ในช่วง Work From Home นี้ ทีมงาน ASUS ได้ส่งเครื่องทดสอบสำหรับ ASUS ExpertBook B9450 ที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเครื่องที่จัดเต็มด้านนวัตกรรมของ ASUS มาให้ทีมงาน TechTalkThai ได้ทดสอบกันอีกแล้ว โดยไฮไลท์ของเครื่องนี้ก็คือ “เบาที่สุดในโลก” ด้วยสเป็คที่แรงไม่ต่างจากเครื่องสำหรับใช้ทำงานรุ่นดีๆ แต่มีน้ำหนักเริ่มต้นเพียงแค่ 870 กรัมเท่านั้นครับ เรียกได้ว่าประทับใจจนขึ้นแท่นกลายเป็นโน้ตบุ๊ครุ่นที่อยากได้ที่สุดไปแล้วในตอนนี้
ASUS ExpertBook B9450: โน้ตบุ๊คที่แรง ทน และเบาอย่างเหลือเชื่อ
โดยปกติแล้ว Ultrabook ที่มีวางจำหน่ายในตลาดโดยทั่วไปนั้นมักจะมีน้ำหนักกันที่ราวๆ 1 กิโลกรัมขึ้นไป หรือโน้ตบุ๊ครุ่น Commercial ที่เน้นน้ำหนักเบาก็มักจะมีน้ำหนักกันตั้งแต่ 1.2 กิโลกรัมกันขึ้นไปแล้ว แต่ ASUS ExpertBook B9450 นี้สัมผัสแรกที่ไม่ว่าผู้รีวิวหรือแม้แต่ครอบครัวที่ได้ทดลองถือดูต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “เบามาก”
ความรู้สึกนั้นไม่ใช่สิ่งที่คิดไปเอง เพราะ ASUS ExpertBook B9450 รุ่นที่ได้รับมาทดสอบนี้มีน้ำหนักเพียงแค่ 995 กรัมเพียงเท่านั้น โดยการใช้วัสดุตัวเครื่องจากโลหะผสมที่เป็นแมกนีเซียม-ลิเธียมที่มีน้ำหนักเบาแต่กลับมีความแข็งแรงทนทานเหนือกว่าแม็กนีเซียมอลูมีเนียม และมีจอขนาด 14 นิ้วติดตั้งอยู่ภายในเครื่องขนาดเพียง 13 นิ้ว ทำให้มีขนาดเล็กมากและมีน้ำหนักเบา ส่วนเครื่องรุ่นที่มีสเป็คเบากว่าที่ได้รับมาทดสอบนี้ก็มีน้ำหนักเบาลงไปอีกเพียงแค่ 870 กรัมเท่านั้น
ในแง่ของความทนทาน หลายๆ คนอาจจะกังวลว่าเครื่องเล็กๆ เบาๆ อาจจะไม่ทน แต่ ASUS ExpertBook B9450 นี้ผ่านมาตรฐาน MIL-STD-810G ซึ่งเป็นมาตรฐานด้านความทนทนสำหรับใช้งานในทางการทหารได้ โดยมีการทดสอบทั้งการกดทับ การสั่น การกระแทก และการตกจากที่สูง ซึ่งก็เป็นมาตรฐานเดียวกับที่โน้ตบุ๊ครุ่น Commercial ชั้นนำผ่านกัน ดังนั้นสบายใจได้เลยว่าเครื่องนี้จะทนทานเหมาะสำหรับการนำไปใช้งานได้อย่างสบายใจ
ส่วนความแรงก็เป็นอีกเรื่องที่หายห่วงได้ครับ เพราะเครื่องทดสอบที่มีน้ำหนักเพียงแค่ 995 กรัมนี้ มาพร้อมประสิทธิภาพเต็มเปี่ยมจาก CPU 10th Gen Intel® Up to Core™ i7 Processor 1.8GHz Quad-core รองรับการทำ Turbo Boost ได้สูงสุด 4.9GHz พร้อม Cache ขนาด 8MB และมีแรม 16GB มาให้ ส่วน Storage นั้นก็คือว่าจัดเต็มกับ Dual M.2 NVMe PCIe 3.0 x4 ที่ให้มาในเครื่อง เลือกติดตั้ง SSD ความจุ 512GB/1TBได้ โดยเครื่องที่ทดสอบนี้ก็ให้มามากถึง 1TB เลยครับ นอกจากนี้ยังได้รับการรับรองจาก Intel Project Athena มั่นใจได้ในประสิทธิภาพ และความเสถียร
