เรื่องราวของ SCG กับเส้นทางในการเปลี่ยนระบบ IT จาก CapEx สู่ OpEx อย่างเต็มรูปแบบด้วย VMware ร่วมกับ INET

เมื่อพูดถึง SCG แล้ว คงไม่มีใครปฎิเสธว่าไม่รู้จักแบรนด์ยักษ์ใหญ่ที่อยู่คู่เมืองไทยมาช้านานอย่าง SCG แต่น้อยคน และน้อยครั้ง ที่เราจะมีโอกาสได้พูดคุยกันถึงเรื่อง IT ของบริษัทชั้นนำของประเทศแบบนี้ ที่เชื่อว่าไม่ธรรมดาแน่นอน ด้วยความที่มีพนักงาน และกลุ่มธุรกิจที่หลากหลาย กระจายอยู่ทั่วประเทศ ทำอย่างไรจึงจะใช้ระบบ IT สร้างการเติบโตให้กับธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง นี่คือโจทย์ที่น่าสนใจ และชวนขบคิดไม่น้อย

ในครั้งนี้ทีมงาน TechTalkThai มีโอกาสได้เข้าไปพูดคุยกับคุณสุรพล สิทธินันทน์ ผู้ดำรงตำแหน่ง Senior Manager ทางด้าน Cloud & Infrastructure Services ในสำนักงาน Corporate IT&BCM ที่เป็นผู้วางนโยบายด้านระบบ IT Infrastructure, Data Center และ Cloud ทั้งหมดให้กับ SCG และบริษัทในเครือ ถึงประเด็นเรื่องของการปรับรูปแบบการลงทุนในระบบ IT ของ SCG ทั้งหมดให้กลายเป็นรูปแบบ OpEx หรือคิดค่าใช้จ่ายตามจริงหมดแล้ว และเส้นทางนี้เองก็มีบทเรียนต่างๆ ให้ได้นำมาศึกษากันมากมาย ทางทีมงาน TechTalkThai จึงขอนำสรุปเรื่องราวที่ได้พูดคุยกับคุณสุรพลรวมถึงทีมงาน INET ซึ่งเป็น VMware Cloud Provider รายหนึ่งในประเทศไทยเอาไว้ให้ผู้อ่านทุกท่านได้อ่านกันดังนี้ครับ

ธุรกิจใหญ่ระดับ SCG ต้องเลือกการวางผังองค์กรแบบกระจายกำลังหน่วยงาน IT โดยมี IT ส่วนกลางคอยช่วยจัดการโครงสร้างพื้นฐานกลาง

ในการพูดคุยครั้งนี้ คุณสุรพลได้เริ่มต้นจากการเล่าถึงภาพการทำงานของฝ่าย IT ใน SCG ที่ใช้กลยุทธ์แบบกระจายกำลังคน โดยแต่ละบริษัทลูกหรือแต่ละหน่วยงานเองนั้นก็มีทีม IT ของตนเองเพื่อให้การทำงานต่างๆ เป็นไปได้อย่างคล่องตัว และแต่ละทีมเองก็จะได้เรียนรู้เทคโนโลยีเฉพาะด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับตนเอง เพื่อให้การให้บริการ IT ภายในบริษัทลูกหรือธุรกิจต่างๆ เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในขณะเดียวกัน SCG เองก็มีทีม Corporate IT หรือเรียกกันง่ายๆ ว่าทีม IT กลาง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ประมาณ 40 คน ทำหน้าที่ดูแลรักษาระบบ IT ส่วนกลางสำหรับเหล่าผู้ใช้งานทั่วทั้ง SCG และบริษัทลูกในเครือต่างๆ รวมกันมากกว่า 20,000 รายทั่วไทย ซึ่งเน้นการปฎิบัติงานไปที่การดูแลภาพรวมของเทคโนโลยีและความคุ้มค่าทั้งหมด โดยหากพิจารณาแล้วว่าระบบใดหากมีหน่วยงานกลางจัดทำขึ้นมาให้ทุกบริษัทลูกหรือหน่วยงานต่างๆ ได้ใช้งานร่วมกันแล้วคุ้มค่าหรือมีประสิทธิภาพมากกว่า ทาง Corporate IT ก็จะจัดการสร้าง Platform นั้นๆ ขึ้นมาให้

