Esri Thailand ได้นำเสนอเทรนด์เทคโนโลยี GIS โดยยกเวที UC2023 งานสัมมนาเทคโนโลยี GIS ที่ใหญ่ที่สุดในโลกจากประเทศสหรัฐอเมริกาสู่ไทยแลนด์ Thai GIS User Conference จัดขึ้นปีละครั้ง สำหรับปี 2023 เป็นครั้งที่ 27 มาในแนวคิด “GIS – Creating the World You Want to See” สร้างโลกที่เราอยากให้เป็น” ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชัน บรรยากาศภายในงานมีบูธจัดแสดงผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยี GIS จากผู้สนับสนุนและห้องสำหรับการบรรยายจากวิทยากรรับเชิญจากภาครัฐ ภาคเอกชน ขึ้นมาถ่ายทอดประสบการณ์จริงที่ได้รับประโยชน์จากการประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยี GIS ภายในองค์กรของตน นอกจากนี้ยังมีการสาธิตโซลูชันอีกมากมายจากผู้เชี่ยวชาญให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสกับการทำงานเสมือนจริง และที่สำคัญในปีนี้ ทางทีม TechTalkThai ได้รับเกียรติให้เข้าร่วมรับชมและสรุปเทรนด์เทคโนโลยี GIS ว่าจะสร้างโลกใบนี้ให้เป็นอย่างที่เราต้องการได้อย่างไร

GIS หรือ Geographic Information System เป็นระบบสารสนเทศการประมวลและการวิเคราะห์ข้อมูลทางภูมิศาสตร์ผ่านชุดโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีความถูกต้องแม่นยำสำหรับการนำไปใช้ประโยชน์ด้านการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม การจัดวางผังเมือง การจัดการด้านงานสาธารณูปโภค การจัดการด้านจราจร การขนส่ง ด้านความมั่นคงทางการทหาร และอื่น ๆ ซึ่งใช้การคำนวณด้านภูมิศาสตร์พื้นที่ผ่านภาพแผนที่ ภาพถ่ายจากดาวเทียม ในการบ่งชี้ค่าตัวเลขหรือระยะทาง
งานสัมมนา Thai GIS User Conference ครั้งที่ 27
จัดขึ้นโดย Esri Thailand สำหรับปี 2023 นี้ มาภายใต้แนวคิด “GIS – Creating the World You Want to See” สร้างโลกในแบบที่คุณอยากให้เป็น ด้วยเทคโนโลยี GIS หรือระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ เพื่อนำเสนอเทรนด์เทคโนโลยี GIS จากเวทีงาน UC2023 ในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 43 และเป็นงาน GIS User ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 18,000 คน จาก 142 ประเทศทั่วโลก เผยเทคโนโลยีที่เป็นเทรนด์ต่าง ๆ อาทิ Real-time GIS, IoT, Big Data, AI, Machine Learning และ Deep Learning พร้อมชู GIS เทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและยกระดับการบริหารจัดการ ด้านภูมิสารสนเทศเพื่ออัปเดตเทคโนโลยีที่สามารถประยุกต์ใช้ในประเทศไทยและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ใหม่ ๆ ด้าน GIS ร่วมกัน โดย GIS จะเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยสร้างสรรค์โลกให้เป็นในแบบที่ทุกคนต้องการ ไม่ว่าจะเป็นความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีความสงบสุข มีความเท่าเทียม ไปจนถึงมีความปลอดภัย และที่สำคัญคือเป็นในแบบที่ต้องการอย่างยั่งยืน หรือ Sustainability โดยเฉพาะเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ซึ่งเทคโนโลยี GIS จะเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้เกิดความเข้าใจในปัญหา ทำให้มองเห็นภาพเดียวกัน ช่วยในการรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์องค์ประกอบต่าง ๆ ช่วยเสนอแนะแนวทางหรือวิธีการแก้ไขปัญหา