วันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา รัฐบาลจีนผ่านร่างกฏหมายความมั่นคงไซเบอร์ฉบับใหม่ ซึ่งเรียกได้ว่าควบคุมในการใช้งานอินเทอร์เน็ตของประชาชนจีนอย่างเข้มงวด ไม่ว่าจะเป็นการคัดกรองข้อมูลที่เหมาะสม และพร้อมปิดการใช้งานอินเทอร์เน็ตทันที เนื่องด้วย “ความมั่นคงของชาติ”

ใจความสำคัญของกฏหมายประกอบด้วย
- ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วไปจะต้องไม่มีส่วนร่วมกับกิจกรรม ได้แก่ การเป็นปรปักษ์ต่อระบอบสังคมนิยม การเผยแพร่ข้อมูลความรุนแรง ลามก และอนาจาร รวมไปถึงบิดเบือนข้อมูลเพื่อหวังผลทางเศรษฐกิจและการเมือง
- ภาคธุรกิจต้องรายงานเหตุการณ์ทางด้านความมั่นคงปลอดภัยแก่เจ้าหน้าที่รัฐฯ และแจ้งผู้ใช้บริการให้ทราบในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลถูกแฮ็ค นอกจากนี้ ผู้ที่รับผิดชอบโดยตรงอาจต้องเสียค่าปรับสูงถึง 100,000 หยวน หรือประมาณ 520,000 บาท
- ISP ในจีนต้องเก็บข้อมูล Log เป็นระยะเวลา 6 เดือน และต้องผ่านการตรวจสอบด้านความมั่นคงปลอดภัยในกรณีที่ต้องการนำข้อมูลออกจากประเทศ
- ISP ต้องให้ความร่วมมือและการสนับสนุนด้านเทคนิคแก่หน่วยงานด้านความมั่นคงปลอดภัยและหน่วยงานรัฐ เมื่อต้องการเก็บหลักฐานเกี่ยวกับอาชญากรรม และเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของชาติ
- บริษัทต่างชาติที่ต้องการทำธุรกิจที่ถูกพิจารณาแล้วว่าอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของจีน เช่น เกี่ยวกับการเงิน บริษัทเหล่านั้นต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่เพิ่มมากขึ้น และต้องโทษอย่างรุนแรงถ้าไม่ปฏิบัติตาม เช่น ต้องเก็บข้อมูลผู้ใช้ทั้งหมดบนเซิร์ฟเวอร์ในประเทศจีน และต้องให้ความร่วมมือกับหน่วยงานด้านความมั่นคงปลอดภัยในการตรวจสอบข้อมูล
- ผู้ใช้บริการ Critical Infrastructure ต้องสั่งซื้ออุปกรณ์ IT จากรายชื่อที่ผ่านการทดสอบและการยอมรับจากรัฐบาลจีน ในกรณีที่ไม่ปฏิบัติตาม อาจต้องโทษเสียค่าปรับสูงสุดถึง 10 เท่าของราคาอุปกรณ์นั้นๆ และผู้รับผิดชอบอาจถูกปรับเป็นเงินสูงถึง 100,000 หยวน
เห็นได้ชัดเจนเลยว่ากฏหมายความมั่นคงไซเบอร์ฉบับใหม่ของจีนมีความเข้มงวดในการใช้งานอินเทอร์เน็ตเป็นอย่างมาก โดยรัฐบาลจีนคำนึงถึง “ความมั่นคงปลอดภัยของชาติ” มากกว่า “ความเป็นส่วนบุคคล” อย่างเห็นได้ชัด แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งที่รัฐบาลจีนกำลังทำอยู่เป็นสิ่งที่ผิด เนื่องจากปัจจุบันภัยสงครามไซเบอร์นับว่าเป็นประเด็นสำคัญที่หลายฝ่ายกังวล โดยเฉพาะสงครามระหว่างจีนกับสหรัฐฯ
กฏหมายฉบับนี้จะเริ่มบังคับใช้ในเดือนมิถุนายนปี 2017 ทุกบริษัทในจีนแผ่นดินใหญ่จะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
ที่มา: http://www.theregister.co.uk/2016/11/07/china_passes_new_cybersecurity_laws/