หากจะพูดถึงเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษาแล้ว Chromebook นี้ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยทีเดียวสำหรับมหาวิทยาลัยหรือโรงเรียนมัธยมที่กำลังมองหาทางเลือกใหม่ๆ เพื่อให้นักเรียนนักศึกษาได้มีโอกาสสัมผัสกับสื่อการเรียนการสอนรูปแบบใหม่ๆ ผ่านอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ทันสมัยและดูแลรักษาได้ง่าย จนปัจจุบันนี้มี Chromebook ที่ถูกใช้งานในสถานศึกษาทั่วโลกแล้วมากกว่า 30 ล้านชุด
ในครั้งนี้ ASUS ได้จัดส่ง ASUS Chromebook Flip CX5400FM เพื่อให้ทีมงาน TechTalkThai ได้ทดลองใช้งานในแง่มุมของผู้ดูแลระบบ IT สำหรับสถานศึกษาโดยเฉพาะ ว่าถ้าหากสถานศึกษาทำการซื้อ ASUS Chromebook ให้นักเรียนนักศึกษาใช้เรียนตลอดช่วงเวลา 3-4 ปี ประสบการณ์ของผู้เรียนจะเป็นอย่างไร และประสบการณ์ของผู้ดูแลระบบจะเป็นอย่างไรบ้าง
ASUS Chromebook Flip CX5400FM: เครื่อง Notebook ระบบปฏิบัติการ Chrome OS ที่มีสเป็คระดับเครื่องสำหรับธุรกิจองค์กรในราคา 30,000 บาท
ก่อนจะเข้าสู่รีวิวการใช้งานจริง เรามาลองดูสเป็คของ ASUS Chromebook Flip CX5400FM กันก่อนครับ โดยเครื่องที่เราได้มาทดสอบจะมีสเป็คดังนี้
- CPU: Intel® Core™ i5-1130G7 Processor 1.8 GHz (8M Cache, up to 4.0 GHz, 4 cores)
- RAM: 8GB LPDDR4X on board
- Disk: 512GB M.2 NVMe™ PCIe® 3.0 SSD
- GPU: Intel® Iris Xe Graphics
- Network: Wi-Fi 6(802.11ax)+BT5.0 (Dual band) 2*2
- Display: 14″ LCD, FHD, Touch Screen, Stylus Support
- OS: Chrome OS
- Warranty: 3 ปี On-site Warranty, 3 ปีแบบ Global Warranty, รับประกันอุบัติเหตุ 1 ปี
- ราคา: 30,000 บาท
จะเห็นได้ว่าตัวสเป็คที่ให้มานั้นถือว่าแรงพอตัวเลยและสามารถใช้ในสถาบันการศึกษาที่เน้นเรื่องของการเข้าถึงสื่อการเรียนการสอนได้สบายๆ โดยการใช้ CPU รุ่นล่าสุดอย่าง 11th Gen Intel Core i5 ก็จะทำให้อายุการใช้งานของเครื่องนี้อยู่ได้อีกอย่างน้อย 3-5 ปี โดย RAM 8GB อาจดูเหมือนไม่เยอะแต่ก็ถือว่าเพียงพอแล้วสำหรับ Chrome OS และ PCIe SSD ก็ทำให้มั่นใจได้ว่าเครื่องจะทำงานได้อย่างรวดเร็วอยู่เสมอแน่นอน
ตัวเครื่องภายนอกนั้นเป็นโลหะอลูมิเนียมอัลลอยทั้งหมดที่ให้สัมผัสเย็นสบายและเรียบลื่น พร้อมสี AI Blue ที่ทำให้ตัวเครื่องดูมีความหรูหราน่าใช้งานเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าถ้านำ Notebook ในราคาใกล้เคียงกันมาเทียบกันแล้ว ASUS Chromebook Flip CX5400FM นี้จะดูหรูหราไม่แพ้ใครแน่นอน
