
‘คุณคือผู้โชคดีได้รับรางวัลเป็นเงินจำนวน xxx,xxxx บาท! เพียงแค่คลิกลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์!’ หรือ ‘มีพัสดุส่งมาถึงคุณ แต่ว่าไม่มีคนรับทำให้พัสดุถูกตีกลับหากอยากให้เราทำการส่งใหม่ คลิกเพื่อจ่ายเงินค่าส่งได้เลย’
เราเชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยได้รับข้อความในรูปแบบนี้มาสักครั้งหนึ่งเมื่อยามที่ใช้อินเทอร์เน็ต อาจจะด้วยทางอีเมลหรือช่องทางอื่นๆ ซึ่งบางครั้งไม่อาจหักห้ามใจที่จะไม่ให้กดเข้าไปดูได้
เนื่องจากรางวัลที่ได้มามันช่างง่ายแสนง่าย เพียงแค่กรอกชื่อ ที่อยู่ อีเมลลงไป และรอลุ้น หรืออย่างอีเมลที่มีพัสดุมาส่ง แต่เราไม่อยู่หรือไม่สะดวกรับพัสดุ เราเชื่อว่ามีคนประมาณ 90% ต้องกดเข้าไปดูอย่างแน่นอน จะเห็นได้ว่าข้อความเหล่านี้มีวิวัฒนาการเรื่อยมา มีความแนบเนียนล่อลวงให้ผู้คนเกิดความอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น ลองนึกดูว่าหากพ่อแม่ของเรา ท่านอาจจะไม่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของโปรแกรมหลอกลวงต้มตุ๋นต่างๆ บนอินเทอร์เน็ต จึงอาจถูกหลอก ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินได้ หรือแม้กระทั่งตัวเราเองเพียงแค่กดเข้าไปดูก็อาจเป็นภัยต่อข้อมูลส่วนตัวต่างๆ ของเราเช่นกัน
ในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจเจ้าโปรแกรมหลอกลวงชนิดหนึ่ง ที่มีชื่อเรียกว่า ‘Spyware’ หรืออีกคำหนึ่งก็คือ Spying Software โปรแกรมที่แฝงมาในคอมพิวเตอร์ของเราแบบไม่ได้รับเชิญ!
1. Spyware เข้ามาในคอมพิวเตอร์เราได้อย่างไร?
Spyware (สปายแวร์) โปรแกรมที่ถูกพัฒนาเพื่อแฝงตัวเข้ามาในคอมพิวเตอร์ของเราด้วยการหลอกให้ผู้ใช้งานดาวน์โหลดเอาไปใส่ในเครื่องเอง หรือคอยอาศัยช่องโหว่เมื่อเราใช้งานอินเทอร์เน็ตอยู่และติดตั้งตัวเองลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราอย่างเช่น
- การแนบไฟล์ในอีเมล ทำให้ผู้รับเกิดความสงสัย และกดดาวน์โหลด
- เมื่อเราเจอกับโฆษณาที่เด้งขึ้นมา ทั้งๆ ที่เราไม่ได้เปิดเว็บไซต์ ทำให้เราเผลอกดเข้าไป
- การส่งไฟล์ระหว่างกัน
- หรือแม้กระทั่งการดาวน์โหลดโปรแกรมฟรีต่างๆ เมื่อเราทำการยกเลิกการติดตั้งไปแล้ว Spyware อาจจะคงอยู่ในคอมพิวเตอร์
2. ประเภทของ Spyware และรูปแบบการทำงาน
Spyware นั้นมีรูปแบบหลากหลายเพื่อตอบจุดประสงค์ของแฮ็กเกอร์ผู้สร้างที่แตกต่างกัน โดยจะมี 4 ประเภทหลักดังนี้
- Keyloggers รูปแบบของ Spyware ประเภทนี้จะทำการสอดแนมทุกกิจกรรมที่เราทำบนคอมพิวเตอร์ไม่ว่าการเข้าอีเมล การเข้าเว็บไซต์ต่างๆ จนสามารถรวบรวมและรู้ได้ถึง Username & Password หมายเลขบัตรเครดิตและข้อมูลสำคัญต่างๆ โดยการดักจับและบันทุกข้อมูลจากการพิมพ์คีย์บอร์ดของผู้ใช้ ทั้งตัวอักษร ตัวเลข ข้อความต่างๆ และทำการส่งไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ปลายทางที่โปรแกรมได้ระบุเอาไว้
