เซิร์ฟเวอร์เจเนอร์เรชันใหม่ได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสมสำหรับการซื้อขายที่มีความหน่วงต่ำ

Hyper-Speed ​​SuperServers เจนเนอเรชันที่ 5 ของ Supermicro ทำสถิติโลกด้วยการปรับปรุงความหน่วงเป็นสองหลักในแอปพลิเคชันทางการเงิน

ความหน่วงต่ำ: กุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ

เมื่อเร็ว ๆ นี้ การเพิ่มขึ้นของการซื้อขายแบบความหน่วงต่ำทำให้นักลงทุนสามารถทำกำไรได้อย่างมหาศาลด้วยการดำเนินการเทรดด้วยความเร็วที่สูง ด้วยการทำธุรกรรมหลักทรัพย์ที่เกิดขึ้นในระดับหน่วยเศษหนึ่งในล้านวินาที (microsecond) และเข้าใกล้หนึ่งส่วนพันล้านของวินาที (nanosecond) เข้าไปทุกที บริษัทหลักทรัพย์ที่มีเครื่องมือการซื้อขายสามารถจับข้อมูลตลาดได้อย่างรวดเร็วและการสร้างคำสั่งซื้อจะประสบความสำเร็จ ในขณะที่คู่แข่งที่ช้ากว่าจะเริ่มมีความล้าหลัง ด้วยเหตุนี้ ความหน่วงที่ต่ำมากจึงไม่เพียงแต่เป็นกุญแจสำคัญในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานการซื้อขายเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จในการดำเนินงานด้านวาณิชธนกิจและการบริหารกองทุน

การคงความสามารถในการแข่งขัน

เพื่อให้สามารถแข่งขันในโลกการค้าที่มีความหน่วงต่ำ บริษัทหลักทรัพย์ต้องปรับใช้เซิร์ฟเวอร์ที่มีความเร็วและทรงพลังที่สุด เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้ซึ่งจัดวางในตำแหน่งเดียวกับเซิร์ฟเวอร์ในการแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์ จะดึงข้อมูลตลาดขนาดใหญ่จากเซิร์ฟเวอร์เหล่านี้ ทำการวิเคราะห์ด้วยกลยุทธ์การซื้อขาย สร้างคำสั่งสำหรับการดำเนินการ และส่งมันกลับไปที่เซิร์ฟเวอร์แลกเปลี่ยน (รูปที่ 1)

ในขณะที่การบรรลุความหน่วงต่ำเป็นสิ่งสำคัญ เซิร์ฟเวอร์ยังต้องมีประสิทธิภาพในการส่งคำสั่งการซื้อขายที่สม่ำเสมอ ค่าความผันแปรในการส่งข้อมูลสามารถทำให้คำสั่งเกิดความล่าช้า หรือความเสียหายต่ออัลกอริทึม ซึ่งจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์และการสูญเสียอย่างมีนัยสำคัญเมื่อสิ้นสุดการซื้อขาย ดังนั้น การปรับแต่งฮาร์ดแวร์ให้เหมาะสมนั้นเป็นสิ่งจำเป็นในการออกแบบเซิร์ฟเวอร์ที่มีความหน่วงต่ำและปราศจากค่าความผันแปร เพื่อให้บริษัทค้าหลักทรัพย์สามารถคงความได้เปรียบในการแข่งขัน

รูปที่ 1: High Performance Trading Network Diagram

เทคโนโลยี Hyper-Speed ​​& Hyper-Turbo เจนเนอเรชันที่ 5 ของ Supermicro สำหรับการซื้อขายที่มีความหน่วงต่ำมาก