ตัวอย่างขอบเขตงานที่เห็นได้ชัดของ IT กลาง ก็คือการกำหนดกลยุทธและนโยบายด้านไอที การดูแลระบบเครือข่ายที่เป็น Core Network, การดูแลระบบ Data Center, การดูแลผู้ให้บริการไอทีรายหลัก และการจัดการกับ License การใช้งาน Software พื้นฐานในการทำงานทั้งหมด เป็นต้น

การปรับจาก CapEx สู่ OpEx เริ่มต้นจากวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร

คุณสุรพลได้เล่าต่อถึงวิสัยทัศน์ของเหล่าผู้บริหารใน SCG ที่ต้องการปรับรูปแบบการลงทุนในเทคโนโลยีต่างๆ จาก CapEx ที่เป็นรูปแบบของการซื้อเทคโนโลยีต่างๆ มาแล้วมีทีมงานของตนเองคอยดูแล ไปสู่การเป็น OpEx หรือการเช่าใช้จ่ายและคิดค่าใช้จ่ายตามการใช้งานจริงโดยมีทีมงานจากภายนอกมาช่วยดูแลได้นับสิบปีแล้ว

ปัจจัยหลักที่ทำให้ผู้บริหารของ SCG เลือกที่จะหันมาใช้ OpEx นี้ ก็ด้วยประเด็นทางด้านการเงินที่แนวทางนี้จะช่วยให้การวางแผนทางด้านการลงทุนในสิ่งต่างๆ นั้นเกิดขึ้นได้อย่างคล่องตัวโดยที่ไม่ต้องลงเงินก้อนใหญ่ลงไปก่อน อีกทั้งยังง่ายต่อการวางแผนด้านทรัพยากรบุคคลด้วย

เปลี่ยน Server Infrastructure ที่ใช้งาน ให้เสมือนมีบริการ Cloud ภายในองค์กร

SCG ได้มีการใช้บริการ Managed Service มาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้วกับผู้ให้บริการ IT Outsourcing หลักรายเดิมตั้งแต่ปี 2001 ก่อนที่คำว่า Managed Services นี้จะเป็นที่แพร่หลายในประเทศไทย รวมถึงได้มีการใช้บริการ Server Virtualization แบบ Pay per Use หรือ OpEx มาตั้งแต่ปี 2004 กับระบบงานหลักเช่น SAP และ Critical Application บางระบบ อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของ OpEx ในยุคเริ่มต้นนั้นยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง ทำให้ยังมีอีกหลายๆ ระบบงานยังไม่สามารถปรับเปลี่ยนมาใช้งานบนเทคโนโลยีดังกล่าวได้เต็มที่

ในปี 2013 ทางผู้บริหารของ Corp IT มีแนวความคิดเรื่องการใช้ Private Cloud เต็มรูปแบบกับระบบงานต่างๆ ให้ทั่วถึงนอกเหนือจากที่กล่าวข้างต้น ซึ่งจากการสำรวจพบว่ามีความต้องการใช้ Server ของหน่วยงาน IT ต่างๆ ในแต่ละกลุ่มธุรกิจอีกจำนวนมาก และโจทย์ข้อที่สองจากผู้บริหารคือ ต้องอยู่ในรูปแบบ Pay Per Use (หรือ OpEx) ครบวงจรทั้งในส่วนของ Virtual Server รวมถึง Operating System License ซึ่งในสมัยนั้นยังเป็นเรื่องใหม่ โจทย์ข้อสามคือ ต้องมี Specification ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Processing Power, Disk IOPS, Anti-Virus ที่ไม่หน่วงประสิทธิภาพของ Virtual Server โจทย์ข้อที่สี่คือต้องรวมบริการ Managed Services เข้าไปด้วย เช่น Back Up, Restore, Patching, Monitoring และโจทย์ข้อสุดท้ายคือราคาต้องจูงใจให้หน่วยงาน IT ต่างๆ ใน SCG อยากนำเอา Application Project ทั้งที่มีอยู่เดิมบน Physical Server หรือโครงการใหม่ๆ มาใช้งานบนระบบ Private Cloud นี้

