ทีมงาน TechTalkThai มีโอกาสได้มาร่วมงานสัมมนา สรุปงานสัมมนา Transforming Your Legacy Infrastructure to be CLOUD! ซึ่งจัดขึ้นโดย ISSP เพื่ออัปเดตเทคโนโลยีล่าสุดสำหรับเปลี่ยนแปลงระบบ IT ของธุรกิจองค์กรให้ก้าวสู่การเป็น Private Cloud อย่างเต็มตัว ด้วยการเชิญวิทยากรจากทาง Nutanix, Sophos และ Veeam มาบรรยายในหัวข้อต่างๆ ซึ่งทาง TechTalkThai ก็ขอนำสรุปประเด็นต่างๆ ที่น่าสนใจดังนี้
ISSP ต่อยอดจากการเป็นผู้ให้บริการ ISP และ Cloud สู่การเป็น Solution Integrator อย่างครบวงจรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในมุมของ ISSP เองนั้น แต่เดิมที่ได้มีการก้าวเข้าสู่การเป็นผู้ให้บริการแบบ Solution Integrator หรือ SI มาตั้งแต่ปี 2016 ด้วยทีมงาน Technical Consultant ที่มีความเชียวชาญและประสบการณ์มาอย่างยาวนาน
ได้มีการจับมือกับผู้ผลิตเทคโนโลยีชั้นนำหลากหลายราย เพื่อนำเสนอโซลูชั่นสู่ภาคธุรกิจองค์กรในหลากหลายอุตสาหกรรมมาอย่างต่อเนื่อง และมีลูกค้าเพิ่มขึ้นมามากมายในช่วงปีที่ผ่านมา
จุดเด่นของ ISSP ในการให้บริการในฐานะ SI นี้ ก็คือความรู้ความสามารถที่ครบวงจร การนำเสนอโซลูชั่นที่เกิดประโยชน์ให้กับองค์กรของลูกค้าอย่างแท้จริง รวมถึงการให้บริการอย่างมืออาชีพ และจากประสบการณ์เดิมในฐานะของ ISP และผู้ให้บริการ Cloud ที่มีลูกค้าเป็นภาคธุรกิจองค์กรมาอย่างมากมาย ทำให้การออกแบบและนำเสนอโซลูชันนั้นเป็นไปได้อย่างยืดหยุ่นหลากหลาย และยังสามารถนำทรัพยากรหรือบริการต่างๆ จากในส่วนของ ISP และ Cloud เข้ามาให้บริการเพิ่มเติมเพื่อให้โซลูชันสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นได้
ที่ผ่านมา ISSP ได้มีโครงการต่างๆ ที่นำโซลูชันจาก Nutanix, Sophos และ Veeam ไปนำเสนอและติดตั้งให้กับลูกค้าธุรกิจองค์กรมากมาย ผู้ที่สนใจโซลูชันเหล่านี้สามารถปรึกษาทีมงานของ ISSP ได้ทันที
Nutanix: จาก HCI สู่การเป็น Private Cloud ที่รองรับการใช้งานได้อย่างหลากหลาย ในขณะที่ยังคงความง่ายเอาไว้
ทีมงาน Nutanix ได้ออกมาเล่าถึงภาพรวมเทคโนโลยีของ Nutanix ในปัจจุบัน ที่มีโซลูชันใหม่ๆ เพิ่มเติมต่อยอดขึ้นมาจากระบบ Hyper-Converged Infrastructure หรือ HCI อยู่มากมาย ทำให้ภาพของการสร้างระบบ Private Cloud ภายในองค์กรนั้นกลายเป็นเรื่องที่ง่ายดายยิ่งกว่าแต่ก่อนมาก ในขณะที่หากธุรกิจต่างๆ มีการใช้งาน Public Cloud เป็นหลัก Nutanix เองก็มีโซลูชันสำหรับตอบโจทย์ต่างๆ อยู่อีกมากมาย
ในมุมมองของ Nutanix นั้น การเริ่มต้นลงทุนในระบบ HCI จนก้าวมาสู่การเป็น Private Cloud นั้นมีด้วยกัน 3 ขั้นตอนหลักๆ ได้แก่
- การเริ่มต้นระบบ HCI แรก และย้าย Workload พื้นฐานภายใน Data Center หรือ VDI มาอยู่บนระบบ HCI ก่อน เพื่อให้ง่ายต่อการบริหารจัดการและการดูแลรักษา
- การต่อยอดด้วยเทคโนโลยีต่างๆ บนระบบ HCI เพื่อให้เกิดความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนมาใช้ AHV ซึ่งเป็น Hypervisor ของ Nutanix, การทำ Automation ในส่วนของ Security หรือ Network เพื่อให้การบริหารจัดการเป็นไปได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้นกว่าเดิม