นอกจากความหรูหราแล้ว เรื่องความทนทานก็ถือว่าโดดเด่นไม่แพ้กัน กับการผ่านมาตรฐาน MIL-STD 810H ซึ่งเป็นมาตรฐานความทนทานสำหรับการใช้งานทางการทหารที่มักถูกนำมาใช้ใน Notebook รุ่นสำหรับธุรกิจองค์กรในระยะหลัง เพื่อให้อุปกรณ์มีความทนทานสูง ใช้งานได้ยาวนาน และไม่ทำให้การทำงานต้องหยุดชะงัก
ตัวเครื่องรุ่นนี้มากับจอขนาด 14 นิ้วในแบบ NanoEdge ที่ขอบบางทั้ง 4 ด้าน ความละเอียดระดับ FHD ใช้งานได้สบายตา สามารถพับเครื่องไปใช้แบบ Tablet ได้ แถมยังรองรับการสัมผัสหน้าจอได้ทำให้สามารถใช้งานได้ทั้งแบบ Laptop และ Tablet ในเครื่องเดียว รวมถึงยังมีปากกา USI Stylus มาใช้เขียนบนหน้าจอเพิ่มเติมได้อีกด้วย โดยตัวปากกาจะถูกเก็บอยู่ด้านข้างเครื่อง เสียบเข้าไปในตัวเครื่องได้เลย ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลเรื่องปากกาหลุดหรือหล่นหาย
สำหรับ Keyboard และ Touchpad นี้จะใช้เทคโนโลยีที่เราคุ้นเคยกันดีบนเครื่อง ASUS รุ่นอื่นๆ ปุ่มมีสัมผัสและการตอบสนองที่กำลังดี ในขณะที่ตัว Touchpad เองก็ตอบสนองต่อการสัมผัสได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นถ้าหากใครใช้ ASUS มาก่อนก็น่าจะคุ้นมือเป็นอย่างดี
บริเวณขอบด้านบนของจอจะติดตั้งกล้อง Web Cam พร้อมฝาให้เลื่อนเปิดปิดกล้องได้ ทำให้สามารถรักษาความเป็นส่วนตัวได้ดี โดยมีสีของฝาที่โดดเด่นทำให้เรารู้ตัวได้อยู่ตลอดว่ากล้องเปิดอยู่หรือปิดอยู่ ส่วนลำโพงนั้นก็มาในแบบ Dual-Speaker โดย harman/kardon เรียกได้ว่าคุณภาพเสียงคมชัดฟังสบายเป็นที่น่าพอใจอย่างแน่นอนสำหรับการใช้งานทั่วไป
ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อก็ถือว่าให้มาค่อนข้างครบด้วย 2x Thunderbolt™ 4 USB-C, 1x USB 3.2 Gen 1 Type-A, 1x Audio Jack และ 1x microSD Card slot
สำหรับการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ตัวเครื่องนี้จะใช้ชิป Titan C ที่ Google ออกแบบขึ้นมาเอง
ระบบปฏิบัติการที่มากับตัวเครื่องนี้จะเป็น Chrome OS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการจาก Google ที่ให้ประสบการณ์เหมือนการใช้ Google Chrome โดยสามารถติดตั้ง App ได้จากทั้ง Chrome และ Android ในเครื่อง ทำให้สามารถใช้ทำงานได้อย่างหลากหลาย ยืดหยุ่น ให้ประสบการณ์ให้ทั้งการเป็น Laptop และ Tablet ไปพร้อมๆ กัน
ทางด้านของการรับประกัน ตัวเครื่องมาพร้อมกับประกัน 3 ปีแบบ On-site Warranty, รับประกัน 3 ปีแบบ Global Warranty และรับประกันอุบัติเหตุ 1 ปีแรก
ผู้ที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถศึกษาข้อมูลได้ที่ https://bit.ly/3gbGoXD ครับ
แกะกล่อง ลองใช้ของจริง
