Black Hat Asia 2023

แจกฟรี Whitepaper: Personalization at Scale ภาษาไทย สรุปสถิติและปัจจัยสำคัญสู่การเป็น Experience Leader สำหรับธุรกิจองค์กร

การก้าวสู่การเป็น Experience Leader ในกลุ่มธุรกิจองค์กรนั้นจะช่วยให้ธุรกิจมีลูกค้ารายใหม่ ๆ มากขึ้น และสร้างความประทับใจในประสบการณ์ของแบรนด์ เพื่อนำไปสู่การสร้างมูลค่าตลอดชีพสำหรับลูกค้าแต่ละรายได้อย่างยั่งยืน ทำให้ธุรกิจองค์กรหลายแห่งต่างเร่งวางกลยุทธ์เพื่อปรับให้ธุรกิจของตนกลายเป็น Experience Leader ในอุตสาหกรรมกันในช่วงนี้

อย่างไรก็ดี การเป็น Experience Leader นั้นไม่เพียงแต่ที่ธุรกิจจะต้องสามารถส่งมอบประสบการณ์เฉพาะบุคคลหรือ Personalized ได้เท่านั้น แต่ยังต้องอาศัยสิ่งที่เรียกว่า Personalization at Scale ซึ่งเป็นการสร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคลสำหรับฐานลูกค้าขนาดใหญ่ ที่มีปฏิสัมพันธ์กับธุรกิจในหลากหลายช่องทางและหลายบริบทให้ได้

เพื่อให้ธุรกิจองค์กรสามารถปรับนำแนวคิด Personalization at Scale ไปใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น Adobe จึงได้ร่วมมือกับ Forrester จัดทำ Whitepaper ในหัวข้อ “Personalization at Scale: นำเสนอประโยชน์ที่ลูกค้าและธุรกิจได้รับจากประสบการณ์ที่เป็นเลิศ” ความยาว 24 หน้า โดยมีการสำรวจลูกค้าและผู้นำธุรกิจในกลุ่ม B2C และ B2B จำนวนหลายพันราย และมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

  • Experience Leader จะดำเนินการเพื่อสร้างประสบการณ์ Personalization at Scale
  • บริษัทต่าง ๆ ต้องเชี่ยวชาญและมีความสามารถใหม่ ๆ ในด้านข้อมูล เนื้อหา และรู้จักประสานวิธีการที่หลากหลายตลอดเส้นทางการดำเนินธุรกิจ
  • รูปแบบการดำเนินงานที่มีเจ้าของหลายรายและมีการประสานงานร่วมกันเป็นอย่างดี จะช่วยเสริมพลังให้การสร้างประสบการณ์ Personalization at Scale เป็นกลยุทธ์สู่ความสำเร็จ

ผู้ที่สนใจรายละเอียดฉบับเต็ม สามารถดาวน์โหลด Whitepaper ฉบับภาษาไทยได้ทันทีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ที่ https://go.techtalkthai.com/2023/02/personalisation-at-scale/


About nittaya

Previously worked as an English lecturer and eventually becomes an ADPT content writer to inspire readers under "ADAPT, ADEPT, ADOPT" concepts อดีตอาจารย์สอนภาษาอังกฤษ ผู้ผันตัวมาเป็นนักเขียน ADPT หวังสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อ่านภายใต้แนวคิด "ADAPT, ADEPT, ADOPT"

Check Also

พลิกมุมคิดการจัดการคลาวด์ไอทีอย่างสมาร์ตฉบับวีเอ็มแวร์ [Guest Post]

แม้คลาวด์จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของการพาองค์กรก้าวข้ามวิกฤตไปสู่การสร้างสรรค์โมเดลธุรกิจหรือกลยุทธ์การแข่งขันใหม่ ด้วยคุณลักษณะที่คล่องตัว (Agility) ในการปรับความต้องการใช้งานโดยอัตโนมัติ (Auto-Scaling) ได้ด้วยตัวเอง (Self-Services) ทว่าหลายองค์กรซึ่งเลือกปฏิวัติระบบธุรกิจขึ้นสู่คลาวด์กลับประสบปัญหาการจัดการทรัพยากรที่ยิบย่อยบนคลาวด์ไม่ไหว แถมหัวจะปวดกับภัยคุกคามที่ยุ่งยากในการป้องกัน ด้วยเหตุนี้ ความคาดหวังต่อไอทีคลาวด์ยุคถัดไป คือ การปรับแต่งแอปพลิเคชันและแพลตฟอร์มคลาวด์ไอทีให้ทันสมัยตรงต่อความต้องการทางธุรกิจ ภายใต้ระบบการรักษาความปลอดภัยแบบองค์รวมที่แข็งแกร่ง ทั่วถึง และเป็นอัตโนมัติกว่าเดิม

เสริมแกร่งความมั่นคงปลอดภัยในที่ทำงานด้วยบริการไอทีฉลาดล้ำกว่าเคย

บทความโดย คุณธเนศ อังคศิริสรรพ ผู้จัดการทั่วไป ประจำภูมิภาคอินโดจีน เลอโนโว ด้วยรูปแบบการทำงานแบบไฮบริดและยืดหยุ่นในองค์กรหลายแห่ง บริษัทหลายแห่งต่างกำลังพยายามตอบสนองต่อความคาดหวังและลำดับความสำคัญของพนักงาน ฝั่งทีมไอทีเองก็ต้องรักษามาตรฐานการให้บริการจากทางไกลในระดับสูงเพื่อสนับสนุนให้พนักงานยังคงสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง การทำให้พนักงานมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลนั้น บริษัทจะต้องสร้างระบบไอทีที่แข็งแกร่งทนทานยิ่งขึ้นพร้อมกับคงไว้ซึ่งแนวทางใหม่ในการทำงาน  อย่างไรก็ตาม ความท้าทายคือ สภาพแวดล้อมการทำงานแบบไฮบริดในทุกวันนี้ทำให้การจัดการจากระยะไกลนั้นซับซ้อนยุ่งยาก ระบบการจัดการทรัพยากรรุ่นเก่ายิ่งทำให้ผู้ดูแลระบบไอทีจัดการงานและภัยคุกคามเชิงรุกได้ยากกว่าเดิม …