CDIC 2023

Tenable ขึ้นแท่นผู้นำด้าน Vulnerability Management สามารถตรววจหาช่องโหว่และการตั้งค่าที่ไม่ปลอดภัยได้มากกว่าคู่แข่งรายอื่น

Tenable ได้ออกมาประกาศถึงผลการวิเคราะห์จาก Principled Technologies ที่ได้ทำการเปรียบเทียบผู้ผลิตโซลูชันทางด้าน Vulnerability Management 3 ราย ได้แก่ Tenable, Rapid7 และ Qualys ซึ่งพบว่า Tenable นั้นรองรับการตรวจสอบช่องโหว่ตาม CVE ได้มากกว่าคู่แข่งถึง 22% และยังตรวจสอบความปลอดภัยในการตั้งค่าได้มากกว่าคู่แข่งถึงเกือบ 3 เท่าเลยทีเดียว

Credit: Principled Technologies

การวิเคราะห์ครั้งนี้เกิดขึ้นโดยการเปรียบเทียบ 3 โซลูชันด้วยกัน ได้แก่ Tenable.io, Rapid7 InsightVM และ Qualys Cloud Platform โดยทำการตรวจสอบว่าแต่ละโซลูชันนั้นสามารถรองรับการตรวจสอบช่องโหว่ที่ระบุใน Common Vulnerabilities and Exporsures (CVE) และการตรวจสอบความปลอดภัยในการตั้งค่าของระบบต่างๆ ตาม Security-Configuration Benchmark ของ Center for Internet Security (CIS Benchmarks) ได้มากน้อยแตกต่างกันเพียงใด ซึ่ง Tenable นั้นขึ้นเป็นผู้นำอย่างชัดเจนด้วยผลวิเคราะห์ดังนี้

  • รองรับการตรวจสอบช่องโหว่ตาม CVE ได้มากที่สุด โดย Tenable.io รองรับการตรวจสอบช่องโหว่ใน CVE ได้มากกว่า Qualys Cloud Platform ถึง 9,009 รายการหรือ 22% และมากกว่า Rapid7 InsightVM ถึง 8,218 รายการหรือ 20%
  • รองรับการตรวจสอบช่องโหว่ความรุนแรงระดับสูงตาม CVE ได้มากที่สุด โดย Tenable.io รองรับการตรวจสอบช่องโหว่ความรุนแรงระดับสูงใน CVE ได้มากกว่า Qualys Cloud Platform และ Rapid7 InsightVM มาอย่างต่อเนื่องเกือบทุกปีตั้งแต่ปี 1999 – 2018
  • รองรับการตรวจสอบช่องโหว่ของผู้ผลิตเทคโนโลยีชั้นนำได้มากที่สุด โดยในผู้ผลิตเทคโนโลยีชั้นนำ 24 ราย Tenable รองรับการตรวจสอบช่องโหว่ของผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตชั้นนำได้มากกว่า Qualys Cloud Platform ถึง 23 ราย และมากกว่า Rapid7 InsightVM ถึง 15 ราย
  • รองรับการตรวจสอบความปลอดภัยในการตั้งค่าตาม CIS Benchmark ได้มากที่สุด โดย Tenable.io รองรับการตรวจสอบความปลอดภัยในการตั้งค่าตาม CIS Benchmark ได้ 126 รายการ มากกว่า Qualys Cloud Platform ถึง 20 รายการหรือ 19% และมากกว่า Rapid7 InsightVM ถึง 83 รายการหรือเกือบๆ 3 เท่าเลยทีเดียว

ความสามารถของ Tenable.io นี้เป็นผลพวงที่ต่อยอดมาจากการลงทุนและพัฒนาใน Tenable.sc และ Nessus มาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง Tenable Research เองก็ยังได้ทุ่มเทในการค้นหาช่องโหว่ Zero-Day ใหม่ๆ อยู่เป็นประจำ และในปี 2019 ที่ผ่านมานี้ทีมงาน Tenable Research เองก็สามารถตรวจพบช่องโหว่ Zero-Day มากกว่า 90 รายการแล้ว

