Microsoft Azure by Ingram Micro (Thailand)

เรื่องราวความสำเร็จของ TRIS Corporation ในการทำ Transformation ด้วย Nutanix

วันนี้ทางทีมงาน TechTalkThai ได้เข้าร่วมฟังความสำเร็จของการ Transformation ของระบบ Unified Communication ด้วย Nutanix ในบริษัท TRIS Corporation หรือสถาบันการจัดอันดับเครดิต ซึ่งงานหลักๆ จะเป็นที่ปรึกษาของบริษัทภาครัฐและเอกชนรายใหญ่ เช่น ปตท. ธนาคารกรุงไทย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โดยในวันนี้เราได้รับเกียรติจาก คุณ อรรณพ ดำรงพาณิชกิจ ผู้อำนวยการอวุโส ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัลโซลูชัน และ คุณ ทวิพงศ์ อโนทัพสินทวี ผู้จัดการประจำประเทศไทย นูทานิคซ์ เนื้อหาวันนี้คือมุมของผู้ใช้ Hyperconverged ตัวจริงเสียงจริงจะมาแชร์ประสบการณ์ด้านเทคนิคแบบเข้มข้นจะเป็นอย่างไรไปดูกันเลยครับ

คุณ ทวิพงศ์ อโนทัพสินทวี, Manager of Nutanix Thailand และ คุณ อรรณพ ดำรงพาณิชกิจ, SVP of IT Solution at TRIS Corp

คุณ ทวิพงศ์ ได้เล่าว่าในปี 2018 Gartner ได้ยกให้บริษัท Nutanix เป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ Hyperconverged (HCI) เรียบร้อยแล้ว นี่คือเครื่องพิสูจน์ว่าผู้ใช้งานทั่วโลกมีเสียงตอบรับที่ดีกับผลิตภัณฑ์ แน่นอนว่าการมาถึงของ HCI ทำให้เกิดประโยชน์หลายด้าน เช่น ความเร็วในการทำงานเนื่องจาก Storage อยู่ใกล้กับหน่วยประมวลผลมากกว่า การประหยัดค่าใช้จ่ายเรื่องของ Controller หรือ ความง่ายในการขยายโครงสร้างให้รองรับการความต้องการที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

อย่างไรก็ตามตอนนี้ Nutanix ก็ได้ก้าวเข้ามาเป็นผู้เล่นด้านซอฟต์แวร์เต็มตัวแล้วเช่นกันด้วยการมี Hypervisor ที่ต่อยอดมาจาก KVM ที่ชื่อ Acropolis ซึ่งส่วนนี้ลูกค้าใช้ได้ฟรี อีกส่วนหนึ่งคือซอต์ฟแวร์บริหารจัดการผ่าน Web UI อย่าง Prism ที่ออกมาให้ใช้งานง่ายสามารถจัดการได้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการ Multi-cloud, Hybrid-Cloud (สร้าง VM บน Azure, AWS, Google เป็นต้น) และ Storage หากอยากได้ความง่ายพวกการทำ Report ขั้นสูง Analytics เหตุการณ์ต่างๆ สามารถเพิ่ม License เข้าไปได้ (สามารถขอ Demo จาก Vendor ได้) สุดท้ายได้สรุปว่า “Nutanix พยายามสร้างให้ตัวเองเป็น Unified Platform สำหรับองค์กรซึ่งไม่ว่าจะต้องการแบบไหนก็สามารถรองรับได้

ในส่วนของ TRIS Corporation ทาง คุณ ทวิพงศ์ ได้เล่าขั้นตอนถึงการทำ Transformation ระบบ Unified Communication ด้วย Microsoft Cloud และ Skype for Business บนโครงสร้างพื้นฐานของ Nutanix ดังนี้

สาเหตุของการ Transformation

  1. ผู้ลงทุนเปลี่ยน คือ TRIS มีผู้ถือหุ้นเป็นบริษัทอย่าง S&P เข้ามาถือหุ้น ดังนั้นเมื่อบริษัทระดับโลกเข้ามาก็ต้องมีการประเมินตรวจสอบจึงต้องมีการโละ ล้าง เปลี่ยนแปลงระบบครั้งใหญ่ให้ได้มาตรฐานเทียบเท่ากับบริษัทสากล
  2. ต้องการลดภาระค่าใช้จ่ายเพราะค่าเช่าตึกนั้นแพงจะให้สร้างศูนย์ดาต้าเซนเตอร์มีขนาดใหญ่ก็ไม่เหมาะสมเพราะมองว่าสุดท้ายแล้วพยายามไปจบลงที่ Cloud เป็นส่วนผสมให้มากขึ้น
  3. บริการที่บริษัทจะนำเสนอกับลูกค้าต้องทำได้รวดเร็ว เชื่อถือได้ และคล่องตัว หยุดชะงักไม่ได้ เพราะระบบที่มีอยู่ตอบโจทย์ไม่ได้ตามต้องการ

