Gartner เผยสิบอันดับเทคโนโลยี Internet of Things ประจำปี 2017 และ 2018

Gartner ได้ออกมาสรุปถึงเทคโนโลยี Internet of Things (IoT) ด้วยกัน 10 เทคโนโลยีที่จะสร้างผลกระทบเป็นวงกว้างแก่อุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วโลกในอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งทางทีมงาน TechTalkThai ก็ขอสรุปเอาไว้ดังนี้ครับ

Credit: ShutterStock.com
Credit: ShutterStock.com

 

1. ระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับ IoT (IoT Security)

แง่มุมใหม่ๆ ในการโจมตีอุปกรณ์ IoT นั้นเกิดขึ้นมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีในเชิงข้อมูลหรือตัวอุปกรณ์จริงๆ โดยตรงก็ตาม ซึ่งรวมถึงการปลอมแปลงตัวตนเป็นอุปกรณ์, การทำ DoS เพื่อทำให้แหล่งพลังงานหมดลง รวมถึงระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์ IoT ที่ไม่สามารถรักษาความปลอดภัยแบบซับซ้อนได้

เทคโนโลยีการรักษาความปลอดภัยสำหรับ IoT จึงเป็นสิ่งที่ต้องคิดใหม่กันอีกเยอะพอสมควรทีเดียว

2. ระบบวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับ IoT (IoT Analytics)

ข้อมูลจำนวนมหาศาลที่จะมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้นแต่ก่อนกำลังจะเกิดขึ้นจากการมาของ IoT ทำให้การวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมลูกค้า, การนำเสนอบริการใหม่ๆ, การปรับปรุงผลิตภัณฑ์ และอื่นๆ อีกมากมายเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นเครื่องมือและอัลกอริธึมใหม่ๆ ในการประมวลผลจึงต้องเกิดขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ใหม่ๆ เหล่านี้ และข้อมูลที่มีการเพิ่มเติมขึ้นมาให้ได้

3. ระบบบริหารจัดการอุปกรณ์ IoT

การตรวจสอบการทำงานและการบริหารจัดการอุปกรณ์ IoT ที่รวมถึงการจัดการ Firmware, การอัพเดต Software, การวิเคราะห์ปัญหา และการจัดการด้านความปลอดภัยนั้นจะเป็นปัญหาอีกระดับที่ทุกๆ องค์กรที่ใช้ IoT ต้องเจอ และสิ่งที่จะทำให้ปัญหานี้กลายเป็นเรื่องยากก็คือจำนวนและความหลากหลายของอุปกรณ์ IoT นั่นเอง

4. ระบบเครือข่ายพลังงานต่ำระยะสั้น

ด้วยการติดต่อสื่อสารจำนวนมหาศาลที่จะเกิดขึ้นจาก Sensor และอุปกรณ์ IoT ต่างๆ นั้น การเชื่อมต่อระยะใกล้ที่ใช้พลังงานต่ำก็เป็นเทคโนโลยีที่จำเป็นต่อการใช้งาน IoT ภายในอาคารให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5. ระบบเครือข่าย WAN พลังงานต่ำ

เทคโนโลยีเครือข่าย Cellular นั้นยังไม่สามารถตอบโจทย์ของการเชื่อมต่อ IoT ในระยะไกลได้ดีทั้งในแง่ของพลังงานและค่าใช้จ่าย เทคโนโลยีใหม่จึงจำเป็นต้องเกิดขึ้นมาเพื่อให้การเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT ระยะไกลเป็นจริงขึ้นมาได้ด้วยค่าใช้จ่ายที่คุ้มค่าเหมาะสม

6. อุปกรณ์ประมวลผลสำหรับ IoT (IoT Processor)

อุปกรณ์ประมวลผลสำหรับ IoT นั้นจะต้องรองรับต่อการรักษาความปลอดภัย, การเข้ารหัส, ใช้พลังงานต่ำ และรองรับการทำงานอื่นๆ ของระบบปฏิบัติการและการอัพเดตต่างๆ ที่จำเป็นได้อย่างครบถ้วน ซึ่งถือว่าเป็นโจทย์ที่ยากและต้องใช้เวลาในการแก้ไขปัญหากันต่อไป