นำไปสู่การตัดสินใจที่ถูกต้อง และสุดท้ายคือการลงมือทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“เชื่อว่าทุก ๆ ท่าน มีมุมมองเช่นเดียวกัน คือ อยากเห็นโลกของเรามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อยากมีเศรษฐกิจที่ดีขึ้น อยากเห็นโลกของเรามีความสงบสุข มีความเท่าเทียมกัน และมีความปลอดภัย และที่สำคัญไม่ว่าคำตอบนี้จะเป็นอย่างไรก็ตาม เราทุกคนคงต้องการให้โลกใบนี้เป็นดั่งที่กล่าวมาข้างต้นอย่างยั่งยืน หรือ Sustainable” ดร.ธนพร ฐิติสวัสดิ์ ประธานบริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเริ่มต้นเปิดงานสัมมนาฯ
เทรนด์ที่สำคัญอย่างยิ่ง ณ ตอนนี้ คือ Climate Change การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งจะมีผลอย่างยิ่งต่ออนาคตการใช้ชีวิตของมนุษย์ ซึ่งเชื่อว่าทุกคนอยากมีแผนการรับมือและจัดการกับภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้ดีขึ้นได้อย่างยั่งยืนเช่นเดียวกัน ดร.ธนพร กล่าวว่า “เทคโนโลยีที่จะเข้ามาช่วยรับมือให้โลกของเรามีความยั่งยืนอย่างรอบด้าน คือ เทคโนโลยีสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ หรือ GIS ปัจจุบันได้ถูกพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว มีการผสานรวมนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาทำงานร่วมกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Real-Time GIS, IoT, Big Data Analytics, Advanced Data Analytics รวมไปถึงการผนวกรวมกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ AI, Machine Leaning และ Deep Leaning เข้ามาไว้ด้วยกัน นอกจากนี้ เทคโนโลยี GIS ยังมีการทำงานร่วมกับ 3D Mapping เทคโนโลยีพื้นฐานที่ใช้ในการสร้าง Digital Twin และต่อยอดความทันสมัยไปเป็น Living Digital Twins โลกที่มีชีวิตเสมือนจริงมากยิ่งขึ้น”
ArcGIS มีฟีเจอร์อะไรใหม่
ArcGIS ไม่ได้เป็นเพียงแค่ซอฟต์แวร์ที่มีการนำเข้าและแสดงผลข้อมูลเท่านั้น ArcGIS มีความสามารถและเครื่องมือมากมายที่ทำหน้าที่วิเคราะห์เข้ามูลเชิงพื้นที่ครบทุกมุมมอง อย่างเช่นการทำ Spatial Analysis และ Data Science ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการวิเคราะห์และแก้ปัญหา ด้วยเครื่องมือด้านการวิเคราะห์ภาคการขนส่ง (Last Mile) เครื่องการวิเคราะห์เชิงสถิติ (Analytic Statistic) เครื่องการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกที่ซับซ้อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (GeoAI)
- ArcGIS Imagery – เครื่องมือสำหรับการสร้างภาพ Reality Mapping จาก Drone, Aerial & Satellite, DSM & DTM, True Ortho และ 3D Mesh
- ArcGIS Reality Mapping – ความสามารถในการสร้างแผนที่ภาพถ่ายคุณภาพสูงทั้งในรูปแบบ 2D และ 3D
- ArcGIS Focused Products – เพื่อรองรับ Workflows การทำงานเฉพาะด้าน เช่น ArcGIS CityEngine, ArcGIS Business Analyst, ArcGIS Mission, ArcGIS GeoPlanner และ ArcGIS Urban
- ArcGIS Developer – รองรับ APIs และ SDKs หลากหลายเพื่อการพัฒนาขีดความสามารถของซอฟต์แวร์ และยังสามารถสร้างแอปพลิเคชันบนแพลตฟอร์มของตัวเองได้
Smart Mapping สำหรับ Microsoft 365
