[PR] VMware Cloud™ on AWS เปิดตัวในตลาดยุโรป มาพร้อมขีดความสามารถใหม่ เพื่อการย้ายและป้องกันแอพพลิเคชั่นที่ดีกว่า

วีเอ็มแวร์ และ Amazon Web Services เปิดโอกาสใหม่ในการขยายความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ มอบขีดความสามารถใหม่ที่จะช่วยเสริมประสิทธิภาพให้กับการทำ cloud migration และลดความยุ่งยากในการใช้งานระบบไฮบริดคลาวด์

พาโล อัลโต, แคลิฟอร์เนีย – 14 มีนาคม 2561 – วีเอ็มแวร์ อิงค์ (NYSE: VMW) ผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมซอฟต์แวร์สำหรับเอ็นเตอร์ไพรส์ เปิดตัว VMware Cloud™ บน Amazon Web Services (AWS) ในภูมิภาคยุโรป โดยมาพร้อมกับขีดความสามารถใหม่ในการเสริมประสิทธิภาพให้กับการย้ายแอพพลิเคชั่นขึ้นบนคลาวด์ (cloud migration) และลดความยุ่งยากในการใช้งานระบบไฮบริดคลาวด์ วีเอ็มแวร์และ AWS จะสนับสนุนพาร์ทเนอร์ที่เป็นผู้ดูแลระบบและผู้ดูแลระบบแบบเอาท์ซอร์ซ (SISO) รวมถึงผู้ให้บริการ (Service providers) และผู้ให้บริการโซลูชั่น (solution providers)ในการพัฒนาธุรกิจคลาวด์ด้วย VMware Cloud™ บน  AWSพร้อมทั้งช่วยให้ลูกค้าของพวกเขาตระหนักถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับจากระบบไฮบริด คลาวด์

เพราะองค์กรต้องการความรวดเร็ว ง่าย และปลอดภัยในการย้ายปริมาณงานขึ้นคลาวด์ หรือการทำ Cloud Migration เพื่อให้เข้ากับรูปแบบของงานในปัจจุบัน  วีเอ็มแวร์และ AWS ไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนานวัตกรรมVMware Cloud™ on AWS ทำให้ลูกค้ามีความสะดวกสบายในการใช้งานระบบคลาวด์มากขึ้น ทั้งยังช่วยให้พวกเขาสามารถโยกย้ายปริมาณงานที่มีในปัจจุบัน ไปยังระบบคลาวด์ได้ด้วยฟังก์ชันการทำงาน ความคล่องตัว ระบบรักษาความปลอดภัย และประสิทธิภาพที่ดีที่สุด

มาร์ก โลห์เมเยอร์, รองประธานและผู้จัดการทั่วไป คลาวด์ แพลตฟอร์ม บิสเนส ยูนิต วีเอ็มแวร์ กล่าวว่า“นับตั้งแต่การเปิดตัว VMware Cloud™ on AWS เมื่อ 6 เดือนก่อน เราได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากทั้งฐานลูกค้าทั่วโลกและบริษัทนานาชาติ วันนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญสำหรับการขยายธุรกิจของเราในการนำเสนอระบบไฮบริด คลาวด์ ในตลาดหลัก ๆ ทั่วโลก ในเวลาเพียง 6 เดือน ทางทีมวีเอ็มแวร์ และ AWSได้ผลักดันนวัตกรรม ส่งผลให้มีการปรับปรุงครั้งสำคัญเป็นครั้งที่ 3 ที่มาพร้อมกับขีดความสามารถใหม่ และการใช้งานใหม่ ๆ ที่น่าสนใจมากมาย ลูกค้าทั่วทุกอุตสาหกรรมได้นำ VMware Cloud™ on AWS มาใช้งาน เนื่องจากระบบนี้ช่วยให้พวกเขามีไฮบริด คลาวด์ ที่เหมาะสมกับการใช้งาน สามารถปรับขนาดให้เข้ากับความต้องการใช้ และยังสอดคล้องกับกรณีใช้งานที่สำคัญที่สุดสำหรับธุรกิจของพวกเขา ”

