Microsoft Azure by Ingram Micro (Thailand)

สรุปงานสัมมนาออนไลน์ Realize the simple to manage your SDDC with VMware vRealize Suite

การบริหารจัดการ Infrastructure ในปัจจุบันมีความซับซ้อนอย่างยิ่ง สาเหตุเพราะองค์กรไม่ได้พึ่งพาแค่ดาต้าเซ็นเตอร์เพียงแห่งเดียวอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ VMware จึงได้จัดสัมมนาขึ้นในวันที่ 27 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมาเพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับโซลูชัน vRealize Suite ซึ่งจะช่วยเปลี่ยนภาพการบริหารจัดการ Infrastructure ของท่านให้ไม่เป็นเรื่องยากอีกต่อไป

ความท้าทายของ Multi-cloud 

หลายองค์กรยึดมั่นกับแนวทางการทำ Transformation ว่าต้องไปคลาวด์ ซึ่งพอเอาเข้าจริงมักจะมีการใช้งานคลาวด์มากกว่าแห่งเดียวหรือที่เรียกว่า Multi-cloud ดังนั้นปัญหาหลักๆ ที่ตามมาคือเพิ่มงานให้ผู้ดูแล Infrastructure เพราะต้องเรียนรู้เครื่องมือบริหารจัดการของแต่ละค่าย จึงก่อปัญหาเรื่อง Security ตามมาเพราะดูแลไม่ทั่วถึงและขาดทักษะความเข้าใจในการใช้งาน ตลอดจนไม่สามารถติดตามประสิทธิภาพและการคงอยู่ของแอปพลิเคชัน เนื่องจากไม่สามารถบูรณาการการจัดการไว้จากที่เดียว

VMware เองมีนโนบายมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือลูกค้าให้สามารถบริการจัดการ Infrastructure ของท่าน ไม่ว่าท่านจะใช้คลาวด์ใด ที่ไหน จากอุปกรณ์อะไรก็ตาม เพราะ VMware มีโซลูชันที่ชื่อ vRealize Suite เพื่อทำให้ชีวิตของแอดมินไม่ยุ่งยากอีกต่อไป

vRealize Suite

ไอเดียของ vRealize ก็คือเครื่องมือบริหารจัดการดาต้าเซ็นเตอร์นั่นเอง ซึ่งหลักๆ แล้วจะช่วยทำให้การ Deploy ทรัพยากรเป็นไปได้อย่างอัตโนมัติ รวมถึงติดตามและบริหารจัดการทรัพยากร นอกจากนี้ยังให้เรื่องของ Visibilty และใช้เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลในระดับเรียลไทม์ได้ด้วย โดย vRealize Suite มีให้เลือกทั้งแบบ Cloud และ On-premise 

หากแบ่งหน้าที่ของผู้ดูแลในองค์กรปัจจุบันเป็น 3 ส่วนประกอบด้วย DevOps Admin, Cloud Admin (Programmable) และ VI Admin (Self-driving Operations) ตัว vRealize Suite จะเข้ามาทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้ดูแลใน 2 ส่วนหลัง ตามภาพด้านบน โดยโซลูชัน vRealize Suite จะประกอบด้วย 4 ส่วนหลักคือ

1.) vRealize Automation (vRA)

ไอเดียก็คือ vRA จะช่วยให้ผู้ดูแลสามารถทำการ Provision Workload ได้อย่างอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็น On-premise, VM หรือ Container ก็ตาม ซึ่งจะมีหน้า Self-service Catalog ให้ผู้ใช้งานอย่าง DevOps จัดการเองได้ว่าต้องการ Workload อะไร โดยไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกับผู้ดูแล อย่างไรก็ดีในแง่ของการควบคุมผู้ดูแลสามารถตั้งค่าได้ว่าจะอนุมัติหรือปฏิเสธ Workflow ที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้เลยว่าการทำงานอัตโนมัติของท่านได้ถูกตรวจสอบแล้ว ก่อนที่การใช้งานจะเกิดขึ้นจริง 

2.) vRealize Operations (vROps)