ในการแกะกล่องของ ASUS Chromebook Flip CX5400FM ออกมาลองใช้งานนี้ถือว่าน่าสนใจทีเดียว เพราะด้วยตัวเครื่องที่เป็นอลูมิเนียมอัลลอยที่ให้สัมผัสดีมากๆ นี้ แค่หยิบออกจากซองกระดาษมาก็สร้างความประทับใจให้ทีมงานผู้ทดสอบแล้ว
ตัวสัมผัสของเครื่องถือว่าเป็นเครื่องที่ให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมมากๆ กับสัมผัสแบบเรียบลื่นเย็น ดูไม่เป็นของเล่น แต่เป็น Notebook รุ่นทำงานสำหรับนักธุรกิจมืออาชีพ และการออกแบบที่ดูแล้วรู้สึกว่าสวยทุกมุม แต่ไม่ซ้ำแบบใคร พร้อมด้วยโลโก้ Chromebook ที่อยู่ใกล้ๆ กับ ASUS ก็สามารถดึงดูดความสนใจได้ดีทีเดียว
น้ำหนักของเครื่อง 1.4 กิโลกรัมถือว่าไม่หนักจนเกินไปแต่ก็ไม่ได้เรียกว่าเบา ส่วนจอ 14 นิ้วถือว่าให้มากำลังดี มีแถบเปิดปิดกล้อง Web Cam อยู่ด้านบนที่จะโชว์สีเด่นชัดเมื่อปิดกล้องอยู่ ทำให้สังเกตได้ค่อนข้างง่ายว่าปิดกล้องอยู่หรือไม่
Keyboard ที่ให้มาปุ่มใหญ่กำลังดี สัมผัสค่อนข้างสบายมือ แต่ไม่มี Numpad มาให้ด้วยความที่ตัวเครื่องมีขนาดไม่ใหญ่ ส่วน Touchpad ก็ถือว่าลื่นๆ สัมผัสสบาย ตอบสนองได้รวดเร็ว
เมื่อเปิดเครื่องมาลองใช้งาน Chrome OS ก็พบว่าเครื่องเปิดได้เร็วมากๆ หลังจากนั้นเพียงแค่ต่อ Wi-Fi แล้วใส่ Username / Password ของเครื่อง ก็จะเข้าใช้งานได้แทบจะทันที และสามารถเลือกได้ว่าจะเข้าใช้ Browser ผ่าน Chrome หรือเลือกเปิด Android App อื่นๆ ซึ่งก็สามารถติดตั้ง App ใหม่ๆ เพิ่มได้ทั้งผ่านทาง Chrome Extension และ Google Play
การใช้งานโดยทั่วไปไม่มีปัญหาอะไร ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานผ่าน Keyboard, Touchpad, จอสัมผัส หรือปากกา ทั้งหมดนี้ทำงานได้เป็นธรรมชาติ และเลือกใช้ให้เหมาะกับ App ที่เราต้องการได้
โดยรวมแล้วความโดดเด่นของ Chrome OS นี้ก็คงเป็นการออกแบบระบบให้ง่ายกับผู้ใช้งานมากที่สุด เพราะจากที่ทดลองใช้งานนั้น แทบจะไม่ต้องไปจัดการอะไรในส่วนของ System เลย เปิดมาเพื่อใช้ App ต่างๆ ได้ทันที ประสบการณ์เหมือนการใช้ Tablet มากๆ แต่ทำงานได้สะดวกขึ้นด้วยการใช้งานได้แบบ Mutitasking พร้อมทั้งมี Keyboard, Touchpad และยังเชื่อมต่อ Hardware อื่นๆ รวมถึงจัดการข้อมูลในอุปกรณ์ได้ง่ายเหมือน Notebook ทั่วไป
เห็นเปิด Tab ใน Chrome เยอะๆ อย่างนี้ เครื่องไม่ทำงานช้าลงเลยนะครับ ขนาดสั่ง Refresh ทุก Tab ใหม่ ก็ยังใช้งานได้อยู่ CPU พุ่งสูงแค่แป๊บเดียวจากนั้นก็กลับมาเป็นปกติราบรื่นดีครับ
ส่วนการอัปเดตเครื่องก็สามารถทำได้ง่ายมากๆ ครับ แค่เข้าไปกดอัปเดตใน Setting ของ Chrome OS และรอซักพัก โดยระหว่างนั้นก็สามารถทำงานได้ปกติไม่มีปัญหาอะไร
ถ้าเป็น IT Admin ของสถานศึกษา การดูแล ASUS Chromebook Flip CX5400FM จะรู้สึกอย่างไร?
