8 งานใหม่ทางด้าน IT และ Data ที่จะเกิดขึ้นจากการมาของ AI ในอนาคต

ใน The Enterprisers Project ได้มีบทความที่วิเคราะห์ถึงตำแหน่งงานในอนาคตอีก 8 ตำแหน่งสำหรับเหล่าผู้เชี่ยวชาญทางด้าน IT และ Data ที่จะเกิดขึ้นมาเพื่อรองรับการมาของเทคโนโลยีด้าน AI ในอนาคต ทางทีมงาน TechTalkThai เห็นว่าเป็นประเด็นที่น่าสนใจดี จึงขอนำมาสรุปเป็นภาษาไทยให้ผู้อ่านทุกท่านได้อ่านกันดังนี้ครับ

Credit: ShutterStock.com

 

1. Intelligence Designer

เป็นผู้วางกลยุทธ์ด้าน AI ที่มีบทบาทหลักๆ ในการตัดสินใจเกี่ยวกับภาพรวมของเทคโนโลยีและโครงสร้างสำหรับรองรับการใช้งาน AI ภายในองค์กรในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อองค์กรหนึ่งแห่งเริ่มมีการใช้งาน AI ย่อยๆ จำนวนมากแล้ว จะทำการผนวกรวม AI เหล่านั้นเข้าด้วยกัน เพื่อทำงานร่วมกันเสมือนเป็นมันสมองกลางขนาดใหญ่ขององค์กรได้อย่างไร

 

2. Data Curator

เมื่อ AI ได้เข้ามามีบทบาทหลักๆ ในการช่วยตัดสินใจแทนมนุษย์ในบางส่วนแล้ว การสอน AI ให้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องก็ถือเป็นประเด็นที่สำคัญ ดังนั้นจึงต้องมีผู้ที่ทำหน้าที่ในการจัดการหาข้อมูลใหม่ๆ ที่ถูกตรวจสอบและแก้ไขจนมีคุณภาพเพียงพอแล้วมาให้ AI ทำการใช้ในการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง และการค้นหาและเตรียมข้อมูลใหม่ๆ เหล่านี้ก็คืองานหลักๆ ของ Data Curator นั่นเอง

 

3. Data Evangelist

ในการขับเคลื่อนธุรกิจด้วย AI นั้น ในนัยยะหนึ่งก็หมายถึงการนำข้อมูลที่มีอยู่ทั้งภายในและภายนอกองค์กรมาให้ AI ใช้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง ดังนั้น Data Evangelist จึงจะต้องเป็นผู้ที่รับบทบาทในการช่วยให้เหล่าพนักงานในฝ่ายธุรกิจและแผนกต่างๆ ทราบและเข้าใจถึงข้อมูลที่มีอยู่ภายในองค์กรว่ามีอะไรอยู่บ้าง และจะนำไปใช้งานได้อย่างไรบ้าง รวมถึงสื่อสารทางเลือกต่างๆ ที่เป็นไปได้ในการนำข้อมูลที่มีอยู่มาสร้างสรรค์เป็นสิ่งต่างๆ เพื่อตอบโจทย์การนำไปใช้งาน ทำให้องค์กรสามารถสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ จากข้อมูลได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

 

4. Machine Learning Data Scientist

Data Scientist ที่ทำหน้าที่ดูแลระบบ Machine Learning โดยเฉพาะนั้นจะถูกแยกออกมาเป็นอีกตำแหน่งหนึ่ง เพื่อทำการ Train ระบบโดยเฉพาะ และทำการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อสร้างคุณค่าใหม่ๆ ให้กับข้อมูลที่องค์กรมีอยู่นั่นเอง

 

5. Robotics Process Analyst

เป็นงาน Business Analyst แต่ทำหน้าที่วิเคราะห์และตรวจวัดกระบวนการที่ทำแบบอัตโนมัติด้วย Robotics Platform แทน

 

6. Digital Knowledge Manager

ผู้จัดการที่ทำงานแบบ Cross-functional ในการรับผิดชอบกลยุทธ์ด้าน Digital Knowledge ขององค์กรอยู่เบื้องหลัง ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบว่าข้อมูลที่ใช้งานอยู่นั่นมีความแม่นยำถูกต้อง, การผนวกรวมโครงการภายในองค์กรเพื่อสร้างคุณค่าใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น ทั้งในแง่ของเนื้อหา, ผลิตภัณฑ์ และการลงทุน ทำให้ตำแหน่งนี้จะกลายเป็นผู้ที่ชี้ทิศทางด้าน Digital ขององค์กรในอนาคตนั่นเอง

 

7. AI Interaction Designer

ทำหน้าที่หลักๆ ในการพัฒนา AI Interface ให้ใช้งานง่ายสำหรับผู้ใช้งานจำนวนมาก รวมถึงออกแบบบุคลิกของระบบ AI และวางเป้าหมายให้ AI นั้นตอบสนองได้เหมือนกับมนุษย์ที่สุด

 

8. Cognitive Copywriter

เมื่อองค์กรเริ่มนำเทคโนโลยี Neural Language Processing ไปใช้งานเพื่อตอบโต้กับลูกค้ามากขึ้น ก็ต้องมีคนที่ทำหน้าที่ในการดูแลระบบ Neural Language Processing นี้โดยเฉพาะ โดยผู้ที่รับบทบาทนี้จะต้องมีความเข้าใจในระบบ Machine Learning, API และ Neural Language เป็นอย่างดี และต้องสามารถจัดการกับข้อจำกัดของการนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ในการสร้างประสบการณ์การใช้งานและติดต่อสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างสร้างสรรค์ โดยผสานความเป็นแบรนด์ขององค์กรลงไปในทุกๆ การโต้ตอบด้วย

 

แต่ละอาชีพในบทความนี้ก็ดูจะเป็นอาชีพใหม่ที่มีความเฉพาะทางสูงไม่น้อย และก็ดูมีความท้าทายใหม่ๆ ที่เรายังไม่เคยเจอมาก่อนด้วยเช่นกัน ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการวางแผนเส้นทางการเรียนรู้เทคโนโลยีกันได้บ้างนะครับ

 

ที่มา: https://enterprisersproject.com/article/2017/12/8-emerging-ai-jobs-it-pros 

About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

Linux Mint กลับขึ้นมาเป็น Distro ยอดนิยมที่สุดอีกครั้งบน DistroWatch

จากข้อมูลบน DistroWatch ได้ชี้ให้เห็นว่า Linux Mint ได้กลับขึ้นมาเป็นดิสโทร (Distro) ยอดนิยมสูงสุดของ Linux อีกครั้งแล้ว แซงหน้า MX Linux ที่ตกลงไปอยู่ลำดับที่ 2 …

Microsoft เคลม Data Center แห่งใหม่ ไม่ต้องเติมน้ำสำหรับระบายความร้อนแล้ว

หลังจากหน่วยประมวลผลมีวิวัฒนาการอย่างก้าวกระโดดเพื่อตอบสนองความต้องการอย่าง Generative AI จึงทำให้ Data Center จำเป็นต้องมีใช้ “น้ำ” มาช่วยระบายความร้อน แต่ล่าสุดด Microsoft ได้เปิดตัว Data Center แห่งใหม่ที่เคลมว่าไม่จำเป็นต้องเติมน้ำเข้าไปเพิ่มเพื่อช่วยระบายความร้อนได้แล้ว