บริษัท Supermicro ได้ทำการทุ่มเทเพื่อให้บริการลูกค้าในอุตสาหกรรมการเงิน และได้แนะนำเทคโนโลยี Hyper-Speed ​​และ Hyper-Turbo เจนเนอเรชันที่ 5: การเพิ่มประสิทธิภาพระดับบอร์ดเซิร์ฟเวอร์ที่เป็นกรรมสิทธิ์เฉพาะสำหรับการซื้อขายที่มีความหน่วงต่ำ เทคโนโลยีเหล่านี้เกิดขึ้นได้กับ VRM ล่าสุด เช่นเดียวกับเฟิร์มแวร์ที่ได้รับการปรับปรุงเพื่อมุ่งเน้นการปรับแต่งที่ยืดหยุ่น ด้วย Hyper-Speed ​​ซีพียู หน่วยความจำ และการ์ด PCI-E จะถูกเร่งความเร็วล่วงหน้าในโหมดล็อคสเต็ป (lockstep mode) เพื่อประสิทธิภาพที่เชื่อถือได้มากที่สุด เมื่อรวมกับ Hyper-Speed ​​แล้ว Hyper-Turbo ยังช่วยให้ซีพียูระบบเซิร์ฟเวอร์สามารถรักษาความถี่เทอร์โบ (Turbo Mode frequency) สูงสุดได้ภายใต้ภาระงานที่หนักหน่วง

รูปที่ 2: SuperServer® 1029UX-LL1/2/3-S16

โซลูชัน Supermicro Hyper-Speed ​​Ultra

ระบบเซิร์ฟเวอร์ Hyper-Speed ​​Ultra ได้รับการเสนอให้เป็นโซลูชันสำหรับลูกค้าแบบเบ็ดเสร็จ ซึ่งจะประกอบด้วยระบบเซิร์ฟเวอร์แร็คเมาท์ SuperServer® 1029UX- LL1/2/3-S16 Ultra 1U ประกอบด้วยโปรเซสเซอร์ Intel®Xeon® ที่สามารถปรับขนาดได้ล่าสุด (ตารางที่ 1): โปรเซสเซอร์ Gold 6144 (TDP 150W) สำหรับชุด LL1, โปรเซสเซอร์ Gold 6146 (TDP 165W) สำหรับชุด LL2 และ โปรเซสเซอร์ Gold 6154 (TDP 200W) สำหรับชุด LL3

 นอกจากนี้ เซิร์ฟเวอร์ยังมีหน่วยความจำแบบ RDIMM ECC DDR4-2666MHz RDIMM ขนาด 192GB ในสล็อตแบบ 12 DIMM สำหรับแบนด์วิดธ์สูงสุด จำนวน PCI-E 3.0 แบบ 3 สล็อต ที่รองรับการ์ดที่มีความยาวและความสูงสูงสุด 2 การ์ด สำหรับการส่งผ่าน I/O ที่ความเร็วสูงสุด ฮาร์ดดิสค์ SAS3 SSD/HDD ชนิดถอดเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็ว การจัดการเซิร์ฟเวอร์ IPMI 2.0 ผ่าน LAN โดยเฉพาะ พร้อมชุดซอฟต์แวร์การจัดการแบบ out-of-band ของ Supermicro และอุปกรณ์จ่ายพลังงานแบบดิจิตอลประสิทธิภาพสูงขนาด 750W ระดับแพลตตินัม (95% +)

Table 1. CPU Specifications with All Cores Enabled

Table 2. CPU Specifications with 2 Cores Enabled

คุณภาพและความน่าเชื่อถือระดับองค์กร

เพื่อปรับปรุงคุณภาพและความน่าเชื่อถือของเซิร์ฟเวอร์ระดับ Hyper-Speed ​​Ultra โปรเซสเซอร์หน่วยความจำ NIC และ บอร์ดเซิร์ฟเวอร์ จะถูกคัดกรองล่วงหน้าระหว่างการรวมระบบ และแต่ละระบบจะต้องผ่านกระบวนการเบิร์นอินอย่างเข้มงวด Supermicro จะทำการเร่งซีพียูและหน่วยความจำล่วงหน้าเพื่อให้ลูกค้าสามารถจัดทรัพยากรเพื่อมุ่งเน้นไปในการพัฒนาและปรับแต่งซอฟต์แวร์ บริการนี้สอดคล้องกับเงื่อนไขการรับประกันของ Supermicro การบริการนอกสถานที่ และการสนับสนุนทางเทคนิคที่จัดให้โดยเฉพาะ

