กรุงเทพฯ, 29 กุมภาพันธ์ 2559 – ในปัจจุบัน ที่เทรนด์ของโลกที่เปลี่ยนไปสู่ยุคโมบายและคลาวด์ เศรษฐกิจเริ่มปรับเปลี่ยนมาอยู่บนพื้นฐานของความรู้และบริการ ( Knowledge and Service based economy ) มากขึ้น หลาย ๆ ธุรกิจจึงมีระบบการจัดการที่เปลี่ยนแปลงไป โดยให้ความสำคัญกับการทำงานนอกสถานที่ และใช้เทคโนโลยีเพื่อเอื้อให้การทำงานร่วมกันเป็นไปอย่างง่ายดายยิ่งขึ้น
จากผลสำรวจของพนักงาน 13 ประเทศในภูมิภาคเอเชีย จำนวน 5,000 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีพนักงานในประเทศไทยจำนวน 400 คน พบว่าพนักงาน 47 คน จาก 100 คน มองว่าองค์กรช่วยผลักดันให้พวกเขาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดการทำงานร่วมกันและเกิดการสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ตลอดเวลา รวมถึงสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่พนักงาน
“ไมโครซอฟท์มองว่าหากองค์กรมีนโยบายที่ให้ความสำคัญกับสวัสดิการควบคู่ไปกับการสนับสนุนความแตกต่างของไลฟ์สไตล์ของพนักงาน จะทำให้พนักงานจัดการชีวิตการทำงานและเรื่องส่วนตัวได้ดียิ่งขึ้น เทรนด์การทำงานยุคใหม่จึงไม่ได้มองถึงความสมดุลของงานและชีวิตส่วนตัว ( Work-Life Balance ) อีกต่อไป แต่จะเป็นผสานงานกับชีวิตเข้าด้วยกัน ( Work–Life Integration ) โดยใช้เทคโนโลยีในการเชื่อมต่อ” คุณศิริวรรณ ทองเหลือง ฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย จำกัด กล่าว
อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจพบว่าเพียง 3 ใน 10 ของคนทำงานในเอเชียสามารถผสานงานกับชีวิตส่วนตัวเข้าด้วยกัน พนักงานในประเทศไทยร้อยละ 69 ยังจำเป็นต้องเข้าออฟฟิศเพื่อใช้เครื่องมือที่มีเฉพาะในออฟฟิศเท่านั้น และร้อยละ 25 บอกว่าพวกเขาเข้าออฟฟิศเพื่อที่จะใกล้ชิดกับเพื่อนร่วมงานและหัวหน้างาน ซึ่งทำให้เห็นถึงช่องว่างในบริหารจัดการเพื่อให้ได้ประสิทธิผลจากการทำงานมากที่สุด
ไมโครซอฟท์ จึงมีแนวคิด “โลกยุคใหม่ของการทำงาน” เพื่อให้พนักงานทำงานนอกสถานที่และยังเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานภายในองค์กรได้ โดยมีแนวทางดังนี้
- บริหารประสิทธิภาพของการทำงานแทนการเข้างาน จากการสำรวจพบว่าจากลักษณะการทำงานที่ต้องพบปะกับลูกค้า พนักงานร้อยละ 72 จะใช้เวลาอย่างน้อย 1 วันใน 5 วันทำงาน ในการทำงานนอกออฟฟิศ ดังนั้น หัวหน้างานควรศึกษาวิธีจัดการทีมให้มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะด้วยการตั้งตัวชี้วัดผลสำเร็จหรือ KPI และที่สำคัญคือเน้นไปที่การประเมินผลการดำเนินงานและผลลัพท์ของงาน หัวหน้างานต้องแจ้งให้พนักงานทราบถึงความคาดหวังของตนเองและติดตามผลการดำเนินงานอยู่สม่ำเสมอ
- สร้างการทำงานร่วมกันระหว่างทีม จากการสำรวจพบว่าร้อยละ 54 ของผู้ตอบแบบสอบถามรู้สึกว่าการทำงานร่วมกันอย่างทันท่วงที เช่น การแชร์ไอเดียระหว่างเพื่อนร่วมงาน การแลกเปลี่ยนข้อมูล เป็นสิ่งที่เกิดประโยชน์ต่อองค์กร การสร้างการทำงานร่วมกันทำให้เกิดการร่วมมือร่วมใจกันทำงาน องค์กรสามารถสนับสนุนการทำงานร่วมกันและความคิดสร้างสรรค์ได้ด้วยการสร้างหรือปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมในการทำงาน รวมทั้งยกระดับเครื่องมือหรือเทคโนโลยีที่ใช้การทำงานร่วมกันเป็นทีมเพื่อทำลายกำแพงระหว่างพนักงานด้วยกัน
