หลังจากที่ ChatGPT ปรากฏโฉมเมื่อปลายปี 2022 เทคโนโลยี Generative AI ก็กลายเป็นประเด็นที่ถกกันอย่างแพร่หลายในวงการธุรกิจ Goldman Sachs คาดการณ์ว่า Generative AI สามารถแทนที่การทำงานแบบ Full-time ให้กลายเป็นการทำงานอย่างอัตโนมัติได้มากถึง 300 ล้านตำแหน่ง และทาง World Economic Forum ได้ประเมินว่า AI จะเข้ามาเปลี่ยนอนาคตของการทำงาน ดังนี้

1. AI จะขับเคลื่อนการสร้างานสร้างอาชีพ
จากการสำรวจพบว่า เกือบครึ่ง (49%) ของธุรกิจคาดหวังว่า AI จะเข้ามาช่วยสร้างงานสร้างอาชีพ โดยอาชีพที่เกี่ยวข้องกับ AI เช่น Data Scientist, Big Data Specialist และ Business Intelligence Analyst จะเติบโตขึ้นราว 30 – 35% ในขณะที่ธุรกิจยานยนต์และการบินจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นมากที่สุด ตามมาด้วยการวิจัย, IT และอิเล็กทรอนิกส์ มีเพียงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การบันเทิง กีฬา และการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค ที่ไม่คาดคิดว่า AI จะส่งผลต่อการจ้างงานมากนัก นอกจากนี้ยังพบอีกว่า ในภาคการผลิตของจีน AI จะทำให้ความต้องการด้านแรงงานที่มีทักษะต่ำลดลง สวนทางกับความต้องการด้านแรงงานที่มีทักษะสูง
2. ธุรกิจจะให้ความสำคัญกับทักษะด้าน AI
AI และ Big Data เป็นทักษะอันดับ 1 จาก 26 กลุ่มทักษะที่ธุรกิจที่มีพนักงานมากกว่า 50,000 คนให้ความสำคัญมากที่สุด ในขณะที่การใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจจะเป็นสิ่งที่องค์กรขนาดใหญ่เน้นลงทุนเพื่อเสริมทักษะให้แก่พนักงาน หลากหลายโครงการ เช่น TeachAI หรือ Education 4.0 ก็ถูกก่อตั้งขึ้นมาจากความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาทักษะการใช้เทคโนโลยีใหม่ เช่น AI ให้แก่สถาบันการศึกษา ช่วยให้คนยุคใหม่มีทักษะติดตัวพร้อมสำหรับการทำงานในอนาคต
3. การทำงานจะถูกยกระดับ แต่ไม่ได้จัดการอย่างอัตโนมัติโดยใช้ AI
แม้เทคโนโลยีจะเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง แต่จากรายงานปีนี้พบว่า ธุรกิจยังคงไม่เชื่อว่า AI จะสามารถเข้ามาทำงานแทนโดยอัตโนมัติได้อย่างสมบูรณ์ มีเพียงประมาณร้อยละ 34 ของงานเท่านั้นที่ผู้บริหารประเมินแล้วว่าสามารถทำโดยอัตโนมัติได้ ซึ่งสูงขึ้นจากที่ประเมินไว้ในปี 2020 เพียง 1% ตรงกันข้าม ประเด็นที่ว่า AI จะช่วยยกระดับประสิทธิภาพของมนุษย์กลับเป็นที่กล่าวถึงมากขึ้นเรื่อยๆ แทนประเด็นที่ว่า AI จะมาแทนที่มนุษย์
ที่มา: https://www.weforum.org/agenda/2023/08/ai-artificial-intelligence-changing-the-future-of-work-jobs/