ในเชิงการเชื่อมต่อก็ถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่น้อยหน้าไปกว่าเรื่องความเบาครับ ASUS ExpertBook B9450 มาพร้อมกับ Wi-Fi 6 ที่รองรับความเร็วสูงสุด 2.4Gbps และยังเสริมด้วยเทคโนโลยี Wi-Fi Master ที่ทำให้สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้อย่างเสถียรที่ระยะไกลถึง 225-300 เมตร ช่วยให้การเชื่อมต่อไม่ติดขัด ส่วนการเชื่อมต่อ LAN นั้นก็มีพอร์ต micro HDMI พร้อมสายแปลงเป็น RJ45 ได้ ส่วนพอร์ตเชื่อมต่ออื่นๆ นั้นก็มี Thunderbolt™ 3 USB-C มาให้ 2 ช่อง, USB 3.1 Gen 2 อีก 1 ช่อง และ HDMI อีก 1 ช่อง ก็เพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไปแล้วครับ
สำหรับแบตเตอรี่เองนั้นก็ให้มาไม่น้อยทีเดียว โดยสำหรับเครื่องทดสอบที่ 995 กรัมนี้ก็มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 66W ครับ ซึ่งจากข้อมูลของ ASUS ก็ระบุว่าจากการทดสอบภายในของ ASUS เองก็สามารถใช้งานได้ถึง 24 ชั่วโมงเต็มวัน แต่ในการใช้งานจริงก็อาจให้ผลลัพธ์ที่ต่างกันออกไปครับ
อีกเอกลักษณ์หนึ่งของ ASUS ที่ถูกใส่มาใน ASUS ExpertBook B9450 นี้ก็คือเรื่องของระบบเสียงที่มีคุณภาพ โดยในเครื่องนี้ใช้ลำโพงที่ผ่านการรับรองคุณภาพจาก Harman/Kardon เรียกได้ว่าถ้าจะใช้งานด้านความบันเทิงในเวลาส่วนตัวก็มีเสียงที่ดีทีเดียว และยังมีไมโครโฟน 4 ทิศทางพร้อมระบบตัดเสียงรบกวน ตอบโจทย์การประชุม Video Conference สำหรับยุค Work From Home นี้ได้เป็นอย่างดี
ทางทีม ASUS ระบุว่าสำหรับในไทย จะนำเข้ามาจำหน่ายด้วยกัน 2 รุ่น ดังนี้
- รุ่นหนัก 870 กรัม จะมาพร้อมกับ CPU Intel Core i5, RAM 8GB, SSD 512GB และแบตเตอรี่ 33W
- รุ่นหนัก 995 กรัม จะมาพร้อมกับ CPU Intel Core i7, RAM 16GB, SSD 1TB และแบตเตอรี่ 66W
ส่วนประกันนั้นก็เป็นประกันสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ Commercial ของ ASUS โดยเฉพาะ โดยมีประกัน 3 Year Onsite Service, 3 Year Global Warranty, 1 Year Perfect Warranty และ ASUS Online Customer Service คอยให้บริการออนไลน์แบบเรียลไทม์
สำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม ลองศึกษาข้อมูลได้ที่
https://www.asus.com/th/Commercial-Laptops/ASUS-ExpertBook-B9450FA นะครับ และเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Intel Project Athena ได้ที่ https://www.intel.sg/content/www/xa/en/products/docs/devices-systems/laptops/laptop-innovation-program.html
