IBM Flashsystem

[Guest Post] วีเอ็มแวร์ นำเสนอระบบ Intrinsic Security ความปลอดภัยที่รวมอยู่ภายในสำหรับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เพื่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพิ่มความรวดเร็วในการสร้างสรรค์นวัตกรรมทางด้านธุรกิจ รองรับการปรับเปลี่ยนอย่างยืดหยุ่น

  • มุ่งเน้น Intrinsic Security ระบบรักษาความปลอดภัยที่แท้จริง ที่รวมอยู่ภายใน เพื่อให้องค์กรธุรกิจพร้อมรองรับอนาคต รวมถึงการทำงานจากที่บ้านและนอกสถานที่
  • โซลูชันที่ก้าวล้ำขยายขีดความสามารถในการตรวจสอบองค์กรอย่างทั่วถึง รองรับการตอบสนอง ปรับตัว เร่งการดำเนินธุรกิจในโลกวิถีใหม่

 

วีเอ็มแวร์ ผู้นำด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมสำหรับซอฟต์แวร์ระดับองค์กร เปิดเผยถึงการพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยที่แท้จริงที่รวมอยู่ภายใน (Intrinsic Security) ซึ่งจะช่วยให้องค์กรต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถปกป้องธุรกิจให้ปลอดภัยในโลกวิถีใหม่ โดยครอบคลุมบุคลากรที่ทำงานจากที่บ้านและนอกสถานที่ รวมไปถึงระบบคลาวด์ภายในองค์กรและระบบคลาวด์สาธารณะ  โซลูชันซีเคียวริตี้ดังกล่าวจะยกระดับการรักษาความปลอดภัยสำหรับระบบคลาวด์สาธารณะและระบบคลาวด์ภายในองค์กร รวมถึงส่วนปฏิบัติงานด้านการรักษาความปลอดภัย และบุคลากรที่กระจัดกระจายอยู่ตามที่ต่าง ๆ ช่วยให้ผู้บริหารฝ่ายรักษาความปลอดภัยสารสนเทศ (Chief Information Security Officer – CISO) สามารถจัดการและคุ้มครองดูแลการเข้าถึงแอพต่าง ๆ บนระบบคลาวด์ซึ่งส่งผ่านไปยังอุปกรณ์ทุกประเภทได้อย่างชาญฉลาด ควบคู่ไปกับการสร้างธุรกิจที่ยืดหยุ่น พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอนในอนาคต

รายงานเกี่ยวกับภัยคุกคามทั่วโลกของวีเอ็มแวร์ คาร์บอนแบล็ค (VMware Carbon Black’s Global Threat Report[1]) ชี้ว่า สถานการณ์ภัยคุกคามทางไซเบอร์ทั่วโลกมีความเคลื่อนไหวมากขึ้นสืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดย 91% ของบุคลากรฝ่ายรักษาความปลอดภัยทั่วโลกที่ตอบแบบสอบถามระบุว่าตนเองได้พบเห็นแนวโน้มการโจมตีทางไซเบอร์โดยรวมที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเป็นผลมาจากการที่พนักงานทำงานจากที่บ้านกันมากขึ้น  นอกจากนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามทั่วโลก 32% พบว่ามีปัญหาช่องว่างที่สำคัญอย่างมากสำหรับความสามารถขององค์กรในการตรวจสอบภัยคุกคามด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ ขณะที่กว่าหนึ่งในสี่ (28%) ของผู้ตอบแบบสอบถามรู้สึกว่ามีปัญหาช่องว่างที่สำคัญหรือร้ายแรงในแง่ของการรองรับการทำงานจากที่บ้าน  ในสภาพแวดล้อมธุรกิจแบบใหม่ที่มีการกระจัดกระจายสูงมากเช่นนี้ องค์กรธุรกิจจำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนแนวทางเรื่องการรักษาความปลอดภัย เพื่อปกป้ององค์กรจากการโจมตีทางไซเบอร์ที่มีความซับซ้อนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีการใช้เทคนิคและวิธีการที่หลากหลายกว่าที่เคยมีมา เพื่อขู่กรรโชกองค์กร ทำให้การดำเนินงานหยุดชะงัก และแทรกซึมเข้าสู่องค์กร