- การทำ Standardization ด้วยการวางระบบ Self-Service หรือระบบ Automated Deployment สำหรับระบบต่างๆ เช่น Database, Web Server, Application Server ทำให้ระบบ HCI นั้นกลายเป็น Private Cloud ที่มีความสะดวกสบายในการใช้งานในระดับเดียวกับ Public Cloud
แน่นอนว่า Nutanix เองนั้นมีวิสัยทัศน์ด้านนี้มานานแล้ว และที่ผ่านมา Nutanix ก็ได้เร่งพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมถึงเข้าซื้อกิจการเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาเสริมให้กับโซลูชันของตนเอง เปลี่ยนภาพจากผู้ผลิตระบบ Software-Defined Data Center ไปสู่การเป็น Autonomous Data Center ที่ระบบสามารถจัดการตัวเองได้แบบอัตโนมัติ ด้วยโซลูชันต่างๆ ดังนี้
- Nutanix Acropolis ระบบ HCI ประสิทธิภาพสูงที่ใช้งานง่าย เป็นผลิตภัณฑ์เรือธงของ Nutanix
- Nutanix AHV ระบบ Hypervisor ของ Nutanix ที่พัฒนาความสามารถใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ในไทยลดค่าใช้จ่ายด้าน License ของระบบ Hypervisor ลงได้เป็นอย่างดี
- Nutanix Prism ระบบบริหารจัดการจากศูนย์กลางของ Nutanix ที่ทำให้การบริหารจัดการระบบ HCI กลายเป็นเรื่องง่าย
- Nutanix Prism Pro ระบบบริหารจัดการที่นำ Machine Learning มาทำให้การดูแลรักษาระบบ HCI มีความเป็นอัตโนมัติมากขึ้น, มีข้อมูลและผลการทำนายแนวโน้มต่างๆ สำหรับประกอบการตัดสินใจในการดูแลรักษาระบบ HCI ได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น และป้องกันปัญหาที่มีแนวโน้มจะเกิดได้ล่วงหน้า
- Nutanix Move เครื่องมือสำหรับย้าย VM บน ESX, Hyper-V และ AWS มาสู่ Nutanix AHV ได้อย่างง่ายดาย
- Nutanix Storage Services สำหรับการนำพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบน Nutanix มาให้บริการในรูปแบบของ File, Volume และ Object รองรับการใช้งานที่หลากหลาย
- Nutanix Flow Networking ระบบ Firewall สำหรับควบคุมการเชื่อมต่อเครือข่ายระหว่าง VM ภายใน Hypervisor และการบริหารจัดการระบบ Virtual Network ได้แบบอัตโนมัติ
- Nutanix Calm ระบบสำหรับการ Deploy และ Manage Application ต่างๆ ได้แบบอัตโนมัติ
- Nutanix Era ระบบสำหรับการ Deploy Database โดยอัตโนมัติ พร้อมจัดการทำ Copy Data Management ได้ในตัว
- Nutanix Karbon ระบบสำหรับการ Deploy Kubernetes Cluster เพื่อใช้งานบน HCI ได้ภายในเวลาเพียง 20 นาที พร้อมเชื่อมต่อกับ Nutanix Storage Services ได้ตามต้องการ
- Nutanix Xi Cloud Services บริการ Cloud สำหรับตอบโจทย์เฉพาะทางต่างๆ จาก Nutanix
จะเห็นได้ว่าโซลูชันของ Nutanix ในปัจจุบันนี้มีมากขึ้นกว่าในอดีตเป็นอย่างมาก และมีการเสริมเทคโนโลยีในส่วนของการ Deploy ระบบเพิ่มเข้ามาหลายรายการทีเดียว ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้ประสบการณ์การใช้งาน Private Cloud ที่อยู่บนโซลูชันของ Nutanix นี้ มีความสามารถในระดับเดียวกับบริการ Public Cloud จากผู้ให้บริการชั้นนำรายต่างๆ ทั่วโลกนั่นเอง
Sophos: Cybersecurity-as-a-Platform สู่ยุคที่โซลูชันทางด้าน Security ต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด
ทีมงาน TechData ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายของ Sophos ได้มาเล่าถึงโซลูชันทางด้าน Security ที่จะเข้ามามีบทบาทต่อธุรกิจองค์กรมากขึ้น โดยชูโซลูชันหลักที่ถือเป็นเรือธงของ Sophos เองอย่าง Endpoint Protection และ Next Generation Firewall