ความท้าทายและโจทย์ยาก

  1. TRIS เช่าอาคารที่มีเก่าแก่มากว่าหลายสิบปีแล้ว ดังนั้นอายุของสายโทรศัพท์ที่เดินเข้าตึกนั้นเก่ามากเอาแน่เอานอนไม่ได้ จะเดินใหม่ก็ยุ่งยาก ไหนจะเรื่องของสัมปทานผู้ให้บริการ เรื่องราคาอีกเพราะตึกอยู่กลางเมือง ครั้นจะไปทำระบบผสมแบบรักษาบางส่วนไว้ก็จะก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายเพื่อเชื่อมต่อระบบเก่าและใหม่ตามมาซึ่ง คุณ ทวิพงศ์ เน้นว่าในมุมของไอทีเรารู้กันที่อยู่ว่า Cost ที่แฝงในจุดนี้มีมากอย่างมีนัยสำคัญ
  2. การย้ายการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ต้องไม่กระทบกับการทำงาน ดังนั้นนอกจากต้องใช้พื้นที่น้อยแล้วเวลา Migrate ระบบแค่เดือนกว่าๆ จะทำอย่างไรให้ทัน
  3. ต้องเลือก Vendor ที่มีความน่าไว้ใจ เพราะว่าที่ผ่านมาไอทีเจ็บตัวกันมาเยอะเพราะซื้อเทคโนโลยีมา สุดท้ายก็จะใช้ไม่คุ้มค่าเต็มที่ ดังนั้นต้องง่ายต่อการขยายประสิทธิภาพ และ ต้องมั่นใจได้ว่าจะไม่ Obsolete รวดเร็วเกินไป
  4. เมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนคนก็ต้องเปลี่ยนเพราะการทำ Transformation ปัจจัยหลักคือต้องมาจาก คน กระบวนการ และท้ายสุดคือเทคโนโลยี

ตีโจทย์เอาชนะอุปสรรคสู่ความสำเร็จ

  • ทำ Hybrid ของเก่าใช้ตู้โทรศัพท์เดิมไม่ได้แน่สุดท้ายจึงเลือกใช้ Skype มาเป็น Platform ระบบ Unified Communication ที่เลือก Microsoft เพราะเล็งเห็นแล้วว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการวาง Roadmap ทำให้มีการพัฒนาอยู่เรื่อย อีกทั้งชื่อชั้นก็น่าเชื่อถือและใหญ่พอที่จะอยู่ได้อีกนานสุดท้ายแล้วจึงได้ภาพคร่าวๆ มาตามด้านล่าง Transformation เป็นระบบ Digital

 

  • เทคโนโลยี Hyperconverged ตอบโจทย์ได้ด้วย Nutanix ดังนี้
  1.  จากเซิร์ฟเวอร์จำนวนมากและสถาปัตยกรรมแบบเก่าด้วย Nutanix สามารถลดลงเหลือแต่ 4U เป็น Backup กันอยู่คนละชั้น ดังนั้นการขนย้ายของก็ไม่กระทบพนักงานแต่อย่างใด
  2. ค่าใช้จ่ายลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เช่น ค่าเช่าพื้นที่ ค่าไฟที่เคยใช้ก็ลดไปกว่า 40% (ในส่วนเซิร์ฟเวอร์) ค่า MA Hardware จำนวนเยอะๆ ก็ไม่ต้องมีแล้ว สิ่งสำคัญคือด้วย Acropolis (AHV) ซึ่งถือเป็นพระเอกของงานเพราะไม่มีเรื่องของ License เลย สุดท้ายจึงสามารถลดค่าใช้จ่ายได้มหาศาล รวมถึงสามารถจัดทำแผนค่าใช้จ่ายเสนอบอร์ดบริหารได้อย่างใกล้เคียงมากเพราะไม่มี License แอบแฝงมาภายหลัง
  3. สามารถ Scale-out ได้ง่ายเพราะอย่างที่รู้กันซึ่งตรงกับการโฆษณา
  4. HA ในตัวเพราะ Nutanix มี 4 โหนด ดังนั้นจากมีโหนดไหนร่วงไปก็ทำงานต่อได้ โดยทางทีมงานของ TRIS เคยพบว่า Ram เสียต้องใส่เพิ่มแต่ Nutanix สามารถทำได้เลยโดยไม่ต้องมีการรีบูตระบบ หรือ ถอดโหนดเปลี่ยนดึงออกมาได้เลยโดยไม่กระทบการทำงาน
  5. User Experience ดีกว่าเดิม เราได้ถามถึงหัวข้อนี้เพราะว่า User หลายคนกังวล ซึ่งตอนแรกในทีม TRIS เองก็มีประสบการณ์กับ Hypervisor ชื่อดังที่เรารู้จักดีและกลัวการเปลี่ยนแปลง แต่ปรากฏว่าเมื่อลองใช้ Nutanix แล้วง่ายมากจนติดใจ เช่น การบริหารจัดการ ผ่าน Central ไม่ว่าเรื่องของ Storage หรือ การใช้งาน VM หรืออื่นๆ ในสภาพแวดล้อมของ Public Cloud ด้วย Prism และการออกแบบ UI ที่สบายตา ทำให้ทีมทึมงานเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่วัน
  6. การออก Report ทำได้อย่างรวดเร็ว (นึกถึงสมัยก่อนต้องไปดู IOPS จากโปรแกรมจัดการ Storage CPU/Ram จากอีกที่) มีหน้าจอติดตามประสิทธิภาพการทำงานได้จากที่เดียวทำให้แก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว
  7. ระบบของ Nutanix สามารถบริหารซิงค์กับ Cloud ได้ เนื่องจากภาพสุดท้ายที่วางไว้คือต้องสามารถ Work from anywhere ดังนั้นใครอยู่ด้านนอกก็วิ่งเข้าใช้งานผ่าน Public Cloud ภายในก็ใช้งานใน Private Cloud ซึ่ง Nutanix Prism สามารถรองรับกับ Public Cloud กับเจ้าใหญ่ๆ ได้อยู่แล้ว
  • การปรับทัศนคติิของคน TRIS ถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญเพราะคนคือปัจจัยหลักจึงจัด Workshop เพื่อให้คนมาเรียนรู้เทคโนโลยีด้วยกัน เช่น โครงการ ‘New Tris New Me’ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ความรู้บุคคลากรด้าน Awareness เพราะด้วยระบบ Unified Communication สามารถเข้าถึงคนได้มากกว่าจากเดิมเป็นเมล์คนไม่ค่อยใส่ใจ พอเป็นแชท หรือ Pop-up ผ่านมือถือสามารถเข้าถึงคนมากขึ้น