Credit: ShutterStock.com

INET ผนึกกำลังทีม ให้บริการ Managed Cloud Services แก่ SCG พร้อมบริการที่ยืดหยุ่นเหนือระดับกว่าบริการ Cloud ทั่วไป

INET ในฐานะของผู้ที่ให้บริการด้าน IT รายใหญ่ของไทย ซึ่งเป็น Partner กับทาง VMware เป็นหนึ่งในทีมที่ได้เข้าไปนำเสนอบริการ Managed Cloud Services แก่ SCG ในครั้งนี้ด้วย โดยการจับมือเข้าไปกับ VMware เพื่อนำ VMware vSphere ไปให้บริการเป็นระบบ Private Cloud ให้กับ SCG บน Hardware Cisco FlexPod และ NetApp Storage

ทีมงานผู้เชี่ยวชาญของ INET ที่มาประจำที่ SCG

คุณสุรพลเล่าว่า INET ใช้เวลาเพียงแค่ 2 สัปดาห์ในการวิเคราะห์ออกแบบระบบและคำนวณค่าใช้จ่ายเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของ SCG และก็ใช้เวลาเพียงแค่ไม่ถึงสามเดือนในการนำระบบมาติดตั้ง ทดสอบ และ Go Live จน SCG สามารถก้าวสู่การลงทุนระบบ IT แบบ OpEx ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ทาง SCG นั้นประทับใจความเร็วในการทำงานของทีมงาน INET เป็นอย่างมาก

เรียกได้ว่าเสมือน INET ยก Hardware Software และทีมงาน Support มาตั้ง Public Cloud ให้บริการภายใน Data Center ของ SCG เลยก็ไม่ผิดนัก ในขณะที่ทีมงานของ INET นั้นก็คอยช่วยเหลือด้านการให้ข้อมูลและการจัดการกับค่าใช้จ่ายด้าน OS และ Database License ที่คิดค่าใช้จ่ายตามการใช้งานจริงให้ตอบโจทย์ความต้องการของ SCG

นอกเหนือจากการให้บริการ Provision VM และการจัดการเบื้องต้นทั่วๆ ไปแล้ว ทาง INET เองก็ยังรองรับการนำ Hardware สำรองเข้ามาเสริมในระบบเพื่อให้การอัปเกรดระบบเกิดขึ้นได้โดยไม่มี Downtime ด้วย อีกทั้งหากทาง SCG มีความต้องการระบบที่มีความเฉพาะทางใดๆ เช่น ต้องการระบบที่มี IOPS สูงเป็นพิเศษ ทางทีมงาน INET ก็พร้อมที่จะทดสอบระบบว่าระบบที่จะนำมาให้บริการนั้นสามารถตอบโจทย์ความต้องการนั้นๆ ได้

อีกประเด็นสำคัญหนึ่งก็คือระบบ Billing ที่ทำให้ธุรกิจลูกหรือ IT ในหน่วยงานต่างๆ นั้นสามารถจ่ายเงินตรงกับ INET ได้เลยไม่ต้องผ่าน IT กลางของ SCG เป็นการช่วยลดภาระเรื่องการจัดทำเอกสารภายใน

อีกหนึ่งข้อดีก็คือ การมีทีมงานจาก INET คอยสนับสนุนเมื่อจะนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาลองใช้งาน ตลอดจนความยืดหยุ่นในการให้บริการ ซึ่งการสนับสนุนจากทีมงานที่ใกล้ชิดนี้ เป็นสิ่งที่ผู้ให้บริการ Cloud รายอื่นเทียบได้ยาก

