ระบบ ERP ที่ดี จะช่วยให้ธุรกิจสามารถก้าวเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ (IPO) ได้อย่างไร?

เจ้าของกิจการหรือผู้บริหารธุรกิจหลายท่านคงเคยได้ยินกันว่า หากจะนำธุรกิจเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์หรือ IPO นั้น ระบบ ERP หรือ Enterprise Resource Planning ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ธุรกิจจะขาดไปไม่ได้ในทุกวันนี้

แต่ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? ระบบ ERP จะช่วยให้ธุรกิจเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ง่ายดายต่างจากระบบบัญชีหรือ Business Software เดิมที่มีอยู่ได้อย่างไร? บทความนี้ทีมงาน Sala Daeng จะขอไขข้อข้องใจของท่านให้ทุกท่านได้ทราบกันครับ

โดยทั่วไปแล้วในการเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์หรือ IPO นั้น นอกจากการมีธุรกิจที่มีผลประกอบการที่เข้าเกณฑ์แล้ว ก็จะยังมี 6 ขั้นตอนที่ธุรกิจต้องปรับตัว ดังนี้

1. การเสริมทัพที่ปรึกษาและผู้ตรวจสอบ

เนื่องจากการ IPO นั้นมีประเด็นด้านข้อกำหนดและกฎหมายมาเกี่ยวข้องมากมาย การมีที่ปรึกษาที่ดีนั้นจะช่วยให้ธุรกิจมองเห็นช่องว่างที่ยังขาดอยู่และแนวทางการปรับตัวเพื่อให้การดำเนินธุรกิจสอดคล้องกับข้อกำหนดและกฎหมายได้อย่างชัดเจน ในขณะที่การเตรียมวางทีมผู้ตรวจสอบให้เหมาะสมนั้น ก็จะทำให้การดำเนินการของธุรกิจมีความน่าเชื่อถือและโปร่งใสมากยิ่งขึ้น ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ธุรกิจที่มีแผนเตรียม IPO จะต้องมีการเสริมด้วยกันหลายส่วน ดังนี้

  • ที่ปรึกษาทางการเงิน หรือ Financial Advisor (FA) ที่ได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. ทำหน้าที่เป็นผู้ศึกษาข้อมูลด้านการดำเนินการและการเงินของธุรกิจ เพื่อให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ต่อการปรับเปลี่ยนกระบวนการ การทำงาน การจัดเก็บรวบรวมข้อมูล และทิศทางที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจในการ IPO รวมถึงยังมีบทบาทสำคัญในการเตรียมข้อมูลรายงานต่างๆ ที่จำเป็นต้องยื่นต่อสำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ด้วย
  • ผู้ตรวจสอบบัญชีรับอนุญาต หรือ Auditor ที่ได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. ทำหน้าที่ในการตรวจสอบข้อมูลบัญชีและงบการเงินของบริษัทให้มีความถูกต้อง โปร่งใส และเป็นไปตามมาตรฐานหรือข้อกำหนดของบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อให้นักลงทุนมั่นใจในงบการเงินที่เปิดเผยต่อตลาด
  • ผู้ตรวจสอบระบบงานภายใน หรือ Internal Auditor มีหน้าที่ในการวิเคราะห์การดำเนินงานภายใน เพื่อกำหนดขั้นตอนการทำงานใหม่ที่มีความโปร่งใส ชัดเจน ตรวจสอบได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งการบริหารวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจในระยะยาว อีกทั้งยังสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน รวมถึงลดความเสี่ยงที่บริษัทจะมีการดำเนินการในบางส่วนที่ขัดแย้งต่อข้อกฎหมายหรือข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง
  • ที่ปรึกษาทางด้านกฎหมาย หรือ Lawyer ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาด้านข้อกฎหมายต่างๆ ที่อาจจะมีรายละเอียดปลีกย่อยแตกต่างกันไปสำหรับแต่ละธุรกิจ เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินการต่างๆ จะเป็นไปตามข้อกฎหมายอย่างถูกต้อง และการตรวจสอบจะครอบคลุมถึงประเด็นเหล่านี้ได้อย่างสม่ำเสมอ
  • ผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ หรือ Underwriter ทำหน้าที่ในการกระจายหุ้น IPO ในกระบวนการเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์
  • บริษัทประเมินมูลค่าทรัพย์สินและผู้ประเมินหลักสำหรับธุรกรรมในตลาดทุน ทำหน้าที่ในการประเมินมูลค่าทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องของบริษัทตามข้อกำหนดกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง

จะเห็นได้ว่าการมีที่ปรึกษาและผู้ตรวจสอบนั้น จะเป็นก้าวแรกที่ทำให้ธุรกิจได้ปรับตัวสู่การทำงานที่เป็นมืออาชีพมากขึ้นทั้งในเชิงของระบบบัญชี การเงิน และการดำเนินการ ซึ่งส่งผลดีต่อธุรกิจในระยะยาวโดยตรง แต่ก็อาจมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมาสำหรับการดำเนินการในส่วนนี้เช่นกัน ในขณะที่หลายบริษัทเองก็อาจตัดสินใจชะลอหรือไม่เข้าตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่ขั้นตอนนี้ได้เมื่อได้เริ่มรับคำปรึกษาหรือดำเนินการตรวจสอบบัญชีและตรวจสอบภายใน เนื่องจากได้เห็นถึงความไม่พร้อมของธุรกิจและต้องใช้เวลาเตรียมตัวยาวนานกว่าที่วางแผนเอาไว้

2. การจัดเตรียมความพร้อมและปรับโครงสร้างธุรกิจ

ธุรกิจที่มีแผนเข้าตลาดหลักทรัพย์นั้นจะต้องมีการกำหนดที่ชัดเจน ว่าจะนำส่วนใดของธุรกิจเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์บ้าง เช่น บางบริษัทอาจมีการนำบริษัทในเครือเข้าตลาดหุ้น บางบริษัทอาจมีการควบรวมบริษัทในเครือบางส่วนก่อนเข้าตลาดหลักทรัพย์ หรืออาจมีการปรับเปลี่ยนรายชื่อผู้ถือหุ้นก่อนเพื่อให้เหมาะสมต่อการดำเนินการในอนาคต เป็นต้น โดยที่ปรึกษาทางการเงินมักเป็นผู้ที่มีบทบาทเกี่ยวข้องในการให้คำปรึกษาในส่วนนี้

ขั้นตอนนี้จะทำให้ธุรกิจมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นว่าจะต้องมีการดำเนินการปรับเปลี่ยนส่วนใดของธุรกิจ และต้องมีการวางระบบด้านการเงิน บัญชี และการตรวจสอบเพิ่มเติมมากน้อยเพียงใด รวมถึงเมื่อผ่านกระบวนการเข้าตลาดหลักทรัพย์เรียบร้อยแล้ว ก็จะมีความโปร่งใสต่อการตรวจสอบ ว่าการดำเนินการของธุรกิจที่เกิดขึ้นนั้นมีการเอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจอื่นๆ ของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือมีผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างไรบ้าง และป้องกันไม่ให้เกิดการเอาเปรียบผู้ถือหุ้นรายย่อยในอนาคต

3. การจัดเตรียมความพร้อมสำหรับผู้บริหารและกรรมการ

ในการเข้าตลาดหลักทรัพย์นั้นจะมีหลักเกณฑ์ที่ระบุเอาไว้อย่างชัดเจนถึงคุณสมบัติของผู้ที่จะดำรงตำแหน่งผู้บริหารและคณะกรรมการ ดังนั้นการคัดสรรผู้บริหารและคณะกรรมการให้เหมาะสม รวมถึงดำเนินการตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด เช่น การฝึกอบรมในประเด็นต่างๆ ก่อนเข้าตลาดหลักทรัพย์นั้นก็เป็นอีกประเด็นที่ไม่อาจมองข้ามไปได้

4. การเตรียมความพร้อมสำหรับงบการเงิน

การปรับปรุงงบการเงินให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำหนดถือเป็นอีกขั้นตอนที่สำคัญ ซึ่งก่อนที่ธุรกิจจะดำเนินการมาสู่ขั้นตอนนี้ได้ การมีระบบบริหารจัดการบัญชีและการเงินที่ครบถ้วน แม่นยำ ตรวจสอบได้อย่างเช่น ERP ก็ถือเป็นสิ่งที่จำเป็น โดยธุรกิจจะต้องทำการเปลี่ยนมาตรฐานการบัญชีที่ใช้อยู่เดิมจากกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ หรือ Non-Publicly Accountable Entities (NPAEs) มาสู่การใช้มาตรฐานการบัญชีจากกิจการที่มีส่วนได้เสียสาธารณะ หรือ Publicly Accountable Entities (PAEs) แทน ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยใช้มาตรฐานการรายงานทางการเงินที่เรียกว่า Thai  Financial Reporting Standards (TFRS)