ArcGIS for Excel จะเข้ามาเปลี่ยนมุมมองของผู้ใช้ที่เคยมองว่า GIS เป็นเรื่องยาก ซับซ้อน ให้กลายเป็นเรื่องที่ใช้งานง่าย และสะดวก เหมือนกับการใช้ตาราง Excel ทั่วไป โดย Esri ได้จับมือกับทาง Microsoft เพื่อพัฒนา GIS Functions ให้เข้ามาเป็น Add-in ในเมนู Microsoft 365 ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเรียกใช้งานฟังก์ชัน GIS ได้อย่างง่ายดาย ด้วยความสามารถของ ArcGIS for Excel ผู้ใช้งานสามารถสร้างแผนที่เชิงโต้ตอบที่รวมข้อมูลจากบริการ Excel และ ArcGIS ครบจบบนหน้าจอเดียว โดยไม่ต้องออกจากหน้าต่างโปรแกรม Excel
“โดยบนเวทีได้มีคุณหนึ่ง สุภาภรณ์ รักษาล้ำ GIS Technical Consultant จาก Esri Thailand ขึ้นมาสาธิตการคาดการณ์ตำแหน่งบนแผนที่และการคำนวณหาค่ากำลังการซื้อ พร้อมทั้งสร้างเป็นแผนที่ืที่สวยงาม จากข้อมูลทั้งหมดของสาขาธุรกิจผ่านบนโปรแกรม Excel ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ใช้เวลาในการทำเพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น ก็สามารถผลลัพธ์ตามเราที่ต้องการ”
“เราหวังว่า ArcGIS for Excel ซึ่งเป็น My choice ของเราในวันนี้ จะกลับไปเป็น My choice ของทุกท่าน และนอกจาก Excel แล้ว เรายังมีผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของ Microsoft ไม่ว่าจะเป็น Power BI, Share Point หรือว่า MS Teams สามารถเรียกใช้งาน ArcGIS โดยตรงได้แล้ว รวมไปถึง Microsoft Power Automate ด้วยเช่นกัน ที่เราแสดงให้เห็นบนเวทีโดยคุณหนึ่ง สุภาพร รักษาล้ำ ที่ผ่านมานี้ เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งที่ทุกท่านจะได้สัมผัสประสบการณ์จริงในงานวันนี้ เรายังมี GIS Technology และ GIS Product อื่น ๆ รอทุกท่านอยู่” ดร.ธนพร กล่าวทิ้งท้าย ก่อนส่งต่อเวทีให้วิทยกรรับเชิญในเซสชันถัดไป
เซสชัน ที่ 1 รอบเช้า
“ระบบแผนที่ภาษี ช่วยพัฒนาท้องถิ่น พัฒนาชาติ”

ได้รับเกียรติจาก Keynote Speaker ทั้ง 2 ท่าน ขึ้นมาถ่ายทอดประสบการณ์จากการประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยี GIS ในการจัดการระบบแผนที่ภาษีตั้งแต่กระบวนการประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์ บรรยายโดย คุณสันติ สายสกุล นักประเมินราคาทรัพย์สินชำนาญการพิเศษ กองมาตรฐานการประเมินราคาทรัพย์สิน กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และหัวข้อกระบวนการจัดเก็บภาษีท้องถิ่นของกรุงเทพมหานคร บรรยายโดย คุณโอฬาร อัศวพลังกูล ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สำนักการคลัง กรุงเทพมหานคร
สาระความรู้เกี่ยวกับการประเมินราคาที่ดิน
ปัจจุบันเราใช้พระราชบัญญัติการประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อประโยชน์แห่งรัฐ พ.ศ. 2562 เมื่อปี 2559 เรามีการทำราคาประเมินที่ดินรายแปลงทั้งหมด 12.5 ล้านแปลง จากแปลงที่ดินทั้งหมด 32 ล้านแปลง นั่นหมายความว่ายังมีอีกประมาณ 19 ล้านแปลง ที่ยังไม่ได้รับการประเมินราคาเป็นรายแปลง โดยเป้าหมายของกรมธนารักษ์จะต้องทำการประเมินราคาที่ดินรายแปลงให้ครบ 100% ทั้ง 32 ล้านแปลง จากโจทย์ที่ท้าทายข้างต้นนี้ กรมธนารักษ์ได้กลับมาทบทวนว่าจะดำเนินการอย่างไรให้สามารถประเมินราคาที่ดินให้ครบตามจำนวนที่ตั้งไว้ได้ และเทคโนโลยี GIS ได้เข้ามาไขโจทย์นี้ได้อย่างยอดเยี่ยม
ราคาประเมินที่กรมธนารักษ์จัดทำขึ้นมีอยู่ 3 ประเภท ได้แก่ ราคาประเมินที่ดิน ราคาประเมินห้องชุด ราคาประเมินสิ่งปลูกสร้าง
