CDIC 2023

[Guest Post] HPE-YIPINTSOI : Next Generation Hyper-Converged Infrastructure on HPE SimpliVity platform

HPE-YIPINTSOI : Next Generation Hyper-Converged Infrastructure on HPE SimpliVity platform

HPE SimpliVity

HPE SimpliVity เป็น Hyperconverged infrastructure ของทางบริษัท Hewlett Packard Enterprise ที่ออกมารองรับความต้องการของลูกค้าที่ต้องการใช้งาน Hyperconverged platform ได้เป็นอย่างดี โดยมีการศึกษาจุดด้อยของคู่แข่งขันในตลาดและมาปรับปรุงและเพิ่มเติมจุดบกพร่องของคู่แข่งขันมาเพิ่มใน HPE SimpliVity

Hyperconverged คืออะไร?

เป็นรูปแบบของระบบ Data Center ที่จากระบบเดิมๆ ในเรื่อง Server , SAN Switch , Storage และ Network ที่มีข้อยุ่งยากในการบริหารการจัดการในส่วนของอุปกรณ์ มาเป็นเทคโนโลยีของ Converged ในการลดเรื่องของ Network and SAN Switch และ ในยุคปัจจุบัน Hyperconverged (First Generation)

ซึ่งจะเห็นว่า Hyperconverged นั้นมาเพื่อช่วยในการลดอุปกรณ์และการบริหารการจัดการได้เป็นอย่างดี ทำให้การใช้งาน Hyperconverged platform มีการเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดีในปัจจุบัน HPE SimpliVity แตกต่างอย่างไรกับ Hyperconverged platform (First generation) ตอนนี้ Hyperconverged platform ของทาง HPE SimpliVity ได้ก้าวเข้าไปสู่ Next-Generation (Second generation) ที่มีการควบรวมอุปกรณ์ที่จำเป็นอื่นๆ ของ Datacenter เข้ามามากขึ้น เช่น Network Switch , Backup Software , DR Orchestration และ Monitoring software ทำให้การลดอุปกรณ์ใน Data Center ลดการใช้งานลง ทำให้ลูกค้าของ HPE SimpliVity มีการลดค่าใช้จ่ายในอุปกรณ์ต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น

HPE Simplivity diagram

จะเห็นว่า HPE SimpliVity มีความครบถ้วนเรื่องของการใช้งานที่พร้อมต่อการทำงานได้อย่างเป็นอย่างดี โดยการใช้งานของ HPE SimpliVity นั้นมีประโยชน์ต่อการใช้งาน 5 ข้อดังนี้

1.) การบริหารการจัดการที่เรียบง่าย การใช้งานของ HPE SimpliVity นั้นจะรวมการใช้งานของ Server, Network, Backup, Wan Acceleration นั้นรวมรวมอยู่ในหน้าจอ Dashboard เดียวกัน (Single glass)

2.) มีความมั่นคงสูง เนื่องจาก HPE SimpliVity ได้ลดความผิดพลาด จากคู่แข่งขันของคนอื่น ๆ ในการที่ใช้งานเป็น Software RAID ในการ Protection Disk ของ HCI ใน HPE SimpliVity ได้ลดข้อผิดพลาดในการใช้งานด้วยการใช้ Hardware RAID ในการ Protection Disk ของเครื่องทำให้ลดข้อผิดพลาดในอุปกรณ์ของ Disk ในแต่ละโหนด ทำให้การใช้งานของ HPE SimpliVity นั้นมีมาตรฐานที่มั่นคงในการใช้งานถ้าเทียบกับคู่แข่งขันถึง 99.999% ในการใช้งาน ทำให้ลูกค้าวางใจในการใช้งานของ HPE SimpliVity ได้อย่างปลอดภัย

และ HPE SimpliVity มีความยืนหยุ่นที่สูง HPE SimpliVity : HCI ของเราจะทำลายข้อจำกัดในการใช้งานไม่ว่าจะข้อจำกัดในเรื่องของการเพิ่ม Computing node or Storage Node ที่เราสามารถเลือกขยายการเพิ่มการใช้งานที่เป็นอิสระกับ HCI แบบอื่นๆ ทำให้การทำงานของ HPE SimpliVity นั้นโดดเด่นกว่าแบบอื่นๆ ในทุกๆ ด้าน

