[รีวิว] ASUS Chromebook Flip CX5500: Chromebook รุ่น 2-in-1 มีปากกา ราคาสองหมื่นต้นๆ!

ถึงแม้ว่าในประเทศไทย Chromebook เครื่องคอมพิวเตอร์ Notebook ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Chrome OS จาก Google จะยังไม่ได้เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายมากนัก แต่ในต่างประเทศส่วนแบ่งตลาดของ Chromebook ก็ถือว่าค่อยๆ เติบโตและมีความโดดเด่นมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดด้านการศึกษา และการทำงานของธุรกิจสมัยใหม่ที่ใช้ Cloud เป็นหลัก

ในครั้งนี้ทีมงาน TechTalkThai ได้มีโอกาสทดลองใช้งาน ASUS Chromebook Flip CX5500 ที่ทางทีมงาน ASUS ส่งมาให้ทดลองใช้งานกัน ซึ่งจริงๆ แล้วก็เรียกได้ว่าเป็นการรีวิว Chromebook ครั้งแรกของทีมงานเราเลยก็ว่าได้ แต่ก็ได้ใช้รุ่นที่มีฟีเจอร์น่าสนใจมากมายอย่างรุ่นนี้กันแล้ว ซึ่งขอบอกเลยครับว่าการใช้ Chromebook ถือว่าเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ที่น่าสนใจมากทีเดียว ส่วนจะเป็นอย่างไรนั้น ไปติดตามรายละเอียดกันในบทความกันได้เลยครับ

ASUS Chromebook Flip CX5500 ในภาพรวม

ASUS Chromebook Flip CX5500 นี้ถูกออกแบบมาให้เป็น Chromebook รุ่นที่มีทั้งความสวยงามและหวือหวาน่าสนุกในตัว ทั้งด้วยการออกแบบด้วยโทนสี Immersive White ที่ให้สัมผัสเหมือนวัสดุเซรามิกภายนอกตัวเครื่องทำให้มีความเรียบหรู ส่วนภายในก็มีพื้นผิว Obsidian Velvet สีดำที่ให้สัมผัสนุ่มสบาย ไปจนถึงการออกแบบเครื่องในแบบ Convertible ซึ่งเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้หลากหลายด้วยการพลิกจอได้ 360 องศา พร้อมหน้าจอสัมผัส FHD แบบขอบบาง NanoEdge ขนาด 15.6 นิ้วที่รองรับปากกา USI Stylus ซึ่งใช้งานได้อย่างแม่นยำด้วย AI จาก Google เป็นการส่งมอบประสบการณ์การใช้งานที่หลากหลายผ่านระบบปฏิบัติการ Chrome OS ที่มีทั้งความสามารถของ Google Chrome และ Android รวมกัน

Credit: ASUS

ประสิทธิภาพของตัวเครื่องเองก็ถือว่าไม่ด้อยทีเดียว ด้วยการเลือกใช้หน่วยประมวลผล Intel Core Gen 11 รุ่นล่าสุดที่เลือกได้ทั้ง i3/i5/i7 พร้อม RAM 8/16GB, M.2 NVMe SSD PCIe 3.0 128/256/512GB และการ์ดจอที่เลือกได้ระหว่าง Intel UHD และ Intel Iris Xe ก็เรียกได้ว่าสามารถตอบโจทย์ได้ทุกช่วงความต้องการ

ตัวเครื่องสามารถเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สายได้ผ่าน WiFi 6 และมีพอร์ตมาให้ใช้อย่างครบถ้วนได้แก่ 1x USB 3.2 Gen 2 Type-A, 2x USB 3.2 Gen 2 Type-C support display / power delivery, 1x HDMI 2.0a, 1x Audio Jack, Micro SD card reader

สำหรับการประชุมงานและความบันเทิง ASUS Chromebook Flip CX5500 มาพร้อมกับกล้อง 720p HD และลำโพง harman/kardon certified (Premium) ที่มี Smart Amp Technology ช่วยให้คุณภาพเสียงคมชัด

เครื่องนี้ทนทานทั้งต่อการใช้งานอันหนักหน่วงด้วยการผ่านมาตรฐาน MIL-STD 810H และใช้งานได้ยาวนานด้วยแบตเตอรี่ที่ทดสอบแล้วว่าใช้งานได้นานประมาณ 11 ชั่วโมง