ในมุมของ IT Admin นั้น Chromebook ทุกเครื่องจะสามารถใช้งานได้ 2 แบบ คือแบบที่ Login ก่อนใช้งาน และแบบ Guest Mode ที่ไม่ต้อง Login อะไรแต่จะใช้งาน Browser และ App ได้จำกัด ทำให้สามารถประยุกต์ใช้เป็นเครื่อง Kiosk ตามพื้นที่ต่างๆ ในมหาวิทยาลัยหรือโรงเรียนได้ง่ายมากๆ แทบจะไม่ต้องมีการดูแลอะไรนอกจากแค่ตั้งค่าการเชื่อมต่อ Wi-Fi ให้กับเครื่อง
แต่สำหรับกรณีที่ต้องการใช้ Chromebook เป็นอุปกรณ์สำหรับอาจารย์, เจ้าหน้าที่ หรือแจกให้นักเรียนนักศึกษานำไปใช้งานนั้น ตัว Chromebook จะต้องผูกกับ Google Account เพื่อให้สามารถ Login และจดจำ Profile, Session หรือข้อมูลต่างๆ รวมถึงเชื่อมต่อกับบริการ Cloud ของ Google ได้ เหมือนกับเวลาเราใช้อุปกรณ์ Android ครับ
ซึ่งตรงนี้ก็ถือเป็นจุดที่น่าสนใจ เพราะทุกวันนี้โซลูชันด้านการศึกษาของ Google เองก็ถือว่ามีความพร้อมค่อนข้างมากอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น App สำหรับใช้จัดการเอกสารทั่วๆ ไปอย่าง Google Workspace ที่มีทั้ง Gmail, Calendar, Docs, Sheets, Drive และอื่นๆ ให้ใช้ รวมถึงยังมี Meets สำหรับใช้เข้าห้องเรียนออนไลน์และ Google Classroom สำหรับเข้าถึงเอกสารประกอบการเรียนการสอนและส่งการบ้านได้
ส่วน Application อื่นๆ ก็สามารถโหลดได้จาก Chrome Extension หรือ Google Play โดยทาง Google ก็ยังมี Chromebook App Hub ที่รวมเอาเครื่องมือสำหรับใช้ในการเรียนเอาไว้ที่ https://chromebookapphub.withgoogle.com/apps ด้วย
สำหรับการบริหารจัดการอุปกรณ์จำนวนมากจากศูนย์กลาง Google Chromebook นี้สามารถบริหารจัดการผ่าน IT Admin Console บน Cloud ได้ที่ https://admin.google.com/ ซึ่งจะมีความสามารถดังต่อไปนี้
- สามารถเลือก Enroll อุปกรณ์ได้ทั้งแบบ Manual รายเครื่องและการทำ Zero-Touch ผ่าน Token
- สามารถบริหารจัดการการตั้งค่าเบื้องต้นของตัวเครื่องและ Chrome Browser ได้จากศูนย์กลาง
- สามารถกำหนดค่าด้านความมั่นคงปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวได้จากศูนย์กลาง เช่น Site Isolation, Password Manager, Lock Screen, PIN/Fingerprint Unlock, Remote Access, Kerberos, Network และอื่นๆ อีกมากมาย
- สามารถเลือกกำหนด Allow/Block App ที่จะเปิดให้ผู้ใช้งานติดตั้งได้ ทั้งสำหรับผู้ใช้งานทั้งหมด และการใช้งานแบบ Kiosk
- สามารถบริหารจัดการพฤติกรรมการทำงานของ Hardware ภายในเครื่องได้
- สามารถบริหารจัดการ Guest Session ได้
- สามารถตั้งค่าจัดการ VM และ Developer Mode ในเครื่องได้
- สามารถตั้งค่าการเชื่อมต่อ Printer ได้
- มีรายงานสรุปสถิติการใช้งาน ทั้งแบบ Device, Version, App, Extension และอื่นๆ
นอกจากนี้ Google ยังมี Chrome Education Upgrade สำหรับใช้บริหารจัดการ Chromebook สำหรับโรงเรียนและมหาวิทยาลัยโดยเฉพาะได้ โดยมีความสามารถที่เพิ่มเติมขึ้นไปอีก เช่น