แมทท์ การ์แมน รองประธาน  บริษัท Amazon Web Services, Inc. กล่าวว่า “ลูกค้าจำนวนมากเรียกร้องให้เรานำ VMware Cloud™ on AWS เข้ามาในยุโรป และเรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ทำสำเร็จในอังกฤษ การทำงานร่วมกันระหว่างวีเอ็มแวร์และ AWS ทำให้เกิดการบูรณาการเข้ากับ AWS มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น Scripps Network Interactive ซึ่งเป็นคลาวด์บน AWS ของวีเอ็มแวร์ ได้ถูกนำมาพัฒนาเข้ากับ Amazon S3และ Amazon RDS เพื่อลดค่าใช้จ่ายและใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่เก็บไว้ในการวิเคราะห์หา insight เชิงธุรกิจที่ดีขึ้น”

ในปัจจุบัน ลูกค้าจากทุกภาคอุตสาหกรรม รวมถึง อุตสาหกรรมสุขภาพ การขนส่ง การเงิน การผลิต พลังงาน การศึกษา เทคโนโลยี หรือแม้กระทั่งการให้บริการเฉพาะสายอาชีพ ต่างหันมาใช้ระบบไฮบริด คลาวด์ มากขึ้น บริษัทสามารถศึกษาจากกรณีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น cloud migration ตั้งแต่แอพพลิเคชั่นเพียงแอพพลิเคชั่นเดียว ไปจนถึงศูนย์ข้อมูลทั้งระบบ หรือการขยายศูนย์ข้อมูล (data center extension)  เพื่อสนองการทำงานแบบครบวงจร และการขยายสู่ภูมิศาสตร์ใหม่ ๆ หรือเพื่อการทดสอบและพัฒนาแอพพลิเคชั่น แม้กระทั่งเพื่อทำ DR (Disaster Recovery) และนำกรณีเหล่านี้มาปรับใช้เพื่อแทนที่โซลูชั่นแบบเดิม หรือเพื่อพัฒนากลยุทธ์สำหรับการทำ DR หรือเพื่อป้องกันปริมาณงานที่เพิ่มมากขึ้นจากโซลูชั่น DR ที่มีอยู่ 

การสนับสนุนเพิ่มเติมจาก VMware Cloud Services

VMware Cloud Services ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้ลูกค้าใช้ประโยชน์จากคลาวด์ได้อย่างเต็มที่ พร้อมทั้งสามารถใช้โครงสร้างพื้นฐานไอทีระหว่างคลาวด์ต่างๆ ทำงานร่วมกันได้ และสามารถบริหารจัดการการรักษาความปลอดภัยของระบบคลาวด์ได้ในแบบเดียวกัน ทั้งนี้ VMware Cloud Services ยังช่วยให้สามารถมองเห็นการดำเนินงาน การรักษาความปลอดภัย และการกำกับดูแลในทุกระบบคลาวด์

ก่อนหน้านี้ VMware Cloud™ on AWS สามารถรองรับการทำงานของบริการ VMware Hybrid Cloud Extension และ Wavefront โดยวีเอ็มแวร์ได้ และในครั้งนี้ VMware Cloud™ on AWS จะเพิ่มบริการ VMware Cost Insight และ  VMware Log Intelligence เข้าไปด้วย  โดย VMware Cost Insight เป็นการให้บริการซอฟต์แวร์ (Software-as-a-service) ที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าใจต้นทุนการโยกย้ายสู่ VMware Cloud™ onAWS ที่แท้จริง  และ Log Intelligence จะช่วยให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบบันทึกการตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐานและบันทึกการใช้แอพพลิเคชั่นได้แบบเรียลไทม์เพื่อการไขปัญหาที่รวดเร็วขึ้น ซึ่งทั้ง  VMware Cost Insight และ VMware Log Intelligence มีให้บริการฟรีสำหรับลูกค้าที่ใช้งาน VMware Cloud™ on AWS

การเข้าถึงบริการที่กว้างขึ้นสำหรับองค์กร พร้อมบริการใหม่ และโอกาสในการสร้างรายได้สำหรับพาร์ทเนอร์ของวีเอ็มแวร์