กระบวนการงานการประเมินราคาที่ดิน ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน การจัดเตรียมข้อมูล การสำรวจข้อมูลภาคสนาม การวิเคราะห์ข้อมูลที่มีผลต่อราคาประเมินหน่วยที่ดิน การคำนวฯราคาประเมินที่ดินรายแปลง และขั้นตอนสุดท้าย การจัดทำบัญชีราคาประเมินที่ดิน และแผนที่ประกอบการประเมินราคา โดยได้มีการนำเทคโนโลยี GIS เข้ามาใช้ในทุกกระบวนการของการประเมินราคาที่ดิน
การสืบค้นข้อมูลราคาประเมินที่ดิน ซึ่งสามารถเข้าถึงบริการนี้ได้ผ่านแอปพลิเคชันทั้งบน Desktop และ Mobile Apps ที่มีชื่อว่า “ระบบเผยแพร่ราคาประเมินทรัพย์สิน โดย กรมธนารักษ์” กรณีทราบเลขที่โฉนด ซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถเข้าใช้บริการผ่านเว็บไซต์ที่กรมธนารักษ์จัดทำขึ้นได้ เพื่อความสะดวกในการค้นหาราคาประเมินด้วยตนเองได้ทุกที่ทุกเวลาที่ใดก็ได้
“ข้อมูลราคาตลาดจะถูกแสดงอยู่บนแผนที่ในรูปแบบดิจิทัล เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปใช้งานด้านการสำรวจได้อย่างถูกต้อง แม่นยำและตรงตามตำแหน่งที่ตั้งจริงของแปลงที่ดินที่มีการซื้อขายจดทะเบียน หรือแปลงที่ดินที่มีการเสนอขายในพื้นที่ เดิมก่อนหน้านี้ กรมธนารักษ์เราใช้กระดาษในการบันทึกการสำรวจข้อมูล เมื่อเจ้าหน้าที่ภาคสนามออกสำรวจนอกจากจะนำกล้องถ่ายรูปติดตัวไปด้วย ยังจะมีแผนที่ขนาด A1 ไปประกอบการสำรวจด้วย ปัญหาที่ตามมา คือ อุปสรรคสภาพอากาศฝนฟ้าคะนองที่มีผลต่อกระดาษแผนที่ จดจำรูปถ่ายไม่ได้ว่าเป็นของแปลงใด ภายหลังกรมธนารักษ์เอง ได้จัดหาระบบสำรวจเข้ามาไว้ในอุปกรณ์ดิจิทัลที่ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี GIS ช่วยให้การสำรวจในแต่ละครั้งสามารถบันทึกข้อมูลเข้ามาไว้ในแอปพลิเคชันระบบเดียวกันและสามารถประมวลออกมาเป็นผลลัพธ์ให้ทุกคนเข้าถึงได้อย่างรวดเร็วกว่าระบบเดิม” คุณสันติ สายสกุล กล่าว “การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี GIS ทำให้กรมธนารักษ์มีข้อมูลราคาประเมินที่ดินและแผนที่ประกอบการประเมินราคาที่ดิน ซึ่งข้อมูลทั้งสองส่วนต้องแสดงราคาประเมินที่ตรงกัน และช่วยลดข้อผิดพลาดจากการบันทึกข้อมูลของเจ้าหน้าที่ลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการจัดทำบัญชีราคาประเมินที่ดินในรูปแบบดิจิทัล ซึ่งเป็นการตอบโจทย์การพัฒนาข้อมูลภาครัฐส่งเสริมการบูรณาการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานในรูปแบบดิจิทัลอันจะส่งผลให้ภาครัฐสามารถนำข้อมูลในด้านต่างๆ มาวิเคราะห์ประกอบการกำหนดนโยบาย และทิศทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไป”
ระบบการเก็บภาษีที่ดิน
“นโยบายของผู้บริหารราชการกรุงเทพมหานคร (ด้านการจัดการดี) มุ่งเน้นพัฒนาการจัดเก็บภาษีท้องถิ่นของกรุงเทพมหานครให้มีความคุ้มค่า โปรงใส มีประสิทธิภาพ และตรวจสอบได้” คุณโอฬาร อัศวพลังกูล กล่าว
ปีภาษี 2566 – กทม. ใช้ระบบ BMA Tax Map ในการจัดเก็บภาษีป้าย ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และลูกหนี้ภาษีค้างชำระ งานด้านการสำรวจ ให้บริการตรวจสอบข้อมูล และระบบจัดการใบเสร็จรับเงิน
ระบบ BMA Tax Map ของกรุงเทพมหานคร มีการผสานการทำงานร่วมกับเทคโนโลยี GIS เพื่อให้สามารถแสดงข้อมูลภาพแปลงที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง แสดงการใช้ประโยชน์ที่ดิน แสดงข้อมูลภาษีป้ายและภาษีทะเบียน เพื่อประโยชน์ในการเรียกใช้งานได้อย่างคล่องตัวและถูกต้องตามสถานะจริงของข้อมูล
