เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่องค์กรต่างพากันก้าวเข้าสู่โลกแห่ง Multi-cloud ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจสามารถเลือกสรรบริการที่ดีที่สุดให้ตัวเองได้ นอกจากนี้ยังไม่จำเป็นต้องผูกขาดตัวเองเข้ากับผู้ให้บริการเจ้าใดเจ้าหนึ่ง แต่รู้หรือไม่ว่าท่านกำลังตกอยู่ในความเสี่ยงเนื่องจากข้อมูลได้ถูกใช้งานอย่างกระจัดกระจายตามไปด้วย ดังนั้นหนึ่งในเรื่องที่ต้องทำก็คือการดูแลความปลอดภัยข้อมูลของท่านด้วยระบบที่ถูกออกแบบมาให้สามารถรองรับการใช้งานในหลากหลายรูปแบบ
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา Veritas ผู้นำในโซลูชันการปกป้องข้อมูลได้ประกาศเปิดตัว Veritas NetBackup 10 ซึ่งชูโรงด้วยคอนเซปต์หลักสองเรื่องคือ Cloud Scale Technology และ Autonomous Data Management โดยวันนี้เองทีมงาน TechTalkThai จะพาทุกท่านไปค้นหาความหมายในแนวคิดและฟีเจอร์ใหม่ของ Veritas NetBackup 10 กันครับ
Cloud Scale Technology คืออะไร
Cloud Scale Technology เป็นการผลิกโฉมการทำงานของ NetBackup ให้ตอบโจทย์ Workload อย่างทันสมัย โดยมีคุณสมบัติเรื่องของการขยายตัว ความทนทาน และอื่นๆ คล้ายกับว่าท่านมีระบบคลาวด์ขนาดใหญ่ที่ล่มได้ยากมาก นอกจากนี้ยังรวมไปถึงความสามารถที่ทำให้ผู้ดูแลสามารถทำงานได้อย่างอัตโนมัติด้วย
อย่างไรก็ดีแนวคิดที่ยิ่งใหญ่ได้ก่อตัวขึ้นมาจากหลายเทคโนโลยีไม่ว่าจะเป็น Containerize, Kubernetes, AI/ML, Playbook, Hyper-Automation, Elastic และ Subscription ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกออกแบบมาให้ทำงานได้บนคลาวด์อย่างแท้จริงที่เรียกว่า Cloud-Native
Autonomous Data Management
อีกหนึ่งคอนเซปต์ที่ NetBackup 10 ให้ความสำคัญมากก็คือเรื่องความสามารถในการบริหารจัดการข้อมูลขององค์กรได้อย่างอัตโนมัติ สาเหตุเพราะแม้ปัจจุบันโซลูชันตามท้องตลาดมักอ้างว่าตนมี API ให้ลูกค้านำไปทำงานอย่างอัตโนมัติ แต่ปัญหาก็คือท่านต้องมีการติดตามอัปเดตสอดส่องการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอเมื่อเวอร์ชันใหม่มาถึง ด้วยเหตุนี้เอง Veritas จึงได้อาศัยความสามารถของ AI/ML ที่นำไปสู่แนวทาง Hyperautomation ลดการพึ่งพาคนให้น้อยลงที่มักเกิดความผิดพลาดได้ง่ายกว่าการตัดสินใจจากระบบ และทั้งหมดนี้จึงทำให้องค์กรสามารถทำงานได้ง่ายขึ้น อยู่บนระบบที่แน่นอน รวดเร็ว และมั่นใจได้
6 ฟีเจอร์ใหม่ของ Veritas NetBackup 10
1.) Kubernetes