ด้วยการขยายเครือข่ายพันธมิตรวีเอ็มแวร์ (VMware Partner Network) โดยรวม VMware Cloud™ on AWS เข้ามา ทำให้องค์กรต่างๆ สามารถเข้าถึงบริการได้อย่างกว้างขวาง และสามารถเลือกพาร์ทเนอร์ด้านไอทีเพื่อยกระดับระบบคลาวด์ของพวกเขาให้ดีขึ้น วีเอ็มแวร์จะช่วยพาร์ทเนอร์ในการพัฒนาธุรกิจไฮบริด คลาวด์กับ VMware Cloud™ on AWS ผ่านโปรแกรม VMware Solution Provider และ  VMware Cloud Providerที่นอกจากจะฝึกอบรมพวกเขาแล้ว ยังสร้างแรงจูงใจเสริมการเข้าถึงบริการด้านความเชียวชาญของวีเอ็มแวร์ และทำตลาดร่วมกันบน VMware Cloud on AWS อีกด้วย

###

เกี่ยวกับวีเอ็มแวร์

วีเอ็มแวร์ เป็นผู้นำระดับโลกด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มีความซับซ้อน ด้วยความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์กว่า 75,000 ราย ผนวกกับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของวีเอ็มแวร์ อาทิ ระบบประมวลผล ระบบคลาวด์ โมบิลิตี้ เน็ตเวิร์คกิ้ง และระบบรักษาความปลอดภัย วีเอ็มแวร์จึงเป็นผู้ให้บริการระบบดิจิทัลพื้นฐานที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและคล่องตัว โดยให้บริการแก่ลูกค้ากว่า500,000 รายทั่วโลก สำนักงานใหญ่วีเอ็มแวร์ตั้งอยู่ที่เมืองพาโล อัลโต ในปีนี้ วีเอ็มแวร์ฉลองครบรอบ 20 ปีแห่งความก้าวหน้าในการพัฒนานวัตกรรมที่สร้างผลประโยชน์ต่อทั้งภาคธุรกิจและสังคม สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูได้ที่ https://www.vmware.com/company.html

About TechTalkThai PR 2

Check Also

BOTNOI บริษัทสตาร์ทอัพไทย ได้พัฒนาผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์ที่ใช้ Generative AI รองรับหลายภาษาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยใช้บริการคลาวด์ของ AWS [PR]

อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (Amazon Web Services: AWS) บริษัทในเครือของ Amazon.com ประกาศในวันนี้ว่า BOTNOI สตาร์ทอัพด้าน Generative AI ของไทยที่เชี่ยวชาญในการสร้างผู้ช่วยเสมือนจริงสำหรับการสนทนา ได้พัฒนาแพลตฟอร์ม BOTNOI Voice ขึ้นบนคลาวด์ของ AWS เพื่อแปลงข้อความเป็นเสียงพูดและแปลงเสียงพูดเป็นข้อความ โดยใช้เทคโนโลยี Generative AI ที่ได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสมกับภาษาและวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยข้อมูลภาษาที่ได้รับความยินยอมแล้ว ทำให้องค์กรต่าง ๆ สามารถนำไปใช้ปรับปรุงการบริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ASUS เปิดตัว ExpertBook P5 คอมพิวเตอร์ Copilot+ เครื่องแรกสำหรับการทำงานเพิ่มประสิทธิภาพด้วย AI และความปลอดภัยขั้นสูงสำหรับมืออาชีพยุคใหม่ [PR]

ในช่วงเวลาเพียง 5 ปีนับตั้งแต่การเริ่มต้นธุรกิจกลุ่ม B2B เอซุสประสบความสำเร็จในการเติบโตในตลาด สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดภาครัฐกว่า 23% ในครึ่งแรกของปี 2024 ความสำเร็จนี้เกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นของเราในการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ ความปลอดภัยระดับธุรกิจ และการบริการที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนับสนุนจากพันธมิตรที่รวดเร็วและเชื่อถือได้ เพื่อขยายธุรกิจไปข้างหน้า เอซุสภูมิใจเสนอ …