ส่วนใครอยากจับของจริงก็ติดต่อทีมงาน ASUS ได้เลยครับ ในไทยมีเครื่องทดสอบแล้ว
แกะกล่อง ลองใช้ของจริง
สำหรับเครื่องนี้ก็เป็นอีกเครื่องของ ASUS ที่มีประสบการณ์การเปิดกล่องที่ถือว่าสนุกไม่น้อยครับ โดยนอกจากตัวกล่องที่จะออกแบบมาค่อนข้างดีรู้สึกพรีเมี่ยมตอนเปิดแล้ว ทาง ASUS ก็ยังแถมซองสุดหรูมาให้ใส่โน้ตบุ๊คได้ด้วยครับ



สัมผัสแรกกับ ASUS ExpertBook B9450 นอกจากเรื่องความเบาแล้ว วัสดุที่ใช้ซึ่งเป็นแมกนีเซียม-ลิเธียมนี้ก็ถือว่าจับสบายมือมาก เป็นสัมผัสที่ไม่ซ้ำกับใครในตลาดเท่าไหร่ แถมยังดูสวยใช้ได้ทั้งการทำงานและการใช้นอกเวลาทำงาน ส่วนตัวเครื่องก็ดูแข็งแรงทนทานดี เปิดจอออกมาก็รู้สึกว่าทำส่วนข้อต่อได้แข็งแรง ไม่ต้องกลัวหักครับ โดยการเปิดจอนี้ส่วนล่างของจอก็จะช่วยยกตัวคีย์บอร์ดให้สูงลาดขึ้นมา ง่ายต่อการพิมพ์ด้วย
ถ่ายให้เห็นกันชัดๆ ครับว่าตรงขอบจอด้านล่างจะยกคีย์บอร์ดขึ้นมาได้ยังไง
ส่วนขอบจอก็บางมากๆ ครับ และด้านบนของจอที่มีกล้องนั้นก็มีปุ่มเลื่อนเปิดปิดได้แบบ Physical เลย ก็เหมาะกับคนที่กังวลเรื่องการเปิดกล้องดีครับ
การเปิดเครื่องมาลองใช้งาน ก็ตามคาดครับว่าเร็วมากๆ จากประสิทธิภาพของ NVMe SSD ที่ให้มานั่นเอง ซึ่งภาพจากจอนี้ก็สีคมชัดสดใสมาก เมื่อรวมกับเรื่องลำโพงที่เสียงค่อนข้างดีแล้ว จริงๆ ผมคิดว่า ASUS ExpertBook B9450 สามารถเป็นได้ทั้งเครื่องทำงานและเครื่องใช้งานส่วนตัวไปพร้อมๆ กันได้เลย เหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหาเครื่อง Windows 10 แบบดูดีพรีเมี่ยมไปใช้งานครับ
ส่วนคีย์บอร์ดถือเป็นสิ่งที่ผิดคาดมากครับในการทดสอบ เพราะตอนแรกคิดว่าเครื่องบางๆ ตอนพิมพ์จะไม่สนุกมือเท่าไหร่ แต่ทาง ASUS ก็ออกแบบมาให้คีย์บอร์ดแต่ละปุ่มมีระยะการกดไม่ต่างจากโน้ตบุ๊คปกติมากนัก เลยกลายเป็นพิมพ์สนุกกว่าที่คิดครับ อันนี้ประทับใจจนต้องถ่ายรูปเปรียบเทียบมาให้ดูกันด้วยเลย


ตัว Layout Keyboard ก็มาตรฐานตามสไตล์ ASUS ครับ มี Shortcut ให้ใช้เยอะไปหมด และเนื่องจากว่าเครื่องนี้มีขนาดเล็กจนไม่สามารถใส่ Numpad ได้ ทาง ASUS เลยออกแบบให้ Trackpad นั้นมีปุ่มพิเศษอยู่ตรงมุมขวาบน เพื่อเปลี่ยน Trackpad ให้กลายเป็น Numpad ด้วยแสง LED นั่นเองครับ อันนี้ว้าวมาก สวยและใช้ประโยชน์ได้จริง มารู้ทีหลังว่า ASUS เรียกฟีเจอร์นี้ว่า ASUS NumberPad ครับ