ระบบบริการตรวจสอบข้อมูลภาษี สำหรับประชาชน

“จุดเด่นของระบบสารสนเทศภาษีท้องถิ่นของกรุงเทพมหานคร เพื่ออำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายรายได้ในทุกสำนักงานเขต โดยสามารถลดขั้นตอนและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้แก่เจ้าหน้าที่ สามารถเชื่อมโยงข้อมูลร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องได้ มีข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัยอยู่เสมอ สามารถรองรับการประเมินภาษีได้หลายรูปแบบ โดยระบบสามารถใช้งานผ่านระบบ Internet โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมเพิ่มเติม และมีการจัดเก็บภาษีทั้ง 50 เขต เป็นมาตรฐานหนึ่งเดียว” คุณโอฬาร อัศวพลังกูล กล่าวสรุป
เซสชัน ที่ 2 รอบเช้า
GIS – Creating the World You Want to See

เซสชันสุดท้ายของรอบเช้านำโดย คุณเมย์ ธัญญ์นรี ธนัญธรสวัสดิ์ กล่าวว่า “ทุกท่านอยากเห็นโลกของเราเป็นแบบไหนกันบ้าง ปัญหาสภาวะโลกร้อนในปัจจุบันส่งผลให้โลกของเราเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ด้วยสภาพภูมิอากาศและมลภาวะทางอากาศที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงมากมายเกิดขึ้น แต่เชื่อว่าเราจะสามารถดูแลรักษาทุกอย่างที่เราอยากเห็นไว้บนโลกใบนี้ได้ ด้วยการบริหารจัดการทรัพยากรที่มีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับกับการเปลี่ยนแปลงและให้โลกเกิดความยั่งยืน ซึ่งปัจจุบันได้มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาเตรียมรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยี GIS ที่ได้เข้ามาช่วยเปลี่ยนข้อมูลรูปแบบเดิมที่เราคุ้นเคยเพื่อเพิ่มมุมมองเชิงพื้นที่ ทำให้เราเข้าใจปัญหาและสามารถประเมินสถานการณ์ต่าง ๆ ได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น”
ปัจจุบันเทคโนโลยี GIS ได้ถูกพัฒนาร่วมกับนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการแสดงผลและการวิเคราะห์เชิงพื้นที่ขั้นสูงทำให้ได้รับผลลัพธ์ในหลายมิติ โดยในงานสัมมนาปีนี้ Esri Thailand ได้นำเสนอการนำเทคโนโลยี GIS มาผสานทำงานร่วมกันเทรนด์เทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และยกระดับการบริหารจัดการได้ภายใต้แนวคิด “GIS – Creating the World You Want to See” และเทคโนโลยีที่จะเข้ามาช่วยสนับสนุนการสร้างโลกที่เราอยากให้เป็น นั่นก็คือ “ArcGIS” เป็นระบบที่ถูกพัฒนาด้วยวิสัยทัศน์แห่งการเป็น Open-platform ที่สามารถบูรณาการทำงานร่วมกับแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ได้หลากหลายรูปแบบที่พร้อมใช้งานทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน และนำมาวิเคราะห์ร่วมกันบนระบบได้อย่างครบวงจร
การสร้างโลกที่เราอยากให้เป็นด้วย ArcGIS จะประกอบไปด้วย 3 องค์ประกอบที่สำคัญ
องค์ประกอบที่ 1: Diverse Data ข้อมูลที่หลากหลายรูปแบบที่จะถูกนำเข้ามาเชื่อมโยงและจัดเตรียมการทำงานในขั้นตอนถัดไป อาทิ ข้อมูล Vector, 3D, Lidar/Point Cloud, Big Data, Real-Time (IoT) หรือ Imagery เป็นต้น ซึ่งข้อมูลเหล่านี้แบ่งออกเป็น “ข้อมูลที่พร้อมใช้งาน” และ “ข้อมูลที่เราสร้างเอง” Esri ได้พัฒนาแอปพลิเคชัน “พร้อมใช้งาน” ที่ทุกท่านสามารถเข้าถึงเพื่อใช้งานได้ฟรีผ่าน ArcGIS Living Atlas โดยภายในงานนี้ ได้นำเสนอ
