Cisco เผยรายงานความพร้อมด้านการทำ Digital Transformation ใน APAC ไทยมีความพร้อมเป็นอันดับต้นๆ

ในงานแถลงข่าวของ Cisco Asia-Pacific, Japan and China ในประเทศสิงคโปร์ ทาง Cisco ได้ออกมาเผยถึงรายงานผลสำรวจด้านความพร้อมในการทำ Digital Transformation ของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พร้อมทั้งการเปิดรับนำเทคโนโลยีใหม่ๆ ไปใช้งานในภาคอุตสาหกรรม และพบว่าประเทศไทยนั้นถือเป็นประเทศที่มีความพร้อมต่อการเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆ เป็นอันดับต้นๆ

 

Credit: Cisco

 

รายงานฉบับนี้มีชื่อว่า “Ready, Steady, Unsure – Are Companies in Asia-Pacific Ready for the Digital Transformation Fight?” ซึ่งเป็นผลการสำรวจจากเหล่า Senior IT Manager จำนวน 1,325 คนจากธุรกิจที่มีพนักงานมากกว่า 500 คนทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยมีตัวเลขสรุปผลการสำรวจที่น่าสนใจดังต่อไปนี้

  • เป้าหมายในการทำ Digital Transformation คือ 73% ต้องการเพิ่ม Productivity, 60% คือการลงค่าใช้จ่าย, 59% คือการเพิ่มรายรับ, 56% คือการสร้าง Mobile Workforce, 56% คือการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ และ 54% คือการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า
  • 94% ของธุรกิจใน 6 ประเทศใหญ่ของ ASEAN มั่นใจว่ากลยุทธ์การทำ Digital Transformation ของตนเองจะช่วยให้ธุรกิจของตนมีขีดความสามารถที่เพียงพอต่อการแข่งขันในอนาคต และ 93% นั้นก็มีความพร้อมในการนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้งาน ซึ่งธุรกิจในภูมิภาคนี้ก็มีความมั่นใจที่สูงกว่าทั่วทั้งเอเชียแปซิฟิกด้วย
  • แต่ 19% ของธุรกิจที่มีขนาดเกินกว่า 10,000 คนกลับรู้สึกว่ายังไม่พร้อมในการเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อก้าวสู่การทำ Digital Transformation ในขณะที่ธุรกิจขนาดเล็กกว่านั้นมีเพียง 7% ที่ยังรู้สึกไม่พร้อม
  • ถึงแม้ธุรกิจจำนวนมากจะมีความมั่นใจ แต่ใน ASEAN นั้นก็มีเพียง 60% ที่เริ่มใช้งาน Cloud แล้ว, 59% เริ่มมีการใช้งาน Cybersecurity Solution อย่างจริงจัง, 55% เริ่มใช้งาน Big Data and Analytics และ 48% เท่านั้นที่เริ่มทำ Automation
  • สำหรับ Cybersecurity นั้น มีธุรกิจมากถึง 47% ที่ลงทุนในเชิงรับ โดยจะเริ่มมีการลงทุนระบบใหม่ๆ หรืออัปเกรดระบบเดิมที่มีอยู่ก็ต่อเมื่อระบบถูกโจมตีจริงๆ แล้วเท่านั้น
  • ธุรกิจที่เปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้น้อยนั้น 47% เกิดจากข้อจำกัดทางด้านงบประมาณ, 43% เกิดจากการขาดบุคลากรที่มีความสามารถ และ 42% เกิดจากการที่ขาดระบบ IT Infrastructure ที่เหมาะสม
  • มีธุรกิจกว่า 92% ที่ได้มีการลงทุนอัปเกรดระบบ IT Infrastructure เพิ่มเติมภายใน 3 ปีที่ผ่านมา แต่ 46% ของกลุ่มนี้ก็ไม่ได้มีการลงทุนในนวัตกรรมใหม่ๆ และการสนับสนุนหลังการขายอย่างเต็มที่เพื่อลดค่าใช้จ่ายลง นำไปสู่การที่ 37% ของกลุ่มนี้ขาดความมั่นใจว่าระบบ IT Infrastructure ที่มีอยู่จะสามารถรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้
  • 100% ของธุรกิจในเวียดนามรู้สึกมั่นใจที่จะเปิดรับต่อเทคโนโลยีใหม่ๆ
  • 95% ของธุรกิจในไทยเชื่อว่าระบบ IT Infrastructure ที่ตนเองมีอยู่จะพร้อมต่อการรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ในอนาคต
  • 65% ของธุรกิจในสิงคโปร์มีการใช้งาน Big Data Analytics แล้ว
  • การเปิดรับต่อเทคโนโลยีใหม่ๆ ใน ASEAN มีดังนี้ 60% ใช้ Cloud, 59% มีโซลูชัน Cybersecurity, 55% มีการทำ Big Data and Analytics, 48% มีการทำ Automation, 38% มีการใช้งาน AI และ 28% มีการใช้งาน IoT
  • ประเทศที่มีการใช้งาน AI สูงที่สุดคือประเทศไทยที่ 49% ตามมาด้วยเวียดนาม 45% และอินโดนิเซีย 42%
  • ประเทศที่มีการใช้งาน Automation สูงที่สุดคือเวียดนามที่ 63% ตามมาด้วยไทย 59% และฟิลิปปินส์ 49%
  • ประเทศที่มีการใช้งาน Big Data and Analytics สูงที่สุดคือสิงคโปร์ที่ 65% ตามมาด้วยมาเลย์เซีย 64% และไทย 56%
  • ประเทศที่มีการใช้งาน Cloud สูงที่สุดคือเวียดนามที่ 77% ตามมาด้วยสิงคโปร์ 64% และอินโดนิเซีย 63%
  • ประเทศที่มีการใช้งานโซลูชันด้าน Cybersecurity สูงที่สุดคือเวียดนาม 88% ตามมาด้วยสิงคโปร์ 60% และไทย 59%
  • ประเทศที่มีการใช้งาน IoT สูงที่สุดคือสิงคโปรและเวียดนามเท่ากันที่ 36% ตามมาด้วยไทย 32% และมาเลย์เซีย 27%
  • อุตสาหกรรมที่ให้ความสำคัญกับ Cloud มากที่สุดคือวงการการศึกษาและค้าปลีก
  • อุตสาหกรรมที่ให้ความสำคัญกับ Cybersecurity มากที่สุดคือการเงิน
  • อุตสาหกรรมที่ให้ความสำคัญกับ Big Data and Analytics มากที่สุดคือสาธารณสุข
  • อุตสาหกรรมที่ให้ความสำคัญกับ Automation มากที่สุดคือการเงิน, สาธารณสุข และโรงงานและการผลิต
  • สำหรับหน่วยงานภาครัฐของไทย กว่า 79% เองก็กำลังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในโครงการทางด้าน Big Data and Analytics อยู่ จึงถือเป็นตลาดที่น่าสนใจมาก