Credit: ASUS

ทั้งหมดนี้อยู่ในตัวเครื่องความหนาประมาณ 1.85 เซนติเมตร ที่หนัก 1.95 กิโลกรัม เรียกได้ว่าพอๆ กับ Notebook รุ่นทั่วๆ ไป แต่ใส่เทคโนโลยีที่น่าสนใจมาเยอะมากตั้งแต่ Software ไปจนถึง Hardware

ส่วนการรับประกันนั้น เครื่องนี้มาพร้อมกับการรับประกัน 3 ปี Onsite Service, การรับประกัน 3 ปี Global Warranty (ครอบคลุม 57 ประเทศทั่วโลก) และการรับประกันอุบัติเหตุ 1 ปีแรก

ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3yVh8wc

แกะกล่องทดลองใช้งานจริง

ถึงเวลาเปิดกล่องของ ASUS Chromebook Flip CX5500 มาใช้งานกันแล้วครับ ในกล่องนอกจากจะมีตัวเครื่องที่ห่อกันรอยมาเป็นอย่างดีแล้ว ก็ยังมีแถมตัวซองใส่ Chromebook มาให้ด้วย และยังมีเมาส์ไร้สาย, Adapter ชาร์จไฟแบบ USB-C และปากกา ASUS Pen มาให้ใช้ด้วยครับ โดยสเป็คของเครื่องที่รีวิจะเป็นดังนี้

  • CPU: Intel® Core™ i3-1115G4 Processor 3.0 GHz (6M Cache, up to 4.1 GHz, 2 cores)
  • RAM: 8GB
  • Disk: 256GB M.2 NVMe™ PCIe® 3.0 SSD
  • GPU: Intel® UHD Graphics
  • Network: WiFi 6
  • Interfaces: 1x USB 3.2 Gen 2 Type-A, 2x USB 3.2 Gen 2 Type-C support display / power delivery, 1x HDMI 2.0a, Micro SD card reader, 1x Audio Jack
  • OS: Google Chrome OS
Credit: ASUS

สัมผัสแรกของเครื่องนี้ตอนหยิบออกมาก็คือทำวัสดุออกมาค่อนข้างหรูมากครับ ด้วยตัวเครื่องที่ออกแบบมาด้วยโทนสีขาวภายนอกและสีดำภายในซึ่งเลือกสีมาให้เข้ากันได้เหมาะสมดี โดยตัวเครื่องดูแข็งแรงดีด้วยฝาที่ทำจากวัสดุ Aluminium-Alloy ที่เคลือบแบบพิเศษทำให้ตอนจับจะรู้สึกเหมือนจับเซรามิกเย็นๆ อยู่ ในขณะที่ตรง Keyboard ในตัวเครื่องก็ทำสัมผัสมาได้ดีไม่แพ้กัน

น้ำหนักของเครื่องถือว่าหนักอยู่ครับกับน้ำหนัก 1.95 กิโลกรัม เรียกได้ว่าตอนใช้งานจริงเน้นวางเป็นหลักๆ น่าจะดีกว่าถือพกพาไปมา ซึ่งก็ถือว่าสมเหตุสมผลเพราะเครื่องนี้มาพร้อมกับจอขอบบาง NanoEdge ที่ใหญ่ถึง 15.6 นิ้วแบบ FHD ก็ทำให้การใช้งานจริงสบายตาดีครับ

ทั้งนี้ด้วยตัวเครื่องที่ออกแบบมาแบบ Flip คือเป็น Convertible Laptop ที่สามารถพลิกจอได้ 360 องศา ทำให้สามารถใช้งานได้ทั้งในแบบ Notebook ธรรมดา, แบบวาง Keyboard คว่ำลงไปกับโต๊ะ, กางเป็น Tent หรือแม้แต่จะพลิกจนกลายเป็น Tablet เลยก็ได้ แต่ด้วยน้ำหนักของตัวเครื่องการจะถือไปไหนมาไหนในแบบ Tablet ก็อาจลำบากเล็กน้อย แต่ถ้าวางใช้กับโต๊ะนี่ถือว่าค่อนข้างตอบโจทย์เลยครับ เหมาะกับการใช้ปากกาวาดรูปบนโต๊ะมากๆ

