TechTalkThai ศูนย์รวมข่าว Enterprise IT ออนไลน์แห่งแรกในประเทศไทย
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการใช้งาน Open Source กำลังมาแรงขึ้นเรื่อยๆ ในระดับองค์กร ด้วยข้อดีหลายประการ อย่างไรก็ดีที่ผ่านมาหลายองค์กรยังมีข้อจำกัดในทักษะด้านการแก้ไขปัญหาหลังใช้งาน เนื่องด้วย เป็น Open source software จึงยังไม่มีการสนับสนุนที่เป็นทางการจากเจ้าของซอฟต์แวร์โดยตรง วันนี้ AIS Business จึงได้จับมือกับ IBM เปิดตัวบริการใหม่ล่าสุดภายใต้ชื่อ ‘AIS Open Source Support Services’
Open Source คืออะไร
Open Source คือซอฟต์แวร์ที่มีกลุ่มคนมาร่วมกันพัฒนา โดยจุดเริ่มต้นนั้นมีมานานแล้วยกตัวอย่างเช่น Linux ที่มีการเปิดเผยซอร์สโค้ดให้ผู้สนใจแก้ไขได้ อันที่จริงแล้ว Open Source ยังครอบคลุมไปถึง ฐานข้อมูล แอปพลิเคชันและแพลตฟอร์มช่วยพัฒนาซอฟต์แวร์ ทั้งนี้ซอฟต์แวร์สามารถนำไปปรับแต่งเพื่อใช้ภายในองค์กรได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ไม่อนุญาตให้นำมาแสวงหาผลกำไร ในปัจจุบัน Open Source ได้ถูกยกระดับในทางการค้ามากขึ้น โดยมาในรูปแบบของบริการดูแลพิเศษหรือฟังก์ชันขั้นสูงที่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ในขณะที่เวอร์ชันฟรีจะมีเพียงฟังก์ชันขั้นพื้นฐานและไม่มีส่วนช่วยเหลือลูกค้าแต่ยังหาความรู้ได้จากกลุ่มผู้สนใจที่มาแชร์ข้อมูลกัน
6 ข้อดีของ Open Source ที่เหนือกว่าซอฟต์แวร์ทางการค้า
1.) คล่องตัวกว่า สามารถปรับแต่งได้ – Open Source ตัดปัญหาเรื่องระยะเวลาจัดซื้อจาก Vendor หากต้องการทดลองและทดสอบก็ทำได้ง่ายกว่า หลายครั้งที่ Open Source ถูกพัฒนาไปไกลกว่าซอฟต์แวร์ทางการค้า จนกลายเป็นทางเลือกเดียวในการใช้งาน ในกรณีที่ต้องการฟีเจอร์โดดเด่นของซอฟต์แวร์ทางการค้า องค์กรก็สามารถพัฒนาปรับแต่งซอฟต์แวร์ Open Source ให้เทียบเคียงกันในการใช้งานทดแทนซอฟต์แวร์ทางการค้าได้
2.) ดึงดูดคนเก่ง มีแหล่งเรียนรู้ทั่วไป – คนเก่งต้องการเวทีที่จะแสดงฝีมือ บ่อยครั้งเราจะเห็นได้ว่านักพัฒนาซอฟต์แวร์ระดับหาตัวจับยาก มักจะคร่ำหวอดอยู่ในวงการ Open Source เนื่องจากเปิดโอกาสให้พวกเขาสามารถศึกษาได้จาก Community ที่มีความสนใจเหมือนกันหรือหน้าเว็บของ Contributor หลัก เพราะด้วยแนวคิดพื้นฐานของ Open Source ริเริ่มจากแนวคิดของการเปิดเผยโค้ดอยู่แล้ว ด้วยเหตุนี้เองการที่องค์กรเลือกใช้ Open Source จึงเป็นข้อดีที่สามารถดึงดูดคนเก่งที่มักมีนิสัยรักในการเรียนรู้และแก้ปัญหาเข้ามาร่วมทีมได้อีกด้วย
3.) มีความปลอดภัยของข้อมูลมากกว่า – Open Source เจ้าดังๆนั้นมีผู้ใช้งานกระจายกันอยู่ทั่วโลก ทั้งในรูปแบบของ Community และ Commercial ซึ่งโค้ด Open Source นั้นเปิดให้ตรวจสอบและศึกษากันได้อยู่แล้ว ดังนั้นหากมีปัญหาอะไรก็ตามก็จะมีการแจ้งและช่วยกันแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว จึงมั่นใจได้เลยว่าซอฟต์แวร์จะไม่มีช่องโหว่หลังถูกแก้ไขไป