สำหรับผู้ที่สนใจรายงานฉบับเต็ม สามารถโหลดรายงาน Comparing Vulnerability and Security Configuration Assessment Coverage of Leading VM Vendors ได้ฟรีๆ ทันทีที่ https://www.tenable.com/whitepapers/comparing-vulnerability-and-security-configuration-assessment-coverage-of-leading-vm โดยในรายงานจะมีข้อมูลสถิติและแนวโน้มของ CVE, วิธีการเปรียบเทียบ, ผลการเปรียบเทียบโดยละเอียดในประเด็นอื่นๆ และสถิติย้อนหลังไปถึงปี 1999 นอกเหนือจากที่กล่าวเอาไว้ข้างต้นอีกด้วย

ทดสอบใช้งาน Tenable.io ได้ฟรี 30 วัน

ผู้ที่สนใจสามารถทดลองใช้งาน Tenable.io ได้ฟรีๆ 30 วันทันทีที่ https://www.tenable.com/products/tenable-io/evaluate

Tenable มีทีมวิศวกรประจำในเมืองไทยแล้ว สามารถติดต่อทีมงาน Tenable ได้ทันที

ในปี 2019 นี้ ทาง Tenable ได้เริ่มมีการจ้างทีมงานวิศวกรประจำประเทศไทยแล้วเพื่อให้การนำโซลูชันต่างๆ ของ Tenable มาเสริมด้านความมั่นคงปลอดภัยให้กับธุรกิจองค์กรนั้นเป็นไปได้อย่างมั่นใจและคุ้มค่าสูงสุด รวมถึง Tenable เองก็ยังมีแผนที่จะเสริมความรู้ด้าน Cybersecurity ให้กับธุรกิจองค์กรไทยด้วย

ผู้ที่สนใจโซลูชันใดๆ ของ Tenable หรืออยากฟังแง่คิดด้านการเสริมความมั่นคงปลอดภัยให้กับระบบ IT รูปแบบต่างๆ สามารถติดต่อทีมงาน Tenable เพื่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมหรือเข้าไปนำเสนอข้อมูลได้ทันทีที่โทร 021180331 หรือติดต่อทางอีเมล์ได้ที่

  • Sutee Assawasoontarangkoon, Managing Director, Thailand and Indochina, Tenable Sutee@tenable.com
  • Suwitcha Musijaral, Security Consultant, Thailand and Indochina, Tenable Suwitcha@tenable.com

สำหรับผู้ที่ต้องการทดสอบโซลูชันระบบ Vulnerability Management สามารถทดสอบได้ทันทีที่ https://www.tenable.com/try?utm_campaign=00017588&utm_promoter=tenable-apac&utm_medium=syndication&utm_content=external-site-cyberexposure&utm_source=www.techtalkthai.com และสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ Tenable ได้ที่ https://www.tenable.com

ที่มา: https://www.tenable.com/press-releases/tenable-is-number-one-in-vulnerability-and-security-configuration-coverage


About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

4 แนวทางการทำ Workplace Transformation ด้วย SASE

การทำ Workplace Transformation หรือการเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของพนักงานโดยรวมให้เข้าสู่โลกของดิจิทัลได้จากทุกที่ทุกเวลานั้น ยังคงเป็นอีกความท้าทายสำคัญของธุรกิจองค์กรทั่วโลก และ SASE เองก็ได้มีบทบาทสำคัญมากยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในฐานะของเทคโนโลยีสำหรับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยให้กับผู้ใช้งานและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็น

กลับมาพร้อมความยิ่งใหญ่อีกครั้งกับงาน W.Media Thailand Cloud & Data Center Convention 2023!

จากความสำเร็จเมื่อปีที่เเล้ว เรากลับมาอีกครั้งกับงาน Thailand Cloud & Datacenter Convention 2023 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 16 พฤศจิกายน ณ โรงเเรม Siam Kempinski …