กรุงเทพฯ ประเทศไทย 26 กรกฎาคม 2566 — วันนี้ SAPได้จัดงานนำเสนอนวัตกรรมร่วมกับลูกค้าและพันธมิตร ได้แก่ Aboitiz InfraCapital, Changi Airport Group, Metro Pacific Investments Corporation, Petrosea, ST Logistics และ Visa ณ งาน SAP NOW SEA ที่ประเทศสิงคโปร์
งานนี้จัดขึ้น ณ Raffles City Convention Centreประเทศสิงคโปร์ และเป็นงานรวมตัวของกลุ่มลูกค้า พันธมิตร และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีกว่า 500รายจากทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA)เพื่อหารือเกี่ยวกับโซลูชั่นใหม่ของSAPที่ได้เปิดตัวไม่นานมานี้ อาทิ green ledger carbon accounting และ BusinessAI และเป็นการชี้ให้เห็นว่าลูกค้าในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะได้ประโยชน์จากโซลูชั่น SAPและเครือข่ายธุรกิจ เพื่อสร้างความมั่นคงของธุรกิจในอนาคต
ภายในงาน SAP NOW SEA มีองค์กรที่มาร่วมเล่าประสบการณ์เส้นทางการเปลี่ยนแปลงที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ ดังนี้:
- Visa กำลังร่วมมือกับ SAP เพื่อปรับปรุงและลดความยุ่งยากในการชำระเงินระหว่างธุรกิจกับธุรกิจ (B2B) สำหรับองค์กรทุก การร่วมมือกันครั้งนี้เริ่มจากแถบเอเชียแปซิฟิก ด้วยการติดตั้งระบบการชำระเงินไว้ในระบบนิเวศของ SAP ผ่าน SAP Business Technology Platform (SAP BTP) และมอบความสามารถที่จะช่วยให้ธุรกิจกำหนดเส้นทางการชำระเงินเชิงพาณิชย์ให้กับซัพพลายเออร์ได้ ไม่ว่าพวกเขาจะรับชำระเงินด้วยบัตรหรือไม่ก็ตาม
- Metro Pacific Investments Corporation (MPIC) บริษัทลงทุนโครงสร้างพื้นฐานชั้นนำเป็นองค์กรแรกในประเทศฟิลิปปินส์ที่ได้นำระบบ RISE with SAP มาใช้ในการเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินงานและรวบรวมระบบการวางแผนทรัพยากรขององค์กรภายใต้การบริการของ SAP
- ผู้นำในอุตสาหกรรมซัพพลายเชน ST Logistics ได้เลือกใช้ RISE with SAP, SAP SuccessFactors และ SAP BTP ในการผลักดันแผนการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลภายในระยะเวลาสามปี ช่วยขับเคลื่อนการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพและเร่งการเติบโตได้อย่างยั่งยืน
Verena Siow ประธานและกรรมการผู้จัดการ เอสเอพี เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“ภารกิจของเราในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คือการยกระดับชีวิตของผู้คนกว่า 700 ล้านคนในภูมิภาค ซึ่ง SAP กำลังดำเนินการทั้งหมดสามวิธีการ ได้แก่ ส่งเสริมนวัตกรรมผ่านแนวคิดใหม่ อาทิ AI ภาคธุรกิจ ขับเคลื่อนผลลัพธ์ที่ยั่งยืนด้วยการลงทุนในบัญชีคาร์บอนและบัญชีแยกประเภทสีเขียว และสร้างความมั่นคงให้องค์กรมีโครงสร้างพื้นฐานที่คล่องตัวในระบบคลาวด์” Verena Siow ประธานและกรรมการผู้จัดการ เอสเอพี เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว
งานนี้ได้จัดขึ้นหลังจากการประกาศผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของ SAP ในเอเชียแปซิฟิกปี พ.ศ. 2566 โดยแสดงให้เห็นถึงการเติบโตของระบบคลาวด์อย่างมีนัยสำคัญ และแสดงให้เห็นถึงชัยชนะและพร้อมที่จะ Go-live ของลูกค้ารายใหม่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิ Visa, Singtel, FGV IFFCO และ Aboitiz InfraCapital
เตรียมความพร้อมสู่อนาคตกับระบบนิเวศของพันธมิตร SAP ในยุคเศรษฐกิจ AI