เกณฑ์มาตรฐาน

LINPACK เป็นเกณฑ์มาตรฐานที่วัดกำลังการคำนวณจุดลอยตัวของระบบ ด้วยซีพียู Skylake เซิร์ฟเวอร์ Hyper-Speed ​​Ultra เจเนอร์เรชันใหม่สามารถทำงานได้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้าประมาณ 53% ด้วยจำนวนแกนการปฏิบัติการที่เท่ากัน

Table 3. Hyper-Speed Ultra Gen-4 LINPACK Results

Table 4. Hyper-Speed Ultra Gen-5 LINPACK Results

Sockperf เป็นเครื่องมือทดสอบเครือข่ายที่ใช้วัดความหน่วงของเครือข่ายและการเพิ่มขึ้นของความหน่วงบนเครือข่าย แพ็คเก็ตขนาด UDP 64 ไบต์ได้ถูกส่งออกด้วยความเร็ว 600K ต่อวินาทีระหว่างเซิร์ฟเวอร์ Hyper-Speed ​​Ultra ระดับ LL1 สองชุด ผ่าน Mellanox MCX354A เซิร์ฟเวอร์ Supermicro Hyper-Speed ​​Ultra ใหม่ได้รับการปรับปรุงในการลดความผันแปรอย่างมีนัยสำคัญ (ความแตกต่างของความหน่วงระดับกลางและความหน่วงแฝง 99.99%) เกือบ 80% จากรุ่นก่อนหน้านี้ (รูปที่ 3)

รูปที่ 3: 1029UX-LL1-S16 Sockperf Results

STAC-N1 เป็นมาตรฐานที่พัฒนาโดย STAC (ศูนย์วิเคราะห์เทคโนโลยีหลักทรัพย์) ซึ่งวัดประสิทธิภาพของสแต็กของเครือข่ายโฮสต์ โดยใช้ปริมาณงานในรูปแบบข้อมูลตลาด การวัดประสิทธิภาพนี้ดำเนินการกับเซิร์ฟเวอร์ Supermicro SYS-1029UX-LL1-S16 หนึ่งคู่ โดยแต่ละคู่ประกอบด้วยซีพียูแบบ Intel® 8-core

โปรเซสเซอร์ Xeon® Scalable 6144 (Gold) โอเวอร์คล็อกได้ถึง 4.18GHz เซิร์ฟเวอร์ทั้งสองยังถูกโหลดด้วย Red Hat Enterprise Linux 7.5 และ Solarflare X2522 Adapters เมื่อเปรียบเทียบกับผลลัพธ์ STAC-N1 ทั้งหมดที่เปิดเผยต่อสาธารณชนก่อนหน้านี้ ระบบได้แสดงค่าความหน่วงเฉลี่ยต่ำสุดที่ 2.3 microsecond ที่ค่าพื้นฐานทั้งสอง (100k ข้อความต่อวินาที) และอัตราสูงสุดที่เคยทดสอบมา (1 ล้านเมกกะบิตต่อวินาที)

รูปที่ 4: 1029UX-LL1-S8 STAC-N1 Results

สรุปรีวิวประโยชน์ของ Hyper-Speed Ultra

นอกเหนือจากการนำเสนอโซลูชันเซิร์ฟเวอร์ที่เชื่อถือได้ด้วยความหน่วง ค่าความผันแปรที่ต่ำสุด และประสิทธิภาพที่ดีที่สุดแล้ว บริษัท Supermicro ยังคงภารกิจต่อไปเพื่อช่วยลูกค้าลดต้นทุนและเพิ่มรายได้ให้สูงสุด สถาปัตยกรรม Hyper-Speed ​​Ultra สามารถรองรับซีพียูระดับ Xeon 205W อันทรงพลังที่สุดในรูปลักษณะแบบ 1U Hyper-Speed ​​Ultra ยังสามารถรองรับการ์ดที่มีความสูงและความยาวเต็มรูปแบบ รวมถึงการ์ดความละเอียดต่ำ 1 การ์ด และการ์ด SAS3 ในตัว ความสามารถในการขยายนี้ได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมจากระบบการระบายความร้อนด้วยที่มีประสิทธิภาพสูงเพื่อรักษาประสิทธิภาพและความเสถียรของระบบที่ดีที่สุด