ซันเจย์ เค. เดชมุคห์ รองประธานและกรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเกาหลี วีเอ็มแวร์ กล่าวว่า “องค์กรธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พึ่งพานวัตกรรมดิจิทัลอย่างมาก เพื่อตอบสนอง ปรับตัว และเพิ่มความรวดเร็วฉับไวในการดำเนินธุรกิจ ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ และจำเป็นที่จะต้องเพิ่มความยืดหยุ่นและความปลอดภัยให้แก่องค์กร เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จในระยะยาว  วีเอ็มแวร์มุ่งมั่นที่จะช่วยให้องค์กรธุรกิจในภูมิภาคนี้ปรับใช้แนวทางของเราในเรื่องการรักษาความปลอดภัยที่แท้จริง ซึ่งจะช่วยให้องค์กรปรับเปลี่ยนการดำเนินงานได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย ควบคู่ไปกับการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนในสภาพแวดล้อมธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง”

ที่งาน VMworld 2020 วีเอ็มแวร์นำเสนอโซลูชันและบริการที่หลากหลายเพื่อช่วยให้องค์กรต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถอยู่รอดและเติบโตอย่างมั่นคงในอนาคตในตลาดที่มีความวุ่นวายมากที่สุด  วีเอ็มแวร์นำเสนอแพลตฟอร์มคลาวด์ ดิจิทัลเวิร์กสเปซ เน็ตเวิร์ก ซีเคียวริตี้ และการปรับปรุงแอพให้ทันสมัย ซึ่งเป็นรากฐานดิจิทัลที่ยืดหยุ่นและสอดคล้องกันสำหรับการสร้าง ใช้งาน จัดการ เชื่อมต่อ และปกป้องแอปพลิเคชันต่าง ๆ ในทุก ๆ ที่

 

 

การรักษาความปลอดภัยสำหรับระบบคลาวด์ภายในองค์กรและระบบคลาวด์สาธารณะ

องค์กรต่างๆ มุ่งพัฒนาไปสู่แพลตฟอร์มคลาวด์และการปรับปรุงแอปพลิเคชันให้ทันสมัย และต้องการโซลูชันการรักษาความปลอดภัยที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพและใช้งานง่าย  ด้วยเหตุนี้ วีเอ็มแวร์จึงได้เปิดตัว VMware Carbon Black Cloud WorkloadTM ซึ่งให้การปกป้องที่เหนือกว่า ออกแบบเป็นพิเศษสำหรับการคุ้มครองเวิร์กโหลดที่ทันสมัย เพื่อลดช่องทางการโจมตี และเสริมสร้างสถานะความปลอดภัยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น  นวัตกรรมโซลูชันดังกล่าวประกอบด้วยฟีเจอร์การรายงานความเสี่ยงตามลำดับความสำคัญและการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเวิร์กโหลดพื้นฐาน รวมไปถึงเทคโนโลยีชั้นนำด้านการป้องกัน ตรวจจับ และตอบสนองต่อภัยคุกคาม เพื่อปกป้องเวิร์กโหลดที่รันอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบเวอร์ช่วลไลซ์ ระบบคลาวด์ภายในองค์กร และระบบคลาวด์แบบไฮบริด

โซลูชันดังกล่าวผสานรวมความเชี่ยวชาญด้านการรักษาความปลอดภัยของคาร์บอนแบล็ค เข้ากับความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับดาต้าเซ็นเตอร์ของวีเอ็มแวร์ เพื่อสร้างระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับเวิร์กโหลดที่ โซลูชัน VMware Carbon Black Cloud Workload บูรณาการเข้ากับ vSphere อย่างกลมกลืน โดยทำหน้าที่เป็นระบบรักษาความปลอดภัยแบบไม่ใช้เอเจนต์ (Agentless) ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการติดตั้งและจัดการระบบ และประกอบด้วย Telemetry ต่าง ๆ สำหรับการคุ้มครองเวิร์กโหลดในกรณีการใช้งานที่หลากหลาย  โซลูชันแบบครบวงจรนี้จะช่วยให้ทีมงานฝ่ายรักษาความปลอดภัยและฝ่ายโครงสร้างพื้นฐานสามารถปกป้องเวิร์กโหลดใหม่ๆ และเวิร์กโหลดที่มีอยู่ได้โดยอัตโนมัติในทุก ๆ จุด ตลอดทุกขั้นตอนของการรักษาความปลอดภัย ทั้งยังเพิ่มความสะดวกในการควบคุมดูแลและผนวกรวมสแต็คด้านไอทีและซีเคียวริตี้เข้าไว้ด้วยกัน  สำหรับทีมงานฝ่ายรักษาความปลอดภัย โซลูชัน VMware Carbon Black Cloud Workload จะให้คุณประโยชน์ดังต่อไปนี้:

  • การตรวจสอบอย่างทั่วถึงเพื่อระบุความเสี่ยงและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเวิร์กโหลด: Carbon Black Cloud Workload ช่วยให้ทีมงานฝ่ายรักษาความปลอดภัยและฝ่ายโครงสร้างพื้นฐานสามารถทุ่มเทความสนใจไปยังจุดอ่อนที่มีความเสี่ยงสูงที่สุด รวมถึงช่องโหว่ที่พบเห็นได้ทั่วไปในสภาพแวดล้อม เพราะโซลูชันนี้ไม่ได้มุ่งเน้นการค้นหาจุดอ่อนให้ได้จำนวนมากที่สุด แต่เป็นการค้นหาจุดอ่อนที่มีโอกาสถูกโจมตีมากที่สุด

 

  • การป้องกัน ตรวจจับ และตอบสนองต่อการโจมตีขั้นสูง: ทีมงานฝ่ายรักษาความปลอดภัยมักจะขาดความสามารถในการตรวจสอบและควบคุมภายในสภาพแวดล้อมดาต้าเซ็นเตอร์แบบเวอร์ช่วลไลซ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โซลูชั่น Carbon Black Cloud Workload จะช่วยปกป้องเวิร์กโหลดที่รันอยู่ในสภาพแวดล้อมดังกล่าว ด้วยการประเมินจุดอ่อนและการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของเวิร์กโหลด บวกกับเทคโนโลยีการป้องกันไวรัสแห่งอนาคต (Next-Generation Antivirus – NGAV) การตรวจสอบพฤติกรรมของเวิร์กโหลด และการตรวจจับและตอบสนองต่ออุปกรณ์ปลายทาง (Endpoint Detection and Response – EDR) สำหรับเวิร์กโหลดต่างๆ

 

  • การดำเนินงานที่ง่ายขึ้นสำหรับทีมงานฝ่ายไอทีและฝ่ายรักษาความปลอดภัย: แนวทางแบบ Intrinsic ของวีเอ็มแวร์เป็นการสร้างระบบรักษาความปลอดภัยที่รวมอยู่ภายในระบบเวอร์ช่วล เพื่อปกป้องเวิร์กโหลดในทุก ๆ ที่ และทำให้ทีมงานไม่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่างความปลอดภัยกับความสะดวกในการดำเนินงาน

Carbon Black Cloud Workload จะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมในภายหลังในช่วงปีนี้ รวมถึงโมดูล Carbon Black Cloud สำหรับการเสริมสร้างความแข็งแกร่งและคุ้มครองเวิร์กโหลด Kubernetes ความสามารถใหม่ๆ เหล่านี้จะช่วยให้ทีมงานฝ่ายรักษาความปลอดภัยสามารถกำกับดูแลและควบคุมสภาพแวดล้อม Kubernetes ได้อย่างเหมาะสม

 

อนาคตของการดำเนินงานด้านความปลอดภัย

การตรวจจับและตอบสนองต่อกรณีปัญหาด้านความปลอดภัยมีความสำคัญและความท้าทายเพิ่มมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน  องค์กรต่าง ๆ จึงต้องการ “มุมมอง” ที่หลากหลายมากขึ้นสำหรับการตรวจสอบอุปกรณ์ปลายทาง เวิร์กโหลด ผู้ใช้ และแอปพลิเคชันต่าง ๆ และต้องการแนวทางที่รอบด้านมากกว่าเดิมสำหรับการตอบสนองต่อภัยคุกคาม เนื่องจากเวิร์กโหลดและแอปพลิเคชันต่าง ๆ มีการเชื่อมต่อถึงกันเพิ่มมากขึ้น

Extended Detection and Response (XDR) จะช่วยแก้ไขปัญหานี้ ด้วยการจัดหาแนวทางแบบครบวงจรสำหรับการตรวจจับและตอบสนองต่อกรณีปัญหาด้านความปลอดภัย ซึ่งอาจเกิดขึ้นในหลายๆ ส่วน ตั้งแต่อุปกรณ์ปลายทาง เวิร์กโหลด ไปจนถึงผู้ใช้และเครือข่าย

 

การรักษาความปลอดภัยสำหรับบุคลากรที่ทำงานนอกสถานที่

บุคลากรที่ทำงานจากที่บ้านหรือนอกสถานที่ก่อให้เกิดปัญหาท้าทายในหลายๆ เรื่อง เช่น การเพิ่มพนักงานเข้าสู่ระบบ การตรวจสอบและกำกับดูแล การรักษาความปลอดภัย การคุ้มครองพนักงาน และอื่น ๆ เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาท้าทายเหล่านี้และรองรับการทำงานรูปแบบใหม่ในอนาคต องค์กรจำเป็นที่จะต้องพลิกโฉมแนวทางการรักษาความปลอดภัย การให้บริการ และความซับซ้อนในการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมไอที  และเพื่อตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าว วีเอ็มแวร์จึงได้เปิดตัวส่วนขยายเพิ่มเติมสำหรับ VMware SASE Platform, Workspace Security VDI และ Workspace Security Remote