ทั้งนี้การที่ INET เป็นหนึ่งใน VMware Cloud Provider ในประเทศไทยนั้น ก็ทำให้ทาง SCG สามารถทดลองใช้งานและเข้าถึง Software หรือ Solution ต่างๆ จากทาง VMware ได้อย่างต่อเนื่อง

Growth คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้การปรับไปใช้ OpEx ประสบผลสำเร็จ

ปัจจัยสำคัญในความสำเร็จนี้ในมุมของคุณสุรพลก็คือสิ่งที่เรียกว่า Growth

Growth นี้ก็คือการที่ระบบหรือโครงการใดๆ นั้นได้รับการยอมรับและมีการใช้งานจริงมากขึ้นเรื่อยๆ เป็น Momentum ต่อเนื่องกันไป และในโครงการครั้งนี้เองก็เช่นกันที่โจทย์ของทีม Corporate IT นั้นคือการสร้าง แรงจูงใจให้ IT ของบริษัทลูกหรือหน่วยงานต่างๆ นั้นหันมาใช้บริการนี้กันมากขึ้นสำหรับโครงการระบบงาน IT ใหม่ๆ หรือทดแทนอุปกรณ์ Physical Server เดิมที่หมดอายุ

โจทย์นี้เองที่ทำให้หน่วยงาน IT และทีมงาน INET ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่การวิเคราะห์ว่าระบบในรูปแบบใดนั้นที่ถ้าหากย้ายมาอยู่บน Managed Cloud Services แล้วจะได้ประโยชน์กันทั้ง 2 ฝ่าย หรือระบบใหม่ในโครงการใดๆ นั้นบ้างที่หากนำมาติดตั้งใช้งานอยู่บน Managed Cloud Services นี้แล้วจะคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น

ในช่วงแรกเริ่มนั้น ระบบ Cloud Services ของ INET ที่ติดตั้งอยู่ภายใน SCG นั้นเริ่มต้นจากการใช้งาน Virtual Machine หรือ VM เพียงแค่ 20 ชุด ติดตั้งบน Blade Server 4 เครื่อง และใช้ Storage ชุดแรกที่ความจุเพียง 16TB เท่านั้น แต่ปัจจุบันนี้ระบบมีการรองรับการใช้งาน VM แล้วประมาณ 400 ชุด มี Blade Server ติดตั้งอยู่ 23 ใบ และมี Storage ขนาดใหญ่ถึง 214TB เรียกได้ว่าเติบโตเร็ว 10-20 เท่าในระยะเวลาเพียงแค่ 6 ปีเท่านั้น

คุมการจัดการ Multi-IT Outsourcing ช่วยให้การทำงานเป็นระบบชัดเจน และเกิดความร่วมไม้ร่วมมือที่ดี

คุณสุรพลเล่าถึงอีกหนึ่งในความท้าทายของการเปลี่ยนแปลงนี้ก็คือการจัดการทีมงานผู้ให้บริการไอทีจากภายนอกหลายทีมให้ต้องมาทำงานร่วมกัน อย่างมีประสิทธิภาพและทีมเวิร์คที่ดี การบริหารจัดการให้ทุกทีมงาน Multi-IT Outsourcing สามารถทำงานร่วมกันและช่วยกันแก้ไขปัญหาให้ได้นั้นถือเป็นอีกจุดที่จะชี้เป็นชี้ตายให้กับโครงการได้เลย

SCG ได้การนำระบบ ITSM Platform และมาตรฐาน ITIL เข้ามากำหนดทิศทาง, ขอบเขต และข้อบังคับของบริการให้ได้มาตรฐาน มีข้อมูลบันทึกย้อนหลังสำหรับใช้สนับสนุนการชี้วัดและการตัดสินใจ เมื่อการให้บริการของผู้ให้บริการหลายรายถูกกำหนดให้ใช้ระบบ ITSM Platform เดียวกัน ทำให้เกิดการทำงานที่มีความร่วมมือกันอย่างมีมีประสิทธิภาพ