ส่วนประกอบกอบนี้จะช่วยสร้างความเป็นอัตโนมัติในการปฏิบัติงานเช่น ในกรณีของการปรับเพิ่มหรือลดทรัพยากรตามสถานการณ์ โดยเบื้องหลังได้อาศัยความสามารถของ AI ประกอบกับข้อมูลที่ได้มาจาก vRealize Log Insight ให้ท่านสามารถบริหารจัดการทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนไปอย่างไร นอกจากนี้ยังช่วยลด Downtime อย่างไม่ทันตั้งตัวที่เกิดขึ้นในการทำงานแบบเก่า ซึ่งโซลูชันในท้องตลาดทั่วไปแม้จะทราบถึงว่าเหตุการณ์ฉุกเฉินแต่ก็ยังไม่สามารถทำการตอบสนองอย่างอัตโนมัติ

โดยมีหลายแนวทางที่ผู้ใช้งานจะสามารถนำ vROps ไปใช้งานได้เช่น นำไปใช้บริหารจัดการ vSAN ที่ยังรองรับทั้งการจัดการ Infrastructure บน On-premise, Hybrid Cloud ไปจนถึง vROps ยังสามารถทราบข้อมูลเชิงลึกตอบสนองการปฏิบัติการในระดับ Service ของ VM นั้นๆ รวมถึงยังสามารถตอบโจทย์ Compliance ได้ด้วย

3.) vRealize Log Insight

credit : VMware

Log Insight เป็นส่วนประกอบที่ช่วยเสริมพลังเมื่อทำงานควบคู่กับ vRealize Operations แต่ถ้าพูดถึงหน้าที่ของ Log Insight ก็คือโซลูชันหนึ่งที่ช่วยรวมรวม Log จาก Workload ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น OS, Application, Server, Storage, Firewall และอุปกรณ์ Network นั่นหมายความว่าองค์กรจะได้เรื่องของ Visibility ในภาพทั้งหมด

โดย Log Insight จะทำการวิเคราะห์ข้อมูลจัดระเบียบข้อมูลที่กระจายอยู่จาก Unstructured ให้แสดงผลอยู่ในรูปแบบที่เข้าใจได้ง่ายผ่าน Dashboard และมี GUI ให้ท่านสามารถเข้าใจถึงต้นตอปัญหาได้ง่ายๆ นอกจากนี้ยังสามารถ Scale Up เพิ่มประสิทธิภาพได้ตามการใช้งานที่เพิ่มขึ้น

4.) vRealize Lifecycle Manager

ส่วนประกอบชิ้นสุดท้ายนี้จะคอยดูแลองค์ประกอบอื่นๆ ในแง่ของการบริการเรื่องการตั้งค่า สถานะของแต่ละองค์ประกอบข้างต้นดังเช่น

  • ตรวจสอบแพตช์และคอบอัปเดตเวอร์ชันใหม่ให้ 3 องค์ประกอบที่กล่าวมาก่อนหน้า
  • ดูแลเรื่อง Password และ Certificate
  • Integrate การใช้งานกับ Active Directory เพื่อให้สามารถทราบถึงบริบทของผู้ใช้งานในองค์กร
  • ทำ Version Control ให้ตรงกัน
  • Deploy แอปพลิเคชันอื่นๆ ใน Marketplace

ทั้งนี้ตัวของ vRealize Suite จะมีให้เลือก 3 เวอร์ชันคือ Standard, Advance และ Enterprise โดยสามารถเลือกในลักษณะของค่าใช้จ่ายตาม CPU Socket (เหมือนกัน vSphere) หรือนับตามจำนวนอุปกรณ์ก็ได้ที่นำไป Monitor ก็ได้เช่นกัน ผู้สนใจสามารถติดต่อตัวแทนจำหน่าย VMware ที่ท่านรู้จักได้

About nattakon

จบการศึกษา ปริญญาตรีและโท สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ KMITL เคยทำงานด้าน Engineer/Presale ดูแลผลิตภัณฑ์ด้าน Network Security และ Public Cloud ในประเทศ ปัจจุบันเป็นนักเขียน Full-time ที่ TechTalkThai

Check Also

เอชพี เปิดตัวพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลายที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ AI PCs [PR]

เอชพี เปิดตัวพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลายที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ AI PCs ขับเคลื่อน ด้วยขุมพลัง AI ยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน การสร้างสรรค์ และประสบการณ์ของผู้ใช้ในสภาพแวดล้อม การทำงานแบบไฮบริด

Microsoft ยกเลิกการใช้ 1024-bit RSA Key บน Windows แล้ว

Microsoft ประกาศยกเลิกการใช้กุญแจเข้ารหัส 1024-bit RSA Key บน Windows แล้ว เปลี่ยนไปใช้กุญแจเข้ารหัสความยาว 2048-bit เป็นอย่างน้อย