Microsoft Azure by Ingram Micro (Thailand)

อัพเดตภาพรวมเทคโนโลยี Enterprise IT และบทบาทใหม่ของฝ่าย IT ในองค์กรกับทาง EMC Thailand

emc_logo

พอดีทางทีมงาน TechTalkThai มีโอกาสได้ไปฟังการนำเสนอเรื่องราวของเทคโนโลยีใหม่ๆ ในภาพรวมกับทาง EMC จากทีมงาน EMC Thailand ครับ ซึ่งก็ถือว่ามีหลายๆ แง่มุมที่ค่อนข้างน่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของเทคโนโลยี หรือในแง่ของการทำงานที่จะเปลี่ยนแปลงไปของผู้คนในสาย IT เลยขอสรุปมาให้ทุกท่านได้อ่านกันดังนี้

emc_enterprise_hybrid_cloud_redefined_hybrid_cloud

3 เทคโนโลยีที่องค์กรจะขาดไปไม่ได้

เหล่าคีย์เวิร์ดที่เคยเป็นคำการตลาดในอดีต ได้กลายมาเป็นความจริงในปัจจุบันที่ทุกคนต้องใช้และเข้าถึงอยู่ตลอดเวลาไปแล้วโดยอาจจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว และทุกๆ ธุรกิจก็ต้องปรับตัวเข้าหาเทคโนโลยีเหล่านี้เพื่อให้ยังคงมีขีดความสามารถในการแข่งขันกับคู่แข่งรายอื่นๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกันให้ได้อยู่ โดย 3 คีย์เวิร์ดนี้ได้แก่คำว่า Cloud, Mobile และ Big Data นั่นเอง

 

5 เทคโนโลยีสำหรับ Next Generation IT & Data Center

สำหรับทิศทางของการลงทุนเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคตนั้น ก็มีเทคโนโลยีที่น่าสนใจดังนี้

  • Mobile Devices การทำสิ่งต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกองค์กรจะถูกเปลี่ยนไปทำบน Mobile Device เป็นหลัก ซึ่ง Mobile นี้ก็คงจะกลายเป็นเทคโนโลยีหลักไปอีกนาน
  • Agile Development การพัฒนา Software จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ความเร็วในการ Deliver Software ได้จะกลายเป็นหัวใจของทุกๆ ธุรกิจ เพื่อเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันให้ได้อย่างรวดเร็ว
  • Data Lake การนำข้อมูลปริมาณมหาศาลมาวิเคราะห์ได้แบบ Real-time จะช่วยให้การทำธุรกิจเปลี่ยนแปลงรูปแบบไปได้ค่อนข้างมาก และมีความเร็วกว่าระบบวิเคราะห์ข้อมูลแบบก่อนๆ เป็นคำที่ต่อยอดมาจาก Big Data Analytics แต่เพิ่มความเป็น Real-time เข้าไป
  • Software-Defined Data Center การทำ Hybrid Cloud เพื่อสร้างความคล่องตัวในการใช้งาน IT Infrastructure ให้ได้สูงสุด เพื่อรองรับการเติบโตอย่างรวดเร็วของธุรกิจ
  • Adaptive, Data-Driven Security การจัดการรักษาความปลอดภัยจะกลายเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะข้อมูลและระบบงานต่างๆ ได้กลายเป็นหัวใจของธุรกิจ และมีการจัดเก็บข้อมูลที่มีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ

 

