Microsoft Azure by Ingram Micro (Thailand)

Comarch Corporate Banking: ปรับระบบธนาคารสู่ยุค 4.0 เปิดบริการ Digital Banking สำหรับลูกค้าประเภทธุรกิจและองค์กรได้อย่างรวดเร็วและมั่นใจ

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราคงได้เห็นการแข่งขันในเหล่าธนาคารรายใหญ่ของประเทศไทยในการยกเครื่องบริการการเงินสำหรับลูกค้าทั่วไปกันอย่างเข้มข้น ไม่ว่าจะเป็นการเปิดบริการ Mobile Banking ที่รองรับการทำธุรกรรมได้หลากหลายรูปแบบ, การใช้ Digital ID เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการยืนยันตัวตน หรือการนำเสนอบริการทางการเงินในรูปแบบใหม่ที่ง่ายดายและคล่องตัว สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้า

อย่างไรก็ดี อีกสนามแข่งขันของธนาคารจะต้องย้ายมาสู่สนามของบริการทางการเงินสำหรับภาคธุรกิจกันมากขึ้น เนื่องจากเหล่าธุรกิจเองก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป และตอบสนองต่อลูกค้าของตนเองให้ทันเวลา ดังนั้นบริการทางการเงินสำหรับภาคธุรกิจเองก็ต้องถูกปรับให้ทันสมัย รวดเร็ว ง่ายดาย และกลายเป็นอัตโนมัติได้เช่นกัน

ในบทความนี้ TechTalkThai จะพาทุกท่านไปรู้จักกับ Comarch Corporate Banking โซลูชันบริการทางการเงินสำหรับภาคธุรกิจที่ครอบคลุมทุกความสามารถ ทั้งในรูปแบบของ Internet Banking และ Mobile Banking พร้อมรองรับการเปิด API ทางการเงินเพื่อให้ระบบธุรกิจขององค์กรต่างๆ เข้ามาเชื่อมต่อ และทำงานให้เป็นอัตโนมัตินั่นเอง

ธุรกิจองค์กร ต้องการระบบการเงินแบบดิจิทัล ที่รองรับการเชื่อมต่อทำงานร่วมกับระบบธุรกิจอื่นๆ ได้แบบอัตโนมัติ

เมื่อโลกของธุรกิจก้าวสู่ยุคของ Data, AI และ Automation บริการการเงินสำหรับภาคธุรกิจเองก็ต้องปรับตัวเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของธุรกิจ

ถึงแม้ธนาคารหลายแห่งจะมีระบบบริการทางการเงินสำหรับภาคธุรกิจอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมานั้นระบบเหล่านี้มักถูกพัฒนาขึ้นมาตั้งแต่ในอดีต ทำให้แนวคิดของการออกแบบระบบและบริการนั้นอาจไม่ตอบสนองต่อความต้องการในยุคปัจจุบัน รวมถึงระบบของธนาคารหลายแห่งเองก็ยังแยกออกเป็นหลายระบบย่อย ทำให้ลูกค้าภาคธุรกิจนั้นต้องมีหน้า Login แยกกันสำหรับแต่ละความสามารถ ไม่สะดวกคล่องตัวต่อการใช้งานจริง

นอกจากนี้ เมื่อโลกเข้าสู่ยุคของ Data, AI และ Automation สิ่งที่ภาคธุรกิจต้องการจากบริการทางการเงินนี้จึงไม่ใช่ระบบที่สามารถทำธุรกรรมต่างๆ แบบออนไลน์ได้เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่การเชื่อมต่อเข้าถึงข้อมูลและทำสิ่งต่างๆ ผ่าน API ได้นั้นก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจสามารถ Transform กระบวนการทางการเงินของตนเองได้ และเชื่อมต่อกับระบบอื่นๆ ให้สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้แบบอัตโนมัติ

ด้วยเหตุนี้เอง ปัจจุบันธนาคารหลายแห่งจึงเริ่มมีการยกเครื่องระบบ Corporate Banking กันครั้งใหญ่ เพื่อให้ระบบเหล่านี้มีความสามารถที่จะอำนวยความสะดวกสบายในการใช้งานให้กับภาคธุรกิจองค์กรมากที่สุด และกลายเป็นขีดความสามารถในการแข่งขันใหม่ที่จะช่วยดึงลูกค้ากลุ่มธุรกิจองค์กรที่มักมีธุรกรรมปริมาณมหาศาลเข้ามาเป็นลูกค้ารายใหม่ๆ เพิ่มเติม ด้วยการปรับระบบให้มีความสามารถดังต่อไปนี้

  1. มีประสบการณ์การใช้งานที่ดี ใช้งานได้ทุกความสามารถภายในการ Login ระบบเพียงครั้งเดียว
  2. มีข้อมูลทางการเงินในแบบรวมศูนย์ที่อัปเดตแบบ Real-time ช่วยให้การทำธุรกรรมทางการเงินและการตัดสินใจเป็นไปได้อย่างถูกต้องแม่นยำและคล่องตัว
  3. เข้าถึงและใช้งานได้จากทุกที่ทุกเวลาอย่างมั่นคงปลอดภัย ทั้งทาง Web Browser และ Mobile Application
  4. มี API สำหรับเชื่อมต่อกับ Business Application สำคัญขององค์กรอย่างเช่นระบบ ERP, E-Commerce และอื่นๆ ได้ รวมถึงสามารถต่อยอดเพื่อให้บริการต่างๆ ของธนาคารเป็นไปแบบอัตโนมัติได้มากขึ้น
  5. มีการนำเทคโนโลยีการประมวลผลสมัยใหม่และ AI เข้ามาใช้ในการวิเคราะห์และตรวจสอบข้อมูลทางการเงิน เช่น ระบบวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงิน หรือการตรวจสอบหาแนวโน้มการเกิดเหตุทุจริต เป็นต้น
  6. รองรับต่อข้อกำหนดและกฎหมายที่บังคับใช้ในประเทศไทยอย่างครบถ้วน รวมถึงกฎหมายใหม่ที่ประกาศออกมาอย่างเช่นพรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

Comarch Corporate Banking: รวมศูนย์ระบบบริการธนาคารดิจิทัลสำหรับธุรกิจ ก้าวสู่การทำ Open Banking เปิดบริการการเงินสำหรับการทำ Automation

จากความต้องการดังกล่าว Comarch Corporate Banking จึงกลายเป็นโซลูชันระบบ Corporate Banking และ SME Banking สำหรับธนาคารทั่วโลกที่ต้องการปรับปรุงยกเครื่องระบบครั้งใหญ่ให้มีความทันสมัยและสอดคล้องต่อความต้องการของธุรกิจองค์กรในปัจจุบัน

ด้วยประสบการณ์ของ Comarch ในการพัฒนาระบบงานต่างๆ สำหรับธนาคารมาตั้งแต่ปี 1991 และเติบโตอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นบริษัทระดับโลกในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศโปแลนด์ที่มีลูกค้าธนาคารในหลายประเทศ และมีพนักงานมากกว่า 6,500 คน โซลูชัน Comarch Corporate Banking จึงได้รวบรวมเอาความสามารถที่ธุรกิจธนาคารทั่วโลกต้องการในการให้บริการลูกค้าภาคธุรกิจทั้งองค์กรขนาดใหญ่ไปจนถึงธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางเอาไว้ ได้แก่

  • การบริหารจัดการเงินสด, ธุรกรรม และการโอนเงิน
  • การออกเช็ค
  • การกู้เงินและขอสินเชื่อ
  • การบริหารจัดการเครดิตและการกู้ยืม
  • การบริหารจัดการบัตรเครดิตของธุรกิจ
  • การออก e-Invoice
  • การทำ Open Banking ผ่าน API
  • และอื่นๆ อีกมากมาย

ระบบ Comarch Corporate Banking นี้มีความกึ่งสำเร็จรูป กล่าวคือธุรกิจสามารถเริ่มติดตั้งและนำไปใช้งานให้บริการความสามารถพื้นฐานต่างๆ ได้ภายในระยะเวลาเพียงแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น ก่อนที่จะค่อยๆ ทำการปรับแต่งระบบเพื่อให้มีความสามารถเฉพาะตัวซึ่งเป็นจุดเด่นของธนาคารหรือผสานระบบเข้ากับระบบเฉพาะอื่นๆ ที่ธนาคารมีอยู่ หรือเปิด API เพื่อให้ลูกค้าองค์กรทำการเชื่อมต่อระบบได้ตามต้องการ ทำให้การเริ่มต้นปรับปรุงระบบ Corporate Banking และ SME Banking เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว ไม่สะดุดติดขัด

ในมุมของลูกค้าธุรกิจที่ใช้งานโซลูชันของ Comarch Corporate Banking จะพบกับประสบการณ์ดังนี้

  1. สามารถ Login เพียงครั้งเดียวเพื่อเข้าถึงบริการทางการเงินทั้งหมดได้จากหน้าจอเดียว บน Web Browser หรือ Mobile Application ก็ได้
  2. สามารถเข้าถึงข้อมูลทางการเงินของธุรกิจแบบรวมศูนย์ที่อัปเดตแบบ Real-time ได้
  3. สามารถบริหารจัดการผู้ใช้งานในองค์กรและกำหนดระดับสิทธิ์ในการเข้าถึงและใช้งานบริการทางการเงินต่างๆ ให้แตกต่างกันได้
  4. สามารถบริหารจัดการ API สำหรับบริการทางการเงินสำหรับภาคธุรกิจได้ ทำให้ธนาคารเปิดรับต่อการทำ Open Banking ให้กับลูกค้าแต่ละรายที่มีโจทย์ความต้องการทางธุรกิจที่แตกต่างกันได้

ในขณะเดียวกัน สำหรับฝ่าย IT ของธนาคารเองก็จะสามารถทำงานได้อย่างคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ด้วยระบบที่มีสถาปัตยกรรมเบื้องหลังเป็น Microservices อย่างเต็มตัว และรองรับการทำ DevOps ได้ รวมถึงยังมีทั้ง SDK, API และ SOA ให้ใช้งาน ทำให้การพัฒนาความสามารถใหม่ๆ เสริมเพิ่มเติมหรือปรับแต่งระบบให้สอดคล้องกับความต้องการของธนาคารสามารถทำได้อย่างสะดวก

โซลูชัน Comarch Corporate Banking นี้สามารถเลือกติดตั้งใช้งานได้ทั้งแบบ On-Premises ภายใน Data Center หรือ Private Cloud ของทางธนาคารเอง หรือจะติดตั้งใช้งานในแบบ Cloud ก็ได้เช่นกัน ทำให้มีความยืดหยุ่นสูงในการเลือกใช้งาน

ในแง่ของความมั่นคงปลอดภัย โซลูชัน Comarch Corporate Banking นี้ผ่านการรับรองมาตรฐานด้านความมั่นคงปลอดภัยมาอย่างหลากหลาย รวมถึงยังสอดรับต่อกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเช่น GDPR ในยุโรป หรือ PDPA ในประเทศไทยได้ด้วยเช่นกัน

ด้วยปัจจัยเหล่านี้เองทำให้ Comarch Corporate Banking ถูกเลือกใช้งานโดยธนาคารทั่วโลกเป็นจำนวนมาก เพราะท่ามกลางช่วงเวลาที่ทุกธุรกิจต่างต้องแข่งขันกันอย่างรุนแรงและรวดเร็วนี้ การใช้โซลูชันที่มีความกึ่งสำเร็จรูปก็จะทำให้เกิด Time to Market ที่เร็ว ไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูกหรือคิดค้น Best Practice ของตนเอง ทำให้ธนาคารสามารถเปิดให้บริการต่อลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และนำระบบที่มีอยู่ไปต่อยอดสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ร่วมกับ Ecosystem ผ่านระบบ Open Banking เร่งสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันใหม่ๆ ได้ทันที

แนวทางที่ธนาคารหลายแห่งทั่วโลกเลือกใช้ก็คือการเริ่มต้นใช้ Comarch Corporate Banking ในการให้บริการส่วนของ Cash Management และด้านการเงินสำหรับภาคธุรกิจก่อน ก่อนที่จะเปิดบริการส่วนเสริมอื่นๆ เช่น เครื่องมือตัวช่วยสำหรับธุรกิจ หรือการเชื่อมต่อระบบการเงินเข้ากับ ERP, CRM, HRM และ E-Commerce เพื่อตอบโจทย์ด้านการทำ Automation

นอกจากนี้ Comarch ก็ยังมีโซลูชันอื่นๆ อีกมากมายซึ่งสามารถทำงานร่วมกับ Comarch Corporate Banking ได้ ตัวอย่างเช่นระบบสำหรับการทำ Fraud Detection ที่มีการประยุกต์นำ AI เข้ามาช่วยตรวจจับพฤติกรรมที่มีความผิดปกติและแจ้งเตือนหรือยับยั้งพฤติกรรมเหล่านั้น ทำให้ธนาคารสามารถเพิ่มเติมความสามารถส่วนอื่นๆ ที่ต้องการได้ในภายหลัง

ผู้ที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Comarch Corporate Banking สามารถศึกษาข้อมูลได้ที่ https://www.comarch.com/finance/banking/comarch-corporate-banking/

ใช้งานจริงแล้วที่ ttb ปรับประสบการณ์บริการทางการเงินภาคธุรกิจให้ทันสมัย

Comarch Corporate Banking นี้ถูกใช้งานจริงแล้วโดย ttb ซึ่งเป็นธนาคารที่เกิดจากการควบรวมกันของธนาคารทหารไทยและธนาคารธนชาติ เป็นเบื้องหลังของระบบ ttb Business One ซึ่งลูกค้ากลุ่มธุรกิจองค์กรนั้นจะสามารถเข้ามาทำรายการทางการเงินผ่านระบบของธนาคารได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการโอนเงินในประเทศ, การโอนเงินต่างประเทศ, การบริหารจัดการเครดิต, การจัดการธุรกรรม, การจัดการเงินสด, เช็ค, การกู้เงิน, การขอสินเชื่อเพิ่ม และอื่นๆ อีกมากมาย

โซลูชัน Comarch Corporate Banking นี้ถูกติดตั้งใช้งานจริงได้ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 9 เดือนในช่วงที่มี COVID-19 แพร่ระบาด และสามารถทดแทนระบบเดิมที่ทางธนาคารทำการพัฒนาเองเป็นเวลานานกว่า 10 ปีได้อย่างสมบูรณ์ โดยมีการติดตั้งใช้งาน Red Hat OpenShift เพื่อให้ง่ายต่อการบริหารจัดการ Kubernetes และการก้าวสู่ระบบ Hybrid Multi-Cloud

สำหรับความสามารถของ Comarch Corporate Banking ที่ทาง ttb ใช้งานมีดังต่อไปนี้

ผู้ที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีศึกษาของ ttb ในการใช้งาน Comarch Corporate Banking สามารถศึกษาข้อมูลได้ที่ https://www.comarch.com/finance/case-studies/comarch-at-ttb-business-case/

สนใจโซลูชัน Comarch Corporate Banking ติดต่อทีมงาน Comarch ได้ทันที

สำหรับธนาคารแห่งใดที่สนใจโซลูชันของ Comarch Corporate Banking สามารถติดต่อทีมงาน Comarch ประจำประเทศไทยได้ทันทีที่คุณภริดา ลีลานิรมล (ซัง), Sales Director อีเมล์ parida.leelaniramol@comarch.com โทร 0877940808 หรือ Line: slleee

About nattakon

จบการศึกษา ปริญญาตรีและโท สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ KMITL เคยทำงานด้าน Engineer/Presale ดูแลผลิตภัณฑ์ด้าน Network Security และ Public Cloud ในประเทศ ปัจจุบันเป็นนักเขียน Full-time ที่ TechTalkThai

Check Also

Cisco ปิดดีลเข้าซื้อ Splunk มูลค่า 1 ล้านล้านบาท

หลังจากผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มข้นจนได้รับอนุมัติเรียบร้อย ล่าสุดทาง Cisco ได้ประกาศถึงความสำเร็จในการเข้าซื้อกิจการของ Splunk ที่มูลค่า 28,000 ล้านเหรียญหรือราวๆ 1 ล้านล้านบาทอย่างเป็นทางการแล้ว

NVIDIA เปิดตัว NIM Microservices และ Cloud Endpoints ใหม่ ช่วยองค์กรพัฒนา Generative AI ใช้งานได้สะดวกขึ้น

NVIDIA เปิดตัว API และเครื่องมือใหม่สำหรับการพัฒนาและใช้งาน Generative AI ในงานสัมมนา NVIDIA GTC 2024 ซึ่งจะช่วยให้การพัฒนาและนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้งานสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นตั้งแต่ขั้นตอนการจัดเตรียมข้อมูล ปรับแต่งโมเดล ไปจนถึงการรักษาความปลอดภัยด้วย Guardrails