5. การวางกระบวนการและระบบควบคุมภายในที่น่าเชื่อถือ

เช่นเดียวกับการปรับปรุงงบการเงิน การปรับเปลี่ยนกระบวนการการดำเนินงานและการวางระบบควบคุมภายในที่น่าเชื่อถือนั้นก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยจะต้องมีการแบ่งส่วนระบบควบคุมภายในออกเป็น Operation Control สำหรับการควบคุมการปฏิบัติงาน และ Management Control สำหรับการควบคุมด้านการบริหารจัดการ โดยต้องมีการแบ่งอำนาจหน้าที่ในการปฏิบัติงานและการบริหารที่ชัดเจน

ด้วยเหตุนี้ ธุรกิจหลายแห่งจึงมีการใช้ระบบ ERP เข้ามาทำหน้าที่ในส่วนนี้ ด้วยการวางกระบวนการการดำเนินงานที่เป็นระบบและตรวจสอบได้มากยิ่งขึ้นจากการมีข้อมูลของธุรกิจที่ครบถ้วนแม่นยำและการวางกระบวนการดำเนินงานในแบบ Digital เพื่อสร้างความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจตั้งแต่การดำเนินการไปจนถึงการบริหาร

6. การวางแผนประชาสัมพันธ์และสื่อสาร

ในการวางแผนประชาสัมพันธ์และสื่อสารนี้ ธุรกิจจะต้องทำการประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินงานของบริษัทให้แก่ผู้ลงทุนและประชาชนทั่วไป เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่องค์กรและมีข้อมูลที่ดีสำหรับให้นักลงทุนหรือผู้ที่สนใจทำการตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม โดยต้องมีการดำเนินการล่วงหน้าตั้งแต่ก่อนเข้าตลาดหลักทรัพย์ และดำเนินการต่อเนื่องไปหลังจากที่ผ่านกระบวนการเข้าตลาดหลักทรัพย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ระบบ ERP: หัวใจสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจวางแผน IPO ได้อย่างมั่นใจ

จะเห็นได้ว่าในการเตรียมตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์นี้ ระบบ ERP มีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมากในฐานะของระบบที่จะขับเคลื่อนธุรกิจโดยมีข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำ ชัดเจน และโปร่งใส อีกทั้ง ERP ที่เป็นศูนย์รวมของข้อมูลธุรกิจและการเงินเองนี้ ก็จะเป็นกุญแจสำคัญในการจัดทำรายงานต่างๆ ที่จำเป็นต่อการเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ อีกทั้งยังทำให้การตรวจสอบบัญชีและการตรวจสอบภายในสามารถเกิดขึ้นได้อย่างเป็นระบบและสำเร็จได้ในระยะเวลาอันสั้นอีกด้วย ในขณะที่การวางแผนประชาสัมพันธ์และสื่อสารทั้งก่อนและเข้าตลาดหลักทรัพย์เอง ก็ต้องอาศัยข้อมูลที่ถูกต้องชัดเจนในการนำเสนอด้วยเช่นกัน

นอกเหนือจากประโยชน์ของ ERP ที่จะทำให้ธุรกิจมีระบบบัญชีและการเงินที่สอดคล้องกับข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์ และความสามารถในการตรวจสอบธุรกิจได้อย่างโปร่งใสดังที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้ว ERP เองก็ยังสามารถตอบโจทย์ใหม่ๆ ที่ธุรกิจจะต้องเผชิญในตลาดหลักทรัพย์ได้หลากหลายประการ เช่น

  • การตอบสนองต่อข้อกฎหมาย ข้อบังคับ และกฎเกณฑ์ใหม่ๆ เมื่อเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แล้ว ธุรกิจต้องดำเนินการตามข้อกฎหมาย ข้อกำหนด และกฎเกณฑ์ต่างๆ อย่างเคร่งครัด อีกทั้งเมื่อมีข้อกฎหมายหรือข้อบังคับใหม่ๆ ออกมา ธุรกิจก็ต้องเร่งปรับตัวเพื่อตอบสนองต่อประเด็นเหล่านี้ให้ได้อย่างทันท่วงที เพื่อให้เกิดความถูกต้องและสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้ถือหุ้น ซึ่งระบบ ERP จะช่วยตอบโจทย์เหล่านี้ได้จากการมีข้อมูลการดำเนินงาน, บัญชี และการเงินที่ครบถ้วน เพื่อให้วิเคราะห์วางแผนเปลี่ยนแปลงได้อย่างตรงจุด และทราบถึงค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการดำเนินการส่วนนี้ได้อย่างเหมาะสม
  • การตอบสนองต่อผู้ถือหุ้น ซึ่งจะคาดหวังความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจ, การมีแผนดำเนินงานและการกำหนดผลการดำเนินการที่ชัดเจน, ความสม่ำเสมอในการดำเนินธุรกิจและสร้างผลกำไร ไปจนถึงความจริงใจในการดำเนินธุรกิจและการสนับสนุนประเด็นทางสังคม ดังนั้นระบบ ERP ที่มีข้อมูลครบถ้วน สามารถวิเคราะห์และสรุปผลรายงานในแง่มุมต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วแม่นยำ ตอบคำถามของผู้ถือหุ้นได้อย่างทันท่วงที และช่วยธุรกิจรับมือกับกรณีไม่คาดฝันได้จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น
  • การตอบสนองต่อผู้บริหารของธุรกิจ ธุรกิจในตลาดหลักทรัพย์นั้นอาจมีการใช้ผู้บริหารชุดเดิมซึ่งมีความเข้าใจในธุรกิจอย่างชัดเจน หรืออาจมีการเปลี่ยนตัวผู้บริหารที่มีศักยภาพในการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจได้ ดังนั้น ERP จึงจะต้องทำหน้าที่เป็นระบบที่จะทำให้ผู้บริหารหรือกรรมการคนใหม่ที่เข้ามาดำเนินการ สามารถทำความเข้าใจและเรียนรู้ธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว ด้วยข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำ และสามารถค้นหาคำตอบที่จำเป็นต่อการปรับเปลี่ยนธุรกิจได้ เพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าไปได้อย่างต่อเนื่องและไม่สะดุดติดขัด