ขยายกรอบจากระบบ IT Infrastructure ภายในองค์กร สู่การให้บริการ IT ที่หลากหลาย และเป็นศูนย์กลางในการเข้าถึงและใช้งานบริการ Cloud

INET ไม่ได้แค่เพียงให้บริการ Private Cloud Services แต่ปัจจุบันยังมีการต่อยอดเรื่องของ Innovation ใหม่ๆ ตัวอย่างเช่น Robotic Process Automation (RPA) หรือ Database as a service ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมสูงในทุกวันนี้เอง ทาง INET ก็เริ่มนำมาให้บริการแบบ Pay per use แล้ว

นอกเหนือจากการใช้งานระบบ Private Cloud On-Premises ปัจจุบันทาง Corporate IT ก็เริ่มที่จะนำบริการ Public Cloud รายต่างๆ มาให้บริการภายใน SCG ด้วยแล้วเพื่อให้รองรับต่อความต้องการของระบบ Application สมัยใหม่ที่สามารถพัฒนาและใช้งานได้อย่างรวดเร็วด้วยการอาศัยความสามารถเฉพาะทางที่มีให้บริการบน Public Cloud

ทั้งนี้ การที่ SCG เลือกใช้เทคโนโลยีของ VMware จาก INET นั้น ก็ทำให้การต่อยอดบริการเสริมต่างๆ เป็นไปได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นการรองรับการทำ Disaster Recovery หรือ DR ที่สามารถทำได้ง่ายมากสำหรับ VM, การนำ VMware NSX มาใช้เพื่อช่วยเสริมความมั่นคงปลอดภัยให้กับระบบเก่าๆ ที่ไม่สามารถอัปเกรดขึ้นมาเป็นระบบใหม่ ลดความเสี่ยงที่ระบบจะถูกโจมตีลงได้โดยไม่ต้องวุ่นวายกับ Firewall, การทดสอบระบบ Virtual Desktop เพื่อนำมาเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการให้บริการระบบ Desktop ไปจนถึงการมองหาโซลูชันใหม่ๆ จาก VMware มาทดลองเพื่อรองรับเรื่อง Multi-Cloud ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เป็นต้น

ในขณะเดียวกัน ทาง SCG เองก็มีมุมมองต่อการลงทุนสร้าง Data Center เปลี่ยนไปเป็นการเช่าใช้งาน Data Center-as-a-Service แทนด้วย โดยปัจจุบันนี้ทาง SCG เองก็ได้มีการเช่าใช้งานบริการดังกล่าวจาก INET ผ่านทาง INET-IDC3 ซึ่งเป็น Data Center ล่าสุดของ INET ที่ได้มาตรฐาน Tier 3 อีกทั้งยังมีทีมงานมืออาชีพคอยดูแลรักษาระบบให้ตลอดเวลา

INET สมาชิกหนึ่งในโครงการ VMware Cloud Provider Program พร้อมนำเทคโนโลยีของ VMware มาให้บริการในรูปแบบของ Cloud แล้วในไทย

การเปลี่ยนแปลงจากการลงทุนระบบ IT ในรูปแบบของ CapEx มาสู่การเป็น OpEx ในครั้งนี้จะเป็นจริงไม่ได้เลยหาก INET นั้นไม่ได้ร่วมเป็นสมาชิกภายใต้โครงการ VMware Cloud Provider Program หรือ VCPP