ส่วนมุมซ้ายบนของ Trackpad ก็จะเป็น Shortcut ครับ โดย Default ตั้งมาให้ใช้เปิด Calculator บน Windows 10 ได้ จะได้เอามาใช้คู่กับ Numpad คิดเลขได้เร็วๆ เลย
สำหรับความสามารถอื่นๆ ที่ทางทีมงานไม่ได้ทดสอบแต่ก็ถือว่าน่าสนใจ ก็มีดังนี้ครับ
- IR Camera สำหรับยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า และการสแกนนิ้วมือ สำหรับยืนยันตัวตนด้วยลายนิ้วมือ
- MyASUS ผูก Smartphone เข้ากับโน้ตบุ๊คได้เลย ทำให้โอนไฟล์กันง่ายขึ้น และจัดการกับการสื่อสารที่เกิดขึ้นบนมือถือผ่านโน้ตบุ๊คได้ครับ หรือจะทำ Screen Mirroring / Screen Extender ก็ได้
- ASUS Control Center สำหรับบริหารจัดการอุปกรณ์ของ ASUS จำนวนหลายชุดจากศูนย์กลางผ่านหน้าเว็บ
โดยรวมแล้วก็ถือเป็นเครื่องที่ประทับใจในการออกแบบ Hardware มากครับว่าทำมาได้ดี ไม่ทิ้งทั้งเรื่องความเบา, ประสิทธิภาพ และสัมผัสที่ดีไปเลย แต่ก็น่าจะต้องแลกมาด้วยราคาที่สูงหน่อย ซึ่งถ้าใครกำลังมีโจทย์ว่าอยากได้เครื่องที่เบาแต่แรงไปใช้ทำงานจริงจัง ผมว่า ASUS ExpertBook B9450 นี้ก็ตอบโจทย์ได้แน่นอนครับถ้างบถึง
สรุปข้อดีข้อเสีย
ข้อดี
- ประทับใจตั้งแต่ตอนแกะกล่องครับ ดูออกแบบมาให้พรีเมี่ยมจริงๆ
- Hardware ดี ไม่ผิดหวัง ทั้งความเบา ความสวย ความแรง และความสนุกในการใช้งาน จอสีสดใส ลำโพงดีครับ
- โทนเครื่องดูสวยสุภาพ ใช้ทำงานก็ได้ ใช้ส่วนตัวก็ได้ครับ
- เบาจนคิดว่าจริงๆ ไม่ต้องใช้ Tablet แล้วก็ได้ กรณีเดียวที่เครื่องนี้จะแทน Tablet ไม่ได้คือการนอนดูหนังบนเตียงครับ
- ใส่ใจเรื่องคีย์บอร์ดแม้เครื่องจะบางขนาดนี้
- ชอบ ASUS NumberPad เป็นพิเศษครับ ออกแบบมาได้สวย ใช้งานได้จริง
- แถมหัวแปลง RJ45 มาให้ใช้เลย ไม่ต้องซื้อเอง
ข้อเสีย
- มีฝุ่นจับง่ายไปหน่อย แต่ถ้ามองว่าเช็ดทำความสะอาดได้ค่อนข้างง่าย ก็ถือว่าโอเคครับ
- CPU ให้มาสเป็คเล็กไปหน่อย แต่ก็เข้าใจว่าต้องเลือกรุ่นที่ประหยัดพลังงานและไม่ร้อนมาสำหรับรองรับความบางเบาครับ
- ตอนใช้งานจริงแบตเตอรี่อาจไม่ถึง 24 ชั่วโมงครับ อันนี้ก็แล้วแต่ว่าใช้ทำงานอะไรบ้าง จากที่ทดสอบจริงแบตจะอยู่ที่ 8-12 ชั่วโมงครับสำหรับการใช้งานทั่วไป
- ด้านล่างเครื่องจะอุ่นหน่อยๆ แต่ก็ไม่ได้ร้อน ถ้าใช้ทำงานปกติจะไม่รู้สึกอะไรเลยครับ แต่ถ้าเอามาใช้พิมพ์งานบนตักจะพอรู้สึกอยู่บ้าง
ติดต่อทีมงาน ASUS ประเทศไทย
สำหรับผู้ที่สนใจสินค้าของ ASUS และต้องการข้อมูลรายละเอียดต่างๆ สามารถเข้าไปเยี่ยมชมรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ https://www.asus.com/th/commercial/