Credit: ASUS

สำหรับตัวเครื่องที่ได้มารีวิวนี้ ทางทีม ASUS ได้มีการติดตั้งเบื้องต้นและมีการผูกเครื่องเข้ากับ Demo Account มาให้อยู่แล้ว โดย Account ดังกล่าวนี้ก็คือ Google Account นั่นเองครับ ทำให้เมื่อเรา Login เข้าไปแล้ว ตัว Chromebook ก็จะดึงข้อมูลต่างๆ จาก Account ของเรามาให้ใช้งานในเครื่องได้เลย

พอ Login เข้าเครื่องไปแล้ว เราก็จะพบกับหน้าจอที่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็น Android นิดๆ Google Chrome หน่อยๆ ซึ่งใครที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของ Google มาก่อนก็น่าจะเริ่มต้นลองใช้งานได้แทบจะทันทีครับ

สำหรับวิธีการใช้งาน Application ต่างๆ ในเครื่องนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน ได้แก่

  1. App ที่อยู่บน Google Chrome ครับ เรายังสามารถติดตั้ง App เสริมต่างๆ บน Browser ได้เหมือนกับที่เคยใช้บน PC เลย
  2. App ใน Google Play ครับ ดังนั้นใครที่ใช้ App อะไรทำงานบน Android มาก่อน ก็สามารถโหลดมาใช้งานบนเครื่องได้เลย ถึงแม้บาง App ก็อาจจะไม่รองรับบ้าง แต่ App หลักๆ มีครบครับ

คราวนี้ก็ได้เวลาลองเชื่อมต่อปากกา ASUS Pen ที่แถมมาด้วยแล้ว วิธีการก็ไม่ยากครับ หมุนตรงปลายปากกา แล้วเอาแผ่นพลาสติกกั้นถ่านออก จากนั้นก็หมุนปลายปากกากลับไป จากนั้นก็ใช้ปากกาสัมผัสหน้าจอได้เลยครับ

เพียงเท่านี้ ASUS Chromebook Flip CX5500 ของเราก็จะรองรับทั้งการพิมพ์ผ่าน Keyboard, สัมผัสผ่าน Touchpad, สัมผัสผ่านหน้าจอด้วยนิ้ว และการใช้ปากกา ASUS Pen แล้วครับ ส่วนใครจะเพิ่ม Mouse เข้าไปอีกก็สามารถทำได้ไม่ยากเช่นกัน

สำหรับการใช้งานด้วย Keyboard และ Touchpad นั้นก็เรียกได้ว่าไม่ต่างจาก Notebook ปกติเลยครับ ตัว Keyboard Layout ก็ถือว่าค่อนข้างปกติ และยังคงมี Shortcut ต่างๆ ให้ใช้เพื่อเพิ่มความเร็วในการทำงานกับ Browser หรือ App ต่างๆ ได้ ก็จะเป็นจุดเด่นที่เหนือกว่าการใช้ Tablet แบบสัมผัสหน้าจอปกติครับ

ส่วนการใช้งานด้วยนิ้วสัมผัสบนหน้าจอนั้น ก็จะมีความคล้ายคลึงกับการใช้ Tablet เลยคือมีการตอบสนองที่รวดเร็วทันใจมาก และค่อนข้างแม่นยำแม้ปุ่มจะเล็กแต่ก็กดแทบไม่พลาดเลย ทำการปัดหน้าจอไปมาสำหรับ Android App ได้ ในขณะที่การใช้ Google Chrome ด้วยนิ้วสัมผัสบนหน้าจอใหญ่ๆ ก็ทำให้เข้าถึงเนื้อหาต่างๆ ได้รวดเร็วกว่าการใช้ Touchpad หรือ Mouse ครับ

สุดท้ายคือการใช้ปากกา ASUS Pen โดยทั่วไปจะคล้ายคลึงกับการใช้นิ้วสัมผัสบนหน้าจอครับ แต่เวลาจิ้มลงไปที่ช่องสำหรับพิมพ์ตัวหนังสือ เราจะสามารถเลือกได้ว่าจะใช้ปากกาเขียนภาษาอะไร และสามารถเปลี่ยนภาษาที่เราต้องการได้เหมือนเวลาใช้ Keyboard บน Android เพื่อให้ระบบสามารถแปลงลายมือของเราไปยังภาษานั้นๆ ได้อย่างแม่นยำ โดยรวมแล้วการแปลงลายมือนี้แม่นมากๆ แต่ก็อาจจะต้องฝึกใช้ให้คุ้นชินเรื่องของการเว้นวรรคหรือการเขียนคำยาวๆ ต่อกันอยู่บ้างครับ ซึ่งการเขียนนี้จะเปิดให้ใช้ได้เมื่อเราพลิกหน้าจอไปเกินกว่า 180 องศาเพื่อใช้งานในโหมดอื่นๆ นอกจากโหมดปกติแล้วเท่านั้นครับ