SAP ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเป็นพันธมิตรด้านนวัตกรรม ณ งาน SAP NOW SEA ซึ่งช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถแก้ปัญหาความท้าทายแบบเร่งด่วนในยุคเศรษฐกิจ AI ภายในงาน SAP ได้เชิญ Snehanshu Shah กรรมการผู้จัดการของ SAP ที่ Google Cloud มาร่วมพูดคุยถึงรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขยายความร่วมมือระหว่าง SAP กับ Google Cloud การจับมือเป็นพันธมิตรในครั้งนี้นำมาสู่การแลกเปลี่ยนข้อมูลเปิดที่ครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งผสานรวมโซลูชั่นของ SAP กับ Google Cloud’s Data และ Analytics Technology สู่การเป็นแหล่งข้อมูลด้านธุรกิจและการการพัฒนา AI ขององค์กรที่ล้ำหน้า
B Capital Group บริษัทร่วมทุนที่ก่อตั้งร่วมกันระหว่าง Eduardo Saverin และ Raj Ganguly เป็นการลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีทั่วโลก ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทได้ทำบันทึกความเข้าใจ (MoU) ร่วมกับ SAP ในเอเชียแปซิฟิกญี่ปุ่น (APJ) เพื่อช่วยให้ธุรกิจสตาร์ทอัพสามารถขยายขนาดผ่านนวัตกรรมเทคโนโลยีได้ ภายใต้ MoU บริษัทในเครือ B Capital จะสามารถเข้าถึงความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมของ SAP และเครือข่ายธุรกิจทั่วโลกเพื่อเร่งสร้างนวัตกรรม รวมถึงด้านอื่น ๆ เช่น AI และระบบอัตโนมัติอีกด้วย
นอกจากนี้ บริษัทกลุ่มเทคโนโลยีการสื่อสารชั้นนำของเอเชียอย่าง Singtel ได้ประกาศในวันนี้ว่าพวกเขากำลังร่วมมือกับ SAP เพื่อนำเสนอโซลูชั่น 5G Intelligent Edge Aggregator (IEA) แบบ end-to-end เพื่อให้องค์กรต่าง ๆ สามารถรับข้อมูลอัจฉริยะและข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์ เพื่อช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจที่สำคัญ ซึ่งโซลูชั่นที่ขับเคลื่อนโดย SAP BTP จะได้รับการพัฒนาเพื่อคอมพิวเตอร์วิทัศน์ (computer vision) ความปลอดภัยในที่ทำงาน และเพื่อกรณีการใช้งานในด้านการส่งมอบระยะสุดท้าย โดยจะทำการสร้างเฟรมเวิร์กที่ผู้ใช้ในอุตสาหกรรมและลูกค้าสามารถปรับและรวบรวมเข้ากับระบบและกระบวนการแบ็กเอนด์ได้อย่างง่ายดาย
“เห็นได้ชัดว่าปัจจุบันเราอยู่ในจุดแห่งการเปลี่ยนแปลง และวิธีที่ดีที่สุดในการขับเคลื่อนไปสู่วันข้างหน้าในวันนี้คือการปรับใช้นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง รวบรวมพันธมิตรที่เชี่ยวชาญ รวมไปถึงตัวลูกค้าเอง วิธีทั้งหมดนี้จะช่วยเสริมสร้างและผลักดันให้องค์กรประสบความสำเร็จในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” Verena กล่าวเสริม
เกี่ยวกับ เอสเอพี (SAP)
ในฐานะบริษัทที่ช่วยพลิกโฉมองค์กรลูกค้าสู่อินเทลลิเจนท์ เอ็นเตอร์ไพรซ์ เอสเอพี เป็นผู้นำตลาดซอฟต์แวร์แอปพลิเคชันระดับองค์กร ที่ได้ช่วยเหลือองค์กรขนาดต่างๆในทุกอุตสาหกรรมให้สามารถทำงานได้ดีขึ้น โดย 87% ของรายได้จากการทำธุรกรรมของโลกนั้นเกิดขึ้นบนระบบของเอสเอพี นอกจากนี้ เทคโนโลยีแมชชีน เลิร์นนิ่ง อินเตอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (IoT) และเทคโนโลยีการวิเคราะห์ขั้นสูงของเอสเอพี ช่วยเปลี่ยนธุรกิจของลูกค้าให้เป็นอินเทลลิเจนท์ เอ็นเตอร์ไพรซ์ เอสเอพีช่วยให้ผู้คนและองค์กรเข้าใจในธุรกิจอย่างลึกซึ้ง รวมถึงส่งเสริมการทำงานร่วมกันเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจ เราลดความซับซ้อนของเทคโนโลยีเพื่อให้องค์กรต่างๆ สามารถใช้ซอฟต์แวร์ของเราได้อย่างที่ต้องการและต่อเนื่อง ชุดแอปพลิเคชันและบริการครบวงจรของเอสเอพี ช่วยให้ลูกค้าธุรกิจและภาครัฐกว่า 25 อุตสาหกรรมทั่วโลก สามารถทำกำไร ปรับตัว และสร้างความแตกต่างได้ ด้วยเครือข่ายลูกค้าพาร์ทเนอร์ พนักงาน และผู้นำทางความคิดที่มีอยู่ทั่วโลก เอสเอพีช่วยให้โลกดำเนินงานได้ดีขึ้นและปรับปรุงชีวิตของผู้คน ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.sap.com