วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ฮิลลารี คลินตัน อดีตคู่แข่งการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมากล่าวโทษวลาดีมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียและรัฐบาลว่า เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการบ่อนทำลายชื่อเสียงและความน่าเชื่อของเธอผ่านการโจมตีไซเบอร์ ขณะลงแข่งเลือกตั้งกับโดนัลด์ ทรัปภ์ ส่งผลให้เธอกลายเป็นผู้พ่ายแพ้ในที่สุด ด้านบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนปัจจุบันออกมายืนยัน จะเอาคืนรัสเซียให้ถึงที่สุด

แฮ็คข้อมูลลับพรรคเดโมแครต เปิดโปงเบื้องหลังฮิลลารีคลินตัน
ระหว่างการแข่งขันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา คณะกรรมกรรมพรรคเดโมแครตแห่งชาติ (Democratic National Committee) และประธานแคมเปญของคลินตัน (Clinton Campaign Chairman) ถูกแฮ็ค ส่งผลให้ข้อมูลอีเมลความลับหลายฉบับรั่วไหลออกสู่สาธารณะ เป็นผลให้เกิดข้อกังหาด้านความน่าเชื่อถือและความสุจริตของฮิลลารี คลินตัน ซึ่งหลายฝ่ายอ้างว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้พรรคเดโมแครตแพ้การเลือกตั้ง
ก่อนหน้านี้ โอบามาพบปูตินภายในงานประชุมที่จีนในช่วงเดือนกันยายน และบอกกับปูตินให้ “หยุด” การกระทำดังกล่าว มิเช่นนั้น “อาจจะมีผลลัพธ์บางอย่างตามมา ถ้าไม่หยุด” ซึ่งภายหลังจบการประชุม พบว่าการแฮ็คได้หยุดลง แต่สำเนาเอกสารความลับบางส่วนได้ถึงมือ WikiLeaks ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
กล่าวโทษรัสเซีย เพื่อเปิดฉากตอบโต้
โอบามาได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ที่ 16 ธนาวาคมที่ผ่านมา โดยกล่าวโทษรัสเซียเกี่ยวกับการแฮ็คกลุ่มพรรคเดโมแครตระหว่างการเลือกตั้ง และยืนยันว่าจะตอบโต้รัสเซียให้ถึงที่สุด รวมไปถึงคาดหวังว่าโดนัลด์ ทรัปภ์ ประธานาธิบดีคนถัดไปจะดำเนินการคว่ำบาตรรัสเซียต่อ
“เป้าหมายของพวกเราคือการส่งข้อความแจ้งเตือนไปยังรัสเซียและผู้ที่เกี่ยวข้องให้หยุดการกระทำดังกล่าว เนื่องจากเราสามารถเอาคืนพวกคุณได้เช่นกัน … [และ] น้อยมากที่สิ่งที่เกิดขึ้นในรัสเซียจะไม่มีวลาดีมีร์ ปูตินมาเอี่ยว” — โอบามากล่าว
รัฐบาลรัสเซียปฏิเสธ ไร้วี่แววการเคลื่อนไหวของโดนัลด์ ทรัมป์
อย่างไรก็ตาม เหมือนกับว่าทางโดนัลด์ ทรัมป์จะไม่สนใจที่ทางรัฐบาลรัสเซียได้เข้ามายุ่มยามกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพื่อช่วยให้เขาได้รับชัยชนะ นอกจากนี้ ทางรัฐบาลรัสเซียเองก็ออกมาปฏิเสธอย่างต่อเนื่องว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแฮ็คข้อมูลที่ว่ามาแต่อย่างใด
ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์หลายคนออกมาให้ความเห็นว่า การคว่ำบาตร การฟ้องร้องทางกฏหมาย และการโจมตีไซเบอร์ อาจะเป็นตัวเลือกที่เป็นไปได้ในการตอบโต้ แต่คงไม่แข็งแรงพอที่จะกดดันประเทศรัสเซียได้
“เรายังไม่มีแผนการตอบโต้ที่ดีพร้อมจะเริ่ม … เรากำลังจะเริ่มสงครามกับรัสเซียเกี่ยวกับประเด็นนี้หรือ ในเชิงทฤษฎีแล้ว มันเป็นทางเลือกหนึ่ง แต่มันไม่ใช่สถานการณ์ที่จะเอาชนะได้” — John Bambenek นักวิจัยด้านมัลแวร์จาก Fidelis Cybersecurity ให้ความเห็น