7. ระบบปฏิบัติการสำหรับ IoT

ระบบปฏิบัติการที่กินพลังงานต่ำ, ทำงานได้อย่างปลอดภัย, ใช้ทรัพยากรการประมวลผลน้อย และใช้หน่วยความจำน้อย จะเป็นสิ่งที่จำเป็นต่ออุปกรณ์ IoT ต่อไปอีกยาวนาน และการพัฒนาต่อยอดให้รองรับฟีเจอร์ใหม่ๆ ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นเช่นกัน

8. เทคโนโลยีการประมวลผล Event Stream

สำหรับระบบ IoT ที่มีการสร้างและส่งข้อมูลแบบ Real-time นั้น การจัดการข้อมูลทั้งหมดแบบ Real-time นี้ต้องอาศัยหลายปัจจัยในการประมวลผลให้มีประสิทธิภาพ หนึ่งในนั้นคือแนวคิดของการทำ Distributed Stream Computing Platforms (DSCPs) ที่ใช้สถาปัตยกรรมแบบ Parallel เพื่อประมวลผลข้อมูล Stream จำนวนมากเพื่อทำ Real-time Analytics หรือ Pattern Identification ได้

9. IoT Platforms

Platform ที่รวมเอาสิ่งต่างๆ ที่จำเป็นต่อการทำ IoT เอาไว้ภายในระบบเดียวนี้จะถูกแบ่งออกเป็นสามกลุ่มย่อย ได้แก่ 1) ระบบควบคุมการติดต่อสื่อสารและการทำงานในระดับ Hardware ของ IoT, 2) ระบบรวบรวมและบริหารจัดการข้อมูลจาก IoT, 3) ระบบพัฒนา Application เพื่อรับข้อมูลมาวิเคราะห์และแสดงผล ซึ่งทั้ง 3 Platform นี้ต่างก็จำเป็นเพื่อผลักดันให้การนำ IoT ไปใช้ในระดับองค์กรหรือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ IoT ใหม่ๆ เป็นไปได้ง่ายดายยิ่งขึ้น

10. มาตรฐานสำหรับ IoT และระบบนิเวศน์สำหรับระบบ IoT

มาตรฐานและ API จะกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับ IoT ในการทำให้ระบบ IoT จากหลายๆ ผู้ผลิตทำงานร่วมกันได้ ในขณะที่ระบบนิเวศน์สำหรับ IoT เช่นตลาดต่างๆ นั้นก็จะทำให้วงการ IoT เติบโตต่อไปได้อย่างต่อเนื่องเพื่อแก้ไขปัญหาใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนั่นเอง

 

ที่มา: http://www.gartner.com/newsroom/id/3221818 

About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

NetApp ขาย Spot และ CloudCheckr ให้บริษัทบริหารค่าใช้จ่ายคลาวด์ Flexera

บริษัท NetApp ประกาศขายสินทรัพย์บางส่วนจากผลิตภัณฑ์ Spot และ CloudCheckr ให้แก่ Flexera Software ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายบนคลาวด์ ในข้อตกลงที่ไม่ได้เปิดเผยเงื่อนไขทางการเงิน แต่มีการประเมินว่ามูลค่าข้อตกลงนี้อยู่ที่ประมาณ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อ้างอิงจากรายงานของ …

Synthesia แพลตฟอร์มวิดีโอ AI ระดมทุน 180 ล้านดอลลาร์ ส่งมูลค่าทะยานสองเท่าเป็น 2.1 พันล้านดอลลาร์

Synthesia ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มวิดีโอที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) สร้างวิดีโอคลิปที่มีภาพอวตารเสมือนมนุษย์จริง ประกาศระดมทุนจำนวน 180 ล้านดอลลาร์ ในรอบ Series D ที่นำโดยบริษัทร่วมลงทุน NEA ทำให้มูลค่าบริษัทเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจาก 1 พันล้านดอลลาร์ …