
UIH ผู้นำธุรกิจโครงข่ายสื่อสารโทรคมนาคมและดิจิทัลโซลูชันของไทย ทุ่มงบกว่า 300 ล้านบาทเปิดตัว Data Center แห่งใหม่ “UIH BCH4” ณ อาคารเบญจจินดา ตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร พร้อมให้บริการด้วยเทคโนโลยีและสิ่งอำนวยสะดวกแบบครบครัน การันตีบริการด้วยมาตรฐานจากสถาบัน Uptime และ ISO ยกระดับสู่การให้บริการแบบ Data Center as a Service ตอบโจทย์ลูกค้ายุค Digital Transformation

Data Center รากฐานสำคัญของการทำ Digital Transformation
คุณสันติ เมธาวิกุล กรรมการผู้จัดการของ UIH กล่าวถึงรายงานจาก Brain & Co ระบุว่า การทำ Digital Transformation ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีแนวโน้มเติบโตอย่างทวีคูณ และจะมีมูลค่าสูงถึง $1.14 ล้านล้าน (ประมาณ 35 ล้านล้านบาท) ภายในปี 2025 โดยมีโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเป็นตัวขับเคลื่อน ได้แก่ Cloud, Network และ Cybersecurity เพื่อรองรับเทคโนโลยียุคใหม่ เช่น Data Analytics, AI, IoT และ Blockchain
เทคโนโลยีเหล่านี้จะสร้างปริมาณข้อมูลมหาศาลและต้องการระบบประมวลผลแบบเรียลไทม์ ส่งผลให้โครงสร้างพื้นฐานนอกจากจะต้องรองรับปริมาณข้อมูลจำนวนมากได้แล้ว ยังต้องมีความยืดหยุ่น คล่องตัว ปรับเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพและมั่นคงปลอดภัย ทำให้ความต้องการใช้ Cloud และ Edge Computing มีมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การมี Data Center ที่ทันสมัย ตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้จึงกลายเป็นรากฐานสำคัญของการทำ Digital Transformation
“ในอีก 5 ปีข้างหน้านี้ Data Center จะมีขนาดเล็กลง แต่อยู่ใกล้ลูกค้ามากขึ้นเพื่อขจัดปัญหาเรื่อง Latency และตอบโจทย์การใช้งานของแอปพลิเคชันสมัยใหม่ที่ต้องการความเร็วในการตอบสนอง เช่น Self-driving Car ทำให้ Multi-location Data Center กลายเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ UIH กำลังดำเนินตาม ประเมินว่า Data Center จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 5 ปี (2020 – 2025) ประมาณ 15%” — คุณสันติกล่าว

UIH BCH4 Data Center มาตรฐาน Uptime Tier III บนทำเลที่ดีที่สุด
UIH BCH4 เป็น Data Center แห่งใหม่บนอาคารเบญจจินดา ย่านวิภาวดีรังสิต ซึ่งใกล้เส้นทางคมนาคมที่หลากหลาย สะดวกสบายต่อการเดินทาง โดยติดสถานีรถไฟฟ้าบางเขน และมีระยะทางจากสถานีรถไฟหลักบางเขนและสนามบินดอนเมืองไม่เกิน 15 นาที รองรับความจุ 300 ตู้แร็กบนพื้นที่รวม 2,000 ตารางเมตร เชื่อมต่อกับ Data Center ของผู้ให้บริการรายอื่นๆ ผ่าน High Speed Data Center Ring ความเร็วระดับ Terabit ที่สำคัญคือตั้งอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยจากภัยพิบัติ เช่น อุทกภัยและการจลาจล
UIH BCH4 เป็น Data Center แบบ Carrier Neutral ที่ลูกค้าสามารถเลือกการเชื่อมต่อและบริการจากผู้ให้บริการได้ทุกราย ผ่านการรับรองมาตรฐานระดับ Tier III จากสถาบัน Uptime ในส่วนของการออกแบบ (Design Documents) และการก่อสร้าง (Constructed Facility) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวคิดด้านความทันสมัย ความมั่นคงปลอดภัย และความต่อเนื่องในการให้บริการ Data Center แบบครบวงจร นอกจากนี้ UIH BCH4 ยังผ่านการรับรองตามมาตรฐาน ISO/IEC 27001:2013 ด้านการบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศอีกด้วย และยังมีแผนที่จะดำเนินการตามมาตรฐาน ISO อื่นๆ เช่น ISO/IEC 20000-1:2011, ISO 22301:2012 รวมไปถึง PCI DSS ในอนาคต