บทบาทใหม่ของ IT ที่จะมีต่อผู้ใช้งานภายในองค์กร

ด้วยการมาของเทคโนโลยี Cloud ในการใช้งานระดับองค์กร ก็ทำให้เหล่าผู้ใช้งานในแผนกต่างๆ ทำการเฟ้นหาบริการ Cloud มาใช้งานภายในองค์กรเพื่อช่วยในการทำงานให้มีประสิทธิภาพและคล่องตัวมากยิ่งขึ้นด้วยตัวเอง แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นตามมานั้นก็คือ หลายๆ ครั้งนั้น ข้อมูลความลับขององค์กรถูกนำไปใช้บนบริการ Cloud เหล่านี้โดยที่องค์กรไม่ทราบ และสุดท้ายปัญหานี้ก็ส่งผลเสียไม่ทางใดก็ทางหนึ่งต่อองค์กร เช่น การที่ข้อมูลความลับขององค์กรรั่วไหลออกไปสู่ภายนอก, การผิดนโยบายการทำ Compliance ที่องค์กรต้องการ หรือแม้แต่การเกิดค่าใช้จ่ายจำนวนมหาศาลกลับมายังองค์กรโดยที่ฝ่าย IT ไม่รู้ตัวและไม่ได้วางแผนเอาไว้ล่วงหน้า ปัญหาทั้งหมดเหล่านี้ถูกเรียกรวมๆ ว่า Shadow IT

เพื่อรับมือกับปัญหานี้ ฝ่าย IT ก็ต้องเปลี่ยนบทบาทตัวเองไปเป็น IT Broker แทน เพื่อคอยทำการสนับสนุนผู้ใช้งานแผนกต่างๆ ที่ต้องการใช้บริการ Cloud เช่น การหาบริการ Cloud ต่างๆ มาให้พนักงานภายในใช้งาน หรือปรับเปลี่ยนการใช้งานบริการ Cloud ที่พนักงานเคยใช้อยู่ให้องค์กรเป็นคนจัดการแทน เพื่อจะได้บริหารจัดการทั้งในแง่ของการใช้งานและความปลอดภัยให้ถูกต้องได้นั่นเอง

และสำหรับผู้ใช้งานกลุ่มที่เป็นนักพัฒนา ทางฝ่าย IT เองก็ต้องไม่คิดว่าตัวเองเป็นทีมที่แยกไปจากเหล่านักพัฒนา แต่ต้องทำงานร่วมกันให้กลายเป็น Dev + Ops = DevOps ด้วยเช่นกัน เรียกได้ว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่ฝ่าย IT ต้องมีการปรับตัวกันค่อนข้างมากทีเดียวในเชิงเทคโนโลยีและมุมมองในการทำงาน

 

Hybrid Cloud จะกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้น และติดตั้งใช้งานให้เสร็จได้ภายในเวลาเพียง 28 วัน

สิ่งที่เป็นประเด็นสำคัญที่สุดมาโดยตลอดสำหรับเหล่าผู้บริหารทั้งหลายก็คือการลดค่าใช้จ่ายภายในองค์กร และเทคโนโลยี Hybrid Cloud ที่ถือได้ว่ากลายเป็นกลยุทธ์ในการลงทุนทางด้าน Data Center ขององค์กรที่จะช่วยเปิดให้แต่ละองค์กรมีทางเลือกในการลงทุนแต่ละช่วงจังหวะให้คุ้มค่าที่สุดได้อยู่เสมอ รวมถึงทำให้ Data Center มีความทนทานสูงขึ้น, มีความเสี่ยงน้อยลง, มีค่าใช้จ่ายในระยะยาวลดลง และสร้างความคล่องตัวในการแข่งขันมากขึ้น ก็กลายเป็นเทคโนโลยีที่มีบทบาทค่อนข้างมากภายในหมู่องค์กรขนาดใหญ่

emc_enterprise_hybrid_cloud_broker_service

EMC Enterprise Hybrid Cloud มี ECM vBlock เป็น Engineered Solution ที่ถูกออกแบบมาสำหรับการทำ Hybrid Cloud โดยเฉพาะด้วยการผสานเทคโนโลยีร่วมกันระหว่าง EMC, VMware และ Cisco ซึ่งสามารถติดตั้งใช้งานให้แล้วเสร็จได้ภายในเวลาเพียง 28 วันหรือเพียง 4 สัปดาห์เท่านั้น ทำให้องค์กรต่างๆ สามารถเริ่มใช้งานเทคโนโลยี Hybrid Cloud ได้อย่างง่ายดาย, มี Time to Market ที่สั้น และทำให้องค์กรสามารถลดค่าใช้จ่ายได้ทันที หรือถ้าหากองค์กรใดมีการใช้งาน EMC Storage หรือ EMC Hyperconverged Infrastructure อย่าง VxRack และ VxRail อยู่แล้วก็สามารถใช้งาน Enterpries Hybrid Cloud ได้ทันทีเช่นกัน