Sentinel-2 Land Cover Explorer เว็บแอปพลิเคชันพร้อมใช้งานที่สามารถแสดงการใช้ประโยชน์ที่ดินที่ครอบคลุมทั่วโลก ซึ่งผ่านการวิเคราะห์มาแล้วจากภาพถ่าย Sentinel-2 ด้วยความละเอียด 10-meter มีข้อมูลที่อัปเดตตั้งแต่ปี 2017 ถึง 2022 โดยสามารถดูช่วงเวลาการเปลี่ยนแปลงได้อย่างง่ายดายด้วยวิธี Slide-map อย่างง่ายดาย
Pre-trained Deep Learning Models ชุดอุปกรณ์เครื่องมือใหม่ ในการวิเคราะห์เชิงพื้นที่ของปีนี้ มาพร้อมในชื่อ SAM – (Segment Anything Model) ทำหน้าที่เป็น Object Detection ใช้ในการวิเคราะห์เพื่อจำแนกวัตถุออกจากแผนที่ภาพถ่าย เช่น อาคาร ยานพาหนะ เส้นถนน เป็นต้น SAM เป็น Deep Learning Model พร้อมใช้งานที่สามารถนำไปทำงานได้ทันที โดยมีจุดเด่นในการจำแนกวัตถุที่มีความแตกต่างกันได้ภายในครั้งเดียว โดยสามารถดาวโหลดมาใช้งานฟรี ได้แล้วที่ https://www.arcgis.com/home/item.html?
Esri ยังมีเครื่องมือที่จะทำให้การสร้างข้อมูลด้วยตนเองเป็นเรื่องที่ง่าย สะดวก และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ด้วย Drone, Aerial, Satellite และนำไปประมวลผลบนซอฟต์แวร์ ArcGIS Reality Suite ซึ่งประกอบด้วย 4 ซอฟต์แวร์ ArcGIS Drone2Map, Site Scan for ArcGIS, ArcGIS Reality for ArcGIS Pro และ ArcGIS Reality Studio ทั้งหมดนี้ ถูกออกแบบมาให้สามารถประมวลผลภาพถ่ายได้ครอบคลุมในทุกพื้นที่ทั่วโลก
องค์ประกอบที่ 2: Advanced Analytics การวิเคราะห์และประมาลผล เพื่อให้มีความเข้าใจรูปแบบความสำคัญของข้อมูล โดย Big Data เป็นเทรนด์เทคโนโลยีที่มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลาย Esri เองได้มองเห็นถึงความสำคัญโดยการนำเทคโนโลยี Big Data มาพัฒนาร่วมกับเทคโนโลยี GIS เพื่อให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่มีชื่อว่า “ArcGIS GeoAnalytics” ซึ่งมีเครื่องมือที่รองรับการประมวลผลข้อมูลระดับ Big Data สำหรับการวิเคราะห์เชิงพื้นที่ได้ในหลากหลายรูปแบบ เช่น Analyze Patterns, Summarize Data, Manage Data เป็นต้น
Esri Thailand ผนึกกำลัง BLENDATA
BLENDATA เป็นผู้พัฒนา Big Data Platform สัญชาติไทย ที่มีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลได้อย่างรวดเร็ว มีเครื่องมือที่ช่วยในการจัดการและใช้งานได้อย่างง่ายดาย เข้ามาผสานการทำงานร่วมกับ GeoAnalytics Engine ให้อยู่ในรูปแบบ Data Platform กลายเป็น New Product ที่มีชื่อว่า “GeoData X” ซึ่งทำหน้าที่เป็น Spatial big data analytics Platform เสริมศักยภาพให้การนำเข้าข้อมูล จัดการกับข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลรวมไปถึงการแสดงผลข้อมูลขนาดใหญ่เชิงพื้นที่ที่เป็น Big Data ทั้งแบบ Location และ Non-Location บนแพลตฟอร์มเดียว เพื่อประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อภาคประชาชน จนถึงองค์กรภาครัฐและเอกชน
GIS และ AI