4.) อายุการใช้งานยาวนาน – ซอฟต์แวร์ทางการค้ามักมีกำหนดอายุการดูแลโดยเจ้าของผลิภัณฑ์ บางครั้งในแต่ละเวอร์ชันมีอายุเพียงไม่กี่ปี ในขณะที่ Open Source เปิดให้นักพัฒนาทั่วโลกเข้ามามีส่วนร่วม จึงสามารถใช้ในระดับองค์กรได้อย่างยาวนานมากกว่า
5.) อนาคตยาวไกล – แม้ว่าซอฟต์แวร์ Open Source จะเกิดขึ้นมานานมากแล้ว แต่ระยะหลังจะเห็นได้ว่าช่องทางการเติบโตของ Open Source นั้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก ในทุกส่วนของระบบไอที เช่น Cloud, Data Analytics, AI, IoT และอื่นๆ และยังมีฟังก์ชันที่ไม่น้อยหน้าไปกว่าซอฟต์แวร์ทางการค้าเลยด้วยซ้ำ ซึ่งมีการคาดการณ์จากหลายๆแห่งว่ายุคต่อไปจะเป็นของ Open Source เลยทีเดียว ดังนั้นจึงเป็นเริ่มที่องค์กรต้องทบทวนตัวเองแล้วว่า พร้อมหรือยังที่จะ Transform ตัวเองตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อให้องค์กรมีทีมที่มีประสบการณ์ และมีต้นทุนที่สามารถรับกับการแข่งขันในอนาคต
6.) เริ่มต้นก็ง่าย ราคาก็ดี – ซอฟต์แวร์ Open Source มักจะมีเวอร์ชัน Community ที่สามารถโหลดมาใช้ได้ทันที โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ดังนั้นเราสามารถเริ่มได้ทันที ขณะเดียวกันเมื่อทดลองแล้วหากพบว่ามีความต้องการฟีเจอร์มากกว่าเดิม จึงค่อยพิจารณาอัปเกรตเป็นเวอร์ชัน Commercial ซึ่งแม้จะมีค่าใช้จ่ายแต่หลายครั้งแล้วพบว่า ก็ยังมีราคาย่อมเยาว์กว่าซอฟต์แวร์ทางการค้า ที่อาจจะนำเงินที่เหลือไปลงทุนกับบริการ Consult ที่ครอบคลุมกับซอฟต์แวร์ Open Source ตัวอื่นๆ ด้วยอย่าง AIS Business เป็นต้น
IBM ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์อย่างยาวนานในตลาด Open Source
IBM เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในตลาดไอทีที่ครอบคลุมทั้ง Hardware, Software, Cloud, AI และอื่นๆ แต่หลายคนอาจไม่ทราบว่าอันที่จริงแล้ว IBM คือหนึ่งในบริษัทเป็น Contributor ในซอฟต์แวร์ด้าน Open Source มากว่า 25 ปี การันตีด้วยจำนวนการ Commit กว่า 15,000 ครั้งต่อเดือนใน 1,900 โปรเจ็ค
โดย IBM มีประสบการณ์การประยุกต์ใช้ซอฟต์แวร์ Open Source ในขั้นสูง เช่น การใช้ AI เพื่อวิเคราะห์เสียงไอทำนายการเป็นโควิด หรือหุ่นยนต์ที่สามารถวิเคราะห์คุณภาพของการก่อสร้าง จากการฟังเสียงสะท้อนที่เกิดจากการเคาะกระเบื้อง ที่ปกติคงเป็นเรื่องยากมากที่จะเข้าไปตรวจสอบอาคารทั้งหมด ซึ่ง IBM ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า Open Source ไม่ใช่เครื่องมือจำกัดเพียงแค่การใช้งานพื้นฐานอย่างที่หลายคนเข้าใจ
AIS x IBM = AIS Business Open Source Support Services
หลายองค์กรสนใจเรื่อง Open Source มานาน แต่สุดท้ายแล้วยังมีความท้าทายรออยู่มากมาย ประการแรกคือองค์กรต้องทราบก่อนว่า Open Source ตัวได้ที่สอดคล้องกับเป้าหมายของตัวเอง เพื่อเลือกโปรเจ็คที่เหมาะสมจากโปรเจ็คนับพันตัวในตลาด ประการที่สองจะเลือกใช้งานแหล่งดาวน์โหลดใดที่น่าเชื่อถือและตอบโจทย์กับความต้องการ เพราะ Open Source แต่ละตัวก็มี Repository ที่แต่งแตกต่างกัน