การที่ INET เป็นสมาชิกหนึ่งในโครงการ VCPP ภายในประเทศไทยนั้น หมายถึงการที่ทีมงานของ INET ได้ผ่านการรับรองอย่างเป็นทางการถึงศักยภาพของทีมงานในการนำเทคโนโลยีและโซลูชันต่างๆ จาก VMware มาให้บริการได้อย่างมีคุณภาพตามมาตรฐานที่ VMware กำหนด ซึ่งก็ทำให้ INET นั้นสามารถนำโซลูชันจาก VMware มาให้บริการโดยคิดค่าใช้จ่ายตามการใช้งานจริงได้ด้วย และส่งผลให้ธุรกิจองค์กรนั้นมีทางเลือกในการใช้งาน VMware ที่หลากหลายมากขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการเช่าใช้ในรูปแบบของ Public Cloud หรือการใช้บริการในรูปแบบของ Managed Cloud Services ก็ตาม

ติดต่อทีมงาน INET ได้ทันที

สำหรับธุรกิจองค์กรใดที่กำลังมองหาผู้ให้บริการ Cloud, บริการ Cloud แบบ Managed Services ติดตั้งใช้งานภายในองค์กรแต่คิดค่าใช้จ่ายตามจริง หรือโซลูชันใดๆ ทางด้าน IT สามารถติดต่อทีมงาน INET ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการ VMware Cloud Provider Program หรือ VCPP ได้ทันทีที่ info@inet.co.th หรือโทร 02-257-7000 และสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ INET ได้ที่ https://inet.co.th/

เกี่ยวกับ VMware Cloud Provider Program (VCPP)

โครงการ VCPP นี้คือโครงการที่ได้ผสานรวมเอาบริการ VMware Software-as-a-Service เข้ากับเหล่าผู้ให้ริการ VMware Service Provider Partners ทั่วโลก เพื่อให้ธุรกิจองค์กรต่างๆ สามารถใช้งานบริการ Cloud ที่มีเทคโนโลยีของ VMware เป็นเบื้องหลังได้ผ่านทางผู้ให้บริการที่มีมาตรฐาน

ปัจจุบันในประเทศไทยมีผู้ให้บริการด้าน IT ที่ได้เข้าร่วมโครงการ VCPP มากกว่า 20 รายแล้ว ดังนั้นธุรกิจไทยจึงสามารถเลือกใช้งานบริการ Cloud ภายในประเทศที่ให้บริการเทคโนโลยีของ VMware และเชื่อมต่อระบบ Data Center ภายในธุรกิจองค์กรเข้ากับบริการ Cloud เหล่านี้สู่ภาพของ Hybrid Cloud หรือทำ Disaster Recovery ได้ทันที โดยมีทีมงานคนไทยคอยให้บริการแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างใกล้ชิด

ผู้ที่สนใจใช้บริการ VMware ในรูปแบบของการคิดค่าใช้จ่ายตามจริง สามารถติดต่อทีมงานของ VMware ประจำประเทศไทยได้ที่คุณปลา 081-913-3347 หรืออีเมล์ kemwat@vmware.com หรือสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ VCPP ได้ที่ https://www.vmware.com/partners/service-provider.html และสามารถตรวจสอบสถานะของบริษัทต่างๆ ที่เป็น VCPP ได้ที่ https://cloud.vmware.com/providers/

About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

เปิด 4 มุมมองผู้นำองค์กร ดึง AI ออกแบบอนาคตดิจิทัล ยุคเปลี่ยนผ่าน [PR]

ผู้บริหาร 4 องค์กรชั้นนำ ร่วมแบ่งปันวิสัยทัศน์และแนวทางการออกแบบอนาคตดิจิทัล ผ่านการใช้เทคโนโลยี AI และการเปลี่ยนผ่านองค์กรสู่ Digital Transformation เวทีสัมมนา หัวข้อ “The New Leaders Perspective: …

CoreWeave พร้อมขยายธุรกิจด้วยวงเงินสินเชื่อ 650 ล้านดอลลาร์

CoreWeave ผู้ให้บริการคลาวด์สำหรับการประมวลผล AI ได้รับวงเงินสินเชื่อ 650 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากบริษัทการลงทุนชั้นนำเพื่อขยายธุรกิจทั่วโลกและเพิ่มขีดความสามารถในโครงสร้างพื้นฐานสำหรับ AI