3.) Hyperconverged ที่เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานได้สูงที่สุด ซึ่ง HPE SimpliVity มีการออกแบบ H/W Omni stack Card ที่ถูกออกแบบเพื่อการทำงานที่รวดเร็ว และมีการทำงานเป็นแบบ In-Memory บนเทคโนโลยีของ Bus Topology ทำให้การทำงานของ HPE SimpliVity จะทำให้ Application ของการใช้งานนั้นรวดเร็วขึ้นโดยแอปปลิเคชั่นนั้นไม่ได้มีการปรับปรุงแก้ไขการทำงานแต่อย่างใด ซี่งรวมถึงการ Write data บน SSD นั้นเขียนเฉพาะ Block ที่ผ่านการทำ In-deduplication and compression
ทำให้โอกาสที่จะมีการใช้งาน SSD ที่น้อยลงเพื่อยืดอายุการใช้งานได้ดียิ่งขึ้น

4.) HPE SimpliVity ได้ทำการติดตั้ง Backup Software เข้าไปภายใน Kernel ของ Hardware node ด้วยทำให้การสำรองข้อมูลทำได้อย่างรวดเร็วและ สะดวกในการทำงาน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มแต่อย่างใด รวมถึงสามารถทำตามมาตรฐาน กฏ 3-2-1 ในการเก็บสำรองข้อมูลไปยังอุปกรณ์ภายนอกได้ด้วยโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่อย่างใด

5.) มีระบบ AI มาช่วยในการเฝ้าระวังภัยต่างๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อ HPE SimpliVity Platform นั้น SimpliVity สามารถที่จะตอบสนองในการเฝ้าระวัง และติดตามผ่านระบบ HPE Infosight ในการป้องกันระบบหรือทำการประสานงานอัตโนมัติ ในกรณีเกิดเหตุการณ์ระบบเกิดปัญหาขึ้นโดยเร่งด่วน โดยทำการทำงานสอดคล้องกับกับระบบ Public Cloud ที่ทาง HPE SimpliVity + HPE Infosight ได้มอบประสบการณ์แบบใหม่ในการใช้งานได้เป็นอย่างดี

ฉะนั้นทุกท่านพอจะเข้าใจถึงระบบ Next-Generation ของ Hyperconverged platform
ที่ทาง HPE SimpliVity ได้เป็นผู้มอบประสบการณ์ ในความเป็นผู้นำของการใช้งานเทคโนโลยีที่เพียบพร้อมและจะช่วยให้ธุรกิจของลูกค้าได้เดินไปอย่างข้างหน้าได้อย่างไม่มีข้อติดขัดและทำให้ธุรกิจตอบสนองได้รวดเร็วจนเป็นผู้นำในการแข่งขันปัจจุบัน ได้เป็นอย่างดี

สนใจข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมติดต่อ

เบอร์โทรศัพท์ : 02 353 8600 ต่อ 3210

e-mail : yitmkt@yipintsoi.com

#HPE  #YIPINTSOI


About nattakon

จบการศึกษา ปริญญาตรีและโท สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ KMITL เคยทำงานด้าน Engineer/Presale ดูแลผลิตภัณฑ์ด้าน Network Security และ Public Cloud ในประเทศ ปัจจุบันเป็นนักเขียน Full-time ที่ TechTalkThai

Check Also

[โปรพิเศษรอบ Early Bird] คอร์สเรียน ‘Threat Hunting’ จาก Sosecure เรียนออนไลน์ เน้นลงมือจริง 3 วันเต็ม

การต่อกรกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นฝ่ายตั้งรับเท่านั้น และหากทำได้ดีเราก็สามารถลงมือตอบสนองก่อนเกิดเหตุได้เช่นกัน ยิ่งทำได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งดี ซึ่งทีม Threat Hunting มีบทบาทอย่างมากในการทำงานร่วมกับระบบ SoC ซึ่งสามารถใช้ข้อมูลภัยคุกคามจากทั่วทุกมุมโลกมาช่วยตรวจจับการโจมตีที่เกิดขึ้นได้  คำถามคือแล้วในงานเหล่านี้ควรมีทักษะเกี่ยวข้องในด้านไหนบ้าง Sosecure ขอชวนผู้สนใจในสายงานด้าน Cybersecurity ที่ต้องการรู้ลึก ทำได้จริง …

[โปรพิเศษรอบ Early Bird] คอร์สเรียน ‘Cybersecurity Analyst’ จาก Sosecure เรียนออนไลน์ เน้นลงมือจริง 3 วันเต็ม

อาชีพด้าน Cybersecurity กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดอีกมากมาย หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มองหาช่องทางใหม่ๆในสายอาชีพด้าน Cybersecurity หรือปฏิบัติงานอยู่แล้ว แต่อยากยกระดับตัวเองมากขึ้น วันนี้เราขอแนะนำคอร์สเรียนออนไลน์ ‘Cybersecurity Analyst’ โดย Sosecure ผู้เชี่ยวชาญแถวหน้าของเมืองไทย โปรโมชันพิเศษรอบ Early …