บริการหลักของ UIH BCH4 Data Center ประกอบด้วย
- Co-location: บริการรับฝากเซิร์ฟเวอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง พร้อมให้บริการทั้งแบบ Half Rack และ Full Rack
- Private Area: บริการพื้นที่ส่วนตัว โดยมีให้เลือกทั้งแบบกั้นล้อมพื้นที่หรือห้องส่วนตัว พร้อมการพิสูจน์ตัวตนแบบ Multi-factor Authentication เพื่อความมั่นคงปลอดภัยสูงสุด
- Business Continuity Planning Office: บริการพื้นที่ทำงานสำรองพร้อมอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน
- Smart Hand Service: บริการทำงานแทนผู้ใช้บริการสำหรับการปฏิบัติงานทั่วไป เช่น ตรวจสอบสถานะเซิร์ฟเวอร์หรือรีสตาร์ทอุปกรณ์ ในกรณีที่ไม่สะดวกเข้ามายัง Co-location ใน Data Center
คุณภาพบริการระดับมาตรฐานสากลและการรักษาความมั่นคงปลอดภัยแบบครบครัน
UIH BCH4 Data Center ถูกออกแบบและก่อสร้างด้วยแนวคิดด้านความทันสมัย ความมั่นคงปลอดภัย และความต่อเนื่องในการให้บริการ ตามมาตรฐาน Uptime Tier III ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นดังต่อไปนี้
- ตู้แร็กแบบตั้งพื้นมาตรฐานความสูงขนาด 42U ปกป้องด้วยระบบล็อกแบบ 3 Digit Combination Lock แทนการใช้กุญแจแบบเดิม รองรับกระแสไฟ 2 เส้นทาง (2 Independent Power Sources)
- ระบบไฟฟ้ามาตรฐานสากลที่รองรับการใช้งานได้อย่างต่อเนื่องด้วยการเชื่อมต่อกับวงแหวนจ่ายไฟที่ระบบป้องกันไฟตกของการไฟฟ้านครหลวง พร้อมระบบสำรองไฟฟ้า (UPS) แบบ 2N (1+1) และรองรับด้วยเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบ N+1 ขนาด 1,000 กิโลวัตต์ที่สามารถปั่นกระแสไฟฟ้าพร้อมใช้งานได้ภายใน 30 วินาที ในกรณีที่การไฟฟ้านครหลวงไม่สามารถจ่ายไฟได้
- ระบบป้องกันอัคคีภัยที่ใช้สารดับเพลิง IG-100 (ไนโตรเจน) ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่างๆ
- มาตรฐาน Uptime Tier III Concurrent Maintainability ทำให้ UIH สามารถบำรุงรักษาระบบจ่ายไฟและระบบทำความเย็นได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการลูกค้า
- ระบบจ่ายไฟและระบบปรับอากาศที่มาพร้อมกับระบบสำรองแบบ Full Redundancy เพื่อให้มั่นใจว่าระบบและอุปกรณ์ของลูกค้าจะยังสามารถทำงานได้ตามปกติแม้จะมีระบบใดระบบหนึ่งเสียหรือหยุดการทำงาน
- ระบบ Data Center Infrastructure Management (DCIM) สำหรับตรวจสอบและดูแลระบบต่างๆ ใน UIH BCH4 Data Center พร้อมด้วยวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญคอยเตรียมรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้น
- ระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยตามมาตรฐาน ISO/IEC 27001:2013 เช่น เจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงปลอดภัยคอยตรวจตราตลอด 24 ชั่วโมง, กล้องวงจรปิด CCTV, ระบบควบคุมการเข้าถึงที่ใช้การพิสูจน์ตัวตนแบบ Multi-factor Authentication และอื่นๆ
- พื้นที่สำหรับการจัดเตรียมการติดตั้งและบำรุงรักษาอุปกรณ์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าที่นำอุปกรณ์เข้ามาติดตั้งใน UIH BCH4 Data Center เช่น เครื่องวัดกระแสไฟแบบ Digital Meters, เครื่องชั่งน้ำหนักอุปกรณ์, คีย์บอร์ด, เมาส์, จอมอนิเตอร์ สำหรับตั้งค่าอุปกรณ์ เป็นต้น
- ห้อง Meet-Me-Room (MMR) เป็นห้องสำหรับเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการรายอื่นๆ
นอกจากนี้ UIH BCH4 Data Center ยังมีศูนย์บริการลูกค้าที่พร้อมช่วยเหลือผู้ใช้บริการด้วยความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ตลอดเวลาแบบ 7/24 อีกด้วย

เชื่อม Data Center ทั้งไทยและเพื่อนบ้านด้วย Data Center Ring ระดับ Terabit
Data Center ในเครือของ UIH รวมไปถึง BCH4 เชื่อมต่อกับ Data Center ของผู้ให้บริการรายอื่นในทุกภูมิภาคของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น TCCT, Supernap, NTT, INET และอื่นๆ รวมแล้วกว่า 20 แห่งผ่านทาง High Speed Data Center Ring ภายใต้เครือข่ายไฟเบอร์ออปติกระดับ Terabit เพื่อเพิ่มอิสระในการเลือกใช้บริการ Data Center ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า ทั้งทางด้านสถานที่ ระดับ Tier และความเชี่ยวชาญของผู้ให้บริการ โดยไม่มีความรู้สึกถึงความหน่วงของข้อมูล
นอกจากนี้ UIH ยังร่วมกับพันธมิตรผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำในต่างประเทศ เช่น Equinix (สิงคโปร์), PCCW (ฮ่องกง) และ MIH (เมียนมาร์) เพื่อขยาย Data Center Ring ไปยังประเทศเพื่อนบ้านในเขตภูมิภาคเอเชีย พร้อมการันตีคุณภาพมาตรฐานการให้บริการตาม Service Level Agreement (SLA) ที่ 99.99% ก่อให้เกิดเป็นบริการ Data Center as a Service ที่ให้บริการในพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญทั้งในและต่างประเทศแบบครบวงจร โดยลูกค้าสามารถใช้บริการเป็นศูนย์ข้อมูลหลัก (Data Center Site) หรือศูนย์ข้อมูลสำรอง (Disaster Recovery Site) ได้แบบ Multi-location

บริการ UIH BCH4 Data Center as a Service เหมาะสำหรับ
- Content Providers ที่ต้องการตั้งศูนย์สำหรับกระจาย Content ในประเทศไทยเพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
- ธุรกิจ BFSI ที่ต้องการศูนย์สำรองที่ได้มาตรฐานตามข้อบังคับของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- องค์กรทั่วไปที่ต้องการเปลี่ยนมาใช้บริการ Data Center as a Service เพื่อนำพื้นที่เดิมไปใช้สนับสนุนการดำเนินธุรกิจ
- ธุรกิจ System Integrator (SI) ที่ต้องการให้บริการ Data Center แก่ลูกค้าของตน