แง่มุมเหล่านี้ถือเป็นกรณีการใช้งานระบบ ERP ที่ต่างจากการใช้เพื่อบริหารธุรกิจทั่วๆ ไป ซึ่งก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาให้ดีในการเลือกใช้งานระบบ ERP หากธุรกิจมีเป้าหมายในการเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์นั่นเอง

ขอเชิญเข้าร่วมงานสัมมนา “Speed Up Your IPO with ERP เตรียมความพร้อม IPO ไม่ยาก แต่ต้องมีตัวช่วยที่ดี” [24 พ.ค. 2023 – 8.00 -12.30 น. ณ โรงแรม W Bangkok สาทร]

Sala Daeng ขอเรียนเชิญเจ้าของกิจการและผู้บริหารทุกท่าน เข้าร่วมงานสัมมนาฟรี “Speed Up Your IPO with ERP เตรียมความพร้อม IPO ไม่ยาก แต่ต้องมีตัวช่วยที่ดี” เพื่อเรียนรู้ถึงแนวทางการเตรียมระบบบริหารจัดการธุรกิจ สำหรับการเข้าตลาดหลักทรัพย์ (IPO) ทั้งในแง่มุมของกระบวนการ, การจัดเตรียมข้อมูล และการวางระบบ ERP ให้เหมาะสม ในวันที่ 24 พฤษภาคม 2023 เวลา 8.00 -12.30 น. ณ โรงแรม W Bangkok สาทร โดยมีรายละเอียด กำหนดการและวิธีการลงทะเบียนเข้าร่วมงานโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ดังนี้

Speed Up Your IPO with ERP เตรียมความพร้อม IPO ไม่ยาก แต่ต้องมีตัวช่วยที่ดี

วันที่: 24 พฤษภาคม 2023

เวลา: 8.00 -12.30 น.

สถานที่: โรงแรม โรงแรม W Bangkok สาทร ห้อง The Conservatory Room, Level 1 the House on Sathorn (แผนที่ https://goo.gl/maps/CR82Sw82vw9PkHuj8)

ลงทะเบียนเข้าร่วมงาน (ไม่มีค่าใช้จ่าย):

การนำธุรกิจเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์หรือ IPO นั้น ได้กลายเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของธุรกิจเพื่อระดมทุนเร่งสร้างการเติบโตให้ทันท่วงทีต่อสภาวะการแข่งขันทางธุรกิจที่รุนแรง และปัจจุบันนี้ก็มีธุรกิจไทยที่สนใจการ IPO มากขึ้นเรื่อยๆ ในหลากหลายอุตสาหกรรม

อย่างไรก็ดี การเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์นั้นมีกฎเกณฑ์และระเบียบข้อปฏิบัติต่างๆ มากมาย ทำให้เมื่อประเมินถึงประเด็นเหล่านี้แล้ว การเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์นั้นก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งเจ้าของกิจการและผู้บริหารควรต้องทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ก่อนที่จะตัดสินใจดำเนินการ เพื่อให้การก้าวเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์นั้นเป็นไปได้อย่างตรงต่อวัตถุประสงค์ที่ต้องการของธุรกิจ หรือในบางกรณี การไม่เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์นั้นก็อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