- Adware คือ Spyware ที่มาในรูปแบบของ Pop-Up โฆษณา และทำให้ปุ่มปิด X หายาก ทำให้เราเผลอกดเข้าไปยังลิงค์ที่เป็นอันตรายต่อคอมพิวเตอร์เรา
- Trojans จะหลอกให้ผู้ใช้งานติดตั้งโปรแกรมบางอย่างลงบนคอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ตโฟน เพื่อเข้าถึงข้อมูลไฟล์ที่เป็นส่วนตัว Trojan บางประเภทยังสามารถทำการเปลี่ยนแปลงตั้งค่ารหัสผ่านของเราได้ด้วยเพื่อทำการควบคุมอุปกรณ์ของเรา
- Cookie Trackers คุกกี้น่าจะเป็นหนึ่งในโปรแกรมที่เราคุ้นเคยกันมากที่สุด เพราะเว็บไซต์ส่วนใหญ่ก็มีการติดตั้งคุกกี้เพื่อความสะดวกสบายของผู้ใช้งาน เช่น เมื่อเราทำการ Login เว็บไซต์หนึ่งไว้ หากเรากดยอมรับให้มีคุกกี้เราก็ไม่ต้อง Login ครั้งต่อไปเมื่อต้องการใช้งาน แต่ก็มีคุกกี้ที่มาจาก Spyware ทำการสวมรอยมาแอบเก็บข้อมูลของเรา และทำการส่ง Junk Mail หรือ Pop-Up โฆษณาให้เราเผลอกดด้วยก็ได้
3. ใช้ Mac จะปลอดภัยจาก Spyware หรือไม่?
อย่างที่เราได้ยินชื่อเสียงของระบบปฏิบัติการ Mac นั้นมีประสิทธิภาพสูง สามารถป้องกัน Spying Software, Malware และไวรัสอื่นๆ ได้ ทำให้เป็นที่นิยมของผู้ใช้งาน และยิ่งเป็นการทำให้แฮ็กเกอร์ทั้งหลายต่างพยายามพัฒนาโปรแกรมไวรัส Email Phishing Scams, Malware ต่างๆ ให้เข้าถึงความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานให้ได้ โดยวิธีการและอาการติด Spyware ของ Mac จะมีอาการคล้ายคลึงกับที่ระบบ Windows แต่ส่วนใหญ่ Mac Hackers มักจะใช้เป็นวิธีการขโมยรหัสผ่านเป็นหลัก หรืออาศัยช่องโหว่เพื่อปล่อย Spyware อย่างเมื่อมีการส่งไฟล์ หรือทำการบันทึกการกดแป้นพิมพ์
4. สังเกตอาการของอุปกรณ์ของเรา และวิธีลบ Spyware
เมื่อเราสังเกตดูแล้วว่าคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ต่างๆ มีอาการติดไวรัส Spyware อย่างเช่น
- อุปกรณ์ของเราทำงานช้าอย่างผิดปกติ
- ได้รับ Pop-Up โฆษณาจำนวนมาก แม้เราไม่ได้เปิดเว็บไซต์นั้นๆ
- มีแถบเครื่องมือแปลกๆ ปรากฏขึ้นมา บนหน้า Search Engines หรือ Home Screens ของเราทั้งๆ ที่เราไม่ได้ดาวน์โหลด
ถ้าหากมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้นก็เป็นไปได้ว่าอุปกรณ์ของเราติดเจ้าไวรัส Spyware เข้าแล้ว ส่วนวิธีการกำจัด Spyware นั้นมีหลากหลายรูปแบบ
- ขั้นตอนแรกที่เราแนะนำก็คือให้ ทำการ Offline ปิดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตบนอุปกรณ์ของคุณเพื่อป้องกันการแพร่กระจายไปทั่ว และป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล
- ขั้นตอนต่อไปให้ Restart อุปกรณ์ หลังจากที่ Restart เสร็จสิ้นให้เลือกกดไปที่ Safe Mode เพื่อให้โปรแกรมที่มีความจำเป็นดำเนินการต่อไป (หลังจากที่ Restart แล้วน่าจะมีตัวเลือกขึ้นมาให้เราเลือก Safe Mode หากไม่มีให้ เลือก 4 หรือ F4 เพื่อให้อุปกรณ์ของเราไปสู่ Safe Mode)