Sophos Intercept X คือโซลูชันด้าน Endpoint Protection ที่ได้ต่อยอดมาจากเทคโนโลยี Antivirus ที่ Sophos เป็นผู้ผลิตรายแรกๆ ของโลก โดยล่าสุดนี้ Sophos Intercept X ก็ได้มีการเสริมเทคโนโลยี Deep Learning และ Endpoint Detection and Response (EDR) เข้าไป ทำให้การตรวจจับและยับยั้ง Malware, Exploit หรือ Ransomware นั้นเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำมากยิ่งขึ้น
สำหรับ Sophos XG Firewall นั้นก็คือโซลูชัน Next Generation Firewall ที่ผสานเอาเทคโนโลยีจาก Astaro และ Cyberoam ที่ Sophos เข้าซื้อกิจการมา สามารถปกป้องระบบเครือข่ายของธุรกิจองค์กรได้ด้วยความสามารถในการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่มีความเสี่ยงสูง, Traffic อันตราย และภัยคุกคามที่มีความซับซ้อนได้ รวมถึงยังได้มีการนำ Deep Learning มาผสานการทำงานร่วมกับ Intrusion Prevention และ Sandbox เพื่อคอยตรวจจับภัยคุกคามที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก และโต้ตอบต่อภัยคุกคามที่ตรวจพบโดยอัตโนมัติ ลดความเสี่ยงและความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับธุรกิจองค์กรลงได้
แนวคิดหนึ่งที่ถูกหยิบยกมานำเสนอในครั้งนี้ก็คือ Synchronized Security ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้อุปกรณ์ต่างๆ ของ Sophos นั้นสามารถสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้ผ่านทาง Security Heartbeat และทำให้การบริหารจัดการหรือการจัดการกับภัยคุกคามใดๆ สามารถทำได้จากศูนย์กลางทั้งหมด ช่วยให้การตรวจจับและโต้ตอบกับภัยคุกคามต่างๆ เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว, ง่ายดาย และแม่นยำยิ่งขึ้นกว่าเดิม เกิดเป็นภาพของ Cybersecurity-as-a-Platform ภายในองค์กรได้
Veeam: ปกป้องข้อมูลสำคัญของธุรกิจองค์กรได้รอบด้าน ไม่ว่าจะใช้ระบบ IT Infrastructure แบบใด
Veeam เองนั้นก็ยังคงมากับภาพของผู้นำด้านเทคโนโลยีในการสำรอง, กู้คืน และบริหารจัดการข้อมูลอย่างครบวงจร โดยที่ Veeam Availability Suite นั้นก็คือผลิตภัณฑ์เรือธงในฐานะของเครื่องมือการสำรองข้อมูลที่สามารถใช้งานได้บนทุก Platform ซึ่งมาพร้อมกับระบบบริหารจัดการจากศูนย์กลางที่ง่ายต่อการใช้งาน
Veeam ได้นำเสนอถึงโซลูชันต่างๆ ของตนเองที่สามารถทำงานร่วมกับโซลูชัน HCI และ Nutanix AHV ได้ในงานสัมมนาครั้งนี้ เพื่อประกอบให้โซลูชันที่ ISSP ต้องการนำเสนอมีความครบถ้วนมากยิ่งขึ้น พร้อมเสริมด้วย Veeam Backup for Microsoft Office 365 ที่เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ขายดี ซึ่งผู้ใช้งานสามารถโหลดไปใช้งานได้ฟรีสำหรับผู้ใช้งานจำนวนไม่เกิน 10 คนได้ทันทีที่ https://www.veeam.com/free-backup-microsoft-office-365.html
สนใจโซลูชันระบบ IT สำหรับธุรกิจ ติดต่อ ISSP ได้ทันที!!
สำหรับผู้ที่สนใจโซลูชันใดๆ เพื่อใช้งานภายในธุรกิจองค์กร สามารถติดต่อทีมงาน ISSP เพื่อนำเสนอข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอใบเสนอราคาได้ทันทีที่ Email: webmkt@isp-thailand.com หรือโทร 02 033-0999 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ ISSP ได้ที่ https://www.issp.co.th/