- รองรับการทำ BYOD ให้ผู้ใช้งานนำอุปกรณ์ของตนเองที่ Login ด้วย Account ของโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยมาใช้งานได้และยังคงควบคุมการใช้งานในส่วนที่เกี่ยวข้องได้
- ตั้งค่าเชิงลึกสำหรับเครื่อง Kiosk เพื่อให้จัดแสดงข้อมูลหรือรองรับการใช้งาน Application ที่เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่
- จำกัดการใช้งานเพื่อให้ใช้ในการเรียนเป็นหลัก โดยในระหว่างเวลาเรียนจะสามารถใช้เครื่องได้ด้วย Account ของผู้เรียนเท่านั้น แต่นอกเวลาสามารถเปิดให้ใช้ Account อื่นๆ หรือ Guest มาใช้งานได้ ทำให้นักเรียนนักศึกษาสามารถใช้เครื่องนี้ได้ทั้งในและนอกเวลาเรียนอย่างเต็มที่
- เพิ่มการควบคุมด้านความมั่นคงปลอดภัย ให้ผู้ดูแลระบบสามารถช่วยสั่ง Lock หรือปิดเครื่องจากระยะไกลได้ หรือกำหนดค่าเพื่อลบข้อมูลหลังสิ้นสุดการใช้งาน
แนวทางดังกล่าวนี้จะทำให้โรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยที่ต้องการก้าวไปสู่ภาพของการเรียนการสอนแบบ Hybrid Learning ที่ผู้เรียนทุกคนต้องใช้คอมพิวเตอร์ประกอบในการเรียนทุกวิชา และใช้เทคโนโลยีเป็นสื่อกลางระหว่างครูกับผู้เรียน โดยสามารถเกิดการเรียนการสอนได้จากทั้งในห้องเรียนและที่บ้านของผู้เรียนเป็นจริงขึ้นมาได้ ด้วยการใช้ Chromebook เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์กลางที่สามารถถูกควบคุมได้จากทุกที่เพื่อให้ตอบสนองต่อโจทย์ของสถาบันการศึกษานั่นเอง
ส่วนการบริหารจัดการอุปกรณ์ IT อื่นๆ ในสถาบันการศึกษา ก็สามารถโหลดเครื่องมือต่างๆ มาติดตั้งเพิ่มเติมได้ครับ
ถ้าเป็นนักเรียนหรือนักศึกษา ใช้งาน ASUS Chromebook Flip CX5400FM แล้วจะรู้สึกอย่างไร?
สำหรับผู้เรียน การใช้ ASUS Chromebook Flip CX5400FM นี้จะเปรียบเสมือนการมีทั้ง Android Tablet และ Notebook ในเครื่องเดียวกันสำหรับใช้ในการเรียนติดตัว แต่มีข้อดีที่โดดเด่นดังนี้
- การใช้งานเครื่องสามารถทำได้โดยง่าย แทบไม่ต้องมีการดูแลรักษาใดๆ และแทบไม่มีปัญหาในการใช้งาน
- สามารถใช้งานเป็น Tablet ด้วยนิ้วสัมผัสหรือปากกาก็ได้ หรือจะใช้เป็น Notebook ด้วย Keyboard, Touchpad หรือ Mouse ก็ได้ ทำให้มีโอกาสได้สร้างความคุ้นเคยกับการทำงาน Digital ด้วยวิธีการที่แตกต่างกันออกไปได้เป็นอย่างดี
- สามารถทำงานได้หลายหน้าจอพร้อมกันเหมือนบน PC แต่เป็นการใช้ Chrome ร่วมกับ Android App แทน
- App ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเรียนจะมาพร้อมกับตัวเครื่องทั้งหมดโดยไม่ต้องติดตั้งเอง และการ Login เครื่องเพียงครั้งเดียวก็จะเป็นการ Login ให้กับ App ที่มาจาก Google แทบทั้งหมดให้โดยอัตโนมัติไปด้วย
- งานส่วนใหญ่จะทำแบบออนไลน์ซึ่งต้องต่อ Wi-Fi ในขณะใช้งาน แต่สำหรับการเรียนทางไกลก็น่าจะเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
- เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถใช้ได้ทั้งในการเรียนและสำหรับความบันเทิงส่วนตัว เพียงแต่อาจถูกจำกัดการใช้งานบางประการบ้างในเวลาเรียน