- การเข้าถึงเทคโนโลยีอย่างเท่าเทียม พนักงานส่วนใหญ่ต้องการเข้าออฟฟิศเพียงเพื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์และเครื่องมือ ในบางที่พนักงานระดับบริหารกลับมีเครื่องมือในการทำงานที่ดีกว่า สิ่งที่สำคัญคือพนักงานทุกคนจะต้องเข้าถึงเครื่องมือในการทำงานเพื่อให้พวกเขาทำงานได้อย่างยืดหยุ่นและทำงานจากนอกสถานที่ได้ แต่ในขณะเดียวกัน บริษัทก็ต้องมั่นใจว่าข้อมูลจะปลอดภัยและได้รับการปกป้อง
“ไมโครซอฟท์เป็นบริษัทซึ่งมีเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพเพื่อการผสานงานกับชีวิตส่วนตัวเข้าด้วยกัน ( Work-Life Integration ) โดยเราจะเน้นประสิทธิภาพของงานแทนการเข้างาน ซึ่งพนักงานของไมโครซอฟท์ทุกคนเข้าใจ และไม่เกิดข้อครหาในหมู่เพื่อนร่วมงานด้วยกัน ซึ่งแน่นอนว่าตอบโจทย์ทิศทางการทำงานในยุคโมบายและคลาวด์ เราให้ความสำคัญและอิสระแก่พนักงานทุกคนในทุกลักษณะงานที่ทำ บางฟังก์ชั่น เช่น พนักงานขายที่ทำงานนอกสถานที่เป็นส่วนใหญ่ หรือพนักงานบางท่านที่อาจจะไม่สามารถเข้ามาทำงานได้ด้วยเหตุผลบางประการ เช่น ป่วยหรือคนในครอบครัวไม่สบาย หรือแม้แต่พนักงานหญิงที่ตั้งครรภ์ อย่างดิฉันเอง ที่ตอนนี้กำลังตั้งครรภ์ลูกแฝด ซึ่งโดยส่วนตัวนั้นมีความยากลำบากและอาจเสี่ยงต่ออันตรายในการเดินทางมาทำงาน แต่ก็ไม่อยากหยุดพักงานเนื่องจากเรายังต้องการทำงานเพื่อสร้างคุณค่าให้แก่ตนเองและเพื่อนร่วมงานอยู่ แทนที่จะอยู่เฉย ๆ ไมโครซอฟท์มีเครื่องมือเพื่อช่วยและเปิดโอกาสให้พนักงานสามารถทำงานที่ไหนก็ได้เพียงเชื่อมต่ออินเทอร์เนต อย่างไรก็ดีแม้ทางไมโครซอฟท์จะให้อิสระในการทำงานนอกออฟฟิศอย่างเต็มที่ งานที่รับผิดชอบทั้งหมดนั้นจะต้องได้รับการลงมือทำและมีผลลัพท์ออกมาอย่างเป็นรูปธรรม” คุณศิริวรรณ ทองเหลือง ฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวเสริม

สำหรับเด็กรุ่นใหม่ที่โตมากับโลกดิจิทัลนั้น มองว่าแนวคิดการทำงานในโลกยุคใหม่นั้นมีผลดีกับตนเองและบริษัทได้เป็นอย่างมาก “การทำงานที่ไมโครซอฟท์สร้างโอกาสทำให้ผมได้เห็นนวัตกรรมใหม่ ๆ มากมาย ให้ผมได้รับประสบการณ์ต่าง ๆ ที่ผมบอกได้เต็มปากว่า เพื่อน ๆ ทุกคนต่างอิจฉาผมกันมาก ผมเข้ามาทำงานกับไมโครซอฟท์ภายใต้โครงการที่ชื่อว่า MACH หรือ Microsoft Academy for College Hires ซึ่งสร้างความตื่นเต้นให้ผมตลอดเวลา ผมได้มีโอกาสไปฝึกอบรมวิชาต่าง ๆ ทั้งในประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก ถึงแม้ว่าผมจะเป็นหนึ่งในพนักงานที่อายุน้อยที่สุดของไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ด้วยอายุแค่ 22 ปี แต่ผมก็มีโอกาสได้เรียนรู้อะไรต่าง ๆ มากมาย และได้พบปะกับเพื่อน ๆ ที่มีแนวคิดในทิศทางเดียวกันหลายคน จนทำให้การทำงานที่ไมโครซอฟท์ของผมมีมิติมากขึ้น เหมือนกับได้ผจญภัย เพราะมีคนคอยให้ข้อมูล แนะแนวและผลักดันให้ผมปฏิบัติจริงตลอดเวลา ผมต้องการเป็นพนักงานคุณภาพของไมโครซอฟท์ ไมโครซอฟท์เองก็ต้องการพนักงานที่มีคุณภาพเช่นกัน จึงไม่เคยมีวันไหนเลยที่ผมมาทำงานแล้วไม่สนุก เพราะที่ไมโครซอฟท์นั้นมีสิ่งใหม่ให้ต้องเรียนรู้อยู่เสมอ” คุณเมธัส เดชชุษณะนาถ ผู้จัดการฝ่ายเทคนิค บริษัท ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย จำกัด กล่าว “นอกจากนี้ ในแง่ของไลฟ์สไตล์การทำงาน โดยปกติชีวิตผมจะเจอลูกค้าเป็นหลัก และเทคโนโลยีที่ไมโครซอฟท์มี ก็สามารถตอบโจทย์การทำงานนอกสถานที่จริง ๆ ให้ผมทำงานได้ทุกที่ ตัวอย่างง่าย ๆ เช่น Skype for Business สำหรับการประชุม แถมยังสามารถให้เข้าถึงซอฟท์แวร์ภายในต่าง ๆขององค์กรได้อย่างปลอดภัย ซึ่งตอบโจทย์ Work–Life Integration สุด ๆ เพราะที่ไมโครซอฟท์จะมองผลของงานเป็นเรื่องสำคัญ คุณต้องเคารพตัวเอง รู้จักพัฒนาตัวเอง เพราะไมโครซอฟท์เปิดกว้างและใจกว้างมาก ๆ ครับ และถึงแม้ว่าเราจะเป็นเด็กที่มีประสบการณ์น้อยกว่า หัวหน้าก็รับฟังเมื่อมีข้อเสนอแนะและยังเกิดการแก้ไข ซึ่งทำให้เรารู้สึกมีส่วนรวมในการดำเนินงานและความสำเร็จของไมโครซอฟท์อย่างแท้จริง” คุณเมธัส เดชชุษณะนาถ ผู้จัดการฝ่ายเทคนิค บริษัท ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวสรุป

เกี่ยวกับคุณศิริวรรณ ทองเหลือง
คุณศิริวรรณ ทองเหลือง ฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย จำกัด จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโมนาช ประเทศออสเตรเลีย ก่อนเข้าร่วมงานกับไมโครซอฟท์ในปี 2557 คุณศิริวรรณมีประสบการณ์การทำงานในสายงานทรัพยากรบุคคลในองค์กร FMCG มาอย่างยาวนาน ด้วยความกระตือรืนร้นและทัศนคติที่ดีในการทำงาน ทำให้คุณศิริวรรณ ได้รับรางวัลต่าง ๆ มากมาย อาทิ “One Microsoft Award” และ “Excellence in Collaboration Award” โดยการทำงานของคุณศิริวรรณจะมุ่งไปที่การสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดีหรือพัฒนาตัวบุคคลให้พร้อมที่จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในโลกของโมบายและคลาวด์
เกี่ยวกับคุณเมธัส เดชชุษณะนาถ
คุณเมธัส เดชชุษณะนาถ ผู้จัดการฝ่ายเทคนิค บริษัท ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย จำกัด จบการศึกษาปริญญาตรีจากสาขาวิศวกรรมสารสนเทศและการสื่อสาร คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยเกรดเฉลี่ย 3.90 ในขณะเรียน คุณเมธัสได้เข้าร่วมกิจกรรมของมหาวิทยาลัยมากมาย เช่น เป็นคณะกรรมการนิสิต รองประธานคณะกรรมการกีฬาอินเตอร์เกมส์ 2013 พิธีกรงานเปิดและปิดกีฬาอินเตอร์เกมส์ คุณเมธัสเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่มีกิจกรรมหลากหลาย นอกจากกิจกรรมในมหาวิทยาลัยแล้ว คุณเมธัสยังชอบเล่นกีฬา อาทิ ตีกอล์ฟ เทนนิส แบตมินตัน ทั้งยังเคยได้เหรียญทองจากกีฬาแบตมินตันกีฬามหาวิทยาลัยอีกด้วย คุณเมธัสชอบอ่านหนังสือและหลงใหลในด้านไอที โดยใช้เวลาว่างอ่านและอัพเดทบล็อกเกี่ยวกับไอที และมักจะใช้เวลาในการเดินทางไปต่างประเทศแวะเวียนตามร้านไอทีต่าง ๆ เพื่อสังเกตพฤติกรรมของลูกค้า
เกี่ยวกับโครงการ MACH
