เทคโนโลยีดิจิทัลในปัจจุบันนั้นมีความสามารถและความยืดหยุ่นมากเพียงพอที่จะเข้าไปช่วยพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินการให้กับธุรกิจในทุกๆอุตสาหกรรมได้ เมื่อพูดถึงเทคโนโลยีและประสิทธิภาพ ผู้คนจำนวนมากอาจนึกถึงตัวเลขและผลกำไร แต่ในบางครั้งการใช้เทคโนโลยีก็อาจช่วยเพิ่มคุณค่าในด้านอื่นๆของมนุษย์ได้อีกด้วย เช่นโซลูชันดูแลสถานรับเลี้ยงเด็ก LookMee จาก UniFa Inc. ที่เราจะนำมาพูดถึงในบทความนี้
ความต้องการดูแลอย่างใกล้ชิดคือปัจจัยสำคัญในการเลี้ยงเด็ก
สถานรับเลี้ยงเด็กโดยทั่วไปนั้นเป็นกิจการที่ต้องการความเอาใจใส่และความแม่นยำในการดำเนินการเป็นอย่างมาก เพื่อสนับสนุนให้บุตรหลานที่ผู้ปกครองไว้ใจนำมาฝากได้ใช้ช่วงเวลาอย่างดีและปลอดภัย คุณ Toki Yasuyuki – CEO ของ UniFa Inc. กล่าวว่าเขาเข้าใจความรู้สึกของเหล่าผู้ปกครองที่เป็นห่วงและอยากเห็นเด็กๆได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากประสบการณ์ตรง และได้นำความรู้สึกในส่วนนี้มาพัฒนาโซลูชัน LookMee ขึ้นเพื่อช่วยเหลือสถานรับเลี้ยงเด็กและครอบครัว
LookMee คือโซลูชันด้าน ICT อย่างครบวงจรสำหรับสถานรับเลี้ยงเด็ก โดยโซลูชันดังกล่าวถูกออกแบบมาให้สถานรับเลี้ยงเด็กสามารถดูแลเด็กทุกคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีการเฝ้าระวังความเสี่ยงที่ดี และบันทึกพฤติกรรมและการเติบโตของเด็กอย่างสม่ำเสมอ เพื่อใช้ข้อมูลเหล่านี้ทั้งในการทำงานดูแลเด็กในความรับผิดชอบเอง และส่งต่อข้อมูลไปยังผู้ปกครองเพื่อให้พวกเขารับทราบถึงความเป็นไป ได้เห็นถึงข้อมูลสุขภาพและพฤติกรรมในด้านต่างๆ และสร้างความใกล้ชิดให้กับผู้ปกครองที่อาจกำลังยุ่งอยู่กับชีวิตในด้านอื่นๆ เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ครอบครัวให้แน่นแฟ้นมากขึ้น
โซลูชัน LookMee ประกอบไปด้วยเทคโนโลยีต่างๆที่ช่วยสนับสนุนการดูแลเด็ก เช่น ระบบ IoT และเซ็นเซอร์ที่คอยดูแลสุขภาพ วัดอุณหภูมิโดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ตรวจจับการเคลื่อนไหวของร่างกาย และเฝ้าระวังและแจ้งเตือนถึงความเสี่ยง อย่างในกรณีของการนอนคว่ำซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการหายใจไม่ออก
นอกจากนี้ยังมีระบบเก็บข้อมูลและแอปพลิเคชันเพื่อเชื่อมต่อระหว่างสถานรับเลี้ยงกับผู้ปกครอง ทำให้ผู้ปกครองสามารถเข้ามาตรวจสอบข้อมูลด้านสุขภาพ การเติบโต และภาพถ่ายของบุตรหลานในสถานรับเลี้ยง ซึ่งตัวระบบมีเทคโนโลยีการตรวจจับใบหน้าที่สามารถส่งรูปบุตรหลานที่ถูกถ่ายโดยผู้ดูแลมาให้กับผู้ปกครองอย่างแม่นยำ ช่วยให้ผู้ปกครองไม่พลาดภาพบรรยากาศของลูกหลาน
LookMee ช่วยแบ่งเบาภาระผู้ดูแลเด็กได้สูงสุด 130 ชั่วโมงต่อเดือน นำไปใช้แล้วในหลายประเทศและมีแผนขยายตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
การนำโซลูชัน LookMee ไปใช้งานในสถานรับเลี้ยงเด็กพบว่า LookMee ช่วยให้ภาระงานของเจ้าหน้าที่ดูแลเด็กในสถานรับเลี้ยงเด็กหลายแห่งลดลง และในบางแห่งนั้นสามารถลดชั่วโมงการทำงานไปได้ถึง 120-130 ชั่วโมง หรือ 65% ของชั่วโมงการทำงานทั้งหมดต่อเดือน ภาระการทำงานที่ลดลงนี้ช่วยให้เจ้าหน้าที่และครูผู้ดูแลสามารถนำเวลาไปทำงานด้านอื่นๆและใช้เวลาร่วมกับเด็กๆมากขึ้น นำไปสู่ประสิทธิภาพในการดูแลเด็กที่ดีขึ้นและคุณภาพการศึกษาที่สูงขึ้นในที่สุด
นอกจากในญี่ปุ่นแล้ว UniFa Inc. ยังมีความสนใจที่จะเปิดให้บริการในประเทศอื่นๆในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยได้มีการใช้งานโซลูชัน LookMee ในประเทศไทย เวียดนาม และอินโดนีเซีย รวมไปถึงการทดลองนำโซลูชันบางส่วนไปใช้ในสถานรับเลี้ยงเด็กในประเทศสิงคโปร์ และเริ่มทำการวิจัยตลาดในหลายพื้นที่ที่รวมไปถึงประเทศไทยเพื่อศึกษาถึงโอกาสและแนวทางการร่วมมือทำงานที่เหมาะสม
อยากร่วมงานกับสตาร์ทอัพญี่ปุ่น? ค้นหา J-Startup ที่น่าเชื่อถือได้ทันที
UniFa Inc. นั้นเป็นบริษัทสตาร์ทอัพสัญชาติญี่ปุ่นที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในงาน Startup World Cup ครั้งที่ 1 ในปี 2017 ด้วยเอกลักษณ์ของโซลูชันที่ทำงานผ่านแนวคิด Smart Nursery Kindergarten Chilcare Center Idea อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพที่ผ่านการคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการ J-Startup อีกด้วย
กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมแห่งประเทศญี่ปุ่นนั้นตระหนักเป็นอย่างดีถึงความสำคัญของการร่วมมือระหว่างสตาร์ทอัพและธุรกิจขนาดใหญ่ โดยทางกระทรวงได้เริ่มโครงการ J-Startup เพื่อสนับสนุนสตาร์ทอัพมาตั้งแต่ปี 2018 ในปัจจุบัน โครงการ J-Startup นี้มีบริษัทสตาร์ทอัพที่ได้รับการคัดเลือกคุณภาพอย่างเข้มงวดเข้าร่วมแล้วประมาณ 10,000 ราย ซึ่งผู้ที่สนใจร่วมมือกับสตาร์ทอัพในโครงการสามารถตรวจสอบรายชื่อได้ที่ https://www.j-startup.go.jp/en/startups/
สำหรับผู้ที่ต้องการอ่านบทสัมภาษณ์คุณ Toki Yasuyuki และเรียนรู้เกี่ยวกับ LookMee เพิ่มเติม สามารถเข้าไปอ่านได้ที่หน้าเว็บไซต์ https://www.jrit-ichi.com/cutting/2022/03/16/880/