- มี App สำหรับการจัดการเอกสารให้ครบอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น Docs หรือ Sheet และยังสามารถใช้งานแบบออฟไลน์ได้ แต่ต้องตั้งค่าไฟล์นั้นๆ ให้รองรับการใช้งานออฟไลน์เสียก่อน
- สามารถติดต่อสื่อสารพูดคุยกับอาจารย์ผู้สอนและเพื่อนร่วมชั้นเรียนได้อย่างง่ายดาย ผ่าน App ต่างๆ ของ Google ไม่ว่าจะเป็น Gmail, Chat, Meets และ Classroom
ในแง่ประสิทธิภาพ ถึงแม้สเป็คเครื่องอาจดูไม่ได้แรงมาก แต่ด้วย Chrome OS ที่บริหารจัดการทรัพยากรในเครื่องได้ค่อนข้างดี ทำให้การใช้งานโดยรวมเป็นไปได้ค่อนข้างรวดเร็ว การเปิด Tab ใน Google Chrome จำนวนมากก็ยังสามารถทำได้โดยไม่ทำให้เครื่องทำงานช้า และยังสามารถเปิด App อื่นๆ ใช้ทำงานควบคู่ไปด้วยได้ตลอดเวลา
พอได้รีวิวทั้งแง่มุมของผู้ใช้อุปกรณ์และผู้ดูแลระบบ IT แล้ว ก็ทำให้เห็นภาพมากขึ้นทีเดียวว่าทำไม Google Chromebook ถึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในสถาบันการศึกษาทั่วโลก เพราะเป็นอุปกรณ์ที่สามารถใช้งานและดูแลรักษาได้ง่าย รวมถึงยังมี Software และ Solution ที่ตอบโจทย์เฉพาะทางในอุตสาหกรรมนี้ได้เป็นอย่างดีอีกด้วยนั่นเอง
สรุปข้อดีข้อเสีย
ข้อดี
- ตัวเครื่องดูดีมาก สเป็คถือว่าแรงกำลังดี จอสัมผัส มีปากกาให้ สมราคามากๆ
- Chrome OS ใช้งานง่าย ดูแลง่าย ไม่ซับซ้อน ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีมาก เรียกว่าใช้แล้วชอบเลยครับ
- สำหรับองค์กรที่ใช้ Google Workplace อยู่แล้ว ก็สามารถนำไปบริหารจัดการผ่านหน้า Admin Console ของ Google ได้เลย
- ในการใช้งานทั่วไปถือว่าสะดวกมาก เพราะ Browser หลักก็เป็น Chrome อยู่แล้ว ในขณะที่สามารถใช้ Android App เข้ามาเสริมได้ ก็ทำให้ตัวเครื่องสามารถทำอะไรได้หลากหลายดีทีเดียว
- ในมุมของผู้ดูแลระบบ ถือเป็นเครื่องที่ดูแลรักษาแก้ไขปัญหาค่อนข้างง่ายในระดับเดียวกับ Android Tablet เลย โดย Google เองก็มีเครื่องมือมาให้สำหรับบริหารจัดการค่อนข้างพร้อม
- ในมุมของนักเรียนนักศึกษา ถือเป็นเครื่องที่สวยงามน่าใช้ วิธีการใช้งานไม่ซับซ้อน ไม่ต้องลำบากกับการตั้งค่าต่างๆ ก่อนใช้งาน ทำให้โฟกัสกับการเรียนได้เลย
- ที่เก็บปากกาทำมาได้ค่อนข้างดี แข็งแรงทนทานไม่หลุดออกมาง่ายๆ
- ฟอนต์ที่ใช้เป็น Default สวยมากทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ใช้งานสบายตามากครับ
ข้อเสีย
- น้ำหนัก 1.4 กิโลกรัมถือว่ามาตรฐานสำหรับ Laptop แต่อาจจะหนักไปนิดหน่อยสำหรับการเป็น Tablet แต่ก็สามารถใช้งานแบบวางบนโต๊ะราบหรือวางตั้งด้วยการพลิก Keyboard ไปด้านหลังได้
- ปุ่มเปิดปิดเครื่องอยู่ด้านข้างของตัวเครื่อง ต้องใช้เวลาทำความคุ้นเคยพอสมควร
- งานส่วนใหญ่ยังต้องทำออนไลน์ในขณะต่อ Internet ดังนั้นหากจะเซฟไฟล์เอาไว้ใช้แบบออฟไลน์ก็ต้องเรียนรู้วิธีการเล็กน้อย
ติดต่อทีมงาน ASUS ประเทศไทย
สำหรับผู้ที่สนใจสินค้าของ ASUS และต้องการข้อมูลรายละเอียดต่างๆ สามารถเข้าไปเยี่ยมชมรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ https://www.asus.com/th/business/