โครงการ MACH ( Microsoft Academy for College Hires ) เป็นโครงการรับนักศึกษาจบใหม่ในกว่า 60 ประเทศทั่วโลก โดยเน้นการสร้างทางเลือกในอาชีพตามความถนัดของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นด้านพัฒนาแอพพลิเคชั่นและซอฟท์แวร์ ด้านการตลาดและการขาย หรือด้านการพัฒนาธุรกิจ โครงการนี้มีจุดประสงค์เพื่อพัฒนาและส่งเสริมบุคลากรที่มีความสามารถให้ตระหนักขีดความสามารถของตน เพื่อการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง รวมทั้ง สนับสนุนนวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งในการทำงาน การพัฒนาธุรกิจ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยโครงการ MACH แบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก ดังนี้
- MACH สำหรับผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี
- MACH สำหรับผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท โดยเฉพาะในสาขาบริหารธุรกิจ หรือ MBA
นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังมีโครงการต่อยอดที่เรียกว่า “Intern to MACH” หรือโครงการฝึกงานสำหรับนักศึกษาที่กำลังเรียนอยู่ชั้นปีที่ 3 ของมหาวิทยาลัย เพื่อสร้างความคุ้นเคยระหว่างนักศึกษาที่ได้รับการคัดเลือกและวัฒนธรรมการทำงานของไมโครซอฟท์
สำหรับโครงการ Intern to MACH และ MACH จะมีการจัด Roadshow ไปยังมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อสรรหานักศึกษาที่สนใจและมีความสามารถมาเข้าร่วมโครงการ ซึ่งผู้สมัครจะต้องส่งใบสมัคร พร้อมประวัติการเรียน กิจกรรม และการทำงาน ( Resume ) มายังไมโครซอฟท์ ก่อนการคัดเลือกเข้าสู่รอบ “Assessment Session” ซึ่งเป็นบททดสอบความพร้อมของนักศึกษา และรอบสัมภาษณ์ต่อไป
เกี่ยวกับไมโครซอฟท์
บริษัท ไมโครซอฟท์ ( NASDAQ “MSFT” ) ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2518 เป็นผู้นำระดับโลกด้านบริการ ซอฟต์แวร์ ดีไวซ์ และโซลูชั่นที่ช่วยเสริมสร้างศักยภาพของผู้ใช้และองค์กรธุรกิจ
บริษัท ไมโครซอฟท์ ( ประเทศไทย ) จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี 2536 มีความมุ่งมั่นในการช่วยให้คุณภาพชีวิตคนไทย 70 ล้านคน ดีขึ้นด้วยเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์ ไมโครซอฟท์ ส่งเสริมให้คนไทยและภาคธุรกิจได้ตระหนักถึงศักยภาพที่มีอย่างเต็มเปี่ยมผ่านการใช้เทคโนยี เทคโนโลยีที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลง ในการทำงาน การใช้ชีวิต และการสื่อสาร ไมโครซอฟท์ให้บริการซอฟต์แวร์ บริการ และดีไวซ์ ที่สามารถก่อให้เกิดโอกาสใหม่ ๆ มีความสะดวกทันสมัย และช่วยให้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไมโครซอฟท์ ไม่หยุดนิ่งในการทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ พันธมิตร อย่างต่อเนื่องในการนำพลังของเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศไทย
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าไปเยี่ยมชมหรือติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดได้ทางศูนย์ข่าวสารประเทศไทย http://news.microsoft.com/th-th/ และทวิตเตอร์ @MicrosoftTH