตัว
  • 20% ของลูกจ้างตระหนักถึงรหัสผ่านว่าอาจจะถูกแทรกแทรงได้จากภาวะการรั่วไหลของข้อมูล
  • 56% บอกว่าพวกเขาจะเปลี่ยนรหัสผ่านบัญชีที่มีการรั่วไหลเท่านั้น
  • มากกว่า 1 ใน 3 จะไม่รู้เรื่องอะไรเลยหากชื่อหรือรหัสผ่านบัญชีรั่วไหนสู่สาธรณะ
  • เมื่อถามถึงการให้คะแนนตัวเองถึงเรื่อง IT Security เทียบกับคนอื่นๆ ในองค์กรว่าเป็นอย่างไร พบว่า 41% บอกว่าพวกเขาอยู่ในกลุ่ม 25% แรก อีก 50% ให้คะแนนตัวเองว่าอยู่ในกลุ่ม 25 – 75% มีเพียง 9% เท่านั้นที่ยอมรับว่าตัวเองมีพฤติกรรมต่ำกว่าค่าเฉลี่ย

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่าผู้คนไม่สนใจและไม่มีวิธีการที่จะทราบได้เลยว่าชื่อและรหัสผ่านถูกแทรกแซงแล้วจากเหตุการณ์การข้อมูลรั่วไหล ถ้าลูกจ้างเอาชื่อและรหัสที่รั่วไหลไปใช้ องค์กรก็จะตกอยู่ในความเสี่ยงโดยทันทีจากแฮ็กเกอร์ที่ได้รหัสนี้ไปและรหัสผ่านที่อ่อนแอก็ยังทำให้องค์กรตกอยู่บนความเสี่ยงเช่นเดียวกัน Preemt ยังกล่าวอีกว่า “ผลลัพธ์ที่สำรวจมานั้นแสดงอย่างชัดเจนว่าลูกจ้างไม่เข้าใจพฤติกรรมในที่ทำงานและทำให้องค์กรตัวเองตกอยู่ในความเสี่ยง” นอกจากนี้การที่มีความมั่นใจมากเกินไปอาจนำไปสู่ความเสี่ยงอย่างมหาศาล เมื่อลูกจ้างไม่เข้าใจว่าพฤติกรรมหรือนิสัยนั้นเป็นความเสี่ยงพวกเขาย่อมไม่เปลี่ยนแปลง การสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการระบุตัวตน พฤติกรรม และความเสี่ยง จะช่วยให้ IT สามารถควบคุมและป้องกันภัยคุกคาม เช่น บังคับใช้นโยบาย ทำการเข้าถึงให้มีความมั่นคงปลอดภัย และหาช่องทางที่จะลดความเสี่ยงได้

ที่มา : https://www.infosecurity-magazine.com/news/poor-security-habits-plague-large/


About nattakon

จบการศึกษา ปริญญาตรีและโท สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ KMITL เคยทำงานด้าน Engineer/Presale ดูแลผลิตภัณฑ์ด้าน Network Security และ Public Cloud ในประเทศ ปัจจุบันเป็นนักเขียน Full-time ที่ TechTalkThai

Check Also

5 เครื่องมือโอเพ่นซอร์สสแกนหาช่องโหว่

หลายท่านอาจคงมีเครื่องมือการสแกนหาช่องโหว่อยู่แล้วในมุมมองต่างๆ แต่ในบทความนี้เราขอพาทุกท่านไปรู้จักกับ 5 เครื่องมือฟรี ที่ช่วยตอบโจทย์การค้นหาช่องโหว่

เชิญร่วมงานสัมมนาออนไลน์ Unlock the Limits of Your SAP System with Google Cloud โดย Tangerine [18 ต.ค. 2023]

พลาดไม่ได้! สำหรับองค์กรที่ใช้ระบบ SAP ซึ่งนับเป็นระบบสำคัญที่อยู่เบื้องหลังในการดำเนินธุรกิจให้สำเร็จ ซึ่งภายใต้การแข่งขันที่สูงขึ้นความสำคัญก็ยิ่งเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ฉะนั้นจะทำอย่างไร? ให้ธุรกิจสามารถรองรับการใช้งานตามความต้องการที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และจะดีกว่าหรือไม่ หากสามารถนำข้อมูลภายใน SAP มาประยุกต์ใช้กับข้อมูลภายนอก สร้าง Analytics Dashboard ได้ง่ายและรวดเร็ว …