TechTalkThai ศูนย์รวมข่าว Enterprise IT ออนไลน์แห่งแรกในประเทศไทย
1.Moogsoft AIOps
จุดประสงค์หลักของบริษัทมีความน่าสนใจคือได้นำเทคโนโลยี Artificial Intelligence เข้ามาช่วยเหลือในเรื่องของระบบการแจ้งเตือนให้ลดเหลือเฉพาะเหตุการณ์ที่มีนัยสำคัญเท่านั้นซึ่งทางบริษัทกล่าวว่าสามารถช่วยลดการแจ้งเตือนที่เป็นสิ่งรบกวนออกไปได้ถึง 90% เลยที่เดียว มีการจัดกลุ่มของการ Alert (Clustering) และทำการเชื่อมโยงเหตุการณ์ในสภาพแวดล้อมของผู้ใช้งานทำให้ทราบว่าเหตุการณ์เป็นกลุ่มไหน เช่น เป็นเหตุการณ์ที่ Firewall, แอปพลิเคชัน หรือ ฐานข้อมูลเป็นต้น ดังนั้นเมื่อเห็นภาพชัดเจนแล้วการวิเคราะห์ต้นตอของปัญหาก็จะทำได้ง่ายขึ้นนั่นเอง สุดท้ายแล้วหลังจากพบและคนแก้ไขเหตุการณ์แล้วระบบสามารถเรียนรู้ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ หากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นซ้ำอีกจะมีการแสดงแนะนำวิธีการให้ผู้ใช้พิจารณา สามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่ https://www.moogsoft.com/product/ หรือสนใจชมวีดีโอตัวอย่างได้ตามด้านล่าง
2.GONG
แนวคิดของบริษัทนี้คือนำ AI มาวิเคราะห์บันทึกการสนทนาระหว่างทีมขายและลูกค้า จากนั้นก็ทำการแปลงข้อมูลเสียงเป็น Text และนำข้อมูลมาวิเคราะห์และสามารถสอนให้ระบบเรียนรู้ได้อย่างต่อเนื่องโดยผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้นจึงนำมาใช้เพื่อสอนนักขายให้แก่องค์กรว่าควรจะมีวิธีการพูดเข้าหากับลูกค้าที่เหมาะสมว่าเป็นอย่างไรได้ แม้แต่ละองค์กรจะมีวิธีการที่เหมาะสมในการเข้าหาลูกค้าต่างกันก็สามารถใช้แพลตฟอร์มนี้่ในการเรียนรู้ได้ โดยทาง Cisco เพิ่งตกลงให้ทุนกับบริษัทไปเมื่อไม่นานนี้เอง อย่างไรก็ตามระบบยังคงรองรับภาษาอังกฤษเท่านั้นในบ้านเราคงต้องรอลุ้นอีกนาน สามารถติดตามได้ที่ https://www.gong.io
3.PubNub
บริษัทนี้มีไอเดียคล้ายๆ กับ CDN แต่เน้นทำเกี่ยวกับการกระจายข้อความ เช่น Chat, ข้อความควบคุมระหว่างเครื่อง, IoT, เกมหลายผู้เล่น และอื่นๆ โดยบริษัทได้กล่าวว่าตนเองสามารถกระจายข้อความให้อุปกรณ์ (เฉพาะที่เชื่อมต่อโปรโตคอล TCP/IP ได้เท่านั้น) จำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว จะเห็นได้ว่าแพลตฟอร์มอยู่ตรงกลาง ดังนั้น PubNub ยังได้เปิดฟังก์ชันให้เข้าไปจัดการข้อมูลที่ผ่านตัวเองได้ เช่น กรองข้อความ แปลงภาษา คัดกรองข้อมูลตามสถานที่หรืออื่นๆ อย่างไรก็ตามบริษัทได้ตระหนักถึงเรื่องความมั่นคงปลอดภัยและให้ API เพื่อป้องกันไม่ให้แทรกแซงข้อมูล อีกทั้งมีวิธีการควบคุมข้อมูลเพื่อไม่ให้ข้อมูลกระจายออกไปเกิดขอบเขตที่ต้องการได้ นอกจากนี้ยังมีในส่วนของ ‘ChatEngine’ เอาใจนักพัฒนาให้นำ SDK และ API นำไปใช้ให้เกิดเป็นแอปพลิเคชันที่สามารถพูดคุยได้ โดยในส่วนของที่ตั้งของแพลตฟอร์มนั้นครอบคลุมอยู่บนศูนย์ข้อมูลหลายแห่งและหลายภูมิภาค อีกทั้งยังมีการออกแบบป้องกันไม่ให้ระบบล่มได้ง่ายๆ ผู้ใช้จึงวางใจในการใช้งานได้ ผู้สนใจสามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่ https://www.pubnub.com/
4.UPSkill
บริษัทนี้ทำเรื่องของ Augmented Reality โดยใช้ชื่อ Platform ว่า ‘Skylight’ จะดูได้ตามรูปแว่นด้านล่างคือมันจะมีเหมือนวงจรเล็กๆ ที่จะช่วยแสดงผลแต่งเติมภาพของเราที่มองเห็นผ่านแว่นได้ ซึ่งโดยวัตถุประสงค์ของบริษัทมีการมุ่งเน้นไปที่การใช้งานในภาคโรงงานก่อนเป็นหลัก เช่น อาจจะแสดงข้อมูลข้อระยะทางที่จะเดินไปถึง แสดงขนาดวัตถุ หรือ แสดงข้อมูลเกี่ยวกับวัตถุนั้นๆ เป็นต้น สามารถชมวีดีโอได้ตามด้านล่าง หรือ เข้าชมเว็บไซต์บริษัทได้ที่ https://upskill.io/
5.Dremio
บริษัทสุดท้ายทำเรื่องเกี่ยวกับการเพื่มประสิทธิภาพในการเล่นกับข้อมูลปริมาณมหาศาล โดยวิทยากรกล่าวว่าทุกวันนี้เรามีเครื่องมือจัดการกับข้อมูลอย่างฐานข้อมูลอย่าง Relational SQL, No SQL หรือ Hadoop แต่ประเด็นคือเรื่องความเร็วเพื่อใช้ข้อมูลจากจากหลายที่ (Extract-Transform-Load) ดังนั้นทางบริษัทจึงเล็งเห็นจุดบอดตรงนี้และได้ทำการแก้ไขเป็นส่วนๆ คือ นำข้อมูลมาเล่นแบบ Virtual ทำให้ตัดปัญหาความซับซ้อนของชุดข้อมูลไปได้ซึ่งอำนวยให้มันสามารถ Join ข้อมูลระหว่างระบบต่างๆ ได้ เช่น Elasticsearch, MongDB, Amazon S3, หรือ RDBMS แบบเก่า นอกจากนี้ยังใช้ประโยชน์จาก Apache Arrow ซึ่งเป็นการประมวลผลแบบ in-memory เข้ามาด้วยทำให้มีความรวดเร็วเข้าไปอีก ผู้สนใจสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ https://www.dremio.com/product/