 

ผลิตภัณฑ์ของ EMC ที่สามารถเป็นส่วนประกอบของ EMC Enterprise Hybrid Cloud ได้

EMC นั้นมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องอยู่ตลอดเวลา ทำให้ทางเลือกในการสร้าง Hybrid Cloud ด้วยองค์ประกอบต่างๆ จาก EMC นั้นมีความหลากหลาย ทั้งนี้ EMC ก็ยังคงเชื่อมั่นในหลักการเดิม ว่าไม่มีระบบ Storage ไหนที่รองรับ Workload ได้ครบทุกรูปแบบในโลก และในการสร้างระบบ Hybrid Cloud นั้นก็จำเป็นต้องทำให้รองรับ Workload ให้ได้เหมาะสมต่อความต้องการที่แตกต่างกันไปในแต่ละองค์กร EMC จึงยังเปิดให้องค์กรต่างๆ สามารถเลือก Storage Solution ที่ตอบโจทย์ได้แตกต่างกันหลากหลายของ EMC มาประกอบใน Hybrid Cloud ได้ดังนี้

  • EMC VCE vBlock: Converged Infrastructure ที่สร้างขึ้นจาก Cisco, EMC และ VMware สำหรับองค์กรขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ที่ต้องการ Data Center Infrastructure สำเร็จรูปที่เพิ่มขยายได้และดูแลรักษาง่าย
  • EMC VCE VxBlock: Converged Infrastructure ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Network Virtualization ให้เลือกใช้ได้จาก VMware NSX และ Cisco ACI
  • EMC VCE VxRail: EVO:RAIL ตัวใหม่ เป็น Hyper-Converged Infrastructure Appliance ที่ใช้ VMware VSAN, รองรับสูงสุด 64 Nodes, มาพร้อม VMware vSphere
  • EMC VCE VxRack: เป็น Hyper-Converged Infrastructure ที่ใช้ EMC ScaleIO เป็นหลัก, รองรับ 1,024 Nodes, เลือก Hypervisor ได้
  • EMC VMAX: Mission Critical Storage สำหรับการทำ Consolidation ที่มีทั้งประสิทธิภาพ, พื้นที่จัดเก็บข้อมูล, ความทนทาน และการบริหารจัดการที่ครบถ้วน
  • EMC XtremIO: All Flash Array ประสิทธิภาพสูงพร้อมเทคโนโลยีเสริมความทนทานและประหยัดพื้นที่ เน้นตอบโจทย์งานที่ใช้ IOPS จำนวนมหาศาล
  • EMC Isilon: Scale-out NAS เน้นตอบโจทย์งาน Object Storage, Unstructured Storage, Video Editing, Archive Storage และ Big Data Analytics
  • EMC ScaleIO: Scale-out Software Defined Storage สำหรับติดตั้งบน Hardware Server ขององค์กร
  • EMC VNX: Hybrid Flash Storage สำหรับ Virtualization โดยเฉพาะ
  • EMC ECS: Object Storage ที่เน้นเรื่องพื้นที่จัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ในราคาประหยัด

emc-vxrail-appliance

โดยการบริหารจัดการ Storage ทั้งหมดนี้จะทำโดย EMC ViPR ทั้งหมด และสามารถปรับแต่งให้ระบบ Hybrid Cloud นี้ตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรหรือ Cloud Provider ได้ตามต้องการ

ส่วนในชั้นของ Virtualization และ Cloud นั้นจะประกอบไปด้วย VMware vSphere เป็น Hypverisor, VMware NSX เป็น Software Defined Networking, VMware vRealize Operations สำหรับติดตามการทำงานของระบบ, VMware vRealize Automation สำหรับการทำระบบ Self-Service/Automation และ VMware vRealize Business สำหรับบริหารจัดการค่าใช้จ่ายและการใช้บริการ Public Cloud พร้อม Self Service Portal ให้ผู้ใช้งานสามารถมาเลือกใช้บริการต่างๆ และ Provision ระบบต่างๆ ขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง

นอกจากนี้ EMC ก็มีบริการเสริมเพื่อช่วยให้องค์กรตัดสินใจได้ว่าควรจะใช้ Hybrid Cloud หรือไม่ด้วยการฝึกอบรมและการช่วยวิเคราะห์ระบบให้กับองค์กร ไปจนถึงการติดตั้งและดูแลรักษา

 

นอกจากในแง่มุมของ Enterprise Hybrid Cloud แล้ว EMC เองก็ยังได้อัพเดตถึงการนำโซลูชั่นของ EMC มาตอบโจทย์ความต้องการเทคโนโลยีในปัจจุบันทั้งหมดดังนี้

 

ทำ Platform-as-a-Service ตอบโจทย์ Developer เพื่อทำ DevOps ภายในองค์กร

Pivotal Cloud Foundry เป็นโซลูชั่นสำหรับการสร้าง Development Infrastructure เพื่อตอบโจทย์ DevOps ได้ในแบบ Hybrid Cloud โดยสามารถ Deliver Application ได้ทั้งภายใน Private Cloud และ Public Cloud ได้อย่างยืดหยุ่น ซึ่งถือว่าสำคัญมากกับธุรกิจในปัจจุบันที่ทุกๆ องค์กรต้องทำการพัฒนาเทคโนโลยีขึ้นมาเพื่อทำการ “ลองผิดลองถูก“, “ปรับปรุงและพัฒนา” รวมถึง “มองหาความเป็นไปได้ใหม่ๆ” อยู่ตลอดเวลา

 

Scale-out Data Lake ระบบที่ Optimized มาสำหรับการจัดการข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์โดยเฉพาะ

เพื่อให้ตอบทุกโจทย์ความต้องการในการวิเคราะห์ข้อมูลและการนำข้อมูลไปใช้งานหลากหลายรูปแบบ รวมถึงการสำรองข้อมูล แนวคิดของการทำ Scale-out Data Lake จึงเกิดขึ้นมาเพื่อรองรับความต้องการลักษณะนี้ด้วยการนำข้อมูลทั้งหมดมาผสานรวมกันในระบบ Storage กลางระบบเดียว และเปิดให้เข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้จากหลากหลาย Protocol ได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็น HDFS, Object, FTP, OpenStack Swift, S3, SMB, NFS, FTP และ NDMP ช่วยลดความซ้ำซ้อนของข้อมูลลง ซึ่งในการทำ Scale-out Data Lake นี้ ทาง EMC ก็ใช้ EMC Isilon นั่นเอง

 

Security Data Lake วิเคราะห์ข้อมูลความปลอดภัยและสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลต่างๆ อย่างครบวงจร

ระบบวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อความปลอดภัยเพื่อใช้ในการกำหนดสิทธิ์ และการตรวจสอบนโยบายรักษาความปลอดภัยต่างๆ ว่าเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้หรือไม่ และทำให้การควบคุมความปลอดภัยและการบริหารจัดการสิทธิ์ในการเข้าถึงระบบและข้อมูลของผู้ใช้งานเป็นไปตามความต้องการในการรักษาความปลอดภัย

 

ก็จบเพียงเท่านี้สำหรับการอัพเดตเรื่องราวจาก EMC นะครับ พอดีนั่งคุยกันหลายชั่วโมงมาก สรุปยากเหมือนกัน บางส่วนก็เลยอาจจะดูขาดๆ เกินๆ ไปบ้างก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้นะครับ

About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

เอชพี เปิดตัวพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลายที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ AI PCs [PR]

เอชพี เปิดตัวพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลายที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ AI PCs ขับเคลื่อน ด้วยขุมพลัง AI ยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน การสร้างสรรค์ และประสบการณ์ของผู้ใช้ในสภาพแวดล้อม การทำงานแบบไฮบริด

Microsoft ยกเลิกการใช้ 1024-bit RSA Key บน Windows แล้ว

Microsoft ประกาศยกเลิกการใช้กุญแจเข้ารหัส 1024-bit RSA Key บน Windows แล้ว เปลี่ยนไปใช้กุญแจเข้ารหัสความยาว 2048-bit เป็นอย่างน้อย