ในวันที่ 2 ของการประชุมนักพัฒนา Microsoft Build 2022 ทาง Microsoft ได้แชร์รายละเอียดระหว่าง Microsoft และ Meta ว่าจะสานต่อการขยายขีดความสามารถด้าน AI ร่วมกันอย่างต่อเนื่อง โดย Meta ได้เลือก Azure เป็นผู้ให้บริการระบบคลาวด์เชิงกลยุทธ์ เพื่อเร่งการวิจัยและพัฒนา AI ของตนเอง
Microsoft และ Meta ต่างกล่าวในงานประชุมว่า จะร่วมมือกันเพื่อปรับขนาดการนำ PyTorch ไปใช้บน Azure โดยสอดคล้องกับการประกาศของ Microsoft เมื่อปีที่ผ่านมาต่อสาธารณชนเกี่ยวกับการเพิ่มความเข้มข้นในการสนับสนุนลูกค้าระดับองค์กรที่ใช้งานเฟรมเวิร์กของการเรียนรู้เชิงลึก PyTorch ของทาง Meta บน Azure และหวังว่าในอีกไม่นานการพัฒนาของ PyTorch เวอร์ชันใหม่จะสามารถอำนวยความสะดวกในการใช้งานโซลูชันบน Azure ที่ใช้ PyTorch มีความรวดเร็วมากขึ้น
ปีที่แล้ว Meta เริ่มใช้ Azure VM สำหรับการวิจัย AI ขนาดใหญ่บางรายการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฝึกอบรม AI แบบ distributed โดยใช้ประโยชน์จากคลัสเตอร์บน Azure
นอกจากนี้ Microsoft ยังประกาศบริการที่พร้อมให้ใช้งานเพิ่มเติม :
-
Azure OpenAI Services พร้อมให้ใช้งานแล้ว โดยในปี 2019 Microsoft ได้ลงทุนกว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อแลกมาด้วยการเข้าถึงโมเดลต่างๆ จาก OpenAI รวมไปถึง GPT-3 base series (Ada, Babbage, Curie และ DaVinci), Codex series และ Embedding Models ที่รวมเข้ากับความสามารถระดับองค์กรของ Azure
-
Cognitive Service for Language คือ API สำหรับการจำแนกสรุปเอกสารภาพและเสียงสนทนา ที่ใช้พิสูจน์ประโยชน์จากงานด้าน Call Center
ปัจจุบัน Microsoft มีโมเดลของ AI อะไรบ้าง :
-
Turing สำหรับการทำความเข้าใจภาษาที่หลากหลาย
-
Z-Code สำหรับการแปลภาษา
-
Florence สำหรับการจดจำภาพ
-
Azure Cognitive Services ให้บริการด้าน คำพูด ภาษา การตัดสินใจ เป็นภารกิจหลัก
-
Azure Applied AI Services คือการค้นหาทางปัญญา ตัวจดจำฟอร์ม โปรแกรมช่วยอ่าน บริการบอท และตัววิเคราะห์วิดีโอ
เมื่อปี 2560 สมัยเป็นที่รู้จักกันในนาม Facebook ได้มีประกาศรูปแบบ ONNX (Open Neural Network Exchange) โครงการโอเพนซอร์สโดย บริษัท Microsoft และ Facebook เพื่อช่วยให้นักพัฒนาสามารถย้ายโมเดลการเรียนรู้เชิงลึกระหว่างเฟรมเวิร์ก AI ต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น