ประการที่สามคือการสร้างทีมและวัฒนกรรม DevSecOps ที่ไปในทิศทางเดียวกัน ให้ทีม Developer และ Infrastructure สื่อสารกันได้เข้าใจ เห็นภาพเป้าหมายตรงกัน นอกจากนี้จะต้องลบภาพการทำงานแบบเดิมๆ ที่เคยหวังความช่วยเหลือจากทีมให้บริการของซอฟต์แวร์ทางการค้า เป็นการศึกษาความรู้ด้วยตัวเอง นำมาดูแลระบบที่องค์กรเลือกใช้งาน
อย่างไรก็ดีจะเห็นได้ว่าจะเอาชนะความท้ายเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ยิ่งถ้าองค์กรมีขนาดเล็กหรือต้องการความรวดเร็ว ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องใช้ Open Source จำนวนมาก ด้วยเหตุนี้เอง AIS Business จึงจับมือกับ IBM เพิ่อเปิดตัวบริการรูปแบบใหม่สำหรับให้คำปรึกษาองค์กรที่ต้องการริเริ่มในซอฟต์แวร์ Open Source ตั้งแต่การวางแผน ไปจนถึงให้การดูแล ภายใต้บริการ ‘AIS Business Open Source Support Services’ ซึ่งครอบคลุมทั้ง On-premise, Private Cloud หรือลูกค้าเดิมที่มีการใช้งาน AIS Enterprise Cloud
ประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับในบริการ Open Source Support Services มีดังนี้
- ลูกค้าเดิมของ AIS Enterprise Cloud ที่มีการใช้งาน Open Source software ต้องการต่อยอด กล่าวได้ว่าท่านจะได้รับการบริการแบบ One Stop Service ตั้งแต่ Infrastructure ไปจงถึงซอฟต์แวร์ Open Source ที่ท่านใช้งาน
- เป็นไปได้ว่าในบางครั้ง ผู้ใช้งานอาจไม่มีประสบการณ์ทำให้เข้าไปยังแหล่งข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือ ซึ่งด้วยบริการของ AIS Business จะช่วยให้ท่านหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านั้นได้
- เชื่อแน่ว่าแต่ละองค์กรนั้นมักมีการใช้ซอฟต์แวร์ Open Source มากกว่าหนึ่งตัว เช่น Analytics, Caching, Database, Web เป็นต้น รวมไปถึงในรูปแบบของแพลตฟอร์มและเครื่องมือช่วยพัฒนาโปรแกรม การจะเชี่ยวชาญในระบบทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องค่อนข้างยาก จะดีกว่าไหมหากเรานำความเชี่ยวชาญจากทีมงาน AIS Business เข้ามาให้คำปรึกษาและดูแลเรื่องซับซ้อนเหล่านั้น
บริการนี้เหมาะกับใคร
อันที่จริงแล้วกล่าวได้ว่าบริการนี้เหมาะแก่องค์กรในทุกขนาดที่กำลังมองหาความช่วยเหลือในการใช้งาน Open Source ตั้งแต่องค์กรขนาดใหญ่ที่มีโครงสร้างซับซ้อนและต้องการลดภาระค่าใช้จ่าย ไปจนถึงองค์กรขนาดเล็กอย่างสตาร์ทอัปที่เพิ่งริเริ่มใหม่ ไม่ต้องการลงทุนซื้อซอฟต์แวร์ด้วยงบที่สูงเกินไปซึ่งอาจไม่คุ้มค่า ประกอบกับไม่มีผู้เชี่ยวชาญมากพอที่จะเข้าไปศึกษาความรู้ด้วยตัวเอง ตั้งแต่แรกเริ่ม
สำหรับองค์กรธุรกิจที่สนใจบริการ AIS Open Source Support Service สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ AIS Business ที่ดูแลองค์กรของท่านหรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ผ่านทาง เว็บไซต์ https://business.ais.co.th/solution/opensource-platform.html หรืออีเมล์ businesscloud@ais.co.th