โซลูชันใหม่นี้จะรองรับการควบคุมระบบรักษาความปลอดภัยอย่างครบวงจรตามแนวทาง Zero Trust ทั้งยังเพิ่มความสะดวกในการบริหารจัดการ โดยอาศัยเทคโนโลยีชั้นนำอย่างเช่น Secure Access Service Edge, Digital Workspace และ Endpoint Security ซึ่งทำงานอย่างสอดประสานกันบนแอปพลิเคชั่น ระบบคลาวด์ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ทั้งหมด

 

บูรณาการระบบแบบคลิกเดียว (One-Click) ร่วมกับ Zscaler

พร้อมกันนี้ วีเอ็มแวร์และ Zscaler ได้เปิดตัวส่วนบูรณาการระบบใหม่ ซึ่งจะรองรับการตรวจสอบและปกป้องบุคลากรที่ทำงานนอกสถานที่ได้อย่างทั่วถึงและครบวงจร  ส่วนบูรณาการระบบแบบ One-Click นี้จะช่วยให้ลูกค้าของทั้งสองบริษัทสามารถหยุดยั้งภัยคุกคามใหม่ๆ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่ออุปกรณ์ปลายทาง และรองรับการเข้าใช้งานแอปพลิเคชันภายในองค์กรแบบมีเงื่อนไขตามแนวทาง Zero Trust อย่างแท้จริง

 

เกี่ยวกับวีเอ็มแวร์

วีเอ็มแวร์เป็นผู้นำระดับโลกด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มีความซับซ้อน บริการคลาวด์, เน็ตเวิร์กกิ้ง, ระบบซีเคียวริตี้และดิจิทัลเวิร์คเพลสของวีเอ็มแวร์พร้อมมอบรากฐานดิจิทัลแบบไดนามิกและมีประสิทธิภาพให้กับลูกค้าทั่วโลก ภายใต้ความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์มากมาย โดยสำนักงานใหญ่วีเอ็มแวร์ตั้งอยู่ที่เมืองพาโล อัลโต รัฐแคลิฟอร์เนีย วีเอ็มแวร์ยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นพลังสนับสนุนที่ดี จากแนวโน้มและผลกระทบการจัดการนวัตกรรมเชิงพื้นที่ในระดับโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูได้ที่ https://www.vmware.com/company.html

VMware, Carbon Black, VMworld, และ Carbon Black Cloud Workload เป็นเครื่องหมายทางการค้าของวีเอ็มแวร์ อิงค์ หรือ บริษัทในเครือในประเทศสหรัฐอเมริกาและเขตอื่นๆ บทความนี้อาจเพิ่มไฮเปอร์ลิงค์เพื่อนำไปสู่เว็บไซต์ที่ไม่ใช่ของ VMware โดยเว็บไซต์นั้นๆ ถูกสร้างและดูแลโดยบุคคลที่สามซึ่งจะเป็นผู้รับผิดชอบเนื้อหาในเว็บไซต์นั้นๆ แต่เพียงผู้เดียว

[1] Global Threat Report: Extended Enterprise Under Threat, VMware Carbon Black, August 2020

About Maylada

Check Also

Adobe เปิดตัว LLM Optimizer ช่วยธุรกิจเพิ่มการมองเห็นแบรนด์ในยุค AI Browser และ Chat Services

Adobe เปิดตัว LLM Optimizer เครื่องมือใหม่สำหรับองค์กรช่วยติดตาม traffic จาก AI และให้คำแนะนำปรับปรุงเนื้อหา หลังพบ traffic จาก Generative AI เพิ่มขึ้น …

สร้างโอกาสด้วยทักษะ AI ขับเคลื่อนอนาคตคนไทยอย่างยั่งยืน

กรุงเทพฯ 16 มิถุนายน 2568 – ในยุคที่เทคโนโลยีและนวัตกรรม กำลังเปลี่ยนแปลงโลกอย่างรวดเร็ว ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้เข้ามามีบทบาทในฐานะเครื่องมือที่ช่วยเสริมพลังให้มนุษย์สามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้อย่างไร้ขีดจำกัด หากเราสามารถนำ AI มาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ย่อมเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ ให้กับชีวิต ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย มุ่งมั่นเสริมสร้างทักษะ AI ให้กับคนไทยผ่านโครงการ “THAI Academy: ขับเคลื่อนอนาคต AI ประเทศไทย”ขอแบ่งปันเรื่องราวความสำเร็จของคนไทยที่ใช้ AI เป็นขุมพลังอันชาญฉลาดขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในมิติต่างๆ ได้อย่างที่ใครหลายคนอาจไม่เคยทราบมาก่อน