ในงานสัมมนาครั้งนี้ ทีมงาน Ari ผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษาสำหรับธุรกิจ จะพาทุกท่านไปรู้จักกับการเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในรูปแบบต่างๆ ที่เป็นไปได้ในประเทศไทย และสรุปถึงข้อดีข้อเสียที่เจ้าของกิจการหรือผู้บริหารทุกท่านควรรู้ก่อนตัดสินใจเข้าตลาดหลักทรัพย์ พร้อมเล่าถึงกฎเกณฑ์และระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ทุกท่านเข้าใจถึงสิ่งที่จะต้องเผชิญในการเตรียมตัวเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงยังมีการนำเสนอถึงแนวทางการเตรียมตัว ทั้งในแง่ของการปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงาน, การจัดเก็บรวบรวมข้อมูลที่จำเป็น และการวางระบบ ERP เพื่อให้ธุรกิจพร้อมต่อการเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ และดำเนินกิจการต่อไปได้อย่างมั่นคงในฐานะของบริษัทมหาชน

กำหนดการ

ภายในงานสัมมนา ท่านจะได้รับชมเนื้อหาดังต่อไปนี้

งานสัมมนาในครั้งนี้จะนำเสนอเนื้อหาเป็นภาษาไทยโดยทีมงาน Sala Daeng และจะมีทีมงานที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่จะคอยตอบคำถามคลายข้อสงสัยเกี่ยวกับการเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในทุกแง่มุมให้กับท่าน

งานสัมมนานี้เหมาะกับ

เจ้าของกิจการ, ผู้บริหารธุรกิจ, ผู้บริหารด้านการเงิน สำหรับธุรกิจที่มีแผนการเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในอนาคต หรือต้องการเรียนรู้ข้อมูลเพื่อทำการวางแผนตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ของธุรกิจ

ลงทะเบียนเข้าร่วมงาน (ไม่มีค่าใช้จ่ายจากมูลค่า 15,000 บาท)

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถทำการลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ทันทีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายที่ https://ari-hq.com/en/speed-up-ipo-2023 โดยทีมงานขอความกรุณาลงทะเบียนด้วยข้อมูลจริง และจะมีทีมงานติดต่อท่านกลับไปเพื่อยืนยันผลการลงทะเบียนเข้าร่วมงานในครั้งนี้

สนใจโซลูชันระบบ ERP หรือต้องการที่ปรึกษาสำหรับการ IPO ติดต่อ Sala Daeng ได้ทันที

สำหรับธุรกิจที่สนใจวางระบบ ERP ใหม่ หรือเปลี่ยนระบบ ERP เก่ามาสู่ระบบใหม่ที่ทันสมัย ใช้งานง่าย และตอบโจทย์ของธุรกิจมากขึ้น สามารถติดต่อทีมงาน Sala Daeng ได้ทันทีที่ https://sala-daeng.com/en

About nattakon

จบการศึกษา ปริญญาตรีและโท สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ KMITL เคยทำงานด้าน Engineer/Presale ดูแลผลิตภัณฑ์ด้าน Network Security และ Public Cloud ในประเทศ ปัจจุบันเป็นนักเขียน Full-time ที่ TechTalkThai

Check Also

บริษัทซอฟต์แวร์คลาวด์ ServiceTitan ประกาศ IPO หวังระดมทุนสูงสุด 502 ล้านดอลลาร์

ServiceTitan ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์คลาวด์สำหรับธุรกิจ ประกาศเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะครั้งแรก (IPO) โดยตั้งเป้าระดมทุนสูงสุดถึง 502 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการเสนอขายหุ้นจำนวน 8.8 ล้านหุ้น ในช่วงราคาหุ้นละ 52 ถึง 57 ดอลลาร์

Dell ชี้ ภูมิภาค APJ ยังมีโอกาสในด้าน AI อีกมาก พร้อมเผยคาดการณ์ 5 เทรนด์ AI แห่งปี 2025 

แม้ว่า Generative AI กำลังเริ่มมีการปรับใช้ในภาคธุรกิจอย่างจริงจังมากขึ้น แต่ก็ต้องยอมรับว่าวิวัฒนาการของเทคโนโลยีนั้นยังดูไม่ได้แผ่วหรือว่าช้าลงไปแม้แต่น้อย เพราะเราสามารถเห็น Breakthrough หรือนวัตกรรมใหม่ ๆ ออกมาจากอุตสาหกรรมได้ภายในระยะเวลาไม่กี่เดือนเท่านั้น หรือบางครั้งอาจจะเป็นรายสัปดาห์ก็ว่าได้ จากงานแถลงข่าว Dell Technologies (Dell) …