การสำรองข้อมูลของ Kubernetes ไม่ได้เป็นเรื่องใหม่ซะทีเดียว เพราะอันที่จริงแล้วตั้งแต่ NetBackup 9.1 ท่านก็สามารถสำรองข้อมูลกับ Kubernetes ได้แล้ว เพียงแต่ว่าในเวอร์ชันใหม่นี้จะรองรับ Kubernetes ได้หลายค่ายมากกว่าเดิมไม่ว่าจะเป็น OpenShift, Azure Kubernetes Service, Amazon Kubernetes Service และอื่นๆ กล่าวคือเป็นการทลายข้อจำกัด ไม่ว่าท่านจะรันระบบ Kubernetes อยู่ที่ใดก็สามารถสำรองข้อมูลได้อย่างมั่นใจ อีกทั้งสามารถกู้คืนข้าม Distribution ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาในด้านการใช้งานอื่นๆเช่น สามารถสำรองข้อมูล Kubernetes ไปยัง Storage ใดๆได้โดยตรงในหน้า WebUI ของ NetBackup 10 หรือการสำรองข้อมูลที่รองรับฟังก์ชัน Deduplication ได้ด้วย
2.) Subscription License
ในอดีตนั้นองค์กรจำเป็นต้องวางแผนค่าใช้จ่ายเผื่ออนาคต 3-5 ปี ทำให้ต้องมีการคาดคะเนการใช้งานเพื่อลงทุนล่วงหน้า แน่นอนว่าเป็นโจทย์ยากสำหรับธุรกิจ ยิ่งในสภาวะการแข่งขันบนโลกดิจิทัลอย่างปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้เองการปรับตัวสู่โมเดลค่าใช้จ่ายแบบ Subscription ของ Veritas NetBackup 10 จะทำให้องค์กรมีความยืดหยุ่นและคล่องตัวมากกว่าเดิม ไม่ว่าท่านจะรัน NetBackup อยู่ที่ใดก็ตามทั้ง On-premise หรือคลาวด์
3.) Cyber-Resiliency
ระบบสำรองข้อมูลมักเป็นที่พึ่งสุดท้ายกรณีที่ระบบขององค์กรเกิดความผิดพลาดไม่ว่าด้วยสาเหตุใดก็ตาม แต่จะเกิดอะไรขึ้นหากท่านไม่สามารถไว้วางใจข้อมูลที่จะกู้คืนกลับมา ซึ่งใน NetBackup 10 ทาง Veritas ได้ยกระดับการตรวจสอบข้อมูลไว้อย่างรัดกุมกว่าที่เคยด้วย 2 ฟีเจอร์สำคัญคือ
- ใช้ AI ตรวจจับค้นหาสิ่งผิดปกติในชุดข้อมูลของท่านระหว่างการสำรองข้อมูล หากต้องสงสัยจะสแกนค้นหามัลแวร์และจัดการความอันตรายเหล่านั้น ด้วยเหตุนี้เองการกู้คืนไฟล์ของท่านจึงมั่นใจได้ว่าจะไร้มลทินจากมัลแวร์ที่อาจแฝงตัวเข้ามา
- ขยายขีดความสามารถให้เกิด Immutable Data ที่อยู่บนคลาวด์และ SaaS ให้ปลอดภัยต่อการโจมตีจากแรนซัมแวร์
4.) Netbackup IT Analytics
Netbackup IT Analytics เป็นหนึ่งในโซลูชันของ Veritas ที่เคยเปิดตัวมาเมื่อหลายปีก่อนจากการควบรวมกิจการ ไอเดียของโซลูชันนี้ก็คือความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูล Storage, Cloud หรือ Backup ต่างๆ โดยความโดดเด่นคือรองรับผลิตภัณฑ์ได้หลายค่าย และสามารถออก Report ได้หลายรูปแบบ ทำให้องค์กรสามารถมองเห็นภาพรวมของการใช้งานในองค์กรของท่าน อีกทั้งหนึ่งในความท้าทายขององค์กรที่ก้าวเข้าสู่รูปแบบ Multi-cloud ก็คือค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นมักสูงกว่าความต้องการใช้จริง เนื่องจากแต่ละแผนกมีระบบการทำงานของตัวเอง ซึ่ง Netbackup IT Analytics สามารถช่วยให้ท่านเห็นภาพและเข้าใจข้อมูลต่างๆที่เกิดขึ้น เพื่อนำไปปรับปรุงการใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยตัว Netbackup IT Analytics Foundation เองได้ถูกผนวกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรมบริหารจัดการของ NetBackup 10 ทำให้ผู้ดูแลระบบสามารถทำงานได้ง่ายขึ้น ภายใต้ License ของ NetBackup 10