- ลบไฟล์และโปรแกรมที่ไม่พึงประสงค์
ซึ่งวิธีเบื้องต้นนี้จะช่วยให้อุปกรณ์ของเราได้ทำการกำจัดไฟล์ที่ไม่จำเป็นออกไป ช่วยให้คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อื่นๆ มีการทำงานที่รวดเร็วขึ้น
5. โปรแกรมที่สามารถกำจัด Spyware ได้อย่างถาวร
อย่างไรก็ตามวิธีการกำจัด Spyware ได้อย่างถาวรคือการติดตั้ง Antivirus Software ที่มีความสามารถในการป้องกันและกำจัด Spyware ตัวโปรแกรมจะช่วยสแกนหาการติดไวรัส และคอยตรวจสอบดูว่ามีไวรัสซ่อนอยู่ในอุปกรณ์ของเราหรือไม่ และช่วยกำจัดออกไปก่อนที่เหล่าแฮ็กเกอร์จะทำการขโมยข้อมูลส่วนตัวของเราไปใช้ในทางที่ไม่ดี ซึ่งโปรแกรมกำจัด Spyware ก็มีทั้งรูปแบบที่ให้ดาวน์โหลดฟรีๆ มากมายบนอินเทอร์เน็ต แต่เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าโปรแกรมฟรีเหล่านั้นปลอดภัยจากไวรัสจริงๆ ฉะนั้นเลือกโปรแกรม Anti-Spyware ที่น่าเชื่อถือได้จาก Bitdefender บริษัทพัฒนาโปรแกรมกำจัดไวรัสที่ได้รับการยกย่องให้เป็น The Best Antivirus Softwareในปี 2020 จากบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีทั้งหลาย โดย Bitdefender ยังได้รับการยอมรับจากบริษัทระดับโลกอย่างเช่น IBM และ Virgin Media ที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกันมาอย่างยาวนาน
6. ทำความรู้จักกับ Anti-Spyware Software อย่าง GravityZone จาก Bitdefender
บริษัท Bitdefender ได้พัฒนา Antivirus Software โดยใช้เทคโนโลยีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และให้ชื่อว่า Bitdefender GravityZone ซึ่งเป็นตัวแทนของการทำงานที่รวดเร็ว และประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสระดับสูง โดยซอฟต์แวร์ตัวนี้ได้ถูกออกแบบมาเพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยของกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก ทั้งยังรองรับระบบปฏิบัติการ Windows , Linux และ Mac และอื่นๆ อีกมากมาย พร้อมกับมีการควบคุมผ่าน Console เดียว ทำให้การบริหารจัดการเครื่องเวิร์กสเตชันและเซิร์ฟเวอร์ ได้อย่างสะดวกสบาย
เข้าไปเลือก Anti-Spyware Software ของบริษัท Bitdefender ได้ที่นี่ ไม่ว่าคุณจะเป็นบริษัทขนาดเล็กหรือใหญ่ หรือเพียงแค่ต้องการความปลอดภัยในการปกป้องข้อมูลส่วนตัวของคุณบนโลกอินเทอร์เน็ต เรามีโปรแกรมที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ เพื่อยกระดับความปลอดภัยสูงสุดให้แก่คุณ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:
Call Center: +66 2-496-1234
Facebook: quickserv.enterprise
Email: sales@quickserv.co.th
Website: www.quickserv.co.th