 

Discussion Panel ในงาน Cisco Ready, Steady, Unsure Press Session

 

ปัญหาโดยรวมที่ถูกเน้นหนักว่าเป็นอุปสรรคต่อการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้งานใน ASEAN นั้นก็คือการที่ภาคธุรกิจยังขาดการลงทุนอย่างเต็มที่ทั้งในการสร้างระบบ IT Infrastructure ที่เหมาะสม และการพัฒนาบุคลากรที่มีทักษะซึ่งจำเป็นต่ออนาคต อันเนื่องมาจากภาคธุรกิจยังคงให้ความสำคัญกับการลดงบประมาณการลงทุนทางด้าน IT เป็นหลัก ทำให้เกิดการแข่งขันด้านราคาด้วยการตัดบริการและความสามารถต่างๆ ของระบบออกไป

สำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางนั้นมีความได้เปรียบเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับธุรกิจใหญ่ เพราะธุรกิจเหล่านี้มักจะไม่ได้มีระบบ IT ขนาดใหญ่มากนัก การเปิดรับต่อเทคโนโลยีใหม่และเลือกใช้เทคโนโลยีที่มีคุณภาพสูงจึงสามารถทำได้ง่ายโดยไม่ต้องกังวลกับระบบเก่าที่มีอยู่เดิมมากนัก

ส่วน Cybersecurity เองก็ควรจะต้องกลายเป็นอีกประเด็นสำคัญในกลยุทธ์ของเหล่าธุรกิจต่างๆ เพราะ Cybersecurity นั้นจะเข้าไปมีผลต่อทุกๆ การเลือกใช้เทคโนโลยีและกระบวนการการทำงานทั้งหมดในอนาคต และมุมมองที่มีต่อ Cybersecurity นั้นควรจะเปลี่ยนจากการป้องกันเป็นการรับมือ เพราะท้ายที่สุดแล้วทุกธุรกิจก็จะต้องถูกโจมตีอย่างแน่นอน แต่ธุรกิจที่ดีจะสามารถรับมือและจำกัดวงความเสียหาย รวมถึงบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้นลงได้ ซึ่งเทคโนโลยีด้าน Cybersecurity สมัยใหม่เองก็จะเปลี่ยนไปเป็นการมุ่งเน้นการตรวจจับว่าธุรกิจถูกโจมตีเมื่อไหร่ เกิดความเสียหายอย่างไรบ้าง และจะรับมือจำกัดวงความเสียหายเหล่านี้ให้ได้อย่างรวดเร็วที่สุดได้ยังไง

ทั้งนี้ภาครัฐของแต่ละประเทศก็ควรมีบทบาทในการกระตุ้นให้ภาคธุรกิจในประเทศเกิดการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นมาแข่งขันกัน และควรมีบทบาทหลักๆ ในการปรับปรุงด้านการศึกษาให้มีคุณภาพและสร้างบุคลากรที่มีทักษะตรงกับสิ่งที่ภาคธุรกิจในอนาคตจะต้องการ

รายงานฉบับนี้เปิดให้ผู้ที่สนใจเข้าไปทำการศึกษากันได้ที่ https://www.cisco.com/c/m/en_au/digital-ready/index.html ซึ่งจะมีทั้งรายงานฉบับเต็มและ Infographic ฉบับย่อให้เข้าไปศึกษา และยังมีแบบทดสอบความพร้อมขององค์กรให้ลองทำด้วยว่าองค์กรของเรามีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน แนะนำว่าผู้ที่สนใจก็ลองเข้าไปทำการประเมินองค์กรตัวเองได้เลยครับ


About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

เอเซอร์เปิดตัว Swift Edge 16 รุ่นใหม่ มาพร้อมโปรเซสเซอร์ AMD RyzenTM 7040 และ Wi-Fi 7 [Guest Post]

ไทเป (26 พฤษภาคม 2566) – บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด เปิดตัวโน้ตบุ๊ก Acer Swift Edge 16 (SFE16-43) …

เอเซอร์เปิดตัว Eco-Friendly Wi-Fi 6E Mesh Router ตัวแรกที่ผลิตจากวัสดุพลาสติก PCR [Guest Post]

Acer Connect Vero W6M ความเร็วสูงสุด 7.8 Gbps ส่งสัญญาณtri-band ความเร็ว AXE7800 ผลิตจากพลาสติก PCR30% พร้อม ECO mode …