สถานะปัจจุบันแล้วก้าวต่อไปในอนาคต

ด้วยข้อดีที่กล่าวมาข้างต้นตอนนี้ระบบของ Nutanix สามารถตอบโจทย์ระบบ Unified Communication ของ TRIS อย่างเบ็ดเสร็จในเส้นตายที่กำหนดเพียง 1 เดือนกว่าๆ ในอนาคต TRIS มุ่งเป้าที่จะย้าย Core Business ไว้บนระบบ Nutanix ทั้งหมดซึ่งตอนนี้กำลังทดสอบอยู่ โดยทางทีมงานก็แง้มว่าแอปพลิเคชันสามารถทำงานได้ดีกว่าเดิมมากด้วย Nutanix เมื่อดูค่า IOPS มีผลดีอย่างน่าพอใจ คาดว่าภายในสิ้นปีนี้เราจะเห็นระบบจริงของบริษัทบน Nutanix ซึ่งสามารถรองรับอุปกรณ์ Work Anywhere และ Any Mobile (เพราะเราไม่สามารถจำกัดยี่ห้อของอุปกรณ์ผู้ใช้งานได้) อีกทั้งต้องเป็นระบบที่มีความสเถียรด้วย DR แบบ 3 ไซต์ (กำลังพิจรณาตัวเลือกอยู่) ต่อจากนั้นสิ่งสำคัญต่อไปคือเรื่องของ Security ต้องให้ได้มาตรฐานตั้งแต่หน้าบ้านถึงหลังบ้าน

สุดท้าย คุณ ทวิพงศ์ ให้ข้อคิดกับชาวไอทีว่า “การลงทุนไม่ใช่ว่าจ่ายแพงสุดแล้วจะต้องดีที่สุด เพราะสุดท้ายอยู่ที่ว่าเทคโนโลยีนั้นเหมาะสมคุ้มทุนกับองค์กรเราหรือไม่ เมื่อก่อนเราอาจไม่มีทางเลือกแต่วันนี้เทคโนโลยีมาถึงแล้วเป็นเวลาที่เราชาวไอทีต้องมองหาความคุ้มค่าให้แก่องค์กร ” และเสริมว่า “องค์กรไหนต้องการ Transformation ต้องคิดใหม่ทำใหม่แต่ระบบต้องทำงานได้เหมือนเดิม ด้วยประสิทธิภาพที่ดีกว่าเดิม ซึ่งเราพบว่า Nutanix ตอบโจทย์ธุรกิจของเราและเป็นผลิตภัณฑ์ที่เปิดโอกาสและมีทางเลือกการทำงานได้หลากหลาย

About nattakon

จบการศึกษา ปริญญาตรีและโท สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ KMITL เคยทำงานด้าน Engineer/Presale ดูแลผลิตภัณฑ์ด้าน Network Security และ Public Cloud ในประเทศ ปัจจุบันเป็นนักเขียน Full-time ที่ TechTalkThai

Check Also

เอชพี เปิดตัวพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลายที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ AI PCs [PR]

เอชพี เปิดตัวพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลายที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ AI PCs ขับเคลื่อน ด้วยขุมพลัง AI ยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน การสร้างสรรค์ และประสบการณ์ของผู้ใช้ในสภาพแวดล้อม การทำงานแบบไฮบริด

Microsoft ยกเลิกการใช้ 1024-bit RSA Key บน Windows แล้ว

Microsoft ประกาศยกเลิกการใช้กุญแจเข้ารหัส 1024-bit RSA Key บน Windows แล้ว เปลี่ยนไปใช้กุญแจเข้ารหัสความยาว 2048-bit เป็นอย่างน้อย