5.) SaaS Data Protection
ผู้ใช้งาน SaaS ส่วนใหญ่มักเห็นภาพเพียงการใช้งานเท่านั้น เพราะการทำงานด้านล่างถูกจัดการด้วยผู้ให้บริการคลาวด์ทั้งหมด เช่น Gmail, Microsoft 365 และอื่นๆ อย่างไรก็ดีในมุมขององค์กรการปกป้องข้อมูลทุกแห่งหนเป็นเรื่องจำเป็น ด้วยเหตุนี้เอง NetBackup 10 จึงได้เพิ่มความสามารถการปกป้องข้อมูลของท่านให้สามารถนำออกมาเก็บด้านนอกได้ตามหลักการ 3-2-1 แถมยังมีทางเลือกการกู้คืนที่ยืดหยุ่นเช่น เลือกปลายทางไปที่อื่นนอกเหนือจากต้นทางที่นำข้อมูลออกมา เลือกเป็นกลุ่มของออบเจ็ค ไฟล์ หรือแม้กระทั่งแชทของโปรแกรม Microsoft Teams ก็ทำได้เช่นกัน
6.) Cloud Scale Technology
อย่างที่กล่าวไปว่า Cloud Scale Technology เป็นแนวคิดของสถาปัตยกรรม โดยแนวทางนี้ได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสำคัญในด้านการทำงานเช่น
- NetBackup 10 สามารถทำงานบน AWS และ Azure แบบ Agentless โดยผู้ให้บริการคลาวด์มักจะมี Storage Tier สำหรับจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน เช่น Storage สำหรับเก็บข้อมูลนานแต่เข้าถึงไม่บ่อยจะมีราคาถูกว่ามากโดยเหมาะกับการสำรองข้อมูล ทั้งนี้ NetBackup 10 มีความสามารถที่จะทำ Policy ให้ใช้ประโยชน์จากบริการเหล่านี้ได้ ทำให้องค์กรสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายลงได้จากการบริหารจัดการที่ดี
- นอกจากจะทำงานได้แบบ Cloud native แล้ว NetBackup ยังมีกลไกการบีบอัดข้อมูลซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถลดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า 95%
- NetBackup 10 รองรับการทำงานในรูปแบบของ Containerized ซึ่งสามารถปรับตัวเพิ่มลดได้ตามความต้องการ หากมีการทำงานหนักก็ค่อยๆเพิ่มทรัพยากรขึ้นมา เมื่อทำงานจบแล้วก็หายไป กลไกนี้ทำให้ผู้ใช้งานประหยัดค่าใช้จ่ายได้สูงสุด แทนที่จะต้องจองทรัพยากรทิ้งไว้เหมือนที่แล้วมา
บทส่งท้าย
จากข้อมูลทั้งหมดนี้จะเห็นได้ว่า Veritas ได้ยกเครื่องใหม่ให้แก่ NetBackup 10 อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำงานในลักษณะของ Cloud Native หรือเพิ่มการทำงานในรูปแบบของ Containerized ที่สำคัญจะเห็นได้ว่า NetBackup 10 สามารถตอบโจทย์ข้อมูลของท่านได้ทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็น On-premise, Cloud, SaaS หรือ Kubernetes ก็ตาม ที่สำคัญยังเปิดกว้างทำงานได้กับหลากหลายผลิตภัณฑ์อีกด้วย รวมถึงยกระดับเรื่อง Security เพื่อการันตีว่าข้อมูลที่ถูกสำรองไว้จะปลอดภัยจากภัยคุกคาม และโมเดลค่าใช้จ่ายที่ยืดหยุ่นมากขึ้น ตลอดจนสร้างการทำงานให้เป็นไปได้อย่างอัตโนมัติ
สามารถติดต่อเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมหรือนำเสนอโซลูชันได้ตามด้านล่าง
Email : sales@veritasthailand.com
Line id : @veritasthailand