คราวนี้อีกจุดหนึ่งที่ถือว่าทำมาได้น่าสนใจมากๆ คือการเก็บปากกาของเครื่องนี้ โดย ASUS Chromebook Flip CX5500 นี้จะมีแถมปลอกปากกาที่มี Interface สำหรับเสียบเข้ากับช่อง Micro SD Card Reader แบบเบาๆ ได้โดยอาศัยแม่เหล็ก ทำให้สามารถถอดเสียบใช้งานได้ค่อนข้างสะดวก ถือพกพาไปไหนได้ค่อนข้างง่ายไม่หล่นหายไปไหน แต่ถ้าเก็บในกระเป๋าแล้วมีอะไรไปชน หรือถืออยู่แล้วเผลอเอามือไปปัดโดน ปากกาก็อาจจะหล่นได้ครับ

ในแง่ของการใช้งานโดยทั่วไปนั้นไม่ติดขัดอะไร ตัวเครื่องจัดการ CPU กับ Memory ได้ค่อนข้างดีทำให้สามารถเปิด App ต่างๆ ทำงานได้อย่างลื่นไหลแม้ตัวเครื่องที่ได้มาจะมีสเป็คของ CPU ที่ไม่แรงมากนัก แต่ก็เพียงพอต่อการทำงานแล้ว

ทางด้านของการทำงานนั้น App มาตรฐานสำหรับการทำงานทั้งจาก Google นั้นมีตัวหลักๆ ครบหมด ใช้ทำงานได้แน่นอน ส่วน App ประชุมก็มีครบแทบจะทุกค่ายใหญ่ๆ เปิดกล้องพอใช้ประชุมทำงานได้ถึงแม้ภาพจะไม่ได้ละเอียดมากนัก ส่วนระบบเสียงวางใจได้เพราะใช้ลำโพงคู่ harman/kardon certified เสียงออกมาค่อนข้างดี โดยไมโครโฟนก็ใช้งานได้ปกติไม่มีปัญหาอะไร แถมยังใช้ระบบสั่งคำสั่งผ่านเสียงกับ Google Assistant ได้อีกด้วย

สำหรับการเรียน ตัวเครื่องก็มี App ทางการศึกษาให้ใช้งานเหมือนที่มีบน Android แต่สำหรับโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยที่ใช้เครื่องมือจาก Google เป็นหลักก็ถือว่าเป็นเครื่องที่เหมาะมากเลยครับ เพราะรองรับเครื่องมือทั้งหมดครบถ้วนในตัวเลย

ตอนทดลองใช้งานจริงถือว่าโอเคเลยครับ โดยปกติใช้งานได้โดยไม่ได้ช้าหรือติดขัดอะไร การอัปเดต Google Chrome OS ก็ทำได้ง่ายๆ ไม่มีปัญหา รู้สึกคล้ายกับการอัปเดต Google Chrome บนเครื่องคอมเลยครับ แต่ว่าตอนใช้งานไปบางครั้งจะมีบางช่วงที่ CPU ทำงานจนพัดลมดังทั้งๆ ที่ไม่ได้เปิด App อะไร คิดว่าคงเป็นการทำงานของ System ซักส่วน ซึ่งระหว่างนั้นเครื่องก็ใช้งานได้ปกติ และรอซักพักทุกอย่างก็กลับเป็นปกติครับ

ต่อไปนี้จะเป็นผล Benchmark นะครับ โดยเริ่มจากทดสอบการใช้ซอฟต์แวร์ด้วย https://benchmarks.ul.com/ ในแง่การใช้ทำงานเอกสารถือว่าผ่านดีไม่มีประเด็นอะไรครับ ส่วนการใช้เล่นเกมนั้นสำหรับเกมที่ไม่ได้ต้องแสดงผลกราฟฟิกเข้มข้นมากนัก ก็ถือว่าใช้ได้เลย

ถัดมาคือการทดสอบการใช้ Web Application ด้วย https://browserbench.org/ โดยรวมถือว่าผ่านด้วยคะแนนที่โอเคเลยครับ