“GeoAI” เป็นการผนวกความสามารถในการวิเคราะห์เชิงพื้นที่ของ Geo-spatial Data และความสามารถของปัญญาประดิษฐ์ AI เข้าด้วยกัน การทำงานของ GeoAI เริ่มต้นตั้งแต่การรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อให้ได้ Data Intelligence ที่สามารถนำไปใช้ในการตัดสินใจและคาดการณ์เหตุการณ์อนาคตได้ สำหรับกลุ่มเครื่องมือของ GeoAI แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ CLUSTER การวิเคราะห์ความหนาแน่นของข้อมูล, TREND การวิเคราะแนวโน้มของข้อมูล และ RELATIONSHIP and PREDITION การวิเคราะห์ความสัมพันธ์และการคาดการณ์ของข้อมูล โดยจะมีฟีเจอร์ AutoML เข้ามาช่วยเลือกโมเดลที่เหมาะสมที่สุดโดยอัตโนมัติ เราสามารถนำ GeoAI ไปประยุกต์ใช้งานได้ทั้งการวิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงอาชญากรรม การคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงบนท้องถนน การวิเคราะห์หารอยแตกบนพื้นผิวถนนเพื่อใช้วางแผนบำรุงรักษา การคาดการณ์การชำรุดของอุปกรณ์ไฟฟ้าและงานโทรคมนาคม
องค์ประกอบที่ 3: Realistic Visualization การจำลองสภาพแวดล้อมให้สอดคล้องกับความเป็นจริงมากที่สุด Digital Twin เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีสำคัญในการแสดงผลข้อมูลจำลองทางกายภาพในทุกองค์ประกอบรวมไปถึงการแสดงผลข้อมูลที่ไม่สามารถมองเห็นได้จริง อาทิ โครงสร้างของตัวอาคาร โครงข่ายสาธารณูปโภคต่าง ๆ โดยมีการติดตั้งอุปกรณ์เซ็นเซอร์ไว้บนวัตถุจริงเพื่อเชื่อมต่อกับวัตถุเสมือนและทำงานร่วมกันแบบ Real-time
Digital Twin สามารถนำมาต่อยอดกับงานด้าน Operation ได้อย่างครอบคลุมทุกความต้องการ ตัวอย่างเช่น ระบบ Asset Management ช่วยให้มองเห็นภาพภาพรวมของอาคาร รวมไปถึงสามารถช่วยอำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงปฏิบัติงานบันทึกสถานะข้อมูลของอุปกรณ์ นอกจากนี้ยังสามารถระบุตำแหน่งของตัวบุคคลและการวางแผนการใช้งานพื้นที่ภายในตัวอาคารได้จากหน้าจอ Dashboard
นอกจากนี้ Digital Twin สามารถนำมาต่อยอดร่วมกับเมือง เพื่อทำให้เป็น Smart City ได้อย่างมีมิติ โดยสามารถนำข้อมูลไปทำการวิเคราะวางแผนด้านการใช้ประโยชน์ที่ดิน ช่วยให้ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่มองเห็นภาพรวมของผังเมืองและพัฒนาเมืองได้แบบรอบด้านสู่การเป็น Living Digital Twin ที่เสมือนจริงมากที่สุดต่อไป
รับชมคลิปงานสัมมนา
หากสนใจหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เทคโนโลยี GIS สามารถติดต่อได้ที่
บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด
202 ชั้น 12 อาคาร ซีดีจี เฮ้าส์ ถนนนางลิ้นจี่ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร 10120
Tel: 02 678 0710, 02 678 0714 E-mail : esrith.contact@cdg.co.th
เกี่ยวกับ Esri Thailand
บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด (Esri Thailand) เป็นผู้นำด้าน Location Intelligence โดยใช้เทคโนโลยี GIS (Geographic Information System) ในการสร้างความอัจฉริยะด้านการวิเคราะห์เชิงพื้นที่ให้กับภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ ภาคธุรกิจและองค์กรณ์ต่าง ๆ ผ่านผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ ArcGIS ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากประเทศสหรัฐอเมริกา โดยบริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย ประเทศกัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า และประเทศเวียดนาม
เข้าเยี่ยมชมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Esri Thailand และผลิตภัณฑ์ได้ที่ https://www.esrith.com/about/esrithailand/