การออกแบบเพื่อเป็นระบบแบบเบ็ดเสร็จ เซิร์ฟเวอร์ Hyper-Speed ​​Ultra สามารถช่วยให้ลูกค้าประหยัดเวลาและกำลังคนที่จำเป็นสำหรับการรวม การปรับแต่ง และการทดสอบ Supermicro ยังมีการ์ด NIC ที่ผ่านการรับรองแล้ว และส่วนประกอบอื่น ๆ ที่ผ่านการคัดกรองล่วงหน้าก่อนการติดตั้งจากโรงงาน การทดสอบและการปรับแต่งระบบของ Supermicro ทำให้มั่นใจได้ว่า Hyper-Speed ​​Ultra ทุกเครื่องจะทำงานได้อย่างไร้ที่ติ

เนื่องจากบริษัทหลักทรัพย์มักจะมีการจำกัดการเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ที่จัดเก็บไว้ Supermicro ยังมีความสามารถในการสนับสนุนการจัดการระยะไกลในเซิร์ฟเวอร์ Hyper-Speed ​​Ultra ด้วยการผสานเข้ากับ IPMI 2.0 เซิร์ฟเวอร์ Hyper-Speed ​​Ultra ได้รวมพอร์ต IPMI LAN เฉพาะและชุดยูทิลิตี้การจัดการระดับองค์กร: ซึ่งเป็นคุณสมบัติมาตรฐานที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุม ตรวจสอบ และทำการอัปเดตเซิร์ฟเวอร์ของตนโดยอัตโนมัติในระยะไกลและด้วยความง่ายดาย

 การเข้าถึงฮาร์ดแวร์ที่ทันสมัยที่สุดพร้อมวงจรการรีเฟรชตามแผนช่วยให้บริษัทหลักทรัพย์สามารถแซงหน้าคู่แข่งในการซื้อขายที่มีความหน่วงน้อย เรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอเทคโนโลยีล่าสุดและจะยังคงสร้างชื่อเสียงด้วยแพลตฟอร์ม Hyper-Speed ​​Ultra

ในฐานะผู้จัดหาเซิร์ฟเวอร์ชั้นนำในอุตสาหกรรม Supermicro และ QuickServ ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ พร้อมการบริการด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์เฉพาะด้านที่เกี่ยวกับ Server และ อุปกรณ์เครือข่ายเป็นระยะเวลานานกว่า 10 ปี ที่ทำให้เราได้รับความไว้วางใจจาก Supermicro ให้เป็นตัวแทนจำหน่าย Supermicro Server

ผู้ที่สนใจ Solution ของ Supermicro สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.quickserv.co.th/

About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

AWS เปิดพร้อมใช้ FPGA EC2 รุ่นที่ 2

ในบางอุตสาหกรรมการเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลด้วย FPGA จะช่วยให้ความยืดหยุ่นได้ตรงโจทย์มากกว่า ซึ่งล่าสุดทาง AWS ได้ปล่อย EC2 FPGA instance รุ่นที่สองหรือ F2 ออกมาให้บริการแล้ว

HPE และ BizCon ชี้ จัดการ Hybrid Cloud ต้องไร้รอยต่อ เพื่อรองรับระบบไอทีแห่งอนาคต

จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับงานสัมมนาออนไลน์ “The Next Generation of IT Management for Hybrid Cloud Management – การบริหารจัดการ Hybrid Cloud …