จุดเด่นที่ชอบ

1. ใช้แล้วรู้สึกเหมือนกำลังใช้ทั้ง Notebook และ Tablet ไปพร้อมๆ กัน

ตอนก่อนที่ได้มารีวิวคิดว่าเครื่องนี้จะคล้ายๆ กับเครื่อง Convertible หรือ Detachable อื่นๆ ที่รองรับปากกา แต่พอใช้งานจริงกลับรู้สึกว่ามันเป็นลูกผสมระหว่าง Notebook และ Tablet มากกว่าครับ เพราะเราสามารถผสมผสานระหว่าง Keyboard, Mouse, นิ้ว, ปากกาในการทำงานต่างๆ ได้ ทำให้งานบางงานสามารถทำได้เร็วขึ้น แต่แรกๆ ก็คงต้องลองผิดลองถูกจนชินก่อนครับว่าเวลาทำอะไรต้องใช้วิธีการไหนถึงจะสะดวกที่สุด

แต่จุดที่ทำให้รู้สึกต่างมากจริงๆ ก็คือระบบปฏิบัติการนี่แหละครับ ปกติถ้าใช้เครื่องที่เป็น Windows ประสบการณ์ในการใช้นิ้วและปากกาก็อาจจะไม่ได้คล้ายกับ Tablet มากนัก แต่เครื่องนี้ถือว่ามีความคล้ายมาก ทั้งการออกแบบปุ่มเพิ่มลดเสียงหรือเปิดปิดเครื่องที่ด้านข้าง ไปจนถึงตำแหน่งวางปุ่มต่างๆ ที่มีกลิ่นอายของ Android

สิ่งที่ทำให้ ASUS Chromebook Flip CX5500 นี้เหนือกว่า Tablet ทั่วๆ ไปก็คือความสามารถในการทำงานแบบ Multitasking ได้อย่างเต็มที่นั่นเองครับ เราสามารถเปิดหลายๆ หน้าต่างทำงานพร้อมๆ กันได้ สลับหน้าต่างไปมาได้ง่ายในแบบ Notebook แต่ใช้ App ในแบบ Mobile ทำงาน และด้วย Keyboard Shortcut ก็ยิ่งทำให้การทำงานเร็วขึ้นไปอีก รองรับการใช้งานได้หลายรูปแบบเลยครับ

2. เปิดปิดเร็วจนน่าตกใจ!

เครื่องที่ได้มาทดสอบนี้ใช้เวลาในการเปิดปิดเครื่องที่เร็วมากๆ ครับ โดยการเปิดใช้เวลาประมาณ 5 วินาที ส่วนการปิดใช้เวลาประมาณ 10 วินาที และการดับหน้าจอหรือปลุกหน้าจอกลับขึ้นมาใช้งานนั้นอยู่ในระดับต่ำกว่า 1 วินาที ก็คล้ายๆ กับ Tablet ที่บูทเครื่องเร็วๆ นั่นเองครับ

3. ปากกาที่มีประสบการณ์การใช้งานดีมากๆ เขียนแล้วแปลงลายมือได้แม่นทั้งภาษาไทยและอังกฤษ

จุดที่ประทับใจมากคือ AI แปลงลายมือที่ทำงานได้แม่นมากๆ ไม่ว่าจะใช้ภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษก็ตาม ทำให้ในการใช้งานปากกาเพียงอย่างเดียวก็สามารถใช้ท่องเว็บได้สบายๆ โดยไม่ต้องใช้ Keyboard เลย และด้วยปากการที่สัมผัสในการกดที่ค่อนข้างดี กับความฝืดในการเขียนหน้าจอที่กำลังดี ก็ทำให้ลายมือออกมาไม่แย่มาก เขียนแล้ว AI อ่านออกได้ครับ

ตัวปากกานี้จะเป็นแบบ USI Stylus ที่รองรับน้ำหนักกดได้ 4096 ระดับ เพียงแต่ว่ามีสิ่งที่ต้องรู้คือตัวปากกาใช้ถ่านนะครับ ซึ่งทาง ASUS ระบุว่าอายุการใช้งานจะอยู่ที่ราวๆ 300 วัน ดังนั้นก็อาจต้องซื้อถ่านเปลี่ยนทุกๆ ปีครับ

4. เรียนรู้ง่าย ใช้ Android กับ Google Chrome เป็นก็ใช้ Chromebook เป็น

ทั้งๆ ที่การรีวิวครั้งนี้เป็นการลองใช้งาน Chrome OS เป็นครั้งแรก แต่จากประสบการณ์ที่ใช้ Google Chrome และ Android เป็นหลักในชีวิตประจำวัน ก็ทำให้จัดการกับตัวเครื่องได้สบายๆ ครับ ทั้งหน้าจอ Setting ที่คล้ายๆ Google Chrome และการจัดการ App ในแบบของ Android ก็เล่นประมาณ 5 นาทีก็ใช้เป็นแล้วครับ

5. รองรับ App สำหรับการเรียนและการทำงานครบถ้วน ลงเกม Android หรือดูหนังฟังเพลงก็ได้

ด้วยการรองรับ App บนทั้ง Google Chrome และ Google Play ก็ทำให้เรามีทางเลือกหลากหลายค่อนข้างมากในการทำงานและการเรียนครับทั้ง Google Workspace, Google Doc, Google Sheet ไปจนถึง Google Classroom ส่วนถ้าจะคล้ายเครียดก็ลงเกม Android หรือดู YouTube/Netflix ได้เลยครับ

6. Guest Mode ไม่ได้เป็นเจ้าของเครื่องก็ใช้งานเบื้องต้นได้

ปัญหาปกติที่เรามักเจอเวลาให้คนอื่นยืมใช้งานเครื่องเราก็คือเราอาจเสียความเป็นส่วนตัวหรือถูกติดตั้งอะไรแปลกปลอมมาในเครื่องได้ ASUS Chromebook Flip CX5500 สามารถแก้ปัญหานี้ได้ด้วยฟีเจอร์ Guest Mode ของ Chrome OS ที่คนอื่นๆ สามารถมาใช้งานเครื่องเราได้โดยไม่ Login ในแบบ Guest นั่นเองครับ แต่จะใช้ได้แค่ Google Chrome เข้าเว็บต่างๆ หาข้อมูลพื้นฐานเท่านั้นโดยไม่เห็นข้อมูลส่วนตัวหรือประวัติการใช้งานใดๆ ของเราเลย และเมื่อ Guest ใช้เสร็จตัวเครื่องก็ไม่เก็บประวัติของ Guest เอาไว้ด้วยเช่นกัน

เครื่องนี้เหมาะกับใคร?

จากการลองใช้งานจริง เครื่อง ASUS Chromebook Flip CX5500 นี้น่าจะเหมาะกับกรณีการใช้งานที่เด่นๆ ดังนี้ครับ

  1. โรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยที่ต้องการมีเครื่องในนักเรียนนักศึกษายืมใช้งาน ด้วยราคาที่ถือว่าไม่แพงมาก, ตัวเครื่องที่ดูแลรักษาง่ายไม่ซับซ้อน, การรองรับการทำงานร่วมกับเทคโนโลยีของ Google ได้ครบถ้วน และวิธีการใช้งานที่สนุกน่าสนใจ ก็น่าจะตอบโจทย์ในส่วนนี้ดีครับ
  2. ธุรกิจที่ใช้งานบริการ Cloud เป็นหลัก ด้วยตัวเครื่องที่ดูแลรักษาง่าย มีความมั่นคงปลอดภัยสูง และรองรับการทำงานได้หลายรูปแบบ เป็นได้ทั้ง Notebook และ Tablet ในตัว ก็สามารถใช้ทำงานโดยมี Google Workspace เป็นหัวใจหลักได้ครับ

ติดต่อทีมงาน ASUS ประเทศไทย

สำหรับผู้ที่สนใจสินค้าของ ASUS และต้องการข้อมูลรายละเอียดต่างๆ สามารถเข้าไปเยี่ยมชมรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ https://www.asus.com/th/business/

About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

AWS เปิดให้บริการ Windows Server 2025 บน Amazon EC2

AWS ประกาศพร้อมให้บริการ Microsoft Windows Server 2025 ผ่าน Amazon Machine Images (AMIs) บน Amazon EC2 แล้วมาพร้อมฟีเจอร์ความปลอดภัยและประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น

CrowdStrike เข้าซื้อกิจการ Adaptive Shield เสริมทัพด้านความปลอดภัยบน Cloud

CrowdStrike ประกาศเข้าซื้อกิจการ Adaptive Shield ผู้พัฒนาโซลูชันด้านความปลอดภัยสำหรับแอปพลิเคชัน Cloud มูลค่า 300 ล้านดอลลาร์